ศูนย์ข่าวศรีราชา -รัฐบาลจีนเชื่อฝีมือ"สวนเสือศรีราชา" หลังเปิดสวนสัตว์ที่ไหหลำแค่ 2 เดือน สามารถดึงนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก เตรียมชวนร่วมลงทุนทำสวนสัตว์มณฑลต่างๆทั่วประเทศต่อ คาดสวนเสือไหหลำจะถึงจุดคุ้มทุนในระยะ 3-5ปี จากนั้นจะสามารถส่งเงินรายได้ กลับมาพัฒนาสวนเสือศรีราชาต่อไป
นายศุภดล โฉมมงคล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ศรีราชา ไทเกอร์ ซู จำกัด ผู้บริหารสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรี เผยถึงการลงทุนก่อสร้างสวนสัตว์ไหหลำ ณ มณฑลไหหลำ ประเทศจีน ซึ่งสวนเสือศรีราชา ร่วมลงทุนกับรัฐบาลจีน ภายใต้งบประมาณ 250 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.2 พันล้านบาท ว่า หลังเปิดดำเนินการได้เพียง 2 เดือน พบว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในประเทศจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ขณะนี้ 90% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าชม คือ ประชาชนชาวจีน และ 10% เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบยุโรป ส่วนไฮไลต์ของสวนสัตว์แห่งนี้ นอกจากจะอยู่ที่บรรดาสัตว์ต่างๆ ที่นำไปให้นักท่องเที่ยวได้ชมแล้ว ยังอยู่ที่การแสดงของเสือ เช่นเดียวกับการแสดงที่มีให้ชม ในสวนเสือศรีราชา
ทั้งนี้คาดว่าในอนาคตสวนสัตว์แห่งนี้ จะได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันรัฐบาลจีน มีนโยบายที่จะพัฒนาหมู่เกาะไหหลำ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ของประเทศ ที่สำคัญในแต่ละปีเกาะไหหลำ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งบริษัทคาดว่าการเปิดสวนสัตว์ในเกาะไหหลำ จะถึงจุดคุ้มทุนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า หลังจากนั้น จะสามารถส่งเงินรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานกลับมาพัฒนาสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้อย่างแน่นอน
"ในปีแรกเราไม่คาดหวังว่าจะสามารถทำกำไรได้เลย แต่คาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะมีกำไรจนสามารถส่งกลับมาพัฒนาสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรีได้ ที่สำคัญขณะนี้เรายังมีแผนที่จะขยายการลงทุนสวนสัตว์ในมณฑลอื่นๆ ของประเทศจีนอีก และคงจะเป็นการลงทุนในลักษณะร่วมทุนกับรัฐบาลจีน มากกว่าทำเองทั้งหมด ส่วนมูลค่าการลงทุนจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่เราเข้าไปพัฒนา แต่คงไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยขณะนี้เราได้รับการติดต่อเข้ามาแล้วประมาณ 2-3 มณฑล "
อนึ่ง นอกจากการเปิดให้บริการสวนสัตว์ ในมณฑลไหหลำ ของจีนแล้ว บริษัท ศรีราชา ไทเกอร์ ซู จำกัด ยังของบประมาณส่งเสริมด้านการทำวิจัยและเกษตรไฮเทค จากรัฐบาลจีนอีก 1 พันล้านบาท เนื่องจากสวนเสือศรีราชา มีแผนที่จะย้ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จระเข้ไปไว้ ณ เกาะไหหลำ เพื่อตั้งศูนย์วิจัยสำหรับผลิตยารักษาโรค โดยใช้เครื่องในจระเข้ และอวัยวะต่างๆ แบบครบวงจร และยังจะตั้งโรงงานฟอกหนังจระเข้เพื่อส่งจำหน่ายในประเทศจีนอีกด้วย
ส่วนการเปิดสวนสัตว์ร่วมกันระหว่างสวนเสือศรีราชา กับรัฐบาลจีน มีข้อตกลงร่วมกันว่า หากสามารถพัฒนาสวนสัตว์ไหหลำให้ประสบความสำเร็จ รัฐบาลจีน ก็พร้อมจะสนับสนุนให้สวนเสือศรีราชา เปิดดำเนินงานในลักษณะนี้ในทุกมณฑล ซึ่งสวนเสือศรีราชา ได้ให้ความมั่นใจกับรัฐบาลจีนได้ว่า การลงทุนจำนวนพันล้านบาท จะสามารถสร้างผลกำไรได้มากถึง 10 เท่าในระยะเวลา 10 ปี
นอกจากนี้ หลังเปิดสวนสัตว์แล้ว ก็พร้อมจะตั้งโรงงานฟอกหนัง ศูนย์วิจัยยารักษาโรคจากอวัยวะต่างๆ ของจระเข้ โดยจะทำในลักษณะเดียวกับศูนย์วิจัยจระเข้ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาในทันที
นายศุภดล โฉมมงคล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ศรีราชา ไทเกอร์ ซู จำกัด ผู้บริหารสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรี เผยถึงการลงทุนก่อสร้างสวนสัตว์ไหหลำ ณ มณฑลไหหลำ ประเทศจีน ซึ่งสวนเสือศรีราชา ร่วมลงทุนกับรัฐบาลจีน ภายใต้งบประมาณ 250 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.2 พันล้านบาท ว่า หลังเปิดดำเนินการได้เพียง 2 เดือน พบว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในประเทศจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ขณะนี้ 90% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าชม คือ ประชาชนชาวจีน และ 10% เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบยุโรป ส่วนไฮไลต์ของสวนสัตว์แห่งนี้ นอกจากจะอยู่ที่บรรดาสัตว์ต่างๆ ที่นำไปให้นักท่องเที่ยวได้ชมแล้ว ยังอยู่ที่การแสดงของเสือ เช่นเดียวกับการแสดงที่มีให้ชม ในสวนเสือศรีราชา
ทั้งนี้คาดว่าในอนาคตสวนสัตว์แห่งนี้ จะได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันรัฐบาลจีน มีนโยบายที่จะพัฒนาหมู่เกาะไหหลำ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ของประเทศ ที่สำคัญในแต่ละปีเกาะไหหลำ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งบริษัทคาดว่าการเปิดสวนสัตว์ในเกาะไหหลำ จะถึงจุดคุ้มทุนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า หลังจากนั้น จะสามารถส่งเงินรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานกลับมาพัฒนาสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้อย่างแน่นอน
"ในปีแรกเราไม่คาดหวังว่าจะสามารถทำกำไรได้เลย แต่คาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะมีกำไรจนสามารถส่งกลับมาพัฒนาสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรีได้ ที่สำคัญขณะนี้เรายังมีแผนที่จะขยายการลงทุนสวนสัตว์ในมณฑลอื่นๆ ของประเทศจีนอีก และคงจะเป็นการลงทุนในลักษณะร่วมทุนกับรัฐบาลจีน มากกว่าทำเองทั้งหมด ส่วนมูลค่าการลงทุนจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่เราเข้าไปพัฒนา แต่คงไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยขณะนี้เราได้รับการติดต่อเข้ามาแล้วประมาณ 2-3 มณฑล "
อนึ่ง นอกจากการเปิดให้บริการสวนสัตว์ ในมณฑลไหหลำ ของจีนแล้ว บริษัท ศรีราชา ไทเกอร์ ซู จำกัด ยังของบประมาณส่งเสริมด้านการทำวิจัยและเกษตรไฮเทค จากรัฐบาลจีนอีก 1 พันล้านบาท เนื่องจากสวนเสือศรีราชา มีแผนที่จะย้ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จระเข้ไปไว้ ณ เกาะไหหลำ เพื่อตั้งศูนย์วิจัยสำหรับผลิตยารักษาโรค โดยใช้เครื่องในจระเข้ และอวัยวะต่างๆ แบบครบวงจร และยังจะตั้งโรงงานฟอกหนังจระเข้เพื่อส่งจำหน่ายในประเทศจีนอีกด้วย
ส่วนการเปิดสวนสัตว์ร่วมกันระหว่างสวนเสือศรีราชา กับรัฐบาลจีน มีข้อตกลงร่วมกันว่า หากสามารถพัฒนาสวนสัตว์ไหหลำให้ประสบความสำเร็จ รัฐบาลจีน ก็พร้อมจะสนับสนุนให้สวนเสือศรีราชา เปิดดำเนินงานในลักษณะนี้ในทุกมณฑล ซึ่งสวนเสือศรีราชา ได้ให้ความมั่นใจกับรัฐบาลจีนได้ว่า การลงทุนจำนวนพันล้านบาท จะสามารถสร้างผลกำไรได้มากถึง 10 เท่าในระยะเวลา 10 ปี
นอกจากนี้ หลังเปิดสวนสัตว์แล้ว ก็พร้อมจะตั้งโรงงานฟอกหนัง ศูนย์วิจัยยารักษาโรคจากอวัยวะต่างๆ ของจระเข้ โดยจะทำในลักษณะเดียวกับศูนย์วิจัยจระเข้ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาในทันที