บริษัททัวร์วอนรัฐเร่งประสานรัฐบาลจีน จับมือกำหนดมาตรฐานทัวร์ หลังพบเหตุปัญหาทิ้งทัวร์ในปัจจุบัน มาจากข้อตกลงของบริษัททัวร์ต้นทางที่ไม่เคลียร์ หวั่นเสียภาพลักษณ์ประเทศไทย
ในการประชุมผู้ประกอบการนำเที่ยวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดจีน ซึ่งจัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายศิษฏิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า ต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และรัฐบาลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดการกับบริษัททัวร์บางรายจากประเทศจีนที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย แล้วทิ้งนักท่องเที่ยวหรือทิ้งทัวร์ โดยให้มีการตกลงระหว่างรัฐกับรัฐ ในการกำหนดมาตรฐานในการทำทัวร์กันระหว่างกันให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
เพราะที่ผ่านมา เมื่อเกิดการทิ้งทัวร์ ผู้ดำเนินการประสานงาน และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือแต่ไม่ทราบเงื่อนไขการเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวชาวจีนกับบริษัททัวร์ตั้งแต่ต้นทางในประเทศจีนว่ามีข้อตกลงกันอย่างไร และเมื่อเกิดเรื่องแล้วทางประเทศไทยก็ไม่มีอำนาจสั่งการเอาผิดกับบริษัทต้นทางได้
ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีการกำหนดมาตรฐานทัวร์ร่วมกันระหว่างสองรัฐบาลจะทำให้ประเทศจีนหันมาทำทัวร์คุณภาพมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการแข่งขันเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้เกิดปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญแบบแก้ไม่ตก เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศ
ในปีที่ผ่านมามีนชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยทั้งปีประมาณ 7 แสนคน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนไทยที่เดินทางไปประเทศจีนต่อปีที่ 4-5 แสนคน ทั้งที่ประชากรของไทยน้อยกว่าประชากรของประเทศจีน ตรงนี้ทำให้ไทยเสียดุลบริการไปส่วนหนึ่ง
นอกจากนั้นยังเสนอให้รัฐเร่งดำเนินการจัดลงทะเบียนบริษัทที่ทำทัวร์รับนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดในประเทศ ให้เข้ามาอยู่ในระบบให้หมด เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแล และดำเนินการให้อยู่ในกฎระเบียบ ติดตามพฤติกรรมต่างๆ รวมทั้งเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันสถานการณ์
ทางด้านนายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า ล่าสุด นายประชา มาลีนนท์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ประสานความร่วมมือในเรื่องของการขอรายการแพกเกจท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ที่ขายในจีน ซึ่งนำนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรายการทัวร์ที่จัดขึ้นจริงในเมืองไทย เพื่อเป็นการตรวจสอบและเป็นการให้ความช่วยเหลือให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาการทิ้งทัวร์ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจีนถือเป็นตลาดเป้าหมายหลักของไทยในปีหน้าที่จะเพิ่มนักท่องเที่ยวจากจีนให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างน้อยให้ได้ 1.3 ล้านคน
ในการประชุมผู้ประกอบการนำเที่ยวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดจีน ซึ่งจัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายศิษฏิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า ต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และรัฐบาลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดการกับบริษัททัวร์บางรายจากประเทศจีนที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย แล้วทิ้งนักท่องเที่ยวหรือทิ้งทัวร์ โดยให้มีการตกลงระหว่างรัฐกับรัฐ ในการกำหนดมาตรฐานในการทำทัวร์กันระหว่างกันให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
เพราะที่ผ่านมา เมื่อเกิดการทิ้งทัวร์ ผู้ดำเนินการประสานงาน และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือแต่ไม่ทราบเงื่อนไขการเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวชาวจีนกับบริษัททัวร์ตั้งแต่ต้นทางในประเทศจีนว่ามีข้อตกลงกันอย่างไร และเมื่อเกิดเรื่องแล้วทางประเทศไทยก็ไม่มีอำนาจสั่งการเอาผิดกับบริษัทต้นทางได้
ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีการกำหนดมาตรฐานทัวร์ร่วมกันระหว่างสองรัฐบาลจะทำให้ประเทศจีนหันมาทำทัวร์คุณภาพมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการแข่งขันเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้เกิดปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญแบบแก้ไม่ตก เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศ
ในปีที่ผ่านมามีนชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยทั้งปีประมาณ 7 แสนคน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนไทยที่เดินทางไปประเทศจีนต่อปีที่ 4-5 แสนคน ทั้งที่ประชากรของไทยน้อยกว่าประชากรของประเทศจีน ตรงนี้ทำให้ไทยเสียดุลบริการไปส่วนหนึ่ง
นอกจากนั้นยังเสนอให้รัฐเร่งดำเนินการจัดลงทะเบียนบริษัทที่ทำทัวร์รับนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดในประเทศ ให้เข้ามาอยู่ในระบบให้หมด เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแล และดำเนินการให้อยู่ในกฎระเบียบ ติดตามพฤติกรรมต่างๆ รวมทั้งเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันสถานการณ์
ทางด้านนายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า ล่าสุด นายประชา มาลีนนท์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ประสานความร่วมมือในเรื่องของการขอรายการแพกเกจท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ที่ขายในจีน ซึ่งนำนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรายการทัวร์ที่จัดขึ้นจริงในเมืองไทย เพื่อเป็นการตรวจสอบและเป็นการให้ความช่วยเหลือให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาการทิ้งทัวร์ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจีนถือเป็นตลาดเป้าหมายหลักของไทยในปีหน้าที่จะเพิ่มนักท่องเที่ยวจากจีนให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างน้อยให้ได้ 1.3 ล้านคน