xs
xsm
sm
md
lg

"ยุทธตู้เย็น"ตั้ง FBIป่าไม้ เกาะติดความเคลื่อนไหว"ทภ.3"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สั่งคนป่าไม้ใต้สังกัด "ยุทธ ตู้เย็น" ทุกสำนักฯในภาคเหนือเกาะติดความเคลื่อนไหว ทภ.3 ทุกเม็ด หลัง "พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร"ประกาศจุดยืนกองทัพ-สู้คนคิดร้ายพระเจ้าแผ่นดิน ขณะที่หน่วยข่าวความมั่นคงเริ่มจับตากำลังพลป่าไม้ที่เริ่มติดอาวุธเสี่ยงกลายเป็นกองกำลังส่วนตัวนักการเมือง ภาพ"จอมพล อัจฉริยะ"ในเทศบาลเพ ยังไม่ใครกล้าแตะ พันธมิตรฯระยองจวกไม่เหมาะสม ชี้คำว่า "จอมพล" เปรียบเทียบเหมือนผู้ปกครองแผ่นดิน หรือ"พระราชา" ด้าน"นายกฯเพ" อ้างไม่ได้สังเกตข้อความทั้งที่ติดมาแล้วร่วม 3 ปี พร้อมลบข้อความออก แต่ไม่ปลดรูป

รายงานจากหน่วยงานด้านการข่าวหลายจังหวัดในภาคเหนือ ระบุตรงกันว่า ในที่ประชุมหน่วยงานด้านการข่าวหลายจังหวัดของภาคเหนือในสัปดาห์ที่แล้ว มีการรายงานเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ "หน่วยข่าว" ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการในตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ว่า หน่วยข่าวของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ต่าง ๆ ในภาคเหนือทั้ง 6 สำนัก คือ สำนักฯ 11 จ.พิษณุโลก, สำนักฯ 12 จ.(นครสวรรค์, สำนักฯ 13 จ.แพร่, สำนักฯ 14 จ.ตาก, สำนักฯ 15 จ.เชียงราย และสำนักฯ 16 จ.เชียงใหม่ ได้รับคำสั่งให้ติดตามความเคลื่อนไหวของหน่วยกำลังพลต่าง ๆ ของกองทัพภาคที่ 3

การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของทหารในสังกัดกองทัพภาค 3 ของ "หน่วยข่าว" กรมอุทยานฯดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.49 ที่ผ่านมา หลังจากที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 ออกมาประกาศจุดยืนเป็น "ทหารของชาติและพระเจ้าอยู่หัว"รวมถึงไฟเขียวให้จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ นำรถติดป้ายแสดงข้อความเป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว แห่ไปทั่วเมือง ตลอดจนการออกเดินสายพบปะกลุ่มมวลชน-สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อย้ำจุดยืนของกองทัพภาคที่ 3

โดยที่ประชุมของหน่วยงานด้านการข่าวจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ เมื่อ 20 ก.ค.49 ที่ผ่านมา มีการรายงานต่อที่ประชุมว่า หน่วยข่าวป่าไม้ดังกล่าวได้รับคำสั่งตรงจากนักการเมืองให้ติดตามพร้อมกับให้รายงานความเคลื่อนไหวของกองทัพภาคที่ 3 โดยละเอียดทุกระยะ

สำหรับ "หน่วยข่าว" ของกรมอุทยานฯ นี้ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ในภาคเหนือระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ หรือลูกจ้างป่าไม้ ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำ ที่เรียกกันในแวดวงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า "หน่วยข่าวกรอง , FBI, หน่วยนอกเครื่องแบบ" มีความคล่องตัวในการเข้าไปสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่าง ๆ ส่วนมากจะรายงานตรงเข้าไปที่ผู้อำนวยการสำนัก

ขณะที่หน่วยงานข่าวด้านความมั่นคงทั้งที่สังกัดกองทัพ, กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ ก็ได้รับคำสั่งให้ติดตามความเคลื่อนไหวของ "กองกำลังป่าไม้ของกรมอุทยานฯ" ทุกระยะเช่นกัน โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายปี 2548 ที่ผ่านมาที่กำลังเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ถูกสั่งให้เคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหลายครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการอบรมหลักสูตรที่คาบเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง-การอบรมการใช้อาวุธ จนกลายเป็นกองกำลังติดอาวุธส่วนตัวไปในที่สุดด้วย

สำหรับความเคลื่อนไหวฝึกอบรมการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 28 มิ.ย.49 ที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งจากส่วนกลางมายังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ต่าง ๆ ในภาคเหนือวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย.49 ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในสังกัดส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรของแต่ละสำนัก เข้ารับการฝึกอบรมทบทวนหลักสูตรการใช้อาวุธ ที่ศูนย์ฝึกอบรม ในอุทยานฯเขาสามหลั่น จ.สระบุรี โดยกำหนดให้ออกเดินทางจากที่ตั้งเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.49 หรือวันรุ่งขึ้นหลังจากได้รับคำสั่ง เพื่อเริ่มเข้ารับการอบรมตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.49

โดยโครงการฝึกอบรมการใช้อาวุธดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์จากภาคเหนือ ทั้ง 6 สำนัก เดินทางไปทั้งหมด 300 กว่านาย เฉพาะสำนัก 11 จ.พิษณุโลก มีเจ้าหน้าที่จากส่วนป้องกันฯ เดินทางไปทั้งสิ้นประมาณ 100 นาย, สำนัก 14 จ.ตาก 50 นาย, สำนัก 16 เฉพาะ จ.เชียงใหม่ 25 นาย โดยเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันฯ จากสำนัก 16 ที่เดินทางไปครั้งนี้ได้นำอาวุธประจำกายที่ส่วนมากจะเป็นปืน "HK" ติดตัวไปด้วย

อนึ่ง ตั้งแต่ปลายปี 2548 ต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2549 ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งเคลื่อนกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานฯ ในลักษณะเดินทางเข้ารับการอบรมเร่งด่วนลักษณะเดียวกันนี้หลายครั้ง เช่น เมื่อวันที่ 13 ก.พ.49 ก็มีคำสั่งเคลื่อนกำลังพลของส่วนป้องกันฯ หลายสำนักในภาคเหนือ เดินทางเข้ากรุงเทพฯด้วยรถบัส แต่เป้าหมายอยู่ที่เวทีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จัดขึ้นที่สวนลุมฯ, 19 ก.พ.49 ก็มีคำสั่งระดมกำลังพลป่าไม้เข้าอบรมที่เขาใหญ่ ก่อนที่จะเคลื่อนกำลังเข้าป่วนเวทีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่สวนลุมฯอีกรอบในวันที่ 20 ก.พ.49 เป็นต้น

**ไม่มีใครกล้าแตะป้าย"จอมพล"

ด้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนธิปไตย จังหวัดระยอง ได้กล่าวถึงการติดรูปภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณห้องประชุมเอนกประสงค์ ชั้น 3 เทศบาลตำบลบ้านเพ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมมีข้อความใต้รูป เขียนว่า "จอมพล จอมอัจฉริยะ" ว่า ตนเห็นภาพดังกล่าวมานานแล้วในช่วงที่มีการประชุมพันธมิตรภาคตะวันออก โดยที่ประชุมได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปภาพดังกล่าวเช่นกันว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ สำหรับรูปภาพและข้อความดังกล่าวมีการใส่กรอบไม้และมีรูปเปลือกหอยทำไว้อย่างมั่นคงถาวร และการติดรูปมีข้อความดังกล่าวถือว่าเป็นการไม่ถูกต้องและไม่สมควรอย่างเด็ดขาด เพราะคำว่า "จอมพล" นั้น เปรียบเทียบเหมือนผู้ปกครองแผ่นดินหรือพระราชา เมื่อมองข้อความที่เขียนและรูปที่ปรากฏจะเป็นการเทียบชนชั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแน่นอน

ส่วนสาเหตุที่ติดรูปภาพนี้อาจเนื่องมาจากมีบริษัทนำมามอบให้กับเทศบาลตำบลบ้านเพ และในช่วงเวลานั้นนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ ประกอบกับนายยงยศ อรุณเวสสะเศรษฐ เป็น ส.ส.ระยอง พรรคไทยรักไทย จึงอาจเป็นได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเชลียร์เพื่อหวังเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างไรก็ตามถือเป็นการไม่สมควรที่นำรูปภาพที่มีข้อความดังกล่าวมาติดไว้ในสถานที่ราชการเช่นนี้

ด้านนักวิชาการในพื้นที่ จ.ระยอง ได้เปิดพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 เกี่ยวกับคำว่า "จอมพล" พร้อมกับกล่าวว่า คำว่า "จอม" ตามพจนานุกรมฯ หมายถึง ยอดที่สูงสุดของสิ่งที่มีฐานใหญ่ปลายเรียวเล็กขึ้นไป เช่น จอมเขา, ผู้ที่ยอดเยี่ยมในหมู่ เช่น จอมโจร, ตำแหน่งพระสนมวังหน้า (วังหลวง ใช้ว่า เจ้าจอม) ส่วน "จอมพล" หมายถึง "ยศ" นายทหารบกชั้นสูงสุด, ถ้าเป็นทหารเรือ "เรียกจอมพลเรือ" ถ้าเป็นทหารอากาศ เรียก "จอมพลอากาศ"

"โดยความเห็นส่วนตัวแล้วถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่สถานที่ราชการจะนำภาพที่มีข้อความดังกล่าวไปติดไว้ ถึงว่าจะได้รับเป็นของขวัญก็ตาม หากจะยกย่องกันก็ควรจะนำไปเก็บไว้ที่บ้าน ไม่ใช่สถานที่ราชการอย่างนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และควรที่จะปลดแล้วโดยเร็ว" นักวิชาการผู้นี้ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเทศบาลตำบลบ้านเพ ปัจจุบันนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ เป็นนายกเทศมนตรี โดยมีนายจเร ทองนพคุณ และนายพงษ์ปกรณ์ สังหเขตวิทยบุญ เป็นรองนายกเทศมนตรี

สำหรับคนในตระกูล "อรุณเวสสะเศรษฐ" ส่วนใหญ่ล้วนมีบทบาททางการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดยนางกิมห่อ (ลี้เซ่งเฮ็ง) อรุณเวสสะเศรษฐ พี่สาวคนโต เป็นอดีตกำนันหญิงคนแรกในตำบลเพ และน้องชาย เช่น นายไพบูลย์ อรุณเวสสะเศรษฐ อดีต นายก อบจ.ระยอง, นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพคนปัจจุบัน, นายยานยนต์ อรุณเวสสะเศรษฐ อดีต ส.อบจ.ระยอง และนายยงยศ อรุณเวสสะเศรษฐ อดีต ส.ส.ระยอง พรรคไทยรักไทย

ต่อมาเวลา 11.00 น.วานนี้ผู้สื่อข่าวรายงานได้ไปที่เทศบาลพบว่าภาพดังกล่าวยังคงติดอยู่เหมือนเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลต่างก็ไม่ได้ให้ความสนใจและทำงานกันตามปกติ ทั้งนี้ สำหรับภาพและข้อความดังกล่าวได้มีการนำมาติดรวม 3 ปีแล้วนับตั้งแต่วันเปิดอาคารสำนักงานเทศบาลแห่งนี้ใหม่ๆ

จากการสอบถามนายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ ยอมรับว่า ภาพดังกล่าวมีคนมามอบให้เทศบาลจริง แต่ตนไม่ได้เป็นผู้รับมอบ หลังจากนั้นก็มีการนำภาพไปติดที่ฝาผนัง ซึ่งตนไม่ได้สังเกตว่าบนภาพมีข้อความ ดังกล่าวจึงไม่ได้ติดใจอะไรและก็คิดว่าไม่มีอะไร อีกทั้งยังไม่เคยเข้าไปดูใกล้ๆ ด้วยซ้ำไปจึงไม่ทราบว่ามีข้อความใต้ภาพว่า "จอมพล จอมอัจฉริยะ" แต่เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าใช้ข้อความดังกล่าวไม่เหมาะสม ตนก็พร้อมที่จะลบคำว่า "จอมพล" ออก แต่คงไม่ปลดภาพออก
กำลังโหลดความคิดเห็น