คาราทเปิดเกมรุกการสื่อสารการตลาดทุกองศา ล่าสุด รีโพซิชั่นนิ่งแบรนด์คาราททั่วโลก ปรับแนวทางการทำงานใหม่ ชูกลยุทธ์ 3 C เสริมศักยภาพสร้างผลงานลูกค้าล้ำหน้าเหนือคู่แข่ง หวังเป็นที่ 1 การสื่อสารทุกรูปแบบ
นายวิชัย สุภาสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เครือข่ายของคาราททั่วโลกมีนโยบายรีโพซิชั่นนิ่งแบรนด์คาราทใหม่ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนสีโลโก้ เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการติดต่อสื่อสารในยุคที่ผู้บริโภคไม่หยุดอยู่นิ่ง และมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญว่าคาราทจะต้องเร่งเตรียมพร้อมกรอบการทำงานทุกๆแผนกให้สอดคล้องกับการสื่อสารที่กำลังจะเปลี่ยนไป เพื่อจะได้วิเคราะห์คู่แข่ง กลยุทธ์ทางการตลาด พฤติกรรมการเปิดรับสื่อของผู้บริโภค ว่าเป็นอย่างไร และนำมาประมวลวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดทุกองศาให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ และได้รับผลกำไรสูงสุด
ที่ผ่านมาคาราทเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการวางแผนด้านการสื่อสาร แต่ในอนาคตผมมองว่าคาราทจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำด้านการสื่อสารทุกรูปแบบ จากข้อมูลบริษัทวิจัยการจัดอันดับมีเดีย เอเยนซี่ ในต่างประเทศชี้ชัดว่า เน็ตเวิร์คของคาราทมีความชัดเจนและโดดเด่นที่สุดในด้านการลงทุนขยายขอบข่ายความสามารถในการให้บริการการสื่อสาร โดยเฉพาะเรื่อง Interactive และสื่อใหม่ๆ
นายวิสาส์น สิริจันทานนท์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท คาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันนี้ชีวิตประจำวันผู้บริโภคกลุ่มต่างๆมีการบริโภคสื่อที่หลากหลาย มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่อยู่นิ่งกับที่ คือมีการเคลื่อนที่จากสถานที่หนึ่งไปสู่อีกสถานที่หนึ่งมากขึ้นและแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ คาราทจึงต้องเร่งพัฒนากรอบการทำงานใหม่ที่แตกต่างจากมีเดียเอเยนซี่รายอื่น เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวกับการเปิดรับสื่อ และความสนใจของผู้บริโภคที่อยากจะเปิดใจรับรู้ข่าวสารมากกว่าแค่เป็นการถูกบอกเนื้อหาของข่าวสาร
ล่าสุด คาราททั่วโลกได้เริ่มปฏิรูปแนวคิดใหม่ โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า 3 C ประกอบด้วย Curiosity Creativity และ Collaboration เน้นวิธีการทำงานแบบใหม่ เริ่มคิดจากพฤติกรรมในการเปิดรับสื่อของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยไม่ยึดติดอยู่กับช่องทางในการสื่อสารแบบเดิมๆ ทำความเข้าใจถึงลักษณะทางธุรกิจของลูกค้า การตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค แบรนด์สินค้า เพื่อนำมากำหนดแกนในการสื่อสารทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม รวมทั้งการวางแผนสื่อสาร ต้องพิจารณาให้มันลึกซึ้งไปกว่าการซื้อสื่อแบบเดิม
การวางแผนการสื่อสารต้องพิจารณาไปถึงเรื่องเศรษฐมิติที่มีผลต่อธุรกิจของลูกค้า ทั้งเรื่อง Marketing Mix จีดีพีของประเทศ สถานภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งขัน วัตถุประสงค์การตลาด ยอดขาย ส่วนแบ่งทางการตลาดกลยุทธ์การโฆษณา การรับรู้ต่อแบรนด์ บรรจุภัณฑ์ แนวทางการสื่อสาร และงบประมาณฯลฯ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประมวลผลหากลยุทธ์การวางแผนการสื่อสารได้ถูกต้อง
คาราทเป็นบริษัทวางแผนและซื้อสื่ออิสระที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นสาขาจากประเทศอังกฤษ ปัจจุบันมีสาขากว่า 100 แห่งทั่วโลก โดยในปี 2549 นี้ ประมาณการยอดบิลลิ่งอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท
นายวิชัย สุภาสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เครือข่ายของคาราททั่วโลกมีนโยบายรีโพซิชั่นนิ่งแบรนด์คาราทใหม่ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนสีโลโก้ เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการติดต่อสื่อสารในยุคที่ผู้บริโภคไม่หยุดอยู่นิ่ง และมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญว่าคาราทจะต้องเร่งเตรียมพร้อมกรอบการทำงานทุกๆแผนกให้สอดคล้องกับการสื่อสารที่กำลังจะเปลี่ยนไป เพื่อจะได้วิเคราะห์คู่แข่ง กลยุทธ์ทางการตลาด พฤติกรรมการเปิดรับสื่อของผู้บริโภค ว่าเป็นอย่างไร และนำมาประมวลวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดทุกองศาให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ และได้รับผลกำไรสูงสุด
ที่ผ่านมาคาราทเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการวางแผนด้านการสื่อสาร แต่ในอนาคตผมมองว่าคาราทจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำด้านการสื่อสารทุกรูปแบบ จากข้อมูลบริษัทวิจัยการจัดอันดับมีเดีย เอเยนซี่ ในต่างประเทศชี้ชัดว่า เน็ตเวิร์คของคาราทมีความชัดเจนและโดดเด่นที่สุดในด้านการลงทุนขยายขอบข่ายความสามารถในการให้บริการการสื่อสาร โดยเฉพาะเรื่อง Interactive และสื่อใหม่ๆ
นายวิสาส์น สิริจันทานนท์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท คาราท มีเดีย เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันนี้ชีวิตประจำวันผู้บริโภคกลุ่มต่างๆมีการบริโภคสื่อที่หลากหลาย มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่อยู่นิ่งกับที่ คือมีการเคลื่อนที่จากสถานที่หนึ่งไปสู่อีกสถานที่หนึ่งมากขึ้นและแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ คาราทจึงต้องเร่งพัฒนากรอบการทำงานใหม่ที่แตกต่างจากมีเดียเอเยนซี่รายอื่น เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวกับการเปิดรับสื่อ และความสนใจของผู้บริโภคที่อยากจะเปิดใจรับรู้ข่าวสารมากกว่าแค่เป็นการถูกบอกเนื้อหาของข่าวสาร
ล่าสุด คาราททั่วโลกได้เริ่มปฏิรูปแนวคิดใหม่ โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า 3 C ประกอบด้วย Curiosity Creativity และ Collaboration เน้นวิธีการทำงานแบบใหม่ เริ่มคิดจากพฤติกรรมในการเปิดรับสื่อของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยไม่ยึดติดอยู่กับช่องทางในการสื่อสารแบบเดิมๆ ทำความเข้าใจถึงลักษณะทางธุรกิจของลูกค้า การตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค แบรนด์สินค้า เพื่อนำมากำหนดแกนในการสื่อสารทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม รวมทั้งการวางแผนสื่อสาร ต้องพิจารณาให้มันลึกซึ้งไปกว่าการซื้อสื่อแบบเดิม
การวางแผนการสื่อสารต้องพิจารณาไปถึงเรื่องเศรษฐมิติที่มีผลต่อธุรกิจของลูกค้า ทั้งเรื่อง Marketing Mix จีดีพีของประเทศ สถานภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งขัน วัตถุประสงค์การตลาด ยอดขาย ส่วนแบ่งทางการตลาดกลยุทธ์การโฆษณา การรับรู้ต่อแบรนด์ บรรจุภัณฑ์ แนวทางการสื่อสาร และงบประมาณฯลฯ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประมวลผลหากลยุทธ์การวางแผนการสื่อสารได้ถูกต้อง
คาราทเป็นบริษัทวางแผนและซื้อสื่ออิสระที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นสาขาจากประเทศอังกฤษ ปัจจุบันมีสาขากว่า 100 แห่งทั่วโลก โดยในปี 2549 นี้ ประมาณการยอดบิลลิ่งอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท