แบรนด์ซีเมนส์เร่งขยายดีลเลอร์เพิ่ม หวังรุกลาดเครื่องซักผ้า เหตุคู่แข่งเจาะตลาดมากขึ้น รับตลาดรวมโต 25% อัดงบ 100 ล้านบาท รุกตลาดหนัก
นายแอนเดียส ไมเยอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทร่วมทุน บีเอสเอช โฮม แอ็ฟพลายแอนซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ซีเมนส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเครื่องซักผ้าฝาหน้าในปีนี้จะมีการเติบโตมากกว่า 25% ซึ่งมีมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท เหตุผลที่ทำให้การเติบโตมากขึ้นเพราะกลุ่มคู่แข่งเช่น ซัมซุง แอลจี หันมาให้ความสำคัญในสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องโปรโมชั่น ราคา ส่งผลให้การแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น
ดังนั้นซีเมนส์เองจำเป็นจะต้องขยายช่องจำหน่ายเพิ่มขึ้นเพื่อเข้าถึงตลาดให้มากที่สุดจากเดิม 150 ราย เพิ่มเป็น 200 รายในปีนี้ แบ่งเป็นสัดส่วน กทม. 66% ต่างจังหวัด 34% อาทิ ขอนแก่น พัทยา ระยอง ฯลฯ เพื่อรองรับการเติบโตในสินค้ากลุ่มนี้ที่คาดว่าตลาดรวมเครื่องครัวมีความต้องการถึง 45,000 เครื่อง และคาดว่าปี 50 จะมีการเติบโตในกลุ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะเพิ่มขึ้นอีก 8- 10%
ทั้งนี้บริษัทฯได้เตรียมใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ไว้สำหรับทำตลาดในปีนี้โดยเบื้องต้นจะเน้นการทำกิจกรรมและสื่อโฆษณา รวมถึงการขยายช่องทางทั้งหมดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าจากแผนการขยายช่องทางจำหน่ายในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นจะสามารถผลักดันยอดขายรวมของบริษัทฯเติบโต 20%
ปัจจุบันตลาดสินค้าเครื่องครัวมีการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเฉลี่ยแล้วมีอัตราการโต 20% ทุกปี ส่วนสินค้าของซีเมนส์เองมีสินค้าอยู่ 2 ประเภท ประกอบด้วย 1.เครื่องซักผ้าฝาหน้า ซึ่งมีการเติบโต 50% 2. เครื่องครัว 50% ซึ่งสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯจะแบ่งออกเป็นการส่งออกกว่า 90% และขายในประเทศ 10% ซึ่งสินค้าทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ในกลุ่มสินค้าพรีเมียมทั้งสิ้น
ปัจจุบันสินค้ากลุ่มพรีเมียมมีแชร์ในตลาดกว่า 25% ซึ่งซีเมนส์นับว่าเป็นผู้นำในกลุ่มนี้มีแชร์ 10% แต่ในขณะเดียวกันเซกเมนต์ในกลุ่มของเครื่องซักผ้าฝาหน้านั้นซีเมนส์เป็นอันดับสองมีแชร์อยู่ 30% ซึ่งผู้นำตลาดในกลุ่มนี้เป็นแบรนด์อีเล็คทรอลัก
นายแอนเดียส ไมเยอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทร่วมทุน บีเอสเอช โฮม แอ็ฟพลายแอนซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ซีเมนส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเครื่องซักผ้าฝาหน้าในปีนี้จะมีการเติบโตมากกว่า 25% ซึ่งมีมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท เหตุผลที่ทำให้การเติบโตมากขึ้นเพราะกลุ่มคู่แข่งเช่น ซัมซุง แอลจี หันมาให้ความสำคัญในสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องโปรโมชั่น ราคา ส่งผลให้การแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น
ดังนั้นซีเมนส์เองจำเป็นจะต้องขยายช่องจำหน่ายเพิ่มขึ้นเพื่อเข้าถึงตลาดให้มากที่สุดจากเดิม 150 ราย เพิ่มเป็น 200 รายในปีนี้ แบ่งเป็นสัดส่วน กทม. 66% ต่างจังหวัด 34% อาทิ ขอนแก่น พัทยา ระยอง ฯลฯ เพื่อรองรับการเติบโตในสินค้ากลุ่มนี้ที่คาดว่าตลาดรวมเครื่องครัวมีความต้องการถึง 45,000 เครื่อง และคาดว่าปี 50 จะมีการเติบโตในกลุ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะเพิ่มขึ้นอีก 8- 10%
ทั้งนี้บริษัทฯได้เตรียมใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ไว้สำหรับทำตลาดในปีนี้โดยเบื้องต้นจะเน้นการทำกิจกรรมและสื่อโฆษณา รวมถึงการขยายช่องทางทั้งหมดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าจากแผนการขยายช่องทางจำหน่ายในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นจะสามารถผลักดันยอดขายรวมของบริษัทฯเติบโต 20%
ปัจจุบันตลาดสินค้าเครื่องครัวมีการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเฉลี่ยแล้วมีอัตราการโต 20% ทุกปี ส่วนสินค้าของซีเมนส์เองมีสินค้าอยู่ 2 ประเภท ประกอบด้วย 1.เครื่องซักผ้าฝาหน้า ซึ่งมีการเติบโต 50% 2. เครื่องครัว 50% ซึ่งสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯจะแบ่งออกเป็นการส่งออกกว่า 90% และขายในประเทศ 10% ซึ่งสินค้าทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ในกลุ่มสินค้าพรีเมียมทั้งสิ้น
ปัจจุบันสินค้ากลุ่มพรีเมียมมีแชร์ในตลาดกว่า 25% ซึ่งซีเมนส์นับว่าเป็นผู้นำในกลุ่มนี้มีแชร์ 10% แต่ในขณะเดียวกันเซกเมนต์ในกลุ่มของเครื่องซักผ้าฝาหน้านั้นซีเมนส์เป็นอันดับสองมีแชร์อยู่ 30% ซึ่งผู้นำตลาดในกลุ่มนี้เป็นแบรนด์อีเล็คทรอลัก