xs
xsm
sm
md
lg

อ.ส.ค.ผลิตนมยู.เอช.ที 5บาท ปลุกกระแสนมสดแท้ไม่ผสม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สุดารัตน์ “จี้โครงการนม  5  บาท  ผลิตเชิงพาณิชย์ หวังกระตุ้นคนไทยทั้งประเทศดื่มนมสดแท้ไม่ผสมนมผง  อ.ส.ค. เร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนมยู.เอช.ที  5  บาท วางห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป ต้นเดือนกันยายนนี้

      คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ดื่มนมสด  เพื่อเป็นการณรงค์ให้คนไทยหันมาดื่มนมมากขึ้น  โดยเฉพาะนมสดแท้  100%  ไม่ผสมนมผง  ทำให้ขณะนี้ปริมาณการบริโภคนมสดแท้ของคนไทยเพิ่มขึ้นกว่า  10%    เนื่องจากน้ำนมโคเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงทั้งโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ โดยเฉพาะแคลเซียมและวิตามินเทียบเคียงกับน้ำนมมารดา อีกทั้งน้ำนมโคเป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่    

ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผลิตนมยู.เอช.ที  5  บาท  เพื่อให้คนไทยทุกระดับเข้าถึงแหล่งอาหารที่มีคุณค่า  นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีการใช้น้ำนมดิบที่ผลิตโดยเกษตรกรไทยมากขึ้นด้วย

                นายสกุล  สุขสวัสดิ์  ผู้อำนวยการ  อ.ส.ค.  กล่าวว่า  หลังจากได้รับนโยบายจากกระทรวงเกษตรฯ  ทาง  อ.ส.ค. จึงได้ศึกษาตลาดและพฤติกรรมการบริโภคนมของคนไทย  พบว่าปัจจุบันเงิน  5  บาทจะหาซื้ออะไรที่มีคุณค่าได้บ้าง  ดังนั้น  ถ้าเราผลิตนมราคา 5 บาท ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง น่าจะทำให้คนไทยเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เด็กไทยเจริญเติบโตและคนไทยแข็งแรง

               อ.ส.ค.  จึงได้ร่วมกับสหกรณ์โคนมในการผลิตและจำหน่ายนมสดพาสเจอร์ไรส์ ที่ผลิตจากน้ำนมสดในพื้นที่  ราคาถุงละ  5  บาท  เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่าย สะดวกและสดแท้  ส่วน อ.ส.ค.เอง จะผลิตนมยูเอชที  รสจืด ขนาด  110 ซีซี ตราไทย-เดนมาร์ค สัญลักษณ์วัวแดงที่ผลิตจากนมโคสดแท้  ในภาพลักษณ์ทันสมัยจำหน่ายในราคากล่องละ  5  บาท  ซึ่งนับเป็นเจ้าแรกที่ผลิตนมพร้อมดื่มที่ผลิตจากนมสดแท้  100%  ไม่ผสมนมผง  จำหน่ายในราคาถูกที่สุดในท้องตลาด
                
“ผู้บริโภคที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไปโดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2549  นี้เป็นต้นไป  โดยเบื้องต้น  อ.ส.ค.ได้ตั้งเป้าในการผลิตนม ยู.เอช.ที รสจืด  ขนาด  110  ซีซี  จำนวนประมาณ  60  ล้านกล่องต่อปี  คิดเป็นมูลค่ากว่า  300  ล้านบาท   เพื่อเป็นการมอบสิ่งดีๆ ที่มีคุณภาพให้กับประชาชนคนไทยทั่วประเทศก็จะขยายกำลังการผลิตและอาจจะเพิ่มรสชาติอื่นด้วย” นายสกุล  กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น