ศาลสั่งคดีมีมูล"สนธิ"หมิ่น"ทักษิณ"กรณีปราศรัยเรื่องงมงายไสยศาสตร์ ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย และแถลงเปิดคดีใน 2 ต.ค.นี้ ขณะที่"ส.ศิวรักษ์"เข้ามอบตัวสู้คดีดูหมิ่น และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วานนี้(21 ส.ค.)ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายชาตรี ถริปภัสสโร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา
จากกรณีเมื่อวันที่ 6มี.ค.-24มี.ค.49 จำเลยได้ร่วมกับพวกจัดตั้งเวทีปราศรัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวหาโจทก์ผ่านเครื่องขยายเสียง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวหาว่าโจทก์มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เหตุเกิดที่ท้องสนามหลวง,แยกมิสกวัน,สะพานมัฆวานรังสรรค์ และ จังหวัดภูเก็ต
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลโจทก์แล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูลทั้ง 2 ข้อหา โดยนัดสอบคำให้การจำเลย และแถลงเปิดคดีในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
**“ส.ศิวรักษ์”สู้คดีหมิ่นเบื้องสูง
วันเดียวกันนี้ เวลา 10.00 น.ที่ สน.บางซื่อ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ พร้อมด้วย นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ ทนายส่วนตัว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. เพื่อต่อสู้คดีดูหมิ่น และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 8 ส.ค.49
หลังการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง นายสุลักษณ์ กล่าวว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอไปให้การในชั้นศาล ซึ่งคดีนี้เป็นการลงบทความของตนในนิตยสารฟ้าเดียวกัน ฉบับเดือน ต.ค.48 โดยผู้ฟ้องเป็นชาวบ้าน และประชาชนที่ได้อ่านบทความ รวมทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานของรัฐ จากนั้นได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาบางซื่อ โดยมีเงินในสมุดบัญชีเงินฝาก 300,000 บาท เพื่อขอประกันตัวออกมา
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปคำให้การมาแล้ว โดยมั่นใจว่าไม่น่าจะเป็นการกระทำผิด เพราะอาจารย์ ส.ศิวรักษ์ เป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด และเป็นคนที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม เชื่อว่าคดีนี้เป็นการกล่าวหามากกว่า ไม่ได้เป็นการตั้งใจที่จะหมิ่นประมาท ขอวิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้องไม่อยากให้หยิบยกเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นการเมือง เป็นประโยชน์ทางการเมืองเนื่องจากเกี่ยวข้องกับสถาบัน ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมดีกว่า
ด้าน พล.ต.ต.เจตน์ กล่าวว่า คดีนี้คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพราะต้องรอสอบพยานอีก 20-30 คน และไม่หนักใจในการทำคดีนี้ เพราะทำตามหน้าที่และพยานหลักฐาน
วานนี้(21 ส.ค.)ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายชาตรี ถริปภัสสโร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา
จากกรณีเมื่อวันที่ 6มี.ค.-24มี.ค.49 จำเลยได้ร่วมกับพวกจัดตั้งเวทีปราศรัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวหาโจทก์ผ่านเครื่องขยายเสียง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวหาว่าโจทก์มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เหตุเกิดที่ท้องสนามหลวง,แยกมิสกวัน,สะพานมัฆวานรังสรรค์ และ จังหวัดภูเก็ต
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลโจทก์แล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูลทั้ง 2 ข้อหา โดยนัดสอบคำให้การจำเลย และแถลงเปิดคดีในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
**“ส.ศิวรักษ์”สู้คดีหมิ่นเบื้องสูง
วันเดียวกันนี้ เวลา 10.00 น.ที่ สน.บางซื่อ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ พร้อมด้วย นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ ทนายส่วนตัว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. เพื่อต่อสู้คดีดูหมิ่น และหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 8 ส.ค.49
หลังการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง นายสุลักษณ์ กล่าวว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอไปให้การในชั้นศาล ซึ่งคดีนี้เป็นการลงบทความของตนในนิตยสารฟ้าเดียวกัน ฉบับเดือน ต.ค.48 โดยผู้ฟ้องเป็นชาวบ้าน และประชาชนที่ได้อ่านบทความ รวมทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานของรัฐ จากนั้นได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาบางซื่อ โดยมีเงินในสมุดบัญชีเงินฝาก 300,000 บาท เพื่อขอประกันตัวออกมา
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปคำให้การมาแล้ว โดยมั่นใจว่าไม่น่าจะเป็นการกระทำผิด เพราะอาจารย์ ส.ศิวรักษ์ เป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด และเป็นคนที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม เชื่อว่าคดีนี้เป็นการกล่าวหามากกว่า ไม่ได้เป็นการตั้งใจที่จะหมิ่นประมาท ขอวิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้องไม่อยากให้หยิบยกเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นการเมือง เป็นประโยชน์ทางการเมืองเนื่องจากเกี่ยวข้องกับสถาบัน ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมดีกว่า
ด้าน พล.ต.ต.เจตน์ กล่าวว่า คดีนี้คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพราะต้องรอสอบพยานอีก 20-30 คน และไม่หนักใจในการทำคดีนี้ เพราะทำตามหน้าที่และพยานหลักฐาน