"ยุทธ ตู้เย็น"ลั่นปัญหาช้างเถื่อนโกอินเตอร์ ใครจะฟ้องร้องหรือตรวจสอบก็เชิญ อ้างเป็นแลกเปลี่ยนตามสัญญา รัฐบาลไทย-ออสซี่ ไม่ใช่ซื้อขายส่วนใครที่สงสัยว่ามีการซื้อขาย 45 ล้านบาท ให้ไปฟ้องกันเอาเอง
นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเอ็นจีโอตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลรวบรัดการนำช้างออกนอกประเทศส่งไปยังออสเตรเสียทั้งๆที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นช้างป่าหรือช้างบ้านว่า ตนขอพูดสั้นๆให้เป็นที่เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนช้างระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ถือเป็นการยืมช้าง ซึ่งลูกช้างที่จะเกิดขึ้นมาก็ยังเป็นของไทย เป็นลักษณะเดียวกันกับการแลกเปลี่ยนหมีแพนด้า ระหว่างไทยกับจีน
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ตรวจดีเอ็นเอช้างนั้น ตนเคารพข้อเรียกร้องของเอ็นจีโอ แต่ขณะนี้เรื่องของการตรวจดีเอ็นเอนั้นยังมีการถกเถียงกันอยู่ในแวดวงวิชาการ ซึ่งตนได้ย้ำไปว่าต้องดำเนินการให้ได้ และได้มีการเก็บตัวอย่างเลือดช้างมาเก็บไว้ในไนโตรเจนเหลวเพื่อรอตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับด้านรูปพรรณสัณฐานช้างนั้นได้ตรวจสอบครบตามกฎหมายแล้ว
สำหรับเรื่องการขนย้ายช้างนั้น ออสเตรเลียได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือองค์การสวนสัตว์ ซึ่งตนได้ย้ำว่า อย่าทำผิดกฎหมาย คือการนำช้างป่ามาเป็นช้างบ้าน ใครทำแบบนี้จะติดคุก ซึ่งถ้าทำตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหาให้ดำเนินการไปได้ ไม่จำเป็นต้องมารายงานซ้ำอีก จากการสอบถามเรื่องการลักลอบส่งช้างไปออสเตรเลีย คงไม่เป็นความจริง เพราะเครื่องบินมาตามเวลานัดหมาย ถ้านำช้างมารอตามที่ต่างๆ เพื่อส่งขึ้นเครื่องการรับประกันเรื่องการติดเชื้อจากปศุสัตว์จะทำไม่ได้ เพราะจะต้องนำช้างไปเฝ้าสังเกตการณ์ประมาณ 60 หรือ 90 วัน ดังนั้น จากจุดที่ทำข้อตกลงกันไว้ และนำช้างไปส่งถึงเครื่องบินจะแวะที่ไหนไม่ได้ เมื่อเครื่องบินมาที่สนามบิน ก็ส่งขึ้นทันทีไม่มีการไปแวะที่ไหน ยืนยันว่าไม่มีการหนี หรือปล้นช้าง
นายยงยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้ช้างอีก 5,000 เชือกในประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายที่รักช้างต้องช่วยกันว่า จะทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ให้ช้างต้องเข้ามาเร่ร่อนและถูกทารุณกรรมในกรุงเทพฯ ส่วนกรรมวิธีอื่นๆที่เกรงว่าจะไม่ได้รับการคุ้มครองที่ดี ก็ต้องมาปรึกษาหารือกัน อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเรื่องการส่งช้างไปออสเตรเลีย ทุกคนมีสิทธิที่จะทำได้อยู่แล้วถ้าเกิดความไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ส่งช้างไปตามสัญญารัฐบาลจะต้องถูกปรับหรือมีความผิดใดหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การซื้อขาย แต่เป็นความสัมพันธ์ไมตรีเหมือนที่ประเทศจีนส่งหมีแพนด้าให้ไทย ต่อข้อถามว่าเหตุที่มีการรีบเร่งส่งช้างไปออสเตรเลีย เพราะมีข่าวรั่วว่ากลุ่มอนุรักษ์ช้าง จ.กาญจนบุรี จะฟ้องร้องต่อศาลปกครอง นายยงยุทธ กล่าวว่า จะพูดอย่างไรก็พูดได้ทั้งนั้น แต่ระบบการรับประกันขนส่งสัตว์ครบอายุภายในสิ้นเดือนก.ค.หรือภายในเดือนส.ค.
เมื่อถามว่าในการเคลื่อนย้ายช้าง ทำไมจึงการนำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ จนทำให้คนตื่นตระหนก นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ส่วนของการปรุงแต่งเพื่อพูดเรื่องที่เป็นกระพี้ อย่าไปพูดถึงดีกว่า เพราะไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บหรือล้มตาย เจ้าหน้าที่จะมาจำนวนเท่าไร แต่อย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องก็จบแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้รายงานนายกรัฐมนตรีและตนก็รู้เรื่องภายหลัง
เมื่อถามว่าทางกลุ่มคัดค้านมีข้อสงสัยว่า เป็นการซื้อขายช้างมูลค่า 45 ล้านบาท มากกว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนช้าง นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องการจัดซื้อต่างๆ ผลประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าใครจะฟ้องร้องหรือตรวจสอบก็ว่ากันไป ทั้งนี้ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่มีใครบ้าทำผิดกฎหมาย และหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยหรือ กระทรวงทรัพยากรฯ ก็จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
ด้านนางสาวโซไรดา ซาวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างจังหวัดลำปาง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกเรื่อง การส่งช้างไทยไปประเทศออสเตรเรีย ระบุว่า มูลนิธิเพื่อนช้าง และประชาชนจำนวนมาก มีความรู้สึกเศร้าสลดต่อการกระทำของผู้เกี่ยวข้องของภาครัฐในการพยายามส่งช้างไทยไปประเทศออสเตรเรียในครั้งนี้อย่างมาก ตลอดจนทางมูลนิธิเพื่อนช้างยังคงมีความสงสัยที่มาของช้าง 8 เชือก และ จึงขอให้มีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าเป็นช้างป่าหรือไม่ แต่เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปจนมีการส่งช้างไปประเทศออสเตรเลีย โดยไม่มีการตรวจพิสูจน์ สร้างความสงสัยต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ภาครัฐอย่างมาก ในนามของมูลนิธิเพื่อนช้างจึงขอแสดงความเสียใจต่อสาธารณชนที่ไม่สามารถปกป้องช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองให้อยู่คู่แผ่นดินไทยได้ต่อไป
นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเอ็นจีโอตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลรวบรัดการนำช้างออกนอกประเทศส่งไปยังออสเตรเสียทั้งๆที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นช้างป่าหรือช้างบ้านว่า ตนขอพูดสั้นๆให้เป็นที่เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนช้างระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ถือเป็นการยืมช้าง ซึ่งลูกช้างที่จะเกิดขึ้นมาก็ยังเป็นของไทย เป็นลักษณะเดียวกันกับการแลกเปลี่ยนหมีแพนด้า ระหว่างไทยกับจีน
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ตรวจดีเอ็นเอช้างนั้น ตนเคารพข้อเรียกร้องของเอ็นจีโอ แต่ขณะนี้เรื่องของการตรวจดีเอ็นเอนั้นยังมีการถกเถียงกันอยู่ในแวดวงวิชาการ ซึ่งตนได้ย้ำไปว่าต้องดำเนินการให้ได้ และได้มีการเก็บตัวอย่างเลือดช้างมาเก็บไว้ในไนโตรเจนเหลวเพื่อรอตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับด้านรูปพรรณสัณฐานช้างนั้นได้ตรวจสอบครบตามกฎหมายแล้ว
สำหรับเรื่องการขนย้ายช้างนั้น ออสเตรเลียได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือองค์การสวนสัตว์ ซึ่งตนได้ย้ำว่า อย่าทำผิดกฎหมาย คือการนำช้างป่ามาเป็นช้างบ้าน ใครทำแบบนี้จะติดคุก ซึ่งถ้าทำตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหาให้ดำเนินการไปได้ ไม่จำเป็นต้องมารายงานซ้ำอีก จากการสอบถามเรื่องการลักลอบส่งช้างไปออสเตรเลีย คงไม่เป็นความจริง เพราะเครื่องบินมาตามเวลานัดหมาย ถ้านำช้างมารอตามที่ต่างๆ เพื่อส่งขึ้นเครื่องการรับประกันเรื่องการติดเชื้อจากปศุสัตว์จะทำไม่ได้ เพราะจะต้องนำช้างไปเฝ้าสังเกตการณ์ประมาณ 60 หรือ 90 วัน ดังนั้น จากจุดที่ทำข้อตกลงกันไว้ และนำช้างไปส่งถึงเครื่องบินจะแวะที่ไหนไม่ได้ เมื่อเครื่องบินมาที่สนามบิน ก็ส่งขึ้นทันทีไม่มีการไปแวะที่ไหน ยืนยันว่าไม่มีการหนี หรือปล้นช้าง
นายยงยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้ช้างอีก 5,000 เชือกในประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายที่รักช้างต้องช่วยกันว่า จะทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ให้ช้างต้องเข้ามาเร่ร่อนและถูกทารุณกรรมในกรุงเทพฯ ส่วนกรรมวิธีอื่นๆที่เกรงว่าจะไม่ได้รับการคุ้มครองที่ดี ก็ต้องมาปรึกษาหารือกัน อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเรื่องการส่งช้างไปออสเตรเลีย ทุกคนมีสิทธิที่จะทำได้อยู่แล้วถ้าเกิดความไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ส่งช้างไปตามสัญญารัฐบาลจะต้องถูกปรับหรือมีความผิดใดหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การซื้อขาย แต่เป็นความสัมพันธ์ไมตรีเหมือนที่ประเทศจีนส่งหมีแพนด้าให้ไทย ต่อข้อถามว่าเหตุที่มีการรีบเร่งส่งช้างไปออสเตรเลีย เพราะมีข่าวรั่วว่ากลุ่มอนุรักษ์ช้าง จ.กาญจนบุรี จะฟ้องร้องต่อศาลปกครอง นายยงยุทธ กล่าวว่า จะพูดอย่างไรก็พูดได้ทั้งนั้น แต่ระบบการรับประกันขนส่งสัตว์ครบอายุภายในสิ้นเดือนก.ค.หรือภายในเดือนส.ค.
เมื่อถามว่าในการเคลื่อนย้ายช้าง ทำไมจึงการนำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ จนทำให้คนตื่นตระหนก นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ส่วนของการปรุงแต่งเพื่อพูดเรื่องที่เป็นกระพี้ อย่าไปพูดถึงดีกว่า เพราะไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บหรือล้มตาย เจ้าหน้าที่จะมาจำนวนเท่าไร แต่อย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องก็จบแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้รายงานนายกรัฐมนตรีและตนก็รู้เรื่องภายหลัง
เมื่อถามว่าทางกลุ่มคัดค้านมีข้อสงสัยว่า เป็นการซื้อขายช้างมูลค่า 45 ล้านบาท มากกว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนช้าง นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องการจัดซื้อต่างๆ ผลประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าใครจะฟ้องร้องหรือตรวจสอบก็ว่ากันไป ทั้งนี้ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่มีใครบ้าทำผิดกฎหมาย และหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยหรือ กระทรวงทรัพยากรฯ ก็จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
ด้านนางสาวโซไรดา ซาวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างจังหวัดลำปาง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกเรื่อง การส่งช้างไทยไปประเทศออสเตรเรีย ระบุว่า มูลนิธิเพื่อนช้าง และประชาชนจำนวนมาก มีความรู้สึกเศร้าสลดต่อการกระทำของผู้เกี่ยวข้องของภาครัฐในการพยายามส่งช้างไทยไปประเทศออสเตรเรียในครั้งนี้อย่างมาก ตลอดจนทางมูลนิธิเพื่อนช้างยังคงมีความสงสัยที่มาของช้าง 8 เชือก และ จึงขอให้มีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าเป็นช้างป่าหรือไม่ แต่เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปจนมีการส่งช้างไปประเทศออสเตรเลีย โดยไม่มีการตรวจพิสูจน์ สร้างความสงสัยต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ภาครัฐอย่างมาก ในนามของมูลนิธิเพื่อนช้างจึงขอแสดงความเสียใจต่อสาธารณชนที่ไม่สามารถปกป้องช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองให้อยู่คู่แผ่นดินไทยได้ต่อไป