ในประวัติศาสตร์การเมืองของโลก เราจะพบว่ามีหลายยุคหลายสมัยที่ในวงการเมืองของแต่ละประเทศจะเกิดมีสัตว์ร้ายหลายชนิดเกิดมารบกวนให้เกิดความยุ่งยาก หรือความขัดแย้งในสังคมอยู่เสมอๆ
ในประเทศไทยและในสังคมไทยเราก็เป็นแบบเดียวกัน
ในยุคสมัยต่างๆ เราประสบความยุ่งยากและความสูญเสียในบ้านเมืองเพราะนักการเมืองประเภทชิงสัตว์ร้ายลงมาเกิดไม่ได้หยุด ตั้งแต่เรื่องเล็กเรื่องน้อยชนิดขี้ผงที่ทำให้บ้านเมืองสูญเสียทั้งชีวิต คน ทรัพย์สิน และความผุกร่อนวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามครั้งแล้วครั้งเล่า
ตัวอย่างของความยุ่งยากอย่างมากของสังคมไทยที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด และยังคงเกิดอยู่และน่ากลัวว่ายังจะต้องเกิดอีกต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องขี้ผง เพราะเรามีนักการเมืองประเภทสัตว์ร้ายเข้ามาสร้างความยุ่งยากให้แก่ประเทศชาติมาตลอด จนกระทั่งพฤติกรรมชั่วร้ายที่เกิดติดต่อกันมาอย่างเป็นระบบจนมาถึงปัญหาความด้านความทน และความไร้ยางอายของพวกสุนัขรับใช้ของรัฐบาลในนามของ กกต.ในข้อหาเกี่ยวกับการดำเนินการการเลือกตั้งผิดกฎหมายที่ศาลต้องจัดการลงโทษให้เข้าไปชดใช้กรรมในคุกถึง 4 ปีโดยไม่ให้ประกัน
ปรากฏว่าการตัดสินของศาลในความผิดฐานหรือความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ กกต.เหล่านี้ ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจใครต่อใครทั้งเจ้าขุนมูลนายของ กกต.ถึงกับพากันประท้วงด่าทอศาล และสาปแช่งศาลกันด้วยการสำแดงกิริยาอาการสถุลที่ผ่านการอบรมมาแล้วอย่างเข้มงวดจากพ่อแม่ปู่ย่าตายายทุกรุ่น ซึ่งก็ดูเหมือนจะเหมาะสมอยู่มากที่ทำให้ศาลต้องเอาคนเหล่านี้เข้าคุกตามกันไป
แต่นั่นไม่สำคัญอะไร เพราะคนทุกคนมีสิทธิประท้วงได้ ด่าพ่อล่อแม่ใครก็ได้ ดื้อด้านหนักเท่าไรทุกคนต้องถือว่าเป็นสิทธิเพราะเป็นคนไทย และเป็นสารพัดสัตว์ที่ทำหน้าที่รับใช้นักการเมืองของชาติมาเป็นเวลานานด้วยกัน
แต่ความผิดหรือต้องยอมรับว่าผิดเป็นการกระทำไม่สมควรและไม่ถูกต้องมาทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกตั้ง การยุบสภา และการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ มาจนกระทั่งถึงวันที่ต้องเอา กกต.เข้าคุกคราวนี้ประชนคนไทยทั่วไปมองเห็นและยอมรับกันว่าเป็นการกระทำที่ต้องเข้าคุกประการเดียว
เรื่องมันก็มาจบกันตรงนี้
แต่ปรากฏว่ามันจบลงไม่ได้
พาดหัวข่าวเกี่ยวกับการไม่จบของมัน เป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่บอกกล่าวแก่ประชาชนทั่วประเทศว่า “3 กกต.จบ-เจอคุก 4 ปี ศาลฎีกาสรรหาใหม่ 9 สิงหา” (ไทยรัฐ 27 กรกฎาคม 2549)
เท่านั้นยังไม่พอ พาดหัวของหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” ยังพาดหัวข่าวต่อไปว่า
“โดนถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ไม่รอลงอาญา ไม่ให้ประกัน วาสนาจนใจก้มหน้าเข้าคุก รับสมัครทันทีหลังตัดสิน วุฒิฯ ขานรับเสร็จใน 1 เดือน ทักษิณก็เชื่อว่าไม่มีปัญหา”
นักกินบ้านกินเมืองผู้มีอำนาจวาสนาเหล่านี้ ความจริงทำงานรับผิดชอบบ้านเมืองมานานแสนนานบนกองเงินกองทองที่เป็นภาษีของประชาชนไม่รู้กี่พันกี่หมื่นล้าน โดยไม่เคยมีใครพูดถึงความผิดพลาด ความบกพร่อง และการปล้นกินขโมยกินทรัพย์สินของประชาชนกันมามากน้อยอย่างไร และไม่มีใครสนใจว่าใครเป็นคนกินหรืออาจจะร่วมกันกินก็เป็นเรื่องที่ทราบไม่ได้ แต่มีรายละเอียดอยู่ที่ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็น ส.ว.ผู้กุมความลับในกรณีทุจริตคิดมิชอบของผู้คนที่ปฏิบัติหน้าที่ กกต.และในวงการเมืองไทย
ความผิดของ กกต.ที่เกิดขึ้นหรือที่ทำกันมาเป็นอาชีพมานานนั้น ได้ถูกศาลพิพากษาลงโทษเจ้าหน้าที่ กกต. 3 รายนี้ แต่แทนที่มันจะจบลงอย่างเงียบๆ กลับเป็นข่าวอื้อฉาวต่อต้านการตัดสินของศาลแย้งว่า กกต.ไม่มีความผิดอะไร แต่ความผิดมันเกิดจากการหาเรื่องและใส่ร้ายป้ายสีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคการเมืองสกปรกพรรคหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้กันว่าบรรดา กกต.ทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 2,000 คนนั้นถูกพวกเดียรัจฉานทางการเมืองพรรคหนึ่งซื้อเอาไปไว้เรียบร้อยแล้ว การที่จะมีการตัดสินว่าการกระทำของ กกต.ไม่ว่าที่ไหน จังหวัดใดจะทำผิดหรือถูกมันจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินของพรรคเดียรัจฉานพวกนั้นเพียงประการเดียวเท่านั้น
ทุกวันนี้การเมืองในยุคนี้ คนที่ไม่ถึงกับบัดซบไม่เอาไหนจะต้องรู้ว่าการเมืองไทยนั้น มันจะต้องเล่นกันด้วยเงินทั้งสิ้น
ธุรกิจทางการเมืองทุกประการจะเกิดขึ้นมาได้ ก็จากการแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินเท่านั้น
แม้แต่การคัดค้านและยกมือสนับสนุน
เพราะฉะนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษตามความผิด เรื่องมันก็น่าจะจบลงไปได้หรือหมดเรื่องหมดราวกันไป
แต่นี่มันไม่ยอมจบ
ผู้ที่ไม่ยอมให้มันจบคือประชาชน และนักการเมืองสวะที่ถูกซื้อเอาไปเป็นเครื่องมือในการที่จะยึดครองประเทศไทยของเอกชนและเจ้าของ กกต.นั่นเอง
ความผิดต่างๆ หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น เขาจะไม่ยอมรับหรือไม่ยอมเอ่ยว่าเป็นความผิดของตนเอง แต่จะต้องเป็นความผิดของคนอื่น เฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนจำนวนแสนที่มาร่วมชุมนุมกันในแต่ละครั้งเพื่อร่วมกันเปิดโปงความชั่วของนักการเมืองเหล่านี้หลายครั้งหลายหนมาแล้ว และประชาชนเหล่านั้นรู้จักดีว่านักการเมืองเหล่านี้มีขี้มีไส้กันกี่ขดก็ตาม
และเกือบทุกคนที่เข้ามารวมตัวกันเป็นพันธมิตรฯ นั้น นับจำนวนเป็นหมื่นเป็นพันคน มีความรู้และมีการศึกษาที่เหนือกว่านักการเมืองแต่ละพรรคที่กำลังมีบทบาทอยู่ในบ้านเมืองทุกวันนี้
การวิพากษ์วิจารณ์หรือการออกความเห็นของพันธมิตรฯ เหล่านี้ เป็นความปรารถนาดีที่จะช่วยขัดเกลาความคิด และความพูดโง่ๆ ของนักการเมืองหน้าโง่ของเราเหล่านี้มากนัก
“อ้ายพวกพันธมิตรฯ ไม่รู้ว่าจะโกหกอะไร” การแก้ตัวหรือการโยนบาปในการกระทำชั่ว และสุนัขรับใช้ทางการเมืองทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสุนัขพวกนี้แสดงอาการเกรี้ยวกราดออกมาด้วยการใส่ไฟเห็นการโกหกของพันธมิตรฯ ทั้งหมดทั้งปวงดังนี้ “เวรกรรมมีจริง ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่ว อย่างอ้ายพวกพันธมิตรฯ ไม่รักษาประชาธิปไตย มันโกหกอยู่ได้ ไม่รู้ว่ามันเอาอะไรมาโกหกกันหนักหนา ส่วนที่ไม่น่าเชื่อก็พยายามทำให้เชื่อ อยู่ดีๆ อยากจะโม้เรื่องอะไรก็โม้ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทำได้อย่างนี้แต่ขอให้ทุกคนได้กระทำดีที่พรรคได้กระทำมา พรรคได้ทำงานที่เป็นบุญเพื่อประเทศมาเยอะ หากทำในสิ่งที่ไม่ดีก็อาจจะต้องได้รับกรรมก็ได้ ผมเองก็เห็นๆ อยู่ว่าโดนหนัก ตั้งแต่มีนายกฯ มาก็มีนายกฯ คนนี้คนเดียวที่โดนจับผิดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อไปเวลาพวกเราลงพื้นที่หาเสียงก็ขอให้ระมัดระวังให้มากขึ้น ตอนนี้โพลของเรายังชี้ว่าคะแนนนิยมของพรรคยังดีอยู่ แต่คนเบื่อการตอบโต้ทางการเมืองมาก จึงอยากให้พวกเราหยุดความคิดเห็นทางการเมือง ถ้าจะพูดกันก็ให้เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจแทน” (ไทยรัฐ- ฉบับเดียวกัน)
เมื่อพูดกันออกมาเช่นนี้ปัญหาก็เกิดขึ้น คือเรื่องมันจบลงไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่งในความเห็นของพันธมิตรฯ ทั้งหมด ทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพราะประเทศไทยมีปัญหาหรือระบอบประชาธิปไตยไทยมีปัญหาตรงที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งหรือหัวหน้าพรรคการเมืองท่านหนึ่งคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทางฝ่ายพันธมิตรฯ ที่จับกลุ่มกันขึ้นมาชุมนุมกันทั่วประเทศ และนอกประเทศได้ถือว่าเป็นตัวปัญหาของประเทศไทย ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังอยู่ในวงการเมือง ตราบนั้นปัญหาก็จะไม่มีวันจบวันสิ้น
การแสดงความต้องการ การร่วมชุมนุมกันไม่ได้เป็นการโกหกพกลมหรือหลอกลวงผู้ใด แต่เป็นการบอกกล่าวกันออกมาอย่างตรงไปตรงมาถึงความต้องการของพวกเขาคือต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคให้ออกไปจากวงการเมืองและการเป็นนายกรัฐมนตรีเสียโดยดีเท่านั้นเรื่องก็จะจบสิ้นลง และความยุ่งยากในประเทศไทยก็จะสิ้นสุดลง
เพราะตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังอยู่ในวงการเมืองและมีพรรคการเมืองสำหรับหลอกล่อให้นักการเมืองหิวโหยที่ยังหาที่เกิดมิได้เข้ามาพึ่งพาอาศัยจะต้องเกิดความยุ่งยากอยู่ดี เพราะการเล่นการเมืองเมืองไทยนั้น เราเล่นด้วยการซื้อเสียงขายเสียงหรือการซื้อคนขายคน และการใช้เงินทุกรูปแบบ อย่างที่พรรคไทยรักไทยทำมาแล้ว
พันธมิตรฯ ที่ยอมเหนื่อยยากอยู่ทุกมุมเมืองนี้ บางทีคุณอาจจะโง่กว่าความเป็นจริงที่คุณไปคิดว่าเขาพูดทุกอย่างไม่มีเหตุผลและโกหก
ผมพยายามติดตามบทบาทของประชาชนพวกนี้มาทั่วประเทศ ผมขอรับรองแก่ใครก็ได้ที่มีแต่ความโง่และพูดเข้าข้างตัวเองว่าพวกพันธมิตรฯ นั้นไม่เพียงแต่มาร่วมชุมนุมกันอย่างสนุกสนานเท่านั้น แต่ส่วนมากทุกคนจะเรี่ยไรเงินสนับสนุนการชุมนุมกันโดยใช้น้ำลายก็พูดออกไป เงินที่เรี่ยไรกันมาตั้งแต่นิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และทั่วโลกเวลานี้มันตกเข้าไปหลายล้านแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะเจียดเงินทุกบาททุกสตางค์หรือมากกว่านั้น ขอแต่เพียงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรออกไปเท่านั้นเป็นพอ
และคนเหล่านี้จะมีอายุตั้งแต่ 2 ขวบจนถึง 85 ปีเขาจะมารวมตัวกันได้ค่อนวันค่อนคืน
อย่าพูด อย่าแก้ตัวอะไร อยู่เฉยๆ ก็ดีเองหรือฉิบหายเอง เชื่อเถอะครับ
สัตว์ร้ายอื่นๆ ที่คุณมีอยู่มาก ก็ตัดหางปล่อยไปเสียบ้างก็ดี.
ในประเทศไทยและในสังคมไทยเราก็เป็นแบบเดียวกัน
ในยุคสมัยต่างๆ เราประสบความยุ่งยากและความสูญเสียในบ้านเมืองเพราะนักการเมืองประเภทชิงสัตว์ร้ายลงมาเกิดไม่ได้หยุด ตั้งแต่เรื่องเล็กเรื่องน้อยชนิดขี้ผงที่ทำให้บ้านเมืองสูญเสียทั้งชีวิต คน ทรัพย์สิน และความผุกร่อนวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามครั้งแล้วครั้งเล่า
ตัวอย่างของความยุ่งยากอย่างมากของสังคมไทยที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด และยังคงเกิดอยู่และน่ากลัวว่ายังจะต้องเกิดอีกต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องขี้ผง เพราะเรามีนักการเมืองประเภทสัตว์ร้ายเข้ามาสร้างความยุ่งยากให้แก่ประเทศชาติมาตลอด จนกระทั่งพฤติกรรมชั่วร้ายที่เกิดติดต่อกันมาอย่างเป็นระบบจนมาถึงปัญหาความด้านความทน และความไร้ยางอายของพวกสุนัขรับใช้ของรัฐบาลในนามของ กกต.ในข้อหาเกี่ยวกับการดำเนินการการเลือกตั้งผิดกฎหมายที่ศาลต้องจัดการลงโทษให้เข้าไปชดใช้กรรมในคุกถึง 4 ปีโดยไม่ให้ประกัน
ปรากฏว่าการตัดสินของศาลในความผิดฐานหรือความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ กกต.เหล่านี้ ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจใครต่อใครทั้งเจ้าขุนมูลนายของ กกต.ถึงกับพากันประท้วงด่าทอศาล และสาปแช่งศาลกันด้วยการสำแดงกิริยาอาการสถุลที่ผ่านการอบรมมาแล้วอย่างเข้มงวดจากพ่อแม่ปู่ย่าตายายทุกรุ่น ซึ่งก็ดูเหมือนจะเหมาะสมอยู่มากที่ทำให้ศาลต้องเอาคนเหล่านี้เข้าคุกตามกันไป
แต่นั่นไม่สำคัญอะไร เพราะคนทุกคนมีสิทธิประท้วงได้ ด่าพ่อล่อแม่ใครก็ได้ ดื้อด้านหนักเท่าไรทุกคนต้องถือว่าเป็นสิทธิเพราะเป็นคนไทย และเป็นสารพัดสัตว์ที่ทำหน้าที่รับใช้นักการเมืองของชาติมาเป็นเวลานานด้วยกัน
แต่ความผิดหรือต้องยอมรับว่าผิดเป็นการกระทำไม่สมควรและไม่ถูกต้องมาทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกตั้ง การยุบสภา และการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ มาจนกระทั่งถึงวันที่ต้องเอา กกต.เข้าคุกคราวนี้ประชนคนไทยทั่วไปมองเห็นและยอมรับกันว่าเป็นการกระทำที่ต้องเข้าคุกประการเดียว
เรื่องมันก็มาจบกันตรงนี้
แต่ปรากฏว่ามันจบลงไม่ได้
พาดหัวข่าวเกี่ยวกับการไม่จบของมัน เป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่บอกกล่าวแก่ประชาชนทั่วประเทศว่า “3 กกต.จบ-เจอคุก 4 ปี ศาลฎีกาสรรหาใหม่ 9 สิงหา” (ไทยรัฐ 27 กรกฎาคม 2549)
เท่านั้นยังไม่พอ พาดหัวของหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” ยังพาดหัวข่าวต่อไปว่า
“โดนถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ไม่รอลงอาญา ไม่ให้ประกัน วาสนาจนใจก้มหน้าเข้าคุก รับสมัครทันทีหลังตัดสิน วุฒิฯ ขานรับเสร็จใน 1 เดือน ทักษิณก็เชื่อว่าไม่มีปัญหา”
นักกินบ้านกินเมืองผู้มีอำนาจวาสนาเหล่านี้ ความจริงทำงานรับผิดชอบบ้านเมืองมานานแสนนานบนกองเงินกองทองที่เป็นภาษีของประชาชนไม่รู้กี่พันกี่หมื่นล้าน โดยไม่เคยมีใครพูดถึงความผิดพลาด ความบกพร่อง และการปล้นกินขโมยกินทรัพย์สินของประชาชนกันมามากน้อยอย่างไร และไม่มีใครสนใจว่าใครเป็นคนกินหรืออาจจะร่วมกันกินก็เป็นเรื่องที่ทราบไม่ได้ แต่มีรายละเอียดอยู่ที่ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็น ส.ว.ผู้กุมความลับในกรณีทุจริตคิดมิชอบของผู้คนที่ปฏิบัติหน้าที่ กกต.และในวงการเมืองไทย
ความผิดของ กกต.ที่เกิดขึ้นหรือที่ทำกันมาเป็นอาชีพมานานนั้น ได้ถูกศาลพิพากษาลงโทษเจ้าหน้าที่ กกต. 3 รายนี้ แต่แทนที่มันจะจบลงอย่างเงียบๆ กลับเป็นข่าวอื้อฉาวต่อต้านการตัดสินของศาลแย้งว่า กกต.ไม่มีความผิดอะไร แต่ความผิดมันเกิดจากการหาเรื่องและใส่ร้ายป้ายสีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคการเมืองสกปรกพรรคหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้กันว่าบรรดา กกต.ทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 2,000 คนนั้นถูกพวกเดียรัจฉานทางการเมืองพรรคหนึ่งซื้อเอาไปไว้เรียบร้อยแล้ว การที่จะมีการตัดสินว่าการกระทำของ กกต.ไม่ว่าที่ไหน จังหวัดใดจะทำผิดหรือถูกมันจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินของพรรคเดียรัจฉานพวกนั้นเพียงประการเดียวเท่านั้น
ทุกวันนี้การเมืองในยุคนี้ คนที่ไม่ถึงกับบัดซบไม่เอาไหนจะต้องรู้ว่าการเมืองไทยนั้น มันจะต้องเล่นกันด้วยเงินทั้งสิ้น
ธุรกิจทางการเมืองทุกประการจะเกิดขึ้นมาได้ ก็จากการแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินเท่านั้น
แม้แต่การคัดค้านและยกมือสนับสนุน
เพราะฉะนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษตามความผิด เรื่องมันก็น่าจะจบลงไปได้หรือหมดเรื่องหมดราวกันไป
แต่นี่มันไม่ยอมจบ
ผู้ที่ไม่ยอมให้มันจบคือประชาชน และนักการเมืองสวะที่ถูกซื้อเอาไปเป็นเครื่องมือในการที่จะยึดครองประเทศไทยของเอกชนและเจ้าของ กกต.นั่นเอง
ความผิดต่างๆ หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น เขาจะไม่ยอมรับหรือไม่ยอมเอ่ยว่าเป็นความผิดของตนเอง แต่จะต้องเป็นความผิดของคนอื่น เฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนจำนวนแสนที่มาร่วมชุมนุมกันในแต่ละครั้งเพื่อร่วมกันเปิดโปงความชั่วของนักการเมืองเหล่านี้หลายครั้งหลายหนมาแล้ว และประชาชนเหล่านั้นรู้จักดีว่านักการเมืองเหล่านี้มีขี้มีไส้กันกี่ขดก็ตาม
และเกือบทุกคนที่เข้ามารวมตัวกันเป็นพันธมิตรฯ นั้น นับจำนวนเป็นหมื่นเป็นพันคน มีความรู้และมีการศึกษาที่เหนือกว่านักการเมืองแต่ละพรรคที่กำลังมีบทบาทอยู่ในบ้านเมืองทุกวันนี้
การวิพากษ์วิจารณ์หรือการออกความเห็นของพันธมิตรฯ เหล่านี้ เป็นความปรารถนาดีที่จะช่วยขัดเกลาความคิด และความพูดโง่ๆ ของนักการเมืองหน้าโง่ของเราเหล่านี้มากนัก
“อ้ายพวกพันธมิตรฯ ไม่รู้ว่าจะโกหกอะไร” การแก้ตัวหรือการโยนบาปในการกระทำชั่ว และสุนัขรับใช้ทางการเมืองทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสุนัขพวกนี้แสดงอาการเกรี้ยวกราดออกมาด้วยการใส่ไฟเห็นการโกหกของพันธมิตรฯ ทั้งหมดทั้งปวงดังนี้ “เวรกรรมมีจริง ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่ว อย่างอ้ายพวกพันธมิตรฯ ไม่รักษาประชาธิปไตย มันโกหกอยู่ได้ ไม่รู้ว่ามันเอาอะไรมาโกหกกันหนักหนา ส่วนที่ไม่น่าเชื่อก็พยายามทำให้เชื่อ อยู่ดีๆ อยากจะโม้เรื่องอะไรก็โม้ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทำได้อย่างนี้แต่ขอให้ทุกคนได้กระทำดีที่พรรคได้กระทำมา พรรคได้ทำงานที่เป็นบุญเพื่อประเทศมาเยอะ หากทำในสิ่งที่ไม่ดีก็อาจจะต้องได้รับกรรมก็ได้ ผมเองก็เห็นๆ อยู่ว่าโดนหนัก ตั้งแต่มีนายกฯ มาก็มีนายกฯ คนนี้คนเดียวที่โดนจับผิดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อไปเวลาพวกเราลงพื้นที่หาเสียงก็ขอให้ระมัดระวังให้มากขึ้น ตอนนี้โพลของเรายังชี้ว่าคะแนนนิยมของพรรคยังดีอยู่ แต่คนเบื่อการตอบโต้ทางการเมืองมาก จึงอยากให้พวกเราหยุดความคิดเห็นทางการเมือง ถ้าจะพูดกันก็ให้เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจแทน” (ไทยรัฐ- ฉบับเดียวกัน)
เมื่อพูดกันออกมาเช่นนี้ปัญหาก็เกิดขึ้น คือเรื่องมันจบลงไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่งในความเห็นของพันธมิตรฯ ทั้งหมด ทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพราะประเทศไทยมีปัญหาหรือระบอบประชาธิปไตยไทยมีปัญหาตรงที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งหรือหัวหน้าพรรคการเมืองท่านหนึ่งคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทางฝ่ายพันธมิตรฯ ที่จับกลุ่มกันขึ้นมาชุมนุมกันทั่วประเทศ และนอกประเทศได้ถือว่าเป็นตัวปัญหาของประเทศไทย ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังอยู่ในวงการเมือง ตราบนั้นปัญหาก็จะไม่มีวันจบวันสิ้น
การแสดงความต้องการ การร่วมชุมนุมกันไม่ได้เป็นการโกหกพกลมหรือหลอกลวงผู้ใด แต่เป็นการบอกกล่าวกันออกมาอย่างตรงไปตรงมาถึงความต้องการของพวกเขาคือต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคให้ออกไปจากวงการเมืองและการเป็นนายกรัฐมนตรีเสียโดยดีเท่านั้นเรื่องก็จะจบสิ้นลง และความยุ่งยากในประเทศไทยก็จะสิ้นสุดลง
เพราะตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังอยู่ในวงการเมืองและมีพรรคการเมืองสำหรับหลอกล่อให้นักการเมืองหิวโหยที่ยังหาที่เกิดมิได้เข้ามาพึ่งพาอาศัยจะต้องเกิดความยุ่งยากอยู่ดี เพราะการเล่นการเมืองเมืองไทยนั้น เราเล่นด้วยการซื้อเสียงขายเสียงหรือการซื้อคนขายคน และการใช้เงินทุกรูปแบบ อย่างที่พรรคไทยรักไทยทำมาแล้ว
พันธมิตรฯ ที่ยอมเหนื่อยยากอยู่ทุกมุมเมืองนี้ บางทีคุณอาจจะโง่กว่าความเป็นจริงที่คุณไปคิดว่าเขาพูดทุกอย่างไม่มีเหตุผลและโกหก
ผมพยายามติดตามบทบาทของประชาชนพวกนี้มาทั่วประเทศ ผมขอรับรองแก่ใครก็ได้ที่มีแต่ความโง่และพูดเข้าข้างตัวเองว่าพวกพันธมิตรฯ นั้นไม่เพียงแต่มาร่วมชุมนุมกันอย่างสนุกสนานเท่านั้น แต่ส่วนมากทุกคนจะเรี่ยไรเงินสนับสนุนการชุมนุมกันโดยใช้น้ำลายก็พูดออกไป เงินที่เรี่ยไรกันมาตั้งแต่นิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และทั่วโลกเวลานี้มันตกเข้าไปหลายล้านแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะเจียดเงินทุกบาททุกสตางค์หรือมากกว่านั้น ขอแต่เพียงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรออกไปเท่านั้นเป็นพอ
และคนเหล่านี้จะมีอายุตั้งแต่ 2 ขวบจนถึง 85 ปีเขาจะมารวมตัวกันได้ค่อนวันค่อนคืน
อย่าพูด อย่าแก้ตัวอะไร อยู่เฉยๆ ก็ดีเองหรือฉิบหายเอง เชื่อเถอะครับ
สัตว์ร้ายอื่นๆ ที่คุณมีอยู่มาก ก็ตัดหางปล่อยไปเสียบ้างก็ดี.