ศูนย์ข่าวขอนแก่น-"โกลบอลเฮ้าส์" แวร์เฮ้าส์ค้าวัสดุก่อสร้าง โอ่ยอดขายวัสดุก่อสร้างปี 48 ประสบผลสำเร็จเกินคาด เผยยอดขาย 3 สาขาภาคอีสานขยายตัวโดยรวมกว่า 50% โดยเฉพาะสาขาอุดรฯ เติบโตถึง 282% ขณะที่สถานการณ์ปี 49 รับปัจจัยลบ ดอกเบี้ยขึ้น น้ำมันแพง การแข่งขันทางธุรกิจ อาจกระทบผลประกอบการ แต่ยังมั่นใจยอดขายโดยรวมทั้งปี 49 จะโตขึ้นถึง 25% ด้านสาขาเชียงใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดขายในลักษณะ Pre Sale ก่อนเปิดตัวเป็นทางการต่อไป
นายวิทูร สุริยวนากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ (ขอนแก่น) จำกัด แวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้างในชื่อ โกลบอลเฮ้าส์ เปิดเผยถึงการดำเนินงานว่า ในช่วงปี 2548 โกลบอลเฮ้าส์ประสบผลสำเร็จเกินคาด ทั้งนี้ผลประกอบการทั้ง 3 สาขาหลัก ที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และร้อยเอ็ด มียอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างเติบโตขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปี 2547
โดยเฉพาะที่สาขาอุดรธานี มีอัตราการขยายตัวทางด้านยอดขายที่เติบโตสูงมากถึง 282% จากผลประกอบการปีที่ผ่านมา เนื่องจาก โกลบอลเฮ้าส์ เพิ่งเปิดการดำเนินงานที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อปี 2547 มีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 7 เดือน จึงทำให้ตัวเลขยอดขายเติบโตขึ้นสูงมาก ส่วนสาขาร้อยเอ็ดเติบโตขึ้น13% และสาขาขอนแก่นเติบโตขึ้น 25%
ทั้งนี้ การดำเนินงานค้าวัสดุก่อสร้างของโกลบอลเฮ้าส์ แตกต่างจากธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างรายอื่น ด้วยการปรับธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างในลักษณะโมเดิร์นเทรด เป็นแวร์เฮาส์ ค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ จัดวางสินค้าจำนวนมากให้เลือก ทั้งแบบ ยี่ห้อ พร้อมมีพนักงานให้บริการดูแลแนะนำสินค้า ลูกค้าสามารถเดินซื้อสินค้าเหมือนกับสินค้าอุปโภคบริโภค
การนำรูปแบบโมเดิร์นเทรด มาปรับใช้กับธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ โกลบอลเฮ้าส์ทั้ง 3 สาขาประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากรูปแบบการค้าวัสดุก่อสร้างดังกล่าว ตรงกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง ตามสมัยนิยม โดยพบว่า กลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้าน เริ่มมีบทบาทสำคัญในการเข้ามาเลือกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2549 ทุกธุรกิจต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งปัญหาราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ของสถาบันการเงินหลายระลอก และการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ผลการดำเนินงานของโกลบอลเฮ้าส์ ในช่วงไตรมาสแรกปี 2549 ทั้ง 3 สาขา ยังมีผลการดำเนินงานที่ขยายตัว โดยอัตราการขยายตัวด้านยอดขายประมาณ 19-20% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
"ราคาน้ำมันแพงและดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น ในแง่ของผลกระทบที่เกิดขึ้น กลุ่มลูกค้าจากโครงการบ้านจัดสรร น่าจะต้องชะลอการเปิดตัวโครงการพัฒนาบ้านใหม่ออกไป ขณะที่กลุ่มลูกค้ารายย่อย หรือกลุ่มผู้สร้างบ้าน น้ำมันแพงและดอกเบี้ยปรับขึ้น อาจกระทบในแง่จิตวิทยา ขาดความมั่นใจที่จะก่อสร้างบ้านในระยะนี้"นายวิทูรกล่าวและว่า
ส่วนสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการสินเชื่อบ้าน จะใช้มาตรการคุมเข้มสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้าโครงการบ้านจัดสรร แต่จะเลือกพิจารณาสินเชื่อให้กลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่มีฐานการเงินที่มั่นคง ซึ่งที่อยู่อาศัย ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินชีวิต มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของประชากรในแต่ละพื้นที่ ทำให้ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างยังพอขยายตัวต่อไปได้
ปัจจัยลบที่เกิดขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาวได้ โดยต้องรอดูผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 เป็นต้นไป จึงจะสามารถประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งการดำเนินงานในปี 2549 บริษัทยังเชื่อมั่นว่า โกลบอลเฮ้าส์ จะสามารถสร้างผลการดำเนินงานขยายตัวต่อไปได้ แต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลง คาดว่ายอดขายวัสดุก่อสร้างของโกลบอลเฮ้าส์ทั้ง 3 สาขาในปี 2549 น่าจะขยายตัวได้ประมาณ 25% จากปี 2548
นายวิทูรกล่าวถึง ความคืบหน้าของการรุกเปิดสาขาที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้การก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์สาขาเชียงใหม่ เสร็จแล้ว บนพื้นที่ 37 ไร่ ติดถนนเลี่ยงเมืองเชียงใหม่ ถือเป็นสาขาใหญ่ที่สุดของโกลบอลเฮ้าส์ โดยใช้เงินลงทุนก่อสร้างกว่า 400 ล้านบาท มีพื้นที่ขายมากกว่า 30,000 ตารางเมตร รองรับความต้องการในตลาดค้าวัสดุก่อสร้าง ที่ยังไม่มีแวร์เฮาส์วัสดุก่อสร้างเปิดดำเนินงานอยู่ จับกลุ่มลูกค้าทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงในรัศมี 100 กิโลเมตร
สำหรับกำหนดเปิดสาขาเชียงใหม่อย่างเป็นทางการนั้น ยังไม่ได้กำหนดออกมา แต่ได้เริ่มเปิดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างในลักษณะ Pre Sale ไปตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป คาดว่าจะได้รับการตอบรับด้านยอดขายที่ดี ในลักษณะเดียวกับโกลบอลเฮ้าส์ทั้ง 3 สาขาในภาคอีสานอย่างแน่นอน