ตลาดเครื่องออกกำลังกายพรีเมียมบูม คาด 1-2 ปีนี้มูลค่าพุ่งแตะ 600 ล้านบาท ไลฟ์สไตล์คนไทยเปลี่ยนเทรนด์ออกกำลังกายในบ้านมาแรง "เซียร่า" ลั่นกลองรบ รุกขยายฐานผู้บริโภคใช้ในบ้าน ล่าสุดจับมือร่วมกับสถานเอกอัครราชฑูตอเมริกา จัดงาน"Buy & Visit USa 2006" หวังสร้างตราสินค้าให้เป็นรู้ในวงกว้าง เล็งทุ่ม 100 ล้านบาท ผุดฟิตเนสระดับพรีเมียมแห่งที่สอง คาดสิ้นปีรายได้ทรงตัว 350 ล้านบาท
นายสมรรถพล โล่ห์ศิริวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สปอร์ตส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ รีครีเอชั่น เอเชีย จำกัด หรือบริษัท เซียร่า จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบ และติดตั้งอุปกรณ์กีฬาระดับพรีเมียมไลฟ์ฟิตเนสส์ และไซเบ็กซ์ เปิดเผยว่า จากการที่ผู้บริโภคไทยหันมาใส่ใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครื่องออกกำลังกายในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมาโดยตลอด จากก่อนหน้านี้มีการขยายตัวเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียว ดังนั้นจึงคาดว่าปีนี้และปีหน้ามูลค่าตลาดเครื่องกำลังกายระดับพรีเมียมพุ่งสูงถึง 600 ล้านบาท
สำหรับแผนการตลาดบริษัทฯได้วางแนวทางขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้บริโภคหรือผู้ใช้เครื่องออกกำลังกายภายในบ้านมากขึ้น เพราะในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องออกกำลังกายภายในบ้าน ขยายตัวสูงกว่าตลาดเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนส อีกทั้งที่ผ่านมารายได้หลักของบริษัทฯมาจากการจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายให้กับฟิตเนส โรงแรม รีสอร์ต ระดับ 5 ดาว ถึง 60% และอีก 10% เป็นเครื่องออกกำลังกายในบ้าน ส่วน 30% เป็นรายได้จากการก่อสร้างสนามกีฬา
นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดฟิตเนสเพิ่มใหม่ 1 แห่ง โดยทุ่มงบราว 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. จากปัจจุบันมีเพียงสาขาเดียว
ล่าสุดบริษัทฯจึงได้ร่วมกับหอการค้าอเมริกาประเทศไทย และสถานเอกอัครราชฑูตอเมริกาประจำประเทศไทย จัดงาน "Buy & Visit USa 2006" โดยมีสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม 60 บริษัท อาทิ แอมเวย์ ,อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล เสริมสุข และเซียร่ากรุ๊ป โดยภายในงานจะจัดแสดงสินค้าในกลุ่มอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว การศึกษา และเครื่องออกกำลังกาย เริ่มระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน นี้ ที่ ไบเทค
ทั้งนี้การเข้าร่วมของบริษัทฯก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้า และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภครู้จักตราสินค้าในวงกว้างมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้ใช้ในบ้านมากขึ้น
แนวโน้มการตลาดเครื่องกำลังกายในไทย ยังสามารถที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้ เนื่องจากจำนวนคนไทยที่เป็นสมาชิกฟิตเนสมีเพียง 1-2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับสิงคโปร์มีถึง 30% อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วง 5 ปี จำนวนคนไทยที่เป็นสมาชิกฟิตเนสจะเพิ่มถึง 10% โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขาย 5 ปีจากนี้ไปถึง 500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 350 ล้านบาท และปีนี้คาดว่ารายได้ของบริษัทฯจะไม่มีอัตราการเติบโต คือมีรายได้เท่ากับปีที่ผ่านมา คือ 350 ล้านบาท
นายสมรรถพล โล่ห์ศิริวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สปอร์ตส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ รีครีเอชั่น เอเชีย จำกัด หรือบริษัท เซียร่า จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบ และติดตั้งอุปกรณ์กีฬาระดับพรีเมียมไลฟ์ฟิตเนสส์ และไซเบ็กซ์ เปิดเผยว่า จากการที่ผู้บริโภคไทยหันมาใส่ใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครื่องออกกำลังกายในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมาโดยตลอด จากก่อนหน้านี้มีการขยายตัวเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียว ดังนั้นจึงคาดว่าปีนี้และปีหน้ามูลค่าตลาดเครื่องกำลังกายระดับพรีเมียมพุ่งสูงถึง 600 ล้านบาท
สำหรับแผนการตลาดบริษัทฯได้วางแนวทางขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้บริโภคหรือผู้ใช้เครื่องออกกำลังกายภายในบ้านมากขึ้น เพราะในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องออกกำลังกายภายในบ้าน ขยายตัวสูงกว่าตลาดเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนส อีกทั้งที่ผ่านมารายได้หลักของบริษัทฯมาจากการจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายให้กับฟิตเนส โรงแรม รีสอร์ต ระดับ 5 ดาว ถึง 60% และอีก 10% เป็นเครื่องออกกำลังกายในบ้าน ส่วน 30% เป็นรายได้จากการก่อสร้างสนามกีฬา
นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดฟิตเนสเพิ่มใหม่ 1 แห่ง โดยทุ่มงบราว 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. จากปัจจุบันมีเพียงสาขาเดียว
ล่าสุดบริษัทฯจึงได้ร่วมกับหอการค้าอเมริกาประเทศไทย และสถานเอกอัครราชฑูตอเมริกาประจำประเทศไทย จัดงาน "Buy & Visit USa 2006" โดยมีสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม 60 บริษัท อาทิ แอมเวย์ ,อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล เสริมสุข และเซียร่ากรุ๊ป โดยภายในงานจะจัดแสดงสินค้าในกลุ่มอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว การศึกษา และเครื่องออกกำลังกาย เริ่มระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน นี้ ที่ ไบเทค
ทั้งนี้การเข้าร่วมของบริษัทฯก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้า และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภครู้จักตราสินค้าในวงกว้างมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้ใช้ในบ้านมากขึ้น
แนวโน้มการตลาดเครื่องกำลังกายในไทย ยังสามารถที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้ เนื่องจากจำนวนคนไทยที่เป็นสมาชิกฟิตเนสมีเพียง 1-2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับสิงคโปร์มีถึง 30% อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วง 5 ปี จำนวนคนไทยที่เป็นสมาชิกฟิตเนสจะเพิ่มถึง 10% โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขาย 5 ปีจากนี้ไปถึง 500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 350 ล้านบาท และปีนี้คาดว่ารายได้ของบริษัทฯจะไม่มีอัตราการเติบโต คือมีรายได้เท่ากับปีที่ผ่านมา คือ 350 ล้านบาท