คอมมิวนิสต์เลือกตั้งกับอวสานไทยลักไทย
ท่านผู้อ่านที่เคารพ มีผู้โทร.มาอุทธรณ์ว่า บทความฉบับที่แล้วของผมทำให้เสียกำลังใจ เพราะอดีตสหายสมาชิกสโมสรหนึ่งเก้าหลายคน ที่เข้าร่วมสะพานมัฆวานและขบวนการต่อต้านทักษิณอย่างถวายชีวิต เกรงว่าจะถูกหมายหัวผิดๆ
ผมได้เขียนไปแล้วว่าสหายสมคิดหรืออดีต ส.ว.การุณ ผู้ผูกเปลนอนข้างสหายสมชายก็สู้เคียงข้างเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของพันธมิตร ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนแต่ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นใครบ้าง ผมมิได้ตั้งใจปรักปรำใคร เพราะฉะนั้นอย่าได้กังวลเลย มาช่วยกันล้มระบอบทักษิณต่อเถิด
มีผู้โทร.มาบอกผมว่าสหายเศก ชื่อจริง เขื่อนเพชร โพนรัมย์ เคยเข้มแข็งอยู่ในสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน การที่สหายเศกเป็นหนี้บุญคุณสหายจรัสนั้น ก็เป็นความดี สักวันหนึ่งสหายเศกอาจจะกลับมา
ผมอาจจะเล่าเรื่องการเลือกตั้งกับคอมมิวนิสต์น้อยไปหน่อย ไม่สมกับชื่อบทความ นึกว่าที่เล่าไปแล้วน่าจะพอเพียงแก่ความเขาใจว่า คอมมิวนิสต์ก็มีเลือกตั้งเหมือนกัน แต่เป็นการเลือกตั้งที่ตามใจพรรค เพื่อประโยชน์ของพรรค ไม่ยอมให้มีผู้ใดมาแข่ง นี่เป็นกรณีของพรรคที่ครองอำนาจในประเทศ
ในสถานการณ์สู้รบ เพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ อย่างในประเทศไทย คอมมิวนิสต์จะพยายามเผยแพร่ความคิดว่าการเลือกตั้งและรัฐสภาในระบอบนายทุนเป็นสิ่งล้าหลังไร้ความหมายไม่มีประโยชน์ คอมมิวนิสต์ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เมื่อคอมมิวนิสต์วางอาวุธมาเป็นผู้พัฒนาชาติไทย และกระจัดกระจายกันอยู่ทั่วไป มีอยู่บ่อยๆ ที่พรรคการเมืองหรือผู้สมัครพากันเข้าหาหรืออาศัยคะแนนจัดตั้งของบรรดาสหายที่เป็นกลุ่มก้อน
ผมเคารพสิทธิของพรรคไทยรักไทยที่จะทำเช่นเดียวกัน และรู้ว่าไทยรักไทยมีสหายชั้นนำอยู่ใน ครม.และตำแหน่งสูงๆ ในพรรคมากกว่าพรรคอื่นๆ เรื่องทำงานผมไม่ว่าอะไร ขออย่าเอากติกูมาใช้ป่วนบ้านเมืองก็แล้วกัน
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ หรือการวางแผนพัฒนาการเมือง ขอเล่าต่อนิดว่า การเลือกตั้งที่พรรคคอมมิวนิสต์ เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการมีอยู่ 4 ประเภท คือ
1. กรณีที่พรรคครองอำนาจรัฐ เช่น ในจีน เวียดนาม เกาหลีเหนือ ลาว หรือโซเวียตรัสเซียในอดีต
2. ในกรณีที่เป็นพรรคบนดินตามกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย เช่น พรรคคอมมิวนิสต์ในฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดนหรือยุโรปอื่นๆ แม้กระทั่งญี่ปุ่นและอินเดีย พรรคมีสิทธิเท่าเทียมพรรคอื่นๆ บางครั้งก็มีโชคได้เข้าร่วมรัฐบาลผสมเป็นพรรคเล็ก บางครั้งพรรคก็ใหญ่โตน่ากลัว เช่น พรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี แต่กล่าวรวมๆ แล้วโอกาสที่พรรคคอมมิวนิสต์จะชนะเป็นรัฐบาลยากยิ่งเกือบจะเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะวิวัฒนาการเศรษฐกิจการเมืองและการศึกษาทำให้ไม่มีทางสู้พรรคกระแสหลักคือสังคมนิยมและอนุรักษนิยมได้
3. แต่ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเป็นคนละเรื่อง พรรคคอมมิวนิสต์อินเดีย และฝรั่งเศสสามารถครองอำนาจในรัฐหรือเมืองใหญ่ได้บ่อยๆหรือยาวนาน และมีแนวโน้มเช่นนี้ในหลายประเทศ เป็นไปได้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลีและฝรั่งเศสอาจคืนพลัง จนกระทั่งช่วงชิงอำนาจในมหานครได้
4. การเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ในระบอบคอมมิวนิสต์เดิมที่ล่มสลาย เช่น สหภาพโซเวียต และประเทศที่แยกออกจากสหภาพ ในยุโรปตะวันออกที่ยังคงประเทศหรือแตกกระจายออกไป พรรคการเมืองกระแสหลักที่ได้รับการช่วยเหลือจากระบอบนายทุนตะวันตกเข้ามาพิชิต แต่พรรคคอมมิวนิสต์มิได้หนีหายไปไหน ยังคงต่อสู้ในการเลือกตั้ง ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคในรัสเซียได้คะแนนถึง 42 % ผมเชื่อว่าเมื่อวงจรการเมืองหมุนไปเรื่อยๆ โลกอาจจะเห็นพรรคคอมมิวนิสต์กลับมามีอำนาจรัฐอย่างเป็นล่ำเป็นสันผ่านวิถีทางเลือกตั้งก็ได้ นี่เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง
ประเทศไทยจะปรับตัวอย่างไร เป็นเรื่องที่เราควรคิดไว้ล่วงหน้า กระแสที่ 5 อันเป็นกระแสซ่อนเร้น คือการสังเคราะห์ระหว่างทุนนิยมโลกาภิวัตน์กับคอมมิวนิสต์แปลงรูปเกิดขึ้นเป็นแห่งแรกภายใต้การนำของทักษิณ
เขียนมาถึงตอนนี้มีเสียงโทรศัพท์ดัง บังคับให้หยุด คอยฟังคำพิพากษาศาลคดี คณะกรรมการเลือกตั้ง ผมจึงหยุดเขียน สดับตรับฟัง และตั้งสมาธิ จนถึงเช้า
ผมพยายามแผ่เมตตาให้วาสนา ปริญญา วีระชัย ที่ต้องติดคุกทั้งสามคน ขอให้ถือเสียว่า เป็นวิบากกรรม ขอให้ความทุกข์ทรมานในห้องขัง เป็นบทเรียนแก่สังคมไทย
ผมเข้าใจดีว่า กกต.เป็นแต่เพียงองค์ประกอบหนึ่งของระบอบการเมืองไทยที่ยังไม่พัฒนา ระบบพรรคการเมือง ระบบการเลือกตั้ง พฤติกรรมของผู้เลือกตั้ง ระบบข้อมูลข่าวสารทางการเมือง การศึกษาและความประพฤติของผู้นำทางการเมือง ทั้งหมดยังไม่พัฒนา เป็นผลให้มีการใช้อำนาจในทางที่ผิดๆ
เราอย่าโทษ กกต.แต่ฝ่ายเดียว วิบากกรรมของ กกต.นั้นเป็นเรื่องของการถักทอต่อยอด รับลูกกันไปมาระหว่างผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองกับผู้ที่อยากมีอำนาจทางการเมือง หมุนเวียนกันอยู่ภายใต้บังคับแห่งกาลเวลา ตามหลักปฏิจจสมุปบาทในพระพุทธศาสนา
คุณหมอประเวศพูดถึงโมหะ โลภะ และมานะ ของ ทุนใหญ่ ที่ครอบงำการเมืองไทย ทุนใหญ่นี้อาศัยตัวตนของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นพาหะ ท่านผู้อ่านยังสงสัยอีกหรือไม่ว่า อำนาจของทักษิณ ซึ่งมีอยู่เหนือฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติเกือบสมบูรณ์จะไม่มีอยู่เหนือวาสนากับคณะจึงเกิดเวรกรรมเห็นปานฉะนี้
เมื่อครอบงำฝ่ายตุลาการ (ยัง) ไม่ได้ ในไม่ช้าไทยลักไทยจะต้องลอยแพวาสนา แต่เมื่อวานนี้ทักษิณและบรรดาลิ่วล้อยังออกอาการท้าทายศาลอยู่ ได้กระทำไม่สมควรอย่างน้อย 3 ประการ คือ
1. ทักษิณยืนยันว่า การเลือกตั้ง 2 เมษายนที่แล้วถูกต้องตามกติกา พรรคไทยรักไทยได้ปฏิบัติตามกติกาทุกประการ (ไม่เป็นดังเช่นที่ศาลวินิจฉัยว่า กกต.ช่วยไทยลักไทย) และการเลือกตั้ง จะต้องมีในวันที่ 15 ตุลาคม ตามกติกา
2. ทนายส่วนตัวของทักษิณออกมาวิจารณ์ศาล ดังนี้ “วันนี้ (25 ก.ค.) ที่พรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ นายธนา เบญจาธิกุล ทนายความประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 3 คน ว่า เป็นการตัดสินตามความรู้สึก มีธงมาก่อน ศาลทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย”
3. กลุ่มบุคคลที่เชียร์ กกต. เรียกร้องการเลือกตั้ง และกล่าวโทษศาล รวมทั้งสหายสมชายหรือนายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ได้ไปปรากฏที่ศาล ในหมู่คนที่พากันฮาป่าศาล ขว้างปาขวดใส่นายสุเทพ ด่าทอฝ่ายพันธมิตรฯ ฯลฯ บุคคลคณะนี้ได้ประกาศว่าจะต่อสู้กดดันศาลถึงที่สุด และจะฟ้องถอดถอนศาล อำนาจการเมืองได้พยายามบดขยี้ศาลอย่างหนัก ไม่เป็นที่ยืนยันแต่มีแหล่งข่าวรายงานว่า ก่อนอ่านคำพิพากษาทักษิณเรียกอธิบดีศาลอาญาไปพบ แต่ศาลไม่ยอมไป
เราควรเข้าใจต่อไปว่า ถึงแม้ทักษิณจะใหญ่คับฟ้า แต่ทักษิณก็เป็นเพียงองค์ประกอบย่อยและชั่วคราวของระบอบการเมืองไทย ต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนกับผู้นำทางการเมืองคนอื่นๆ บังเอิญทักษิณสักแต่ว่ามีเงิน จึงมาเล่นการเมืองแบบเรียนลัด ยังขาดวุฒิภาวะและจริยธรรม ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นหนักกว่าเพื่อน และแก้ไม่เป็น
การเมืองไทยหลังรัฐประหารเดือนพฤศจิกายน 2490 นั้น เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ทำลายพื้นฐาน ประชาธิปไตย การเลือกตั้งและพรรคการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ พวกเราอย่าเข้าใจว่า กกต. พรรคการเมืองหรือรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยเสียเต็มประดา ความจริงไม่ใช่ ลองแบ่งเวลาดู 59 ปีที่ผ่านมา เมืองไทยตกอยู่ใต้เผด็จการกี่ปี ประชาธิปไตยแทบไม่มีเลย แม้แต่ในยุคอาจารย์สัญญาและพลเอกเปรม กฎเกณฑ์ก็ยังเป็นเผด็จการอยู่ แต่ท่านผู้นำทั้งสองมีธรรมาธิปไตยอยู่ในจิตใจ จึงไม่มีพฤติกรรมเป็นเผด็จการ ผิดกับสมัยที่อ้างประชาธิปไตย แต่ผู้นำไม่มีธรรมาธิปไตย
อำนาจหลักของสังคมจึงตกอยู่ที่ระบบราชการกับระบบการศึกษา ที่เป็นส่วนควบซึ่งกันและกันอย่างแน่นหนา ผู้กุมอำนาจทางการเมืองจึงมาจากบุคคลที่มีอำนาจอยู่ในระบบดังกล่าว พรรคการเมืองและการเลือกตั้งก็ถูกผูกขาดครอบงำอยู่ในกำมือของคนพวกนี้
ส่วนพวกที่อยู่ในปริมณฑลได้แก่พวกที่เป็นนักสมัครผู้แทนหรือนักการเมืองมีอยู่ไม่เกิน 4 พันคน เกือบทั้งหมดก็วิ่งเข้าหาศูนย์อำนาจ แบบชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ อาศัยเงินและการเลือกตั้งส่งตนเข้าไปมีส่วนแบ่ง โดยไม่คำนึงว่าพรรคจะชื่ออะไร มีอุดมการณ์อย่างใด ในโลกนี้ไม่มี ส.ส.ที่ไหนเปลี่ยนพรรคมากและบ่อยเหมือนในประเทศไทย
พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดมักจะตั้งขึ้นมาสนองตัณหาของหัวหน้า ซึ่งเป็นผู้ตั้งพรรคขึ้นมาเอง เป็นเครื่องมือรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของตน พรรคที่หัวหน้าตั้งไม่มีทางยั่งยืน ไม่ว่าพรรคเสรีมนัคศิลาของจอมพล ป. สหภูมิของจอมพลสฤษดิ์ สหประชาไทยของจอมพลถนอม ชาติประธิปไตยของพลเอกเกรียงศักดิ์ สามัคคีธรรมของพลเอกสุจินดา พลังธรรมของพลตรีจำลอง ความหวังใหม่ของพลเอกชวลิต หรือไทยรักไทยจะเป็นข้อยกเว้น ไม่มีทาง ข้อยกเว้นชั่วคราวอาจจะเป็นชาติไทยซึ่งหลงจู๊ไปบังคับเซ้งพรรคมา การจดทะเบียนพรรคเหมือนบริษัทรับเหมากรมทางจึงเป็นอุปสรรคสำคัญ ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญเรื่องนี้ เราอย่าไปฝันเรื่องปฏิรูป
ทั้งหมดนี้คือตัวปัญหาและอุปสรรคของประชาธิปไตยไทย การซื้อเสียงซื้อผู้แทนด้วยอำนาจและเงินกลายเป็นธรรมเนียมและความจำเป็น ไทยรักไทยหนักกว่าผู้อื่น เพราะถึงขนาดซื้อพรรคด้วย
ในที่สุดอวสานก็จะมาถึงไทยรักไทย เริ่มด้วยป้อมที่กกต.แตก อีกหน่อยทักษิณหรือคุณหญิงพจมานอาจจะถอดใจ หากทักษิณดื้อต่อไปก็จะประสบชะตากรรมหนักยิ่งกว่า กกต. ทางรอดของทักษิณมีอยู่อย่างเดียวคือทุ่มเทชิงอำนาจรัฐ ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมทั้งหลักรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย หรือไม่ก็ยกธงขาว
คดีอาญาส่วนตัว กับคดีที่ศาลปกครองรออยู่ แม้จะรอดจากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ในที่สุดพรรคก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะทักษิณหนีความผิดมาตรา 44 ของกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 101 หรือไม่ก็มาตรา 23 วรรคหนึ่งของกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 77 ไม่พ้นทั้ง 2 กรณี ขอให้ท่านผู้อ่านไปลองเปิดดู ผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังหลังวันเกิดทักษิณ
ทักษิณได้ของขวัญวันเกิดที่ไม่ปรารถนาถึง 3 อย่างพร้อมกัน (1) เลือกตั้งส.ก.ส.ข.กรุงเทพฯ พ่ายยับ (2) กกต.ติดคุก (3) สุรเกียรติ์มาที่โหล่จากการซาวเสียงสหประชาชาติ จะมีที่คาดไม่ถึงอีกตามมา
ทักษิณยังรออะไรอยู่ คนที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับเมืองไทยเวลานี้เหลืออยู่คนเดียว ถ้าทักษิณช่วย ก็จะเป็นการไถ่บาปและได้บุญแรง ปลงเสียเถิดทักษิณ
ท่านผู้อ่านที่เคารพ มีผู้โทร.มาอุทธรณ์ว่า บทความฉบับที่แล้วของผมทำให้เสียกำลังใจ เพราะอดีตสหายสมาชิกสโมสรหนึ่งเก้าหลายคน ที่เข้าร่วมสะพานมัฆวานและขบวนการต่อต้านทักษิณอย่างถวายชีวิต เกรงว่าจะถูกหมายหัวผิดๆ
ผมได้เขียนไปแล้วว่าสหายสมคิดหรืออดีต ส.ว.การุณ ผู้ผูกเปลนอนข้างสหายสมชายก็สู้เคียงข้างเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของพันธมิตร ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนแต่ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นใครบ้าง ผมมิได้ตั้งใจปรักปรำใคร เพราะฉะนั้นอย่าได้กังวลเลย มาช่วยกันล้มระบอบทักษิณต่อเถิด
มีผู้โทร.มาบอกผมว่าสหายเศก ชื่อจริง เขื่อนเพชร โพนรัมย์ เคยเข้มแข็งอยู่ในสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน การที่สหายเศกเป็นหนี้บุญคุณสหายจรัสนั้น ก็เป็นความดี สักวันหนึ่งสหายเศกอาจจะกลับมา
ผมอาจจะเล่าเรื่องการเลือกตั้งกับคอมมิวนิสต์น้อยไปหน่อย ไม่สมกับชื่อบทความ นึกว่าที่เล่าไปแล้วน่าจะพอเพียงแก่ความเขาใจว่า คอมมิวนิสต์ก็มีเลือกตั้งเหมือนกัน แต่เป็นการเลือกตั้งที่ตามใจพรรค เพื่อประโยชน์ของพรรค ไม่ยอมให้มีผู้ใดมาแข่ง นี่เป็นกรณีของพรรคที่ครองอำนาจในประเทศ
ในสถานการณ์สู้รบ เพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ อย่างในประเทศไทย คอมมิวนิสต์จะพยายามเผยแพร่ความคิดว่าการเลือกตั้งและรัฐสภาในระบอบนายทุนเป็นสิ่งล้าหลังไร้ความหมายไม่มีประโยชน์ คอมมิวนิสต์ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เมื่อคอมมิวนิสต์วางอาวุธมาเป็นผู้พัฒนาชาติไทย และกระจัดกระจายกันอยู่ทั่วไป มีอยู่บ่อยๆ ที่พรรคการเมืองหรือผู้สมัครพากันเข้าหาหรืออาศัยคะแนนจัดตั้งของบรรดาสหายที่เป็นกลุ่มก้อน
ผมเคารพสิทธิของพรรคไทยรักไทยที่จะทำเช่นเดียวกัน และรู้ว่าไทยรักไทยมีสหายชั้นนำอยู่ใน ครม.และตำแหน่งสูงๆ ในพรรคมากกว่าพรรคอื่นๆ เรื่องทำงานผมไม่ว่าอะไร ขออย่าเอากติกูมาใช้ป่วนบ้านเมืองก็แล้วกัน
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ หรือการวางแผนพัฒนาการเมือง ขอเล่าต่อนิดว่า การเลือกตั้งที่พรรคคอมมิวนิสต์ เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการมีอยู่ 4 ประเภท คือ
1. กรณีที่พรรคครองอำนาจรัฐ เช่น ในจีน เวียดนาม เกาหลีเหนือ ลาว หรือโซเวียตรัสเซียในอดีต
2. ในกรณีที่เป็นพรรคบนดินตามกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย เช่น พรรคคอมมิวนิสต์ในฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดนหรือยุโรปอื่นๆ แม้กระทั่งญี่ปุ่นและอินเดีย พรรคมีสิทธิเท่าเทียมพรรคอื่นๆ บางครั้งก็มีโชคได้เข้าร่วมรัฐบาลผสมเป็นพรรคเล็ก บางครั้งพรรคก็ใหญ่โตน่ากลัว เช่น พรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี แต่กล่าวรวมๆ แล้วโอกาสที่พรรคคอมมิวนิสต์จะชนะเป็นรัฐบาลยากยิ่งเกือบจะเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะวิวัฒนาการเศรษฐกิจการเมืองและการศึกษาทำให้ไม่มีทางสู้พรรคกระแสหลักคือสังคมนิยมและอนุรักษนิยมได้
3. แต่ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเป็นคนละเรื่อง พรรคคอมมิวนิสต์อินเดีย และฝรั่งเศสสามารถครองอำนาจในรัฐหรือเมืองใหญ่ได้บ่อยๆหรือยาวนาน และมีแนวโน้มเช่นนี้ในหลายประเทศ เป็นไปได้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลีและฝรั่งเศสอาจคืนพลัง จนกระทั่งช่วงชิงอำนาจในมหานครได้
4. การเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ในระบอบคอมมิวนิสต์เดิมที่ล่มสลาย เช่น สหภาพโซเวียต และประเทศที่แยกออกจากสหภาพ ในยุโรปตะวันออกที่ยังคงประเทศหรือแตกกระจายออกไป พรรคการเมืองกระแสหลักที่ได้รับการช่วยเหลือจากระบอบนายทุนตะวันตกเข้ามาพิชิต แต่พรรคคอมมิวนิสต์มิได้หนีหายไปไหน ยังคงต่อสู้ในการเลือกตั้ง ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคในรัสเซียได้คะแนนถึง 42 % ผมเชื่อว่าเมื่อวงจรการเมืองหมุนไปเรื่อยๆ โลกอาจจะเห็นพรรคคอมมิวนิสต์กลับมามีอำนาจรัฐอย่างเป็นล่ำเป็นสันผ่านวิถีทางเลือกตั้งก็ได้ นี่เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง
ประเทศไทยจะปรับตัวอย่างไร เป็นเรื่องที่เราควรคิดไว้ล่วงหน้า กระแสที่ 5 อันเป็นกระแสซ่อนเร้น คือการสังเคราะห์ระหว่างทุนนิยมโลกาภิวัตน์กับคอมมิวนิสต์แปลงรูปเกิดขึ้นเป็นแห่งแรกภายใต้การนำของทักษิณ
เขียนมาถึงตอนนี้มีเสียงโทรศัพท์ดัง บังคับให้หยุด คอยฟังคำพิพากษาศาลคดี คณะกรรมการเลือกตั้ง ผมจึงหยุดเขียน สดับตรับฟัง และตั้งสมาธิ จนถึงเช้า
ผมพยายามแผ่เมตตาให้วาสนา ปริญญา วีระชัย ที่ต้องติดคุกทั้งสามคน ขอให้ถือเสียว่า เป็นวิบากกรรม ขอให้ความทุกข์ทรมานในห้องขัง เป็นบทเรียนแก่สังคมไทย
ผมเข้าใจดีว่า กกต.เป็นแต่เพียงองค์ประกอบหนึ่งของระบอบการเมืองไทยที่ยังไม่พัฒนา ระบบพรรคการเมือง ระบบการเลือกตั้ง พฤติกรรมของผู้เลือกตั้ง ระบบข้อมูลข่าวสารทางการเมือง การศึกษาและความประพฤติของผู้นำทางการเมือง ทั้งหมดยังไม่พัฒนา เป็นผลให้มีการใช้อำนาจในทางที่ผิดๆ
เราอย่าโทษ กกต.แต่ฝ่ายเดียว วิบากกรรมของ กกต.นั้นเป็นเรื่องของการถักทอต่อยอด รับลูกกันไปมาระหว่างผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองกับผู้ที่อยากมีอำนาจทางการเมือง หมุนเวียนกันอยู่ภายใต้บังคับแห่งกาลเวลา ตามหลักปฏิจจสมุปบาทในพระพุทธศาสนา
คุณหมอประเวศพูดถึงโมหะ โลภะ และมานะ ของ ทุนใหญ่ ที่ครอบงำการเมืองไทย ทุนใหญ่นี้อาศัยตัวตนของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นพาหะ ท่านผู้อ่านยังสงสัยอีกหรือไม่ว่า อำนาจของทักษิณ ซึ่งมีอยู่เหนือฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติเกือบสมบูรณ์จะไม่มีอยู่เหนือวาสนากับคณะจึงเกิดเวรกรรมเห็นปานฉะนี้
เมื่อครอบงำฝ่ายตุลาการ (ยัง) ไม่ได้ ในไม่ช้าไทยลักไทยจะต้องลอยแพวาสนา แต่เมื่อวานนี้ทักษิณและบรรดาลิ่วล้อยังออกอาการท้าทายศาลอยู่ ได้กระทำไม่สมควรอย่างน้อย 3 ประการ คือ
1. ทักษิณยืนยันว่า การเลือกตั้ง 2 เมษายนที่แล้วถูกต้องตามกติกา พรรคไทยรักไทยได้ปฏิบัติตามกติกาทุกประการ (ไม่เป็นดังเช่นที่ศาลวินิจฉัยว่า กกต.ช่วยไทยลักไทย) และการเลือกตั้ง จะต้องมีในวันที่ 15 ตุลาคม ตามกติกา
2. ทนายส่วนตัวของทักษิณออกมาวิจารณ์ศาล ดังนี้ “วันนี้ (25 ก.ค.) ที่พรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ นายธนา เบญจาธิกุล ทนายความประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 3 คน ว่า เป็นการตัดสินตามความรู้สึก มีธงมาก่อน ศาลทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย”
3. กลุ่มบุคคลที่เชียร์ กกต. เรียกร้องการเลือกตั้ง และกล่าวโทษศาล รวมทั้งสหายสมชายหรือนายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ได้ไปปรากฏที่ศาล ในหมู่คนที่พากันฮาป่าศาล ขว้างปาขวดใส่นายสุเทพ ด่าทอฝ่ายพันธมิตรฯ ฯลฯ บุคคลคณะนี้ได้ประกาศว่าจะต่อสู้กดดันศาลถึงที่สุด และจะฟ้องถอดถอนศาล อำนาจการเมืองได้พยายามบดขยี้ศาลอย่างหนัก ไม่เป็นที่ยืนยันแต่มีแหล่งข่าวรายงานว่า ก่อนอ่านคำพิพากษาทักษิณเรียกอธิบดีศาลอาญาไปพบ แต่ศาลไม่ยอมไป
เราควรเข้าใจต่อไปว่า ถึงแม้ทักษิณจะใหญ่คับฟ้า แต่ทักษิณก็เป็นเพียงองค์ประกอบย่อยและชั่วคราวของระบอบการเมืองไทย ต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนกับผู้นำทางการเมืองคนอื่นๆ บังเอิญทักษิณสักแต่ว่ามีเงิน จึงมาเล่นการเมืองแบบเรียนลัด ยังขาดวุฒิภาวะและจริยธรรม ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นหนักกว่าเพื่อน และแก้ไม่เป็น
การเมืองไทยหลังรัฐประหารเดือนพฤศจิกายน 2490 นั้น เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ทำลายพื้นฐาน ประชาธิปไตย การเลือกตั้งและพรรคการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ พวกเราอย่าเข้าใจว่า กกต. พรรคการเมืองหรือรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยเสียเต็มประดา ความจริงไม่ใช่ ลองแบ่งเวลาดู 59 ปีที่ผ่านมา เมืองไทยตกอยู่ใต้เผด็จการกี่ปี ประชาธิปไตยแทบไม่มีเลย แม้แต่ในยุคอาจารย์สัญญาและพลเอกเปรม กฎเกณฑ์ก็ยังเป็นเผด็จการอยู่ แต่ท่านผู้นำทั้งสองมีธรรมาธิปไตยอยู่ในจิตใจ จึงไม่มีพฤติกรรมเป็นเผด็จการ ผิดกับสมัยที่อ้างประชาธิปไตย แต่ผู้นำไม่มีธรรมาธิปไตย
อำนาจหลักของสังคมจึงตกอยู่ที่ระบบราชการกับระบบการศึกษา ที่เป็นส่วนควบซึ่งกันและกันอย่างแน่นหนา ผู้กุมอำนาจทางการเมืองจึงมาจากบุคคลที่มีอำนาจอยู่ในระบบดังกล่าว พรรคการเมืองและการเลือกตั้งก็ถูกผูกขาดครอบงำอยู่ในกำมือของคนพวกนี้
ส่วนพวกที่อยู่ในปริมณฑลได้แก่พวกที่เป็นนักสมัครผู้แทนหรือนักการเมืองมีอยู่ไม่เกิน 4 พันคน เกือบทั้งหมดก็วิ่งเข้าหาศูนย์อำนาจ แบบชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ อาศัยเงินและการเลือกตั้งส่งตนเข้าไปมีส่วนแบ่ง โดยไม่คำนึงว่าพรรคจะชื่ออะไร มีอุดมการณ์อย่างใด ในโลกนี้ไม่มี ส.ส.ที่ไหนเปลี่ยนพรรคมากและบ่อยเหมือนในประเทศไทย
พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดมักจะตั้งขึ้นมาสนองตัณหาของหัวหน้า ซึ่งเป็นผู้ตั้งพรรคขึ้นมาเอง เป็นเครื่องมือรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของตน พรรคที่หัวหน้าตั้งไม่มีทางยั่งยืน ไม่ว่าพรรคเสรีมนัคศิลาของจอมพล ป. สหภูมิของจอมพลสฤษดิ์ สหประชาไทยของจอมพลถนอม ชาติประธิปไตยของพลเอกเกรียงศักดิ์ สามัคคีธรรมของพลเอกสุจินดา พลังธรรมของพลตรีจำลอง ความหวังใหม่ของพลเอกชวลิต หรือไทยรักไทยจะเป็นข้อยกเว้น ไม่มีทาง ข้อยกเว้นชั่วคราวอาจจะเป็นชาติไทยซึ่งหลงจู๊ไปบังคับเซ้งพรรคมา การจดทะเบียนพรรคเหมือนบริษัทรับเหมากรมทางจึงเป็นอุปสรรคสำคัญ ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญเรื่องนี้ เราอย่าไปฝันเรื่องปฏิรูป
ทั้งหมดนี้คือตัวปัญหาและอุปสรรคของประชาธิปไตยไทย การซื้อเสียงซื้อผู้แทนด้วยอำนาจและเงินกลายเป็นธรรมเนียมและความจำเป็น ไทยรักไทยหนักกว่าผู้อื่น เพราะถึงขนาดซื้อพรรคด้วย
ในที่สุดอวสานก็จะมาถึงไทยรักไทย เริ่มด้วยป้อมที่กกต.แตก อีกหน่อยทักษิณหรือคุณหญิงพจมานอาจจะถอดใจ หากทักษิณดื้อต่อไปก็จะประสบชะตากรรมหนักยิ่งกว่า กกต. ทางรอดของทักษิณมีอยู่อย่างเดียวคือทุ่มเทชิงอำนาจรัฐ ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมทั้งหลักรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย หรือไม่ก็ยกธงขาว
คดีอาญาส่วนตัว กับคดีที่ศาลปกครองรออยู่ แม้จะรอดจากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ในที่สุดพรรคก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะทักษิณหนีความผิดมาตรา 44 ของกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 101 หรือไม่ก็มาตรา 23 วรรคหนึ่งของกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 77 ไม่พ้นทั้ง 2 กรณี ขอให้ท่านผู้อ่านไปลองเปิดดู ผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังหลังวันเกิดทักษิณ
ทักษิณได้ของขวัญวันเกิดที่ไม่ปรารถนาถึง 3 อย่างพร้อมกัน (1) เลือกตั้งส.ก.ส.ข.กรุงเทพฯ พ่ายยับ (2) กกต.ติดคุก (3) สุรเกียรติ์มาที่โหล่จากการซาวเสียงสหประชาชาติ จะมีที่คาดไม่ถึงอีกตามมา
ทักษิณยังรออะไรอยู่ คนที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับเมืองไทยเวลานี้เหลืออยู่คนเดียว ถ้าทักษิณช่วย ก็จะเป็นการไถ่บาปและได้บุญแรง ปลงเสียเถิดทักษิณ