xs
xsm
sm
md
lg

ความสงบในภาคใต้ยากได้คืน...ถ้า...?

เผยแพร่:   โดย: แสงสุริยา

หลายคนชักห่วงใยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะไม่สามารถปฏิบัติตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องการให้ประเทศไทยมีความสงบสุขกลับคืนโดยเร็วได้สำเร็จ

เพราะไม่มีท่าทีที่ชัดเจนใดๆ ว่าอนาคตทางการเมืองของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

นั่นคือจะยังคงมีการขัดแย้งและแตกแยกความสามัคคีเป็นเสี่ยงๆ กันดังที่เป็นอยู่นี้ต่อไป หรือว่าจะหาทางยุติความขัดแย้งและสร้างความสามัคคีภายในชาติให้เป็นผลสำเร็จ

จะไปทางไหนไม่มีใครบอกได้ นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น

หากบ้านเมืองยังแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ ในทุกพื้นที่และในทุกวงการดังที่เป็นอยู่นี้ ก็ไม่มีทางที่ความสงบสุขจะกลับคืนมาได้

ดูตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งประชาชนไปเฝ้าแหนเพื่อฟังพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเนืองแน่นด้วยความห่วงใยและด้วยความปลื้มปีติเคล้าคละระคนกัน นับเป็นภาพที่หาได้ยากในโลกและเป็นภาพที่สื่อมวลต่างประเทศรู้สึกถึงความมหัศจรรย์และชื่นชมในพระบารมีตามคนไทยไปด้วย

แต่ในทันใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปถึง ณ ที่นั้น เหตุการณ์โกลาหลอลหม่านก็เกิดขึ้นอย่างผิดคาดและเป็นที่น่าสังเวชใจอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์เช่นนั้นไม่ควรเกิดขึ้นเลย

เพราะทันทีที่ไปถึงก็มีกลุ่มคนที่อาจถูกจัดตั้งไว้แล้วจำนวนหนึ่งเริ่มต้นขึ้นก่อน โดยร้องตะโกนเสียงดังว่ากำลังใจอยู่ทางนี้ ซึ่งเป็นการชี้ทางให้เห็นว่าคนที่ถูกจัดตั้งมาอยู่ทางนี้

มิหนำซ้ำในสถานการณ์และสถานที่ซึ่งควรเป็นไปเพื่อการถวายความจงรักภักดีโดยเฉพาะกลับมีคนในกลุ่มดังกล่าวร้องตะโกนด้วยเสียงอันดังว่าทักษิณ สู้ สู้ เป็นต้นเสียงให้พรรคพวกประสานเสียงพร้อมๆ กันว่าทักษิณ สู้ สู้

เมื่อเป็นเช่นนี้คนจำนวนมากซึ่งไม่ได้หวังที่จะไปเชียร์หรือเกี่ยวข้องกับการเมืองในที่นั้นก็ทนไม่ได้ จึงมีเสียงร้องตะโกนสวนออกมาบ้างว่าทักษิณออกไปๆๆๆ

กลายเป็นว่าสถานที่อันควรจะสงบเพื่อถวายความจงรักภักดีกลายเป็นความสับสนอลหม่านด้วยเสียงทักษิณ สู้ สู้ กับเสียงทักษิณออกไปๆๆๆ

จนเหตุการณ์หวุดหวิดจะปะทะกัน ดีที่เจ้าหน้าที่เข้ามาห้ามปรามเสียได้ทันท่วงที มิฉะนั้นเหตุการณ์น่าสลดใจก็คงจะเกิดให้เห็นและจะเป็นเรื่องที่เศร้าสลดใจของคนไทยทั้งประเทศอีกเหตุการณ์หนึ่ง

นี่คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความแตกแยกแตกสามัคคีในบ้านเมืองแล้วเกิดความไม่สงบขึ้น ซึ่งยากที่จะแก้ไขให้กลับคืนดีได้ดังเดิม

เพราะการแก้ไขอะไรนั้นต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ จะไปแก้ไขโดยการบังคับใจกันหรือไปแก้ไขที่ปลายเหตุย่อมไม่มีทางสำเร็จ เหมือนกับการดับไฟก็ต้องดับที่ต้นไฟ จะไปบังควันไว้ย่อมไม่มีทางดับไฟได้

เหตุการณ์แตกแยกแตกสามัคคีในประเทศไทยขณะนี้กว้างขวางรุนแรงลึกซึ้งไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย อะไรที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตรงนั้นแหละคือจุดที่จะต้องมีการแก้ไข

หรือถ้าใครรู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุหรือมีส่วนเป็นต้นเหตุดังกล่าวนั้นก็ควรจะได้พิจารณาด้วยความรับผิดชอบว่าจะปล่อยให้บ้านเมืองแตกสามัคคียับเยินเช่นนี้ต่อไปหรือว่าจะช่วยแก้ไขให้คืนดี

ไม่ยากลำบากอะไรเลย เพราะเมื่อรู้ตัวว่าเป็นดุ้นฟืนของความไม่สงบแล้ว เพียงแค่ดึงดุ้นฟืนนั้นออกมาเสีย ไฟแห่งความไม่สงบก็จะมอดดับลงไป

นั่นเป็นเรื่องการแตกแยกแตกสามัคคีที่มีสภาพทั่วไปทั้งประเทศ แต่ก็ยังมีบางจุดที่มีลักษณะพิเศษและหนักหน่วงรุนแรงเพราะรากฐานของปัญหาลึกซึ้งมาก นั่นคือปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้


สถานการณ์ของปัญหาล่าสุดก็เป็นดังที่มีการพูดกันในพื้นที่นั้นว่าถ้าตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ความไม่สงบก็จะไม่มีทางยุติลงได้

บางคนสงสัยว่าทำไมคนๆ เดียวจึงถูกผูกโยงกับปัญหาใหญ่หลวงของชาติที่กระทบต่อเอกราชอธิปไตยและความเป็นชาติถึงขนาดนี้

แต่พอสอบถามก็ได้ความตรงกันว่าความคับแค้นใจของคนพื้นที่นั้นลึกซึ้งกว่าที่คิด เขาบอกว่าบ้านเมืองสงบสุขอยู่ดีๆ ก็มีคนไปสั่งยุบเลิก ศอ.บต. และ พตท.43 ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลความสงบสุขของพื้นที่นั้นเสีย

จากนั้นก็สั่งให้ทหารซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่และมีความชำนาญ มีความคุ้นเคยกับผู้คนพ้นจากหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปรับผิดชอบพื้นที่แทน

ปัญหาใหญ่จึงเริ่มเกิดขึ้นตรงนี้ เพราะพวกที่เข้าไปใหม่ก็ต้องการวางรากฐานเครือข่ายใหม่ มีการอุ้มฆ่าสังหารผู้คนจำนวนมากที่เป็นเครือข่ายเก่าหรือพวกที่เห็นว่าไม่ร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน

ผลที่เกิดขึ้นก็คือประชาชนเคียดแค้นชิงชังที่ญาติพี่น้องถูกอุ้มฆ่าหายสาบสูญจำนวนมาก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เก่าๆ ก็เคียดแค้นเพราะพรรคพวกเพื่อนฝูงที่เคยรู้จักถูกอุ้มฆ่าหายสาบสูญจำนวนมาก

กระบวนการล้างแค้นจึงเกิดขึ้น! แล้วถูกตราหน้าว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้าย

ปริมาณการปราบปรามเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้คนถูกฆ่าและหายสาบสูญนับไม่ถ้วน หญิงหม้ายและเด็กๆ ที่กำพร้าพ่อแม่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

เหตุการณ์พัฒนากลายเป็นสงครามกลางเมือง จากที่ใช้มีดใช้พร้าฆ่าฟันกันก็ใช้ระเบิดและอาวุธสงครามที่ร้ายแรง

เมื่อสภาพกลายเป็นสงคราม การสังหารก็เกิดขึ้นอย่างไม่เลือกหน้า ใครก็ได้ที่อยู่ในพื้นที่ที่เห็นว่าเป็นพื้นที่อีกฝ่ายหนึ่งอาจถูกฆ่าตายโดยไม่มีความผิดใดๆ และเช่นเดียวกันใครก็ได้ที่ถูกเข้าใจว่าเป็นเครือข่ายกลไกเจ้าหน้าที่ก็อาจถูกฆ่าตายโดยไม่มีความผิดใดๆ เหมือนกัน

สภาพเช่นนี้กำลังเกิดขึ้นและขยายตัวไปในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นับเป็นเหตุการณ์ไม่สงบที่จะต้องหาทางยุติหรือนำความสงบสุขกลับคืนโดยเร็วที่สุด

แล้วทำอย่างไรจึงจะสำเร็จดังพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว?


มีความยากลำบากอยู่สองด้าน นั่นคือ

ด้านรัฐบาล ดูเหมือนว่าพื้นที่ภาคใต้จะถูกตัดทิ้งออกไปจากประเทศไทยนานแล้ว เพราะตัวนายกรัฐมนตรีก็ดี หรือบุคคลสำคัญๆ ก็ดี แทบจะไม่ลงไปสนใจภาคใต้อีกเลย

หรือว่าเป็นดังที่เขากล่าวหากันว่าเพราะคนภาคใต้ไม่เลือกพรรคการเมืองบางพรรคจึงถูกจัดเป็นพื้นที่ชั้นสองและพลเมืองชั้นสองที่รัฐบาลจะไม่เอาใจใส่ดูแล

การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างขอไปที ดังที่นายอานันท์ ปันยารชุน และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้นำข้อเท็จจริงมาเปิดเผยอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว

ด้านประชาชน ที่มีความฝังใจเจ็บลึกซึ้งอยู่กับระบบปกครองปัจจุบันที่ไม่ยอมรับการปกครอง ถึงขนาดมีการรณรงค์ชักชวนกันให้คนภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดแยกตัวออกจากประเทศไทยถ้าหากว่าการปกครองบ้านเมืองยังเป็นแบบเดิมอยู่


นั่นจึงเป็นที่มาของการพูดจาที่ว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นนายก ภาคใต้จะไม่มีวันสงบสุข

ปัญหาความไม่สงบของภาคใต้แม้เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ แต่กำลังลุกลามขึ้นมาจากจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส เข้ามาสู่จังหวัดสงขลาแล้ว แม้อำเภอหาดใหญ่ซึ่งเป็นตัวเมืองใหญ่สำคัญก็กำลังทรุดโทรมลงโดยลำดับ และใกล้จะกลายเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัยไปอีกแห่งหนึ่งแล้ว

ปัญหานี้เกี่ยวข้องด้วยเอกราชอธิปไตยของชาติ เกี่ยวข้องกับความเป็นชาติอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นใครที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องนี้และเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหานี้จึงควรจะได้พิจารณาด้วยความสำนึกรับผิดชอบอย่างยิ่ง

การแก้ไขความไม่สงบของประเทศนั้นเป็นคนละเรื่องกับการเลือกตั้ง และไม่อาจถือเอาการเลือกตั้งมาใช้แก้ไขปัญหาความไม่สงบของประเทศชาติได้ ถ้าหากว่าต้นเหตุของความไม่สงบนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข

เพราะการเลือกตั้งเป็นเรื่องของเสียงข้างมากกับเสียงข้างน้อย แต่การแก้ไขความไม่สงบเป็นเรื่องของความเป็นธรรม เป็นเรื่องของความถูกต้อง ซึ่งไม่มีอยู่ในกระบวนการเลือกตั้งเลย

ดังนั้นการเลือกตั้งจึงไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในบ้านเมือง

ตราบใดที่ความไม่เป็นธรรม ความไม่ถูกต้อง ความอาฆาตพยาบาทและความไร้เมตตาธรรมยังแผ่ปกคลุมอยู่ในประเทศไทย ตราบนั้นความไม่สงบก็จะยังคงดำรงอยู่และจะยังคงขยายตัวต่อไป

ก็แค่ปัญหาความไม่สงบในใจกลางเมืองหลวงยังแก้ไขไม่ได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นโดยมีแกนผู้เกี่ยวข้องไม่กี่ร้อยคนยังแก้ไขไม่ได้ แล้วจะไปแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดภาคใต้ได้อย่างไร

ทำไมถึงยังแก้ไม่ได้? ก็เพราะมัวแต่คิดกันถึงเสียงข้างมาก ข้างน้อย ไม่เคยคิดถึงความเป็นธรรม ความถูกต้อง ความเมตตาอาทรเลย

เมื่อต้นเหตุของความไม่สงบยังอยู่ และวิธีการที่จะทำให้เกิดความสงบก็ยังไม่มี หรือยังไม่ทำกัน ก็ยากที่จะเกิดความสงบขึ้นในประเทศไทย


จึงถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศจะได้ตระหนักถึงสถานการณ์เช่นนี้ แล้วพร้อมจิตพร้อมใจกันร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชพลีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.
กำลังโหลดความคิดเห็น