คาราทชี้วงการสื่อโฆษณาในปีหน้าจะมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีนี้ จากปัจจัยบวกการเมืองที่ลงตัวและสนามบินสุวรรณภูมิเปิดบริการ ส่วนภาพรวมตลาดปีนี้เชื่อว่าทรงตัว ชี้ไตรมาส 2 มีการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาโตน้อยลงกว่าปกติ มั่นใจไตรมาส 4 กลับมาคึกคักอีกครั้ง ล่าสุดเหล่ามีเดียเอเยนซี่กว่า 20 รายรวมพลเตรียมผลักดันชมรมมีเดีย เอเยนซี่ คลับไปสู่สมาคมคาดจะแล้วเสร็จช่วงปลายปีนี้ หวังยกระดับวงการมีเดียให้ดียิ่งขึ้น
นางไพจิตร เทียนทอง ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัทคาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้วางแผน ,ซื้อสื่อให้สินค้าและบริการชั้นนำกว่า 60 ราย อาทิ ฮอนด้า,อาดิดาส และฟิลิปส์ฯลฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมวงการสื่อโฆษณาในปีหน้ามองว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีนี้หรืออย่างต่ำตลาดจะทรงตัวเท่ากับปีนี้ โดยปัจจัยบวกที่เห็นในปีหน้า อาทิ การเมืองจะคลี่คลายลงเพราะการเลือกตั้งได้เสร็จสิ้นแล้ว หรือสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นคาดว่าจะมีน้อยลง แต่ที่กังวลเห็นจะเป็นเรื่องภัยจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น น้ำท่วมส่งผลต่อการเกษตร หรือเรื่องการส่งออกที่อาจจะกระทบบ้างเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เป็นต้น
สำหรับภาพรวมสื่อโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้พบว่าเม็ดเงินที่ใช้ในตลาดโตขึ้น5 % แต่ถ้าหักลบค่าสื่อหรืออัตราเฉลี่ยของการปรับขั้นค่าโฆษณารวมทั้งตลาดที่เพิ่มขึ้น 7-10% ถือว่าตลาดรวมไม่เติบโต โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 ปีนี้พบว่าการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาโตน้อยกว่าปกติที่จะเติบโตขึ้น10-15 % เนื่องจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการเมือง ล่าสุดช่วงไตรมาส 3 นี้พบว่าตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวอยู่ ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4 ตลาดจะมีการใช้เม็ดเงินที่สูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งจะมีการเลือกตั้งใหญ่ขึ้น ดังนั้นจะมีเม็ดเงินสะพัดมากในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและส่งผลให้ใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณาลดน้อยลง อาทิ อสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง ,กลุ่มเทเลคอมที่หันไปเน้นการทำโปรโมชั่นแทนการใช้เม็ดเงินโฆษณา และกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่มียังไม่มีการลดงบแต่กลับใช้งบมากขึ้น เช่น ธุรกิจบันเทิง, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว , อุตสาหกรรมรถ และงบประมาณของภาครัฐ เป็นต้น
ด้านนายวิสาส์น สิริจันทานนท์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัทคาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด และ หนึ่งในคณะทำงานของ Media Agency Clubs หรือ MAC เปิดเผยว่า บริษัทฯและบรรดาเอเยนซี่ชั้นนำกว่า 20 ราย อาทิ มายด์แชร์, อินนิทิเอทีฟว์ และโอเอ็มดี ฯลฯ ได้จัดตั้งชมรม “Media Agency Clubs” ขึ้น เพื่อต้องการพัฒนาและยกระดับวงการมีเดียให้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดทางชมรมฯเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆเพื่อจัดตั้งเป็นสมาคม โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงปลายปีนี้
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเข้าร่วมสมาคม อาทิ มีเดีย เอเยนซี่ 17 ราย, เอเยนซี่ที่ให้บริการแบบครบวงจร 65 ราย , กลุ่มอีเวนต์ 30 ราย, สื่อทีวี 82 ราย, วิทยุ 21 ราย, หนังสือพิมพ์ 18 ราย เป็นต้น ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ อาทิ ข่าวความเคลื่อนไหว,ข้อมูลวิจัย, การจัดสัมมนา และการจัดประกวดรางวัล เป็นต้น
นางไพจิตร เทียนทอง ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัทคาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้วางแผน ,ซื้อสื่อให้สินค้าและบริการชั้นนำกว่า 60 ราย อาทิ ฮอนด้า,อาดิดาส และฟิลิปส์ฯลฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมวงการสื่อโฆษณาในปีหน้ามองว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีนี้หรืออย่างต่ำตลาดจะทรงตัวเท่ากับปีนี้ โดยปัจจัยบวกที่เห็นในปีหน้า อาทิ การเมืองจะคลี่คลายลงเพราะการเลือกตั้งได้เสร็จสิ้นแล้ว หรือสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นคาดว่าจะมีน้อยลง แต่ที่กังวลเห็นจะเป็นเรื่องภัยจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น น้ำท่วมส่งผลต่อการเกษตร หรือเรื่องการส่งออกที่อาจจะกระทบบ้างเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เป็นต้น
สำหรับภาพรวมสื่อโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้พบว่าเม็ดเงินที่ใช้ในตลาดโตขึ้น5 % แต่ถ้าหักลบค่าสื่อหรืออัตราเฉลี่ยของการปรับขั้นค่าโฆษณารวมทั้งตลาดที่เพิ่มขึ้น 7-10% ถือว่าตลาดรวมไม่เติบโต โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 ปีนี้พบว่าการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาโตน้อยกว่าปกติที่จะเติบโตขึ้น10-15 % เนื่องจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการเมือง ล่าสุดช่วงไตรมาส 3 นี้พบว่าตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวอยู่ ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4 ตลาดจะมีการใช้เม็ดเงินที่สูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งจะมีการเลือกตั้งใหญ่ขึ้น ดังนั้นจะมีเม็ดเงินสะพัดมากในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและส่งผลให้ใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณาลดน้อยลง อาทิ อสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง ,กลุ่มเทเลคอมที่หันไปเน้นการทำโปรโมชั่นแทนการใช้เม็ดเงินโฆษณา และกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่มียังไม่มีการลดงบแต่กลับใช้งบมากขึ้น เช่น ธุรกิจบันเทิง, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว , อุตสาหกรรมรถ และงบประมาณของภาครัฐ เป็นต้น
ด้านนายวิสาส์น สิริจันทานนท์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัทคาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด และ หนึ่งในคณะทำงานของ Media Agency Clubs หรือ MAC เปิดเผยว่า บริษัทฯและบรรดาเอเยนซี่ชั้นนำกว่า 20 ราย อาทิ มายด์แชร์, อินนิทิเอทีฟว์ และโอเอ็มดี ฯลฯ ได้จัดตั้งชมรม “Media Agency Clubs” ขึ้น เพื่อต้องการพัฒนาและยกระดับวงการมีเดียให้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดทางชมรมฯเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆเพื่อจัดตั้งเป็นสมาคม โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงปลายปีนี้
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเข้าร่วมสมาคม อาทิ มีเดีย เอเยนซี่ 17 ราย, เอเยนซี่ที่ให้บริการแบบครบวงจร 65 ราย , กลุ่มอีเวนต์ 30 ราย, สื่อทีวี 82 ราย, วิทยุ 21 ราย, หนังสือพิมพ์ 18 ราย เป็นต้น ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ อาทิ ข่าวความเคลื่อนไหว,ข้อมูลวิจัย, การจัดสัมมนา และการจัดประกวดรางวัล เป็นต้น