ผู้จัดการรายวัน - บลจ.ไอเอ็นจี เล็งปรับกลยุทธ์การลงทุน หันมาให้น้ำหนัก ตราสารหนี้อายุ 6 เดือนมากขึ้น หลังอัตราดอกเบี้ยส่งสัญญาณชะลอตัว ล่าสุด ยื่นเสนอ ก.ล.ต. ขอจัดตั้งในกองทุนตระกูล 'ไอเอ็นจี ไทย 6 เดือน โรล โอเวอร์' อีก 6 กองรวด คาดเปิด ขายหน่วยลงทุนได้ไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนตราสารอายุสั้นๆ 3 เดือน เผยช่วงนี้ยังมีดีมานด์อยู่ พร้อมเดินหน้าส่งกองใหม่ระดมทุนต่อ
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นเสนอขอจัดตั้งกองทุนตราสารหนี้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพิ่มอีกจำนวน 6 กองทุน โดยเป็นกองทุนในตระกูลกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 6 เดือน โรล โอเวอร์ ประกอบด้วย กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 6 เดือน โรล โอเวอร์ A - F ซึ่งมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 5,000 ล้านบาท
สำหรับนโยบายการลงทุน กองทุนจะเน้นลงทุนแบบซื้อแล้วถือ จนครบกำหนดในตราสารที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ที่ออกโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งเงินฝาก โดยเฉลี่ย ในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90
ทั้งนี้ ในส่วนของตราสารหนี้ที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน จะมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม หรือมีอายุคงเหลือของตราสารประมาณ 6 เดือน ซึ่งเงินลงทุนในส่วนที่เหลืออาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น โดยกองทุนดังกล่าวจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือตราสารที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร
นายจุมพลกล่าวว่า สำหรับกองทุนอายุ 6 เดือนที่บริษัทขอจัดตั้งกองทุนไปนั้น คงยังไม่เปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากกองทุนระยะสั้นๆ อายุ 3 เดือนยังได้รับความสนใจ จากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลตอบแทนของกองทุนอายุ 3 เดือนและ 6 เดือนก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ถึงต้นไตรมาสแรกของปีหน้า น่าจะเป็นช่วงเหมาะสมที่สามารถเปิดขาย กองทุนอายุ 6 เดือนได้ ส่วนกองทุนที่มีอายุยาวขึ้นหรืออายุประมาณ 1 ปี เชื่อว่าหลังจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว น่าจะเป็นจังหวะ ที่เหมาะสมสำหรับกองทุนอายุ 1 ปีขึ้นไป
'สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ในส่วนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เอง ก็ส่งสัญญาณว่าจะไม่ขยับขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว ในขณะที่ตลาดเงินเองก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้การ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงๆ อาจจะชะลอลงไปแล้ว' นายจุมพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นๆ อายุ 3 เดือนต่อไป เพราะความต้องการ ของผู้ลงทุนยังมีอยู่สูง และยังให้ผลตอบแทนในระดับที่เหมาะสม โดยล่าสุด บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็ม-พลัส 3 ที่มีนโยบาย ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและตราสาร ทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งหลังจากปิดไอพีโอสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,800 ล้านบาทจากมูลค่า โครงการ 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม - 3 สิงหาคมนี้ บริษัทเตรียม เปิดขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 3 เดือน โรล โอเวอร์ B ซึ่งเป็นกองทุนในตระกูลกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 3 เดือน โรล โอเวอร์
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นเสนอขอจัดตั้งกองทุนตราสารหนี้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพิ่มอีกจำนวน 6 กองทุน โดยเป็นกองทุนในตระกูลกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 6 เดือน โรล โอเวอร์ ประกอบด้วย กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 6 เดือน โรล โอเวอร์ A - F ซึ่งมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 5,000 ล้านบาท
สำหรับนโยบายการลงทุน กองทุนจะเน้นลงทุนแบบซื้อแล้วถือ จนครบกำหนดในตราสารที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ที่ออกโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งเงินฝาก โดยเฉลี่ย ในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90
ทั้งนี้ ในส่วนของตราสารหนี้ที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน จะมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม หรือมีอายุคงเหลือของตราสารประมาณ 6 เดือน ซึ่งเงินลงทุนในส่วนที่เหลืออาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น โดยกองทุนดังกล่าวจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือตราสารที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร
นายจุมพลกล่าวว่า สำหรับกองทุนอายุ 6 เดือนที่บริษัทขอจัดตั้งกองทุนไปนั้น คงยังไม่เปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากกองทุนระยะสั้นๆ อายุ 3 เดือนยังได้รับความสนใจ จากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลตอบแทนของกองทุนอายุ 3 เดือนและ 6 เดือนก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ถึงต้นไตรมาสแรกของปีหน้า น่าจะเป็นช่วงเหมาะสมที่สามารถเปิดขาย กองทุนอายุ 6 เดือนได้ ส่วนกองทุนที่มีอายุยาวขึ้นหรืออายุประมาณ 1 ปี เชื่อว่าหลังจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว น่าจะเป็นจังหวะ ที่เหมาะสมสำหรับกองทุนอายุ 1 ปีขึ้นไป
'สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ในส่วนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เอง ก็ส่งสัญญาณว่าจะไม่ขยับขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว ในขณะที่ตลาดเงินเองก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้การ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงๆ อาจจะชะลอลงไปแล้ว' นายจุมพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นๆ อายุ 3 เดือนต่อไป เพราะความต้องการ ของผู้ลงทุนยังมีอยู่สูง และยังให้ผลตอบแทนในระดับที่เหมาะสม โดยล่าสุด บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็ม-พลัส 3 ที่มีนโยบาย ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและตราสาร ทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งหลังจากปิดไอพีโอสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,800 ล้านบาทจากมูลค่า โครงการ 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม - 3 สิงหาคมนี้ บริษัทเตรียม เปิดขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 3 เดือน โรล โอเวอร์ B ซึ่งเป็นกองทุนในตระกูลกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 3 เดือน โรล โอเวอร์