พรรคประชาราชแฉรัฐบาลใช้กลไกรัฐ ในการเอื้อประโยชน์ให้พรรคไทยรักไทย หลังพ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ทั้งเรื่องการสัมมนาของกระทรวงเกษตรฯ เพิ่มเงินเอสเอ็มแอล ทุ่มงบลงเกาะช้าง เตรียมรวบรวมเสนอ กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป พร้อมเสนอให้ขยายวันเลือกตั้งออกไปอีก 120 วันเพื่อปลดล็อก 90 วันรอบสอง เชื่อจะได้ประโยชน์กับทุกพรรคการเมือง
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เปิดเผยว่า ตนยังมีความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 15 ต.ค.นี้แน่นอน เนื่องจากเวลานี้ยังไม่มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะที่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในรัฐธรรมนูญยังกำหนดว่า กกต.จะต้องมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ถ้าจะให้มีการเลือกตั้งแบบสุกเอาเผากิน ก็อาจจะเกิดวิกฤติมากกว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายเสนาะ เห็นด้วยที่จะให้มีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป แต่ไม่เห็นด้วยกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่น่าจะเป็นวันที่ 15 พ.ย.49 เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยังติดเงื่อนเวลาเรื่องผู้สมัครส.ส.ต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วันอยู่ ดังนั้นตนเห็นว่าควรจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป 120 วัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย และไม่เรียบร้อย ซึ่งกกต.ชุดใหม่ควรจะพิจารณาประเด็นนี้ให้รอบคอบ
"การขยายเวลาการเลือกตั้งออกไปอีก 120 วัน ไม่ได้เป็นการเปิดโอกาสให้ อดีต ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็น จากพรรคไทยรักไทย ย้ายมาสังกัดพรรคประชาราช แต่ผมเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับพรรคอื่นๆด้วย ที่จะได้มีทางเลือก เราไม่ควรเอากฎหมายมาเป็นโซ่ล่ามไว้"
นายเสนาะ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้ พบว่ารัฐบาลใช้กลไกอำนาจรัฐ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดสัมมนาในหลายพื้นที่ มีการระดมเกษตรกรเข้าร่วมสัมมนาพร้อมจ่ายค่าพาหนะให้ และมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ไปปรากฏตัวในงานสัมมนา และยังพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ศึกษาเพิ่มวงเงินในโครงการเอสเอ็มแอล ซึ่งเป็นเจตนาที่เข้าข่ายซื้อเสียง
"นอกจากนี้ การที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบฯ 260 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเกาะช้าง ก็เป็นการอนุมัติในช่วงสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม และการโยกย้ายข้าราชการหลายกระทรวง ก่อนที่จะขออนุมัติจากกกต.เป็นการตกเขียวข้าราชการ แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของรัฐบาล เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาราช จะเสนอให้กกต.และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป"นายเสนาะ กล่าว
นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงว่า พรรคมีนโยบายแก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนด้วยการลดค่าเชื้อเพลิงรถยนต์ และก๊าซหุงต้ม ด้วยการนำบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)กลับมาเป็นของประชาชน เพื่อเป็นองค์กรแก้ปัญหาราคาเชื้อเพลิง เป็นกลไกในการเดินท่อก๊าซให้ประชาชนได้ใช้ก๊าซในราคาถูก ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่านายทุน รวมทั้งนโยบายหลักคือ การปฏิรูปการเมืองที่ไม่ใช่เฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องปฏิรูปการปกครองทั้งระบบ เน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นที่ต้องทำให้เสร็จภายในเวลา 1 ปี ครึ่ง
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เปิดเผยว่า ตนยังมีความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 15 ต.ค.นี้แน่นอน เนื่องจากเวลานี้ยังไม่มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะที่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในรัฐธรรมนูญยังกำหนดว่า กกต.จะต้องมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ถ้าจะให้มีการเลือกตั้งแบบสุกเอาเผากิน ก็อาจจะเกิดวิกฤติมากกว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายเสนาะ เห็นด้วยที่จะให้มีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป แต่ไม่เห็นด้วยกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่น่าจะเป็นวันที่ 15 พ.ย.49 เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยังติดเงื่อนเวลาเรื่องผู้สมัครส.ส.ต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วันอยู่ ดังนั้นตนเห็นว่าควรจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป 120 วัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย และไม่เรียบร้อย ซึ่งกกต.ชุดใหม่ควรจะพิจารณาประเด็นนี้ให้รอบคอบ
"การขยายเวลาการเลือกตั้งออกไปอีก 120 วัน ไม่ได้เป็นการเปิดโอกาสให้ อดีต ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็น จากพรรคไทยรักไทย ย้ายมาสังกัดพรรคประชาราช แต่ผมเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับพรรคอื่นๆด้วย ที่จะได้มีทางเลือก เราไม่ควรเอากฎหมายมาเป็นโซ่ล่ามไว้"
นายเสนาะ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้ พบว่ารัฐบาลใช้กลไกอำนาจรัฐ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดสัมมนาในหลายพื้นที่ มีการระดมเกษตรกรเข้าร่วมสัมมนาพร้อมจ่ายค่าพาหนะให้ และมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ไปปรากฏตัวในงานสัมมนา และยังพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ศึกษาเพิ่มวงเงินในโครงการเอสเอ็มแอล ซึ่งเป็นเจตนาที่เข้าข่ายซื้อเสียง
"นอกจากนี้ การที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบฯ 260 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเกาะช้าง ก็เป็นการอนุมัติในช่วงสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม และการโยกย้ายข้าราชการหลายกระทรวง ก่อนที่จะขออนุมัติจากกกต.เป็นการตกเขียวข้าราชการ แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของรัฐบาล เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาราช จะเสนอให้กกต.และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป"นายเสนาะ กล่าว
นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงว่า พรรคมีนโยบายแก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนด้วยการลดค่าเชื้อเพลิงรถยนต์ และก๊าซหุงต้ม ด้วยการนำบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)กลับมาเป็นของประชาชน เพื่อเป็นองค์กรแก้ปัญหาราคาเชื้อเพลิง เป็นกลไกในการเดินท่อก๊าซให้ประชาชนได้ใช้ก๊าซในราคาถูก ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่านายทุน รวมทั้งนโยบายหลักคือ การปฏิรูปการเมืองที่ไม่ใช่เฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องปฏิรูปการปกครองทั้งระบบ เน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นที่ต้องทำให้เสร็จภายในเวลา 1 ปี ครึ่ง