ล้ำยุคเดินเกมบุกตลาดสินค้าแฟชั่นปีหน้าเต็มสูบ เตรียมงบลงทุน 100 ล้านบาท ทำตลาดและขยายสาขาใหม่ลงภูธร แก้ปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบ พร้อมเล็งผุดสแตนด์อโลน 3 ร้านติดกัน ในคอนเซ็ปต์ใหม่ย่านพื้นที่แฟชั่นกรุงเทพฯ ล่าสุดเท10 ล้านบาทเปิดเพลย์บอย แฟลกชิพสโตร์แห่งแรกในไทย ที่ เซ็นทรัล เวิลด์ คาดยอดขายสาขานี้ 8 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายรวมเพลย์บอยสิ้นปีนี้ตั้งเป้าโต 20%
นายวรวุฒิ หวังวรวงศ์ ประธานบริษัทล้ำยุค (มิลเลนเนี่ยม 2002) จำกัด ผู้ก่อตั้งชิคคลับและธุรกิจนำเข้าลิขสิทธิ์ เพลย์บอย และยีนส์เซเว่น สเต็ป เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯเตรียมใช้งบลงทุนรวมกว่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 50 ล้านบาท และงบลงทุนขยายสาขาของเพลย์บอย 4-5 แห่ง ซึ่งจะเน้นการเปิดในต่างจังหวัดเป็นหลัก เช่น ที่นครศรีธรรมราชและอุดรธานี เป็นต้น เนื่องจากผู้บริโภคให้การตอบรับดี แต่หาซื้อสินค้าไม่ได้ อีกทั้งเพื่อป้องกันสินค้าเลียนแบบที่มีขายขายเกลื่อน
รวมถึงบริษัทฯมีแผนเปิดร้านเพลย์บอย ,ชิคคลับ และเซเว่นสเต็ปติดกันในรูปแบบสแตนด์อโลน ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ที่เป็นพื้นที่แฟชั่นเหมือนในประเทศอิตาลีและสเปน คาดว่าจะเปิดที่ย่านแฟชั่นในกรุงเทพฯและต้องใช้พื้นที่รวม 3 ร้านประมาณ 300-400 ตารางเมตร จากปัจจุบันช่องทางการขายสินค้าของบริษัทฯมีทั้งหมด 15 แห่ง 25 สาขา
"ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายเพลย์บอยจะมีอัตราการเติบโต20% ส่วนปีหน้าเราอยากให้เพลย์บอยโตขึ้นมากกว่า 20% แต่ตอนนี้ยังเดาไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตรงนี้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อีกทั้งจากการสำรวจตลาดพบว่าตลาดรวมเสื้อผ้ามีอัตราการโตลดลง30% ส่วนของเพลย์บอยไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกค้าหลักมีกำลังซื้อที่สูง"
ล่าสุดบริษัทฯ ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทเปิดร้านเพลย์บอย แฟลกชิพสโตร์เป็นแห่งแรกในไทยที่เซ็นทรัล เวิลด์พลาซ่า มีพื้นที่ขนาด 106 ตารางเมตร โดยเริ่มเปิดบริการวันแรก 18 ส.ค.49 และร้านนี้ถือเป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากฮ่องกง โดยคอนเซ็ปต์ของร้านจะเป็นวันสต๊อปชอปปิ้ง หรือมีสินค้าของเพลย์บอยให้เลือกทุกกลุ่ม อาทิ เสื้อผ้า,เครื่องประดับ และรองเท้า เป็นต้น ส่วนเครื่องสำอางและชุดชั้นในเตรียมนำเข้าสิ้นเดือนส.ค.นี้ นอกจากนี้สาขานี้ยังมีบริการวีไอพีเลาจน์เพื่อบริการลูกค้าวีไอพีของเพลย์บอยที่มีกว่า 5,000 ราย
"แผนการตลาดสำหรับร้านแฟลกชิพสโตร์นี้ บริษัทฯ เตรียมงบการตลาดไว้ประมาณ 7 ล้านบาทในการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงจัดกิจกรรม และการทำซีอาร์เอ็ม เป็นต้น ซึ่งในช่วงแรกจะมีการทำโปรโมชั่นพิเศษด้วยการแจกคูปองเงินสดให้แก่สมาชิกวีไอพี, การจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น เชิญสมาชิกร่วมงานฮาโลวีนไนท์ปาร์ตี้ และการเชิญสไตล์ลิสมาแต่งหน้าให้ลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าสาขานี้จะช่วยเพิ่มยอดรายได้จนถึงสิ้นปีอีก 5% หรือประมาณ 8 ล้านบาท"
สำหรับยอดรายได้สิ้นปีบริษัทฯตั้งเป้าเติบโตขึ้น 40% แบ่งเป็นยอดรายได้เพลย์บอย คิดเป็นสัดส่วนหลัก 80% หรือประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนชิคคลับตั้งเป้าเติบโต 30% จากยอดขายปีที่แล้ว 130 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายยีนส์เซเว่น สเต็ปตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตขึ้น 20% และคาดหวังว่าภายใน 1 ปีจะมีส่วนแบ่งการตลาด 50% ในตลาดยีนส์พรีเมี่ยมที่มีมูลค่า 300 ล้านบาท
นายวรวุฒิ หวังวรวงศ์ ประธานบริษัทล้ำยุค (มิลเลนเนี่ยม 2002) จำกัด ผู้ก่อตั้งชิคคลับและธุรกิจนำเข้าลิขสิทธิ์ เพลย์บอย และยีนส์เซเว่น สเต็ป เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯเตรียมใช้งบลงทุนรวมกว่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 50 ล้านบาท และงบลงทุนขยายสาขาของเพลย์บอย 4-5 แห่ง ซึ่งจะเน้นการเปิดในต่างจังหวัดเป็นหลัก เช่น ที่นครศรีธรรมราชและอุดรธานี เป็นต้น เนื่องจากผู้บริโภคให้การตอบรับดี แต่หาซื้อสินค้าไม่ได้ อีกทั้งเพื่อป้องกันสินค้าเลียนแบบที่มีขายขายเกลื่อน
รวมถึงบริษัทฯมีแผนเปิดร้านเพลย์บอย ,ชิคคลับ และเซเว่นสเต็ปติดกันในรูปแบบสแตนด์อโลน ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ที่เป็นพื้นที่แฟชั่นเหมือนในประเทศอิตาลีและสเปน คาดว่าจะเปิดที่ย่านแฟชั่นในกรุงเทพฯและต้องใช้พื้นที่รวม 3 ร้านประมาณ 300-400 ตารางเมตร จากปัจจุบันช่องทางการขายสินค้าของบริษัทฯมีทั้งหมด 15 แห่ง 25 สาขา
"ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายเพลย์บอยจะมีอัตราการเติบโต20% ส่วนปีหน้าเราอยากให้เพลย์บอยโตขึ้นมากกว่า 20% แต่ตอนนี้ยังเดาไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตรงนี้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อีกทั้งจากการสำรวจตลาดพบว่าตลาดรวมเสื้อผ้ามีอัตราการโตลดลง30% ส่วนของเพลย์บอยไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกค้าหลักมีกำลังซื้อที่สูง"
ล่าสุดบริษัทฯ ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทเปิดร้านเพลย์บอย แฟลกชิพสโตร์เป็นแห่งแรกในไทยที่เซ็นทรัล เวิลด์พลาซ่า มีพื้นที่ขนาด 106 ตารางเมตร โดยเริ่มเปิดบริการวันแรก 18 ส.ค.49 และร้านนี้ถือเป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากฮ่องกง โดยคอนเซ็ปต์ของร้านจะเป็นวันสต๊อปชอปปิ้ง หรือมีสินค้าของเพลย์บอยให้เลือกทุกกลุ่ม อาทิ เสื้อผ้า,เครื่องประดับ และรองเท้า เป็นต้น ส่วนเครื่องสำอางและชุดชั้นในเตรียมนำเข้าสิ้นเดือนส.ค.นี้ นอกจากนี้สาขานี้ยังมีบริการวีไอพีเลาจน์เพื่อบริการลูกค้าวีไอพีของเพลย์บอยที่มีกว่า 5,000 ราย
"แผนการตลาดสำหรับร้านแฟลกชิพสโตร์นี้ บริษัทฯ เตรียมงบการตลาดไว้ประมาณ 7 ล้านบาทในการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงจัดกิจกรรม และการทำซีอาร์เอ็ม เป็นต้น ซึ่งในช่วงแรกจะมีการทำโปรโมชั่นพิเศษด้วยการแจกคูปองเงินสดให้แก่สมาชิกวีไอพี, การจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น เชิญสมาชิกร่วมงานฮาโลวีนไนท์ปาร์ตี้ และการเชิญสไตล์ลิสมาแต่งหน้าให้ลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าสาขานี้จะช่วยเพิ่มยอดรายได้จนถึงสิ้นปีอีก 5% หรือประมาณ 8 ล้านบาท"
สำหรับยอดรายได้สิ้นปีบริษัทฯตั้งเป้าเติบโตขึ้น 40% แบ่งเป็นยอดรายได้เพลย์บอย คิดเป็นสัดส่วนหลัก 80% หรือประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนชิคคลับตั้งเป้าเติบโต 30% จากยอดขายปีที่แล้ว 130 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายยีนส์เซเว่น สเต็ปตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตขึ้น 20% และคาดหวังว่าภายใน 1 ปีจะมีส่วนแบ่งการตลาด 50% ในตลาดยีนส์พรีเมี่ยมที่มีมูลค่า 300 ล้านบาท