xs
xsm
sm
md
lg

ใครคืออุปสรรคในการแก้ปัญหาชายแดนใต้?

เผยแพร่:   โดย: หมายเหตุผู้จัดการ

เราได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนมาโดยลำดับว่าถ้าระบอบทักษิณยังอยู่ ประเทศไทยจะสูญเสียสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน เพราะเป็นต้นเหตุ เป็นตัวขยายปัญหาและเป็นตัวขัดขวางการแก้ปัญหา

วันนี้ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ยืนยันในสิ่งที่เราได้ชี้ไว้อย่างชัดเจนแล้ว!


พลโท องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 ได้อภิปรายทางวิชาการซึ่งจัดโดยวิทยาลัยการทัพอากาศเกี่ยวกับปัญหาการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในหัวข้อเรื่องว่า “ไฟใต้ร้อนระอุ ทำไมจึงดับ” และได้พูดถึงปัญหาต่าง ๆ อย่างชัดเจน

ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้บรรยายเกี่ยวกับอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาว่ามีในประการดังต่อไปนี้

ประการแรก ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ มีหน่วยงานในระนาบเดียวกันหลายหน่วย คือ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า ศูนย์ปฏิบัติการมหาดไทยส่วนหน้า ศูนย์ปฏิบัติการยุติธรรมส่วนหน้า ศูนย์ปฏิบัติการศึกษาธิการส่วนหน้า

ต่างคนต่างขึ้นกับผู้บังคับบัญชาของตน ทำให้ขาดความเป็นเอกภาพในการทำงานอย่างยิ่ง

ประการที่สอง หน่วยปฏิบัติงานต่าง ๆ ในพื้นที่ยังต้องมีสายงานขึ้นตรงกับคณะกรรมการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นประธาน

ประการที่สาม การที่รัฐมนตรีลงมาทำงานในพื้นที่ในลักษณะแทรกแซงการทำงานของผู้รับผิดชอบในพื้นที่ ลงไปแล้วสั่งคนโน้นสั่งคนนี้ “แม้กระทั่งการไปจัดการเรื่องบางเรื่องซึ่งมีทั้งงบประมาณและผลประโยชน์ด้วยตัวเอง”


เห็นหรือยังพระคุณท่านว่าเฉพาะอุปสรรคสามประการนี้ก็ทำให้การมอบหมายอำนาจหน้าที่แก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้แก่ท่านผู้บัญชาการทหารบกอย่างเต็มที่ไม่มีความหมายและไม่มีผลในการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน

ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานที่มีส่วนหน้าอยู่ในพื้นที่ต่างคนต่างสั่งการกันไปคนละทิศคนละทาง ไม่มีทางที่จะเป็นเอกภาพกันได้ เพราะหน่วยงานที่เป็นส่วนหน้าทั้งหมดนั้นย่อมเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตนยิ่งกว่าเชื่อฟังท่านผู้บัญชาการทหารบก หรือแม้พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เอง

คณะกรรมการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นประธานเองก็ว่าไปอีกทางหนึ่งในทางของตำรวจและตำรวจแบบธุรการที่ไม่มีประสบการณ์ในการศึกสงคราม และไม่มีขีดความสามารถหรือศักดิ์ศรีพอเพียงในการบังคับบัญชาฝ่ายทหาร

ยังไม่รวมถึงการมอบหมายให้ท่านมหาปุโรหิตที่ควบคุมดูแลงบประมาณการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่รู้ว่าทำอะไรหรือสั่งการจัดแจงอะไร แม้กระทั่งต้องเชื่อฟังหรือขึ้นต่อพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ หรือท่านผู้บัญชาการทหารบกหรือไม่

นี่คืออุปสรรคใหญ่ที่สุดที่ทำให้การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินหน้าไปไม่ได้ และปัญหายิ่งบานปลายขยายตัวจนใกล้จะเสียสามจังหวัดชายแดนเต็มทีแล้ว

ระวังให้ดีเขาจะเอาขี้มาใส่มือท่านผู้บัญชาการทหารบก แล้วโยนความผิดว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาตามที่มอบหมายได้

ยังมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นซ้ำเติมมาอีก! นั่นคือความพยายามที่จะขยายปัญหาความไม่สงบให้ลุกลามมากขึ้นเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้มากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องอุบาทว์ชาติชั่วที่ทำลายชาติ ปล้นชาติ อย่างทุเรศทุรังที่สุด

นั่นคือการที่ฝ่ายตำรวจอ้างตนเป็นแหล่งข่าวความมั่นคงนำไอ้บ้าคนหนึ่งชื่ออากัง แซ่ยี สวมรอยว่าเป็นอดีตโจรจีนคอมมิวนิสต์ แล้วออกความเห็นว่าชาวพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาได้ร่วมปฏิบัติการก่อความไม่สงบกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน แล้วมีการทำข่าวแจกสื่อมวลชนทุกสำนัก และเผยแพร่ข่าวเรื่องนี้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2549

นี่คือแผนการอุบาทว์ที่ต้องการให้กองทัพไทยทำการปราบปรามอดีตชาวพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาซึ่งได้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อผลักไสคนกลุ่มนี้ให้ไปเป็นแนวร่วมของขบวนการแบ่งแยกดินแดน

ทำกันมาหลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้น่าเกลียดมาก! เพราะถ้าหากกองทัพไทยหลงกลก็จะส่งผลให้ความไม่สงบขยายตัวลุกลามเข้ามายังอำเภอเบตง จังหวัดยะลาจุดหนึ่ง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จุดหนึ่ง และกลุ่มหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนาทั้ง 12 หมู่บ้าน ในจังหวัดนราธิวาสอีกจุดหนึ่ง

เป็นการเพิ่มแนวร่วม เพิ่มกำลังให้กับฝ่ายตรงกันข้าม และทำให้ไฟความไม่สงบลุกลามขยายตัว

พรรคพวกนายทหารระดับเสนาธิการของเราหลายท่านมีความเห็นตรงกันว่าสภาพภูมิประเทศในเชิงยุทธศาสตร์นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง และน่าจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของแผนอุบาทว์นี้

เพราะถ้าชาวพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาถูกผลักให้ไปเข้าร่วมกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนวันไหน ผืนป่าบาฮารา รวมทั้งท้องที่อำเภอสะเดา อำเภอเบตง ที่เป็นแนวยุทธศาสตร์ขวางการรุกขึ้นสู่ภาคใต้ตอนบนก็จะเปิดกว้างให้กับฝ่ายตรงกันข้าม และทำให้พื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแนวหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนาทั้ง 12 หมู่บ้าน เปิดกว้างและเป็นทางผ่านเคลื่อนไหวเชื่อมเหนือ-ใต้ให้กับฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดน

เมื่อนั้นไม่เพียงแต่ 3-4 จังหวัดจะถูกตัดออกไปอย่างง่ายดาย แต่จะเกิดสภาพคุกคามทะลุขึ้นมาถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชอันเป็นฐานที่ตั้งใหญ่ของกองทัพภาคที่ 4 โดยตรงด้วย

ท่านประธานองคมนตรี ท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ควรจะได้ตรวจสอบเรื่องนี้ว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังประการใด เพื่อจะได้ไม่หลงกลผลักชาวพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาไปเป็นแนวร่วมให้กับฝ่ายตรงกันข้ามตามแผนการอุบาทว์นี้

อย่าไปหวังพึ่งรัฐบาลรักษาการ เพราะเขาไม่สนใจภาคใต้โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มานานแล้ว!

กำลังโหลดความคิดเห็น