xs
xsm
sm
md
lg

กิฟฟารีนตั้งผู้แทนขายตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิฟฟารีนเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าส่งออกสินค้าไปจำหน่ายกว่า 60 ประเทศทั่วโลกภายใน 3 ปีนี้ โดยใช้กลยุทธ์แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศหลักเพื่อเป็นศูนย์กลางของการทำตลาดในแต่ละภูมิภาค หวังสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ติดตลาด ประเดิมในเอเชียแต่งตั้งฮ่องกงเป็นศูนย์กลาง เล็งเปิดแฟลกชิฟสโตร์เป็นร้านต้นแบบนำร่องแห่งแรก คาดเปิดตัวได้ต้นปีหน้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายในระยะเวลา 3 ปีนี้เติบโต 100%

แพทย์หญิงใจทิพย์ ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกิฟฟารีน แลบบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของกิฟฟารีนต่อจากนี้จะให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีส่งออกสินค้าไปจำหน่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยเป้าหมายภายในระยะเวลา 3 ปีนี้คาดหวังจำนวนประเทศที่จะส่งออกมีเพิ่มขึ้นเป็น 60 ประเทศ ซึ่งแผนในการรุกตลาดนั้นจะเน้นทำตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก อาทิ ในเอเชียจะให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางในการทำตลาด ซึ่งในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้ากิฟฟารีนมีแผนเปิดร้านจำหน่ายสินค้าของกิฟฟารีนในรูปแบบแฟลกชิพสโตร์เป็นแห่งแรกในห้างสรรพสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นร้านต้นแบบหรือนำร่อง เพื่อต้องการสร้างแบรนด์อิมเมจไปยังผู้บริโภคชาวต่างชาติให้รู้จักแบรนด์มากขึ้น ปัจจุบันที่ฮ่องกงจะมีสำนักงานและโชว์รูมแสดงสินค้า

บริษัทฯได้แต่งตั้งให้ฮ่องกงดูแลประเทศอื่นๆในเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นๆ เช่น จีน,ไต้หวัน, เกาหลี, เวียดนาม,ฟิลิปปินส์ ,สิงคโปร์ รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย ขณะที่กลุ่มเป้าหมายอื่นๆของกิฟฟารีนที่เป็นศูนย์กลาง อาทิ ประเทศแถบยุโรป เช่นเยอรมันและอังกฤษ ส่วนกลุ่มตะวันออกกลางจะมีดูไปเป็นศูนย์กลางในการทำตลาด

“รูปแบบการการทำตลาดในตลาดต่างประเทศของกิฟฟารีนจะเป็นแบบขายปลีกสินค้า โดยสินค้าที่ไปทำตลาดต่างประเทศจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ แบรนด์กิฟฟารีนในกลุ่มเครื่องสำอางเมคอัพ และแบรนด์แพทริน่า ซึ่งระดับราคาสินค้าจะแพงกว่าที่จำหน่ายในไทย 25%”

กลุ่มลูกค้าของกิฟฟารีนสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท อาทิ กลุ่มที่สนใจคอสเมติกส์ ได้แก่ โรงเรียนสอนแต่งหน้า,ช่างแต่งหน้า เป็นต้น , กลุ่มเนเชอรัลโปรดักส์ และสินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ก็จะเป็นสินค้าแบรนด์แพทริน่า จะมีลูกค้าและดีพาร์ทเมนต์สโตร์ และลูกค้าที่ให้ผลิตสินค้าให้หรือโออีเอ็ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าจากต่างประเท เช่น สวิตเซอร์แลนด์ให้ผลิตครีม และที่ฮ่องกงให้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เป็นต้น

สำหรับยอดรายได้ในส่วนของต่างประเทศปีนี้บริษัทฯคาดหวังการเติบโตที่ 35% จากปีที่แล้วที่ปิดยอดไป 30 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายเพิ่ม 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วนยอดรายได้แบ่งเป็นแพทริน่าและกลามูรัส แบรนด์ละ 40% และอีก20% เป็นในส่วนโออีเอ็มหรือรับจ้างผลิตให้ ขณะที่การเติบโตของยอดรายได้ต่างประเทศภายใน 3 ปีนี้คาดหวังอัตราการเติบโตที่ 100%

และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ บริษัทจึงเตรียมลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่บริเวณนวนคร บนพื้นที่ 20 ไร่ ภายใต้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบของตัวโรงงาน 400 ล้านบาทและ 100 ล้านบาทเป็นห้องแลปและอาร์ แอนด์ ดี โดยจะเริ่มลงเสาเข็มในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันกิฟฟารีนมี 3 โรงงาน ได้แก่ บริษัทสกายไลน์ แลบบอราทอรี่ จำกัด และบริษัท สกายไลน์ เฮลท์แคร์ จำกัด เป็นต้น ซึ่งโรงงานแห่งใหม่ดังกล่าว จะผลิตสินค้าเพื่อส่งออกและบางส่วนก็ผลิจเพื่อใช้ในประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น