xs
xsm
sm
md
lg

ดับเครื่องชนทักษิณ (4)

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

จดหมายถึงคำตา แคนบุญจันทร์ และทักษิณ

โคราช 18 กรกฎาคม 2549

คำตา เพื่อนรัก

จดหมายนี้มีมาถึงคำตา แต่ถ้าทักษิณได้อ่านด้วย เราจะดีใจมาก ทักษิณเพื่อนที่หายสาบสูญของเรานะ มิใช่สมเด็จทักษิณเจ้าชีวิตของเนวิน และนายเหนือหัวของคาราวานคนจน

คำตาอย่าเพิ่งโกรธเราที่ใช้คำว่านายเหนือหัว เรารู้ดีว่าคำตาเทิดทูนความเสมอภาค

ความเสมอภาคนี้เป็นของยากยิ่งในสังคมไทย เพราะความแตกต่างทางเศรษฐกิจสังคมและลัทธิหวังพึ่ง ก็อย่างที่คำตาเห็นพ่อลูกผูกขาดระเบิดหิน กำนันชัยกับเนวิน กลายเป็นเทวดาบุรีรัมย์บ้านคำตานั่นแหละ

แต่ก่อนนี้เจ้านายเหนือหัวเหนือชีวิตของคนไทยมีอยู่คนเดียว คือ พระเจ้าแผ่นดิน ต่อมาเจ้าพ่อกับข้าราชการและนักการเมืองเข้ามาแทนที่ มันกลับทำตัวใหญ่กว่าในหลวงเสียอีก เพราะมันไม่มีทศพิธราชธรรม

เมื่อเราหนีตายไปอยู่สวีเดน จึงรู้ว่าประเทศที่มีความเสมอภาคที่สุด คือประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ ทั้งเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน ผู้คนมีรายได้และฐานะใกล้เคียงกัน มีบริการและสวัสดิการจากรัฐเท่าเทียมกัน ไม่ว่าอยู่ไกลหรือใกล้ ในกรุงหรือบ้านนอกคนบ้านนอกหรือแม้แต่ผู้ลี้ภัยอย่างเรา ก็มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับผู้อื่น เราเลยเข้าใจความดีของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และฝันจะเห็นบ้านเกิดของเราเป็นอย่างนั้นบ้าง

ที่นี่เขาดูถูกประเทศทุนนิยมสุดโต่ง วางก้ามเบ่งอำนาจ แต่ปล่อยให้ประชาชนไร้บ้านนอนกลางถนน ความปลอดภัยก็ไม่มี รายใต้ของผู้คนก็เหลื่อมล้ำกันราวฟ้ากับดินก็อเมริกา ประเทศแม่แบบในฝันของพันโททักษิณนั่นแหละ

เราว่าเมืองไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์อันประเสริฐ หากเราเคารพพระราชอำนาจ ตามหลักรัฐธรรมนูญและจารีตประชาธิปไตย ในหลวงจะคุ้มครองราษฎรให้มีความเสมอภาคตามกฎหมาย รัฐบาลจะใช้อำนาจที่ผิดๆ ดังต่อไปนี้ หาได้ไม่

(1) สั่งฆ่าคนซะซายโดยมิต้องคอยศาลพิพากษา (2) ทำสัญญากับประเทศอื่นๆให้เอาหอมหัวใหญ่ กระเทียม ถั่วเหลือง พริกหรือมะเขือเทศและแม้แต่งัว ราคาถูกกว่ามาแย่งตลาดชาวนาไทย แบบการค้าเสรี FTA (3) ให้ประเทศที่ร่ำรวยมาตั้งธนาคาร บริษัทประกันภัย บริษัทนอมินีกว้านซื้อขายที่ดิน อีกหน่อยเรือกสวนไร่นาของพวกเราจะไม่มีเหลือ (4) ขายทรัพย์สินที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติหรือรัฐวิสาหกิจให้กับทุนใหญ่ต่างประเทศและพวกพ้องของตนอย่างเป็นล่ำเป็นสัน (5) จะตั้งใครเป็นอะไรก็ได้โดยมิคอยพระบรมราชโองการ

นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างของการละเมิดพระราชอำนาจที่ในหลวงมีไว้ปกปักรักษาราษฎรของพระองค์ แต่นายกรัฐมนตรีมาใช้อำนาจเหล่านี้ เสียเองโดยไม่ผ่านศาล หรือรัฐสภา หรือพระปรมาภิไธยตามกรณี

พวกเราบางคนหลงดีใจว่าลูกหลานกลัวหัวหดลดเลิกยาเสพติด มันบ่จริงดอก ซ้ำหลายครอบครัวพากันเสียลูกหลานผู้บริสุทธิ์ เพราะถูกกลั่นแกล้งและเจ้านายต้องการทำสถิติ ไม่มีสิทธิไปร้องหาความเป็นธรรมที่ไหน หากเคารพพระราชอำนาจในหลวงตามระบอบประชาธิปไตย รัฐบาล จะใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างนี้บ่ได้ดอก

คำตาเป็นคนหนองกี่ บุรีรัมย์ เราเป็นคนชัยภูมิ เราเคยภูมิใจลูกบ้านเราที่ได้ดีและทำความดี เช่น ท่านผู้ว่าฯ พร อุดมพงศ์ ของบุรีรัมย์ ท่านอธิบดีโพธิ์ จรรย์โกมล ลุงของ ส.ส.เจริญ จรรย์โกมลจากชัยภูมิที่เคยช่วยเหลือคำตามา

เราคิดถึงบ้าน ตั้งใจจะกลับมาตายเมืองไทย ตอนอยู่สวีเดนได้ดูเอเอสทีวีก็อยากกลับมาเห็นด้วยตาตนเอง กลับมาแล้วก็ยิ่งไม่สบายใจ ที่บ้านเราข่าวสารถูกปกปิดไม่ถึงชาวบ้าน จึงมองไม่เห็นว่า การดำเนินงานหลายๆ อย่างของรัฐบาลใน 4-5 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะเบี่ยงเบนออกจากการเทิดทูนพระมหากษัตริย์และระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมากขึ้นทุกที

ชาวบ้านต่างก็ดีใจที่ได้ไอ้โน่นไอ้นี่เล็กๆ น้อยๆ ที่รัฐบาลโยนมาให้ คนที่ยังไม่ได้รับก็รอคอย หวังว่าถึงได้ช้า สักวันหนึ่งก็จะได้มากกว่าเดิม เลื่องลือกันไป ไม่ต่างกับคอยผีบุญตอนที่เรายังเป็นเด็ก

ทีแรก เราได้อ่านข่าวคำตานำคาราวานคนจนเข้ากรุงเทพฯ เราภูมิใจมาก เพราะยังไม่รู้รายละเอียด พอเรากลับมาได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และได้อ่านเอกสารเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ เราก็ใจหายวาบ

แนวทางหรือยุทธศาสตร์ 5 อย่างของพรรคไทยรักไทย มันไม่เป็นประชาธิปไตย และขัดกับระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแรงทั้ง 5 อย่าง ได้แก่ (1)การมุ่งสร้างระบบพรรคการเมืองพรรคเดียว เพื่อให้การเมืองนิ่งแบบสิงคโปร์ (2)การทำให้ข้าราชการกลายเป็นพนักงานของรัฐ ใต้อำนาจของซีอีโอที่ขึ้นตรงต่อพรรค (3) การแปลงทรัพย์สินของชาติให้เป็นทุนของนายทุน (4) การทำให้สถาบันกษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ และ (5) การเอาใจคนจนทุกรูปแบบที่เรียกว่าประชานิยม เพื่อซื้อน้ำใจและความจงรักภักดีออกจากอำนาจหรือบารมีเก่า

เราได้ติดตามข้อที่ (4) เป็นพิเศษ คือการทำให้สถาบันกษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์เราแน่ใจว่าชาวบ้านพี่น้องของพวกเราอาจจะไม่ได้รู้หรือไม่ได้ฟัง จะพลอยเฮโลหลงผิดตามรัฐบาลไปง่ายๆ เราจึงเงี่ยหูฟังผู้หลักผู้ใหญ่เป็นที่เคารพนับถือในประเทศ

ท่านที่หนึ่ง คือ ท่านหลวงตามหาบัว ท่านพร่ำเตือนทักษิณอย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว กำเริบเสิบสานอยากเป็นประธานาธิบดี วันนี้ หลวงตาเทศนาเรื่อง “เรามองคนผิดจริงๆ” โดยตอนหนึ่งหลวงตามหาบัวได้กล่าวถึง “กรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังจะบีบบังคับพระเจ้าอยู่หัวให้ลงพระปรมาภิไธยเอกสาร เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไป ซึ่ง เป็นการกระทำของมหาโจรทำลายชาติ ให้หยุดการกระทำที่เลวสุดยอดนี้เสีย และยอมรับว่าเราเคยเป็นอาจารย์ของทักษิณ แต่ก็ถูกทักษิณเหยียบหัวไปแล้ว”

คนที่ 2-3 ได้แก่ปัญญาชนสำคัญคือ ส.ศิวลักษณ์ กับนพ.ประเวศ เราอ่านจากปาฐกถาตอนหนึ่งของ ส.ศิวลักษณ์ มีข้อความรุนแรงมากว่า ถ้าทักษิณอยู่ต่อไป สถาบันกษัตริย์จะหมด หมอประเวศอ้างคำพระของท่านอาจารย์พุทธทาสแปลเป็นภาษาโลกว่า “กูไม่เอามึงแล้ว” 2-3วัน ที่ผ่านมา หมอได้ออกมาเตือนสติสังคมไทยอย่างลุ่มลึกอีกครั้ง โดยวินิจฉัยอาการผิดปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่ามีอาการดิ้นรน มองว่าความทุกข์ของตนเองมาจากคนอื่น ในทางการแพทย์เรียกว่า “สมองตกบ่วง” หรือ Amygdala มองไม่เห็นความจริงว่าปัญหาที่มีอยู่เกิดมาจากตัวเอง แต่จะหันไปโทษคนอื่น คุณหมอไม่อยากให้สังคมไทยเผลอตัวไปหลงการตลาดของทักษิณ ปล่อยให้ทักษิณลอยชายต่อไปโดยไม่ติดตามเอาออก ประเทศชาติจะเสียหายหนักขึ้นๆ

คนที่ 4 เป็นมือการข่าวอาชีพ ทำงานกรมประมวลมาตั้งแต่จบ จนกระทั่งได้เป็นเบอร์หนึ่งในสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติอยู่ 10 ปี เกษียณไปในปี 2544 คุณภุมรัตน์ ทักศาดิพงศ์ เป็นห่วงประเทศจนทนไม่ได้ โดดออกมาเตือนตรงๆ ว่า อย่าเสียเวลาเฝ้าติดตามคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกับรัฐบาลอยู่เลย อันตรายที่แท้จริงของบ้านเมืองอยู่ที่คนบางคนพยายามทำให้สถาบันเปลี่ยนผ่านเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ต้องจับตาดูคนพวกนี้ให้ดี

เราเลยเห็นชัดว่า บุคคลที่พูดและกระทำหลายๆ อย่างที่จะทำให้ในหลวงกลายเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น คือ คนที่คำตาพาคาราวานไปสนับสนุนนั่นเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน

ไม่เชื่อคำตาลองไปถามใครก็ได้ที่เป็นสมาชิก สโมสรสิบเก้า ที่จัดหาคนมาสมทบกับคาราวานคนจนของคำตานี่แหละ คำตารู้จักทั้งนายกสโมสรและผู้อุปถัมภ์สโมสรดีทุกคน เราเคยเข้าป่า ถึงคำตาจะไม่เคยเข้าป่า คำตาก็รู้ใช่ไหมว่าสมาชิกสโมสรทั้งหมดเป็นอดีตทหารป่าสายอีสานใต้ ที่กลายมาเป็นมวลชนประชาธิปไตย กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป อยู่ในรัฐบาลหลายคน นั่งใน ครม.ก็มี

คำตาเอ๋ย เราเริ่มเบาใจที่คำตาประกาศชะลอการนำคาราวานเข้ากรุงเทพฯ เพราะเป็นฤดูทำนา ซ้ำคำตายังให้สัมภาษณ์เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณจาบจ้วง “บุคคลผู้ดูเหมือนจะมีบารมี นอกรัฐธรรมนูญ” ว่าไม่ทราบ แต่ทราบว่าคำพูดเป็นนายคน เราพบอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อาจารย์ฝากบอกว่ายังมีศรัทธาในตัวคำตาเหมือนเดิม ไม่เสียแรงเปล่าดอกที่สัมมนากันมา 40-50 ครั้ง สักวันหนึ่งคำตาก็ต้องกลับมา คำตาอาจจะทำสมัชชาเกษตรพอเพียงทั่วอีสานก็ได้ เหมือนกับบำรุง คะโยธา ที่ไปสร้าง อบต.พอเพียง ไม่ยอมฟังคำสั่งเกณฑ์ของผู้ว่าตาขาว ให้ไปฟังทักษิณแก้ตัวที่วัดธรรมกาย

แล้วทักษิณก็แก้ตัวจริงๆ ซัดคนอื่นหมด ศาลก็ไม่มีวุฒิภาวะ สภาก็ไม่มีวุฒิภาวะ ฝ่ายบริหารก็ไม่มีวุฒิภาวะ ข้ามีวุฒิภาวะอยู่คนเดียว อย่างนี้เท่ากับทักษิณปะทะพระราชดำรัสที่ร้องขอศาลให้ช่วยแก้ปัญหาโดยตรง ได้ยินว่าศาลถูกกดดันข่มขู่เป็นการใหญ่ ส่วนการว่าสภากับฝ่ายบริหารก็เท่ากับประจานตัวเองนั่นแหละ เพราะตัวเองคุมเข้มอยู่ตั้ง 5 ปี วุฒิภาวะยังต่ำต้อยอยู่อย่างนี้ก็ต้องโทษตนเองว่าไร้ฝีมือและขาดความเป็นผู้นำที่ดี เป็นโรคสมองตกบ่วงอย่างที่คุณหมอว่าไม่ผิด

แล้วทักษิณก็โกหกอีก เป็นครั้งที่หนึ่งพัน ให้มหาดไทยไปเกณฑ์ อบต.มา บอกว่าจะทำพิธีทางศาสนาเป็นราชบูชา รับรองไม่มีการเมือง ที่แท้ก็หลอกเขามาฟังคำแก้ตัวและโจมตีคนอื่น และส่งสัญญาณว่าตนจะสู้ตาย ราวกับจะบีบให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธยให้เลือกตั้งได้ตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาตนคนเดียว

เรื่องทักษิณจาบจ้วงในหลวงสไตล์นี้ ขอคำตาได้โปรดทำใจเปิดกว้างคิดดูให้ดี การฉ้อฉลเอางบเครื่องบินราชพาหนะ การกระทำผิดกาลเทศะไปนั่งใส่เสื้อแขนสั้นทำพิธีในโบสถ์วัดพระแก้วเกือบจุดเดียวกับที่ประทับ การออกมาขู่ศาลทางอ้อมว่าเสือจะขบหัวคนถือไม้ การเบ่งว่าให้ในหลวงมากระซิบที่หู อันนี้มันช่างเหิมเกริมไร้สำนึก แม้แต่กรมพระนราธิวาสฯ พระพี่นางฯ ยังต้องถวายบังคมในหลวง เข้าไปกระซิบที่หูบ่ได้ ทักษิณเป็นใครมาจากไหน และครั้งสุดท้ายการจาบจ้วงบุคคลผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แถมยังส่งสำเนาแจกจ่ายไปทั่วทีป ทั้งๆ ที่มีคนออกมาคัดค้านมากมาย เท่านั้นยังไม่พอ ยังเขียนจดหมายไปฟ้องบุชและผู้นำต่างประเทศเสียอีก มันแปลเป็นอย่างอื่นบ่ได้ดอก นอกจากมันไม่เคารพในหลวง

การที่มันเกณฑ์คนเข้ามากรุงเทพฯ ล้นหลามอย่างนี้ ก็บ่มีหยังดอก นอกจากอยากอวดศักดา ว่าข้าก็มีคนจงรักภักดีทั่วแผ่นดิน ความจริงลึกข้างในเป็นอย่างไรคำตาก็รู้

ถ้าจะให้ดีจริงๆ เราอยากให้คำตาปรับกระบวนรบใหม่ กลับไปสู่สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสานอย่างเดิม แล้วพากันไปเยี่ยมศาลากลางทุกจังหวัด เพื่อบอกผู้ว่าราชการจังหวัดว่า “ต่อไปนี้ อย่าเกณฑ์ ต่อไปนี้ ไม่ไป ไม่เอา ด้ามวันละ 200 บาทกับไก่ทอดวันละ 3 ชิ้น ไม่เอา จะพากันไปสร้างเกษตรพอเพียงดีกว่า” แล้วขอให้ผู้ว่าฯ ไปแทน ไปบอกความจริงว่า บัดนี้ทั้งผู้ว่าฯ และประชาชนตาสว่างแล้ว ผู้ว่าฯ เป็นข้าราชการของในหลวง จะไม่ปฏิบัติการตามคำสั่งที่มิชอบของพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท คอยดูซิว่าเสนาหมากขี้กาพวกนี้จะหายจากโรคกืกสักกี่คน

คำตาเอ๋ย บ่ได้พ้อกันโดน เราจะต้องคุยกับคำตาอีก เรื่องการเลือกตั้งที่ทำลายประชาธิปไตย เรื่องการแสวงจุดร่วม-สงวนจุดต่างที่เราเคยคุยกันบ่รู้จบ และเรื่องประเทศชาติจะล้มเหมือนสหกรณ์การเกษตรดอนอารางไม่ได้

คอยจดหมายฉบับที่ 2 ของเราเด๊อ ว่างๆ ก็คิดเรื่องการไล่ทักษิณช่วยกันหน่อย

“จากเพื่อนผู้ที่รักและศรัทธาคำตา”
กำลังโหลดความคิดเห็น