งานประมูลพระราชพาหนะ 40 คันที่ใช้ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีสุดคึกคัก เศรษฐีไทยกระเป๋าหนักแห่ร่วมงานคับคั่ง ระบุพระราชพาหนะของจักรพรรดิญี่ปุ่นสามารถทำราคาได้สูงสุดที่ 11.88 ล้านบาท ขณะที่พระราชพาหนะของเจ้าชายจิกมีทำราคาได้ 11.1 ล้านบาท สรุปยอดรายได้พุ่งกว่า 230 ล้านบาท คาดหลังหักราคารถจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายในหลวงประมาณ 5.78 ล้านบาท
วานนี้(23 ก.ค.) บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดให้มีการประมูลประมูลรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้ง 40 คัน ที่ใช้เป็นราชพาหนะรับรองพระราชอันตุกะจาก 25 ประเทศ ในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยใช้ชื่องานว่า “The Exclusive Mercedes-Benz charity Auction” ซึ่งปรากฏว่าบรรดาเศรษฐีไทยตบเท้าเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
ทั้งนี้ บริษัทที่ทำหน้าที่ในการจัดประมูลดังกล่าวก็คือ บริษัท คริสตี้ส์ อ๊อกชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
นายโวล์ฟกัง ฮุบเพ็นบาวเออร์ ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงาน “The Exclusive Mercedes-Benz charity Auction” และนับเป็นโอกาสอันดีที่ทางบริษัทได้ร่วมเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงการประมูลรถราชพาหนะในครั้งนี้
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายอย่างชัดเจนว่า รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายเพื่อใช้จ่ายตามพระราชอัธยาศัย
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะดีขึ้นในเร็ววัน ดังนั้น ขอให้ประชาชนชาวไทยร่วมกันส่งกำลังใจให้พระองค์ท่านอย่างพร้อมเพรียง"ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ประเทศไทยกล่าว
ด้าน นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าที่เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมพระราชพาหนะตั้งแต่เวลา 10.00 น.ปรากฏว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักโดยมีประชาชนจำนวนมากทยอยเข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ได้ขาดสาย ซึ่งก่อนการประมูลจะเริ่มขึ้นในเวลา 17.00 น. ได้มีผู้สนใจลงทะเบียนกว่า 60-70 รายแล้ว
“เราไม่เคยจัดงานในลักษณะนี้มาก่อน จึงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งส่วนต่างที่เกินจากราคาเริ่มต้นประมูลจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายในนามผู้ที่ประมูลได้ ไม่ใช่ในนามของบริษัทฯ โดยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้ง 40 คันผ่านการใช้งานมาเพียง 100 กิโลเมตร-900 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งยังมีออปชันทุกอย่างครบเทียบเท่าตัวที่ขายในท้องตลาด และในส่วนของรุ่น เอส350 แอล ทั้ง 28 คัน นั้น เป็นรถนำเข้าทั้งคัน (CBU) และได้มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ทั้งภาษีนำเข้า และภาษีสรรพสามิต รวมกว่า 300% อีกด้วย"ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารองค์กรแจกแจง
สำหรับบรรยากาศในการประมูลนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน ซึ่งก็มีคนดังในหลายวงการให้ความสนใจ ทั้งนี้ นาง สุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร หรือ "เจ๊เกียว" ก็ได้ข้าร่วมประมูลด้วย โดยสามารถประมูลเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส350 แอล พระราชพาหนะหมายเลข 2 ของกษัตริย์บรูไนดารุสลาม ราคา 11.2 ล้านบาท จากราคาเริ่มต้น 10. 5 ล้านบาท
นางสุจินดากล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมงานประมูลมหากุศลครั้งนี้ ซึ่งพระราชพาหนะทุกคันเป็นรถที่ดีทั้งหมด โดยพระราชพาหนะที่ประมูลได้จะนำไปไว้ที่ โชว์รูมเมอร์เซเดส-เบนซ์ เชิดชัย แมคคินน่า จังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นสิริมงคล ของครอบครัว และ ประชาชนชาวโคราชต่อไป
ส่วนพระราชพาหนะของเจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นำเกล วังชุก มกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรภูฎาน ซึ่งคนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ประมูลได้ในราคา 11.1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากรถทั้งหมด 40 คัน สามารถประมูลออกไปได้ 30 คัน แบ่งเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส350 แอล 18 คัน จากจำนวน 28 คัน และ อี220 ซีดีไอ ครบทั้ง 12 คันมี โดยมียอดรวมทั้งสิ้น 234,380,000 ล้านบาท(สองร้อยสามสิบสี่ล้านสามแสนแปดหมื่นบาท) โดยหลังจากหักราคารถจะได้เงินทูลเกล้าถวายเบื้องต้น ประมาณ 5.78 ล้านบาท ทั้งนี้ รุ่นเอส - คลาส ที่เหลือ 10 คัน จะถูกส่งไปตามผู้แทนจำหน่ายของ บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ ต่อไป ซึ่งราคาจะสูงกว่าราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านในงานประมูลอีกด้วย
ทั้งนี้ พระราชพาหนะที่ประมูลได้ราคาสูงสุดเป็นของพระราชอคันตุกะจากญี่ปุ่น ราคา 11.85 ล้านบาท โดย บริษัท เบนซ์ราชครู จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รายใหญ่ ซึ่งจากงานดังกล่าว บริษัท เบนซ์ราชครู สามารถประมูลได้รวม 4 คัน โดยเป็นรุ่น เอส350 แอล ทั้งหมด
นายเอกพงษ์ จินดาสมัย กรรมการบริษัท เบนซ์ราชครู จำกัดซึ่งเป็นตัวแทนเข้าร่วมประมูล เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนของลูกค้าที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของพระราชพาหนะ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
วานนี้(23 ก.ค.) บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดให้มีการประมูลประมูลรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้ง 40 คัน ที่ใช้เป็นราชพาหนะรับรองพระราชอันตุกะจาก 25 ประเทศ ในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยใช้ชื่องานว่า “The Exclusive Mercedes-Benz charity Auction” ซึ่งปรากฏว่าบรรดาเศรษฐีไทยตบเท้าเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
ทั้งนี้ บริษัทที่ทำหน้าที่ในการจัดประมูลดังกล่าวก็คือ บริษัท คริสตี้ส์ อ๊อกชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
นายโวล์ฟกัง ฮุบเพ็นบาวเออร์ ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงาน “The Exclusive Mercedes-Benz charity Auction” และนับเป็นโอกาสอันดีที่ทางบริษัทได้ร่วมเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงการประมูลรถราชพาหนะในครั้งนี้
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายอย่างชัดเจนว่า รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายเพื่อใช้จ่ายตามพระราชอัธยาศัย
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะดีขึ้นในเร็ววัน ดังนั้น ขอให้ประชาชนชาวไทยร่วมกันส่งกำลังใจให้พระองค์ท่านอย่างพร้อมเพรียง"ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ประเทศไทยกล่าว
ด้าน นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าที่เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมพระราชพาหนะตั้งแต่เวลา 10.00 น.ปรากฏว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักโดยมีประชาชนจำนวนมากทยอยเข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ได้ขาดสาย ซึ่งก่อนการประมูลจะเริ่มขึ้นในเวลา 17.00 น. ได้มีผู้สนใจลงทะเบียนกว่า 60-70 รายแล้ว
“เราไม่เคยจัดงานในลักษณะนี้มาก่อน จึงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งส่วนต่างที่เกินจากราคาเริ่มต้นประมูลจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายในนามผู้ที่ประมูลได้ ไม่ใช่ในนามของบริษัทฯ โดยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้ง 40 คันผ่านการใช้งานมาเพียง 100 กิโลเมตร-900 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งยังมีออปชันทุกอย่างครบเทียบเท่าตัวที่ขายในท้องตลาด และในส่วนของรุ่น เอส350 แอล ทั้ง 28 คัน นั้น เป็นรถนำเข้าทั้งคัน (CBU) และได้มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ทั้งภาษีนำเข้า และภาษีสรรพสามิต รวมกว่า 300% อีกด้วย"ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารองค์กรแจกแจง
สำหรับบรรยากาศในการประมูลนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน ซึ่งก็มีคนดังในหลายวงการให้ความสนใจ ทั้งนี้ นาง สุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร หรือ "เจ๊เกียว" ก็ได้ข้าร่วมประมูลด้วย โดยสามารถประมูลเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส350 แอล พระราชพาหนะหมายเลข 2 ของกษัตริย์บรูไนดารุสลาม ราคา 11.2 ล้านบาท จากราคาเริ่มต้น 10. 5 ล้านบาท
นางสุจินดากล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมงานประมูลมหากุศลครั้งนี้ ซึ่งพระราชพาหนะทุกคันเป็นรถที่ดีทั้งหมด โดยพระราชพาหนะที่ประมูลได้จะนำไปไว้ที่ โชว์รูมเมอร์เซเดส-เบนซ์ เชิดชัย แมคคินน่า จังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นสิริมงคล ของครอบครัว และ ประชาชนชาวโคราชต่อไป
ส่วนพระราชพาหนะของเจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นำเกล วังชุก มกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรภูฎาน ซึ่งคนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ประมูลได้ในราคา 11.1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากรถทั้งหมด 40 คัน สามารถประมูลออกไปได้ 30 คัน แบ่งเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส350 แอล 18 คัน จากจำนวน 28 คัน และ อี220 ซีดีไอ ครบทั้ง 12 คันมี โดยมียอดรวมทั้งสิ้น 234,380,000 ล้านบาท(สองร้อยสามสิบสี่ล้านสามแสนแปดหมื่นบาท) โดยหลังจากหักราคารถจะได้เงินทูลเกล้าถวายเบื้องต้น ประมาณ 5.78 ล้านบาท ทั้งนี้ รุ่นเอส - คลาส ที่เหลือ 10 คัน จะถูกส่งไปตามผู้แทนจำหน่ายของ บริษัท เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ ต่อไป ซึ่งราคาจะสูงกว่าราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านในงานประมูลอีกด้วย
ทั้งนี้ พระราชพาหนะที่ประมูลได้ราคาสูงสุดเป็นของพระราชอคันตุกะจากญี่ปุ่น ราคา 11.85 ล้านบาท โดย บริษัท เบนซ์ราชครู จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รายใหญ่ ซึ่งจากงานดังกล่าว บริษัท เบนซ์ราชครู สามารถประมูลได้รวม 4 คัน โดยเป็นรุ่น เอส350 แอล ทั้งหมด
นายเอกพงษ์ จินดาสมัย กรรมการบริษัท เบนซ์ราชครู จำกัดซึ่งเป็นตัวแทนเข้าร่วมประมูล เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนของลูกค้าที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของพระราชพาหนะ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้