xs
xsm
sm
md
lg

โชวห่วย 10 จว.ต้านห้างยักษ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โชวห่วยร่วม 10 จังหวัดก่อตัวเป็น"สมาพันธ์ต้านห้างค้าปลีกข้ามชาติ" ลั่นเดินหน้าต้านทุกรูปแบบ ระบุชัด "โลตัส" เข้าพื้นที่ใดค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นล้มระนาว "พันธุ์เทพ สุลีสถิร" ฝ่ายประสานงานสมาพันธ์ฯ จี้ มท.แก้ปัญหา ไม่ควรปล่อยให้ท้องถิ่นบริหารงานเอื้อประโยชน์ให้แก่ห้างยักษ์ทุนนอกเพียงฝ่ายเดียว "นายก ส.การค้าส่ง-ปลีกไทย"หวั่นวิกฤตเศรษฐกิจเจ้าของที่ดินเทขายที่ให้เชนโมเดิร์นเทรดข้ามชาติผุดสาขาเป็นดอกเห็ด เตือนโชวห่วยรับมือ เผยปี 49 โมเดิร์นเทรดทุมงบฯอีก 1.3 หมื่นล้านขยายสาขา-รีโนเวต"ยูนิลีเวอร์"ซ้ำเติมโชห่วยตายรอบสอง

กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ข้ามชาติที่มีโครงการจะเข้าไปเปิดสาขา ในแต่ละท้องถิ่นตามตัวอำเภอ จังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะ "เทสโก้ โลตัส" ได้มีการรวมตัวกันขึ้นเป็นรูปธรรมเพื่อเดินหน้าคัดค้านห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็นทุนนอกข้ามชาติเหล่านี้แล้ว ภายใต้ชื่อ "สมาพันธ์ต้านค้าปลีกข้ามชาติ"

โดยแกนนำประกอบด้วย นายพันธุ์เทพ สุลีสถิร ส.อบจ.อ่างทอง, นายอำนาจ สิงห์รื่นเริ่ง ตัวแทนผู้ค้าชาวตลาดศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง, นายกิติรัตน์ ภัทรปรีชาสกุล ส.อบจ.นครสวรรค์, นายชัยรัตน์ ทรัพย์วรนิช ตัวแทนผู้ค้าชาวตลาดตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์, นายสุรพงษ์ นิ่มตระกูล ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากทุนนอก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่, นางเพียงใจ โรจนสิทธิวิไล ตัวแทนผู้ค้าชาว จ.สระบุรี และนายพิสิทธิ์ ตั้งอิทธิศักดิ์ ตัวแทนผู้ค้าชาว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ยังมีตัวแทนผู้ค้าอีกหลายจังหวัด อาทิ พระนครศรีอยุธยา, ลำพูน, กระบี่, ชัยนาท, สุพรรณบุรี และ อ.พล จ.ขอนแก่น

***ลั่นเดินหน้าต่อต้านทุกรูปแบบ***

นายพันธ์เทพ สุลีสถิร ในฐานะผู้ประสานงานสมาพันธ์ต้านค้าปลีกข้ามชาติ เปิดเผยว่า การรวมตัวของกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นเพื่อต่อต้านห้างค้าปลีกข้ามชาติ โดยเฉพาะห้างโลตัส ครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวกันเป็นครั้งแรก แม้เบื้องต้นจะมียังไม่มากนัก แต่เชื่อว่าต่อไปจะมีผู้มาร่วมมากขึ้น เพราะขณะนี้ได้มีการประสานงานมายังตนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว โดยพวกเราจะร่วมมือกันต่อต้านทุกวิถีทาง

สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวของสมาพันธ์ฯนั้น นายพันธุเทพบอกว่า จะมีการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวกันเดือนละครั้ง โดยจะเดินทางไปประชุมในแต่ละพื้นที่ที่ห้างค้าปลีกข้ามชาติเหล่านี้จะไปเปิดสาขา โดยหมุนเวียนกันไปเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว

นอกจากนี้ จะมีการสัมมนาอาจจะเป็นเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้งตามแต่โอกาส โดยจะเชิญนักวิชาการที่มีความรู้มาให้ข้อมูล พร้อมจะเชิญชวนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในแต่ละพื้นที่ที่ห้างค้าปลีกข้ามชาติ ทั้งที่กำลังจะมีโครงการเข้าไปเปิดสาขา หรือที่เปิดสาขาไปแล้วเพื่อมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ห้างค้าปลีกข้ามชาติเหล่านี้เข้าไปเปิดแล้ว เราจะเชิญเขามาให้ข้อมูลต่อรัฐบาลว่าที่ผ่านมาพวกได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

***จี้มหาดไทยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ***

ส่วนการยื่นหนังสือต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้นั้นตอนนี้คงต้องยุติไว้ชั่วคราว เพราะจะต้องรอมติจากที่ประชุมสมาพันธ์ฯก่อนว่า จะมีการเคลื่อนไหวกันอย่างไร โดยเฉพาะการเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวงในการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้แก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เทศบาล และ อบต. บริหารงานเอื้อประโยชน์ให้กับห้างค้าปลีกข้ามชาติเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนและผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยในท้องถิ่น

นายพันธุ์เทพกล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทข้ามชาติด้านธุรกิจค้าปลีกได้เข้ามาลงทุน เปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ขึ้นในท้องที่ตลาดบ้านของเรา กระจัดกระจายไปทั่วเกือบจะทุกอำเภอแล้ว โดยอ้างเหตุผลเพียงว่าเพื่อความเจริญก้าวหน้าของท้องถิ่น แต่เสียงคัดค้านห้างเหล่านี้จะยืนหยัดไปได้อีกนานแค่ไหน จะต้านกระแสเงินตราตัวเลขที่บริษัทข้ามชาติพยายามมาอ้างเพื่อคำว่าเศรษฐกิจได้หรือไม่ และแน่นอนถ้าเสียงคัดค้านเหล่านี้เงียบลงเมื่อไร ความเสียหายก็จะบังเกิดกับบ้านเราทันที และเกิดกับชนชั้นทุกระดับด้วย

"ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงต้องออกมารวมตัวกันเพื่อคัดค้านการเกิดของห้างข้ามชาติเหล่านี้ เพราะถ้าปล่อยให้แต่ละท้องถิ่นเคลื่อนไหวคัดค้านกันเองคงไม่ไหวแน่ เนื่องจากไม่มีพลังเพียงพอ การรวมตัวครั้งนี้จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นพลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อท้องถิ่นของพวกเราคนไทยทั้งประเทศ " นายพันธุ์เทพกล่าว

***อัดการค้าเสรีคือระบบสัตว์ล่าเนื้อ***

นายชัยรัตน์กล่าวว่า ระบบการค้าเสรีภายใต้ทุนนิยมก็คือ ระบบสัตว์ล่าเนื้อ คือ สัตว์ใหญ่มีเสรีในการล่าตามกฎหมาย สัตว์เล็กมีเสรีในการหนีสุดชีวิต ถ้าหนีทันก็รอด ถ้าหนีไม่ทันก็ถูกกิน ในหลายมุมโลกที่มีระบบการค้ารวมศูนย์หากดูแล้วคึกคัก แต่ต้องเข้าใจว่าคนท้องถิ่นหรือประชากรของประเทศนั้นจริงๆ มักเป็นลูกจ้าง เช่น เป็นเด็กรับรถ เปิดประตู ขนของในศูนย์การค้าหรือโรงแรมของต่างชาติที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่ครั้งหนึ่งที่ดินผืนนั้นเคยเป็นของพ่อแม่เขา ดังนั้น พวกเราจะต้องรวมตัวกันต้านเพื่ออนาคตของลูกหลานเรา

นายกิติรัตน์กล่าวว่า การรวมตัวของค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นครั้งนี้ จะทำให้เรามีพลังมากขึ้นในการต่อต้านห้างค้าปลีกข้ามชาติที่นับวันจะขยายวงกว้างเข้าไปในท้องถิ่น โดยห้างเหล่านี้จะมากำหนดทุกอย่างในบ้านเรา มีการตั้งเป้าขยายกิจการทุ่มงบฯลงไปในแต่ละปีจำนวนมหาศาล เพื่อหวังขยายสาขาเข้าไปในทุกพื้นที่

"ที่ผ่านมาไม่มีจังหวัดไหนต้านได้สำเร็จ ไม่มีใครต้านทานห้างเหล่านี้ได้ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง เช่น ในตัวเมืองนครสวรรค์ ตลาดเมืองชลบุรี สระบุรี ชัยนาท จันทบุรี และอีกหลายพื้นที่ ตอนนี้เงียบยังกับป่าช้า โชวห่วยปิดกิจการกันไปเป็นแถว คนตกงานไม่รู้เท่าไร" นายกิติรัตน์ กล่าว

***โชวห่วยเตรียมตายรอบสอง***

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า จากการที่ พ.ร.บ.ผังเมืองฉบับปี 2518 ที่ใช้บังคับในปัจจุบัน ระบุให้มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล ผลดังกล่าวทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเชนโมเดิร์นเทรดข้ามชาติได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินในหลายจังหวัดได้ เนื่องจากผู้บริหารท้องถิ่นไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์ ส่งผลให้โชห่วย หรือยี่ปั๊ว ในจังหวัดต่างๆ ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจช่วงปี 2540 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นยุคที่โมเดิร์นเทรดข้ามชาติเข้ามาเปิดกิจการในไทยกันมาก ส่งผลให้ช่วงปี 2541-43 กระทั่งห้างสรรพสินค้าใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจของคนไทยในกรุงเทพฯ และเปิดดำเนินกิจการมานานรวมทั้งแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดขึ้น ได้แก่ ตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู พาต้า เมอร์รี่คิงส์ บางสาขาต้องปิดกิจการลง เนื่องจากมีโมเดิร์นเทรด มาเปิดสาขาอยู่ใกล้ เช่น กรณีบิ๊กคิงส์ ของเมอร์รี่คิงส์ ที่บางใหญ่ ตั้งฮั่วเส็ง ที่บางพลี บางลำพูสรรพสินค้าที่งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นไปได้ว่าวิกฤตโชห่วยจะเกิดขึ้นเป็นรอบที่สองอีกครั้ง

ดังนั้น ผู้บริหารระดับท้องถิ่นจะอนุญาตให้เชนโมเดิร์นเทรดมาตั้งสาขาได้ในแต่ละพื้นที่ จะต้องทำประชาพิจารณ์คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนนั้นก่อน ขณะที่คนในเทศบาลจะต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีอย่างนี้โอกาสที่เจ้าของที่ดินจะขายที่ดินก็มีความเป็นไปได้สูง นอกจากนี้โชห่วยจะต้องปรับตัวตั้งรับ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือร่วมกับซัปพลายเออร์ให้มากขึ้นหรือบริหารพื้นที่ชั้นวางให้เป็นระเบียบ แต่คงไม่ต้องถึงขนาดปรับตัวสู่รูปแบบร้านค้าสะดวกซื้อ

***ค้าปลีกนอกทุ่มอีก1.3หมื่นล.***

"ผู้จัดการรายวัน" ได้รวบรวมแผนการขยายสาขาของเชนโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ในประเทศไทยทั้งหลาย พบว่า ยักษ์ใหญ่อย่างเทสโก้ โลตัส ปูพรมลุยทุกรูปแบบด้วยงบประมาณกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนที่สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วที่ใช้เพียง 5,000 ล้านบาท โดยการลงทุนหลักๆ จะยังคงเป็นการขยายสาขาธุรกิจค้าปลีกทุกรูปแบบของเทสโก้ ให้ครอบคลุมตลาดมากที่สุด รวมทั้งทำการตลาดโปรโมชั่นต่างๆ

งบดังกล่าวจะทำการขยายสาขาของ เทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต จะเปิดอีกประมาณ 4-5 สาขาในปีนี้ ล่าสุดเพิ่งเปิดสาขาที่หัวหิน รูปแบบแวลู คาดว่าจะเปิดอีก 5 สาขา และเปิดที่ จ.พะเยา รูปแบบตลาดสดโลตัส จะเปิดอีก 10 กว่าสาขา และรูปแบบเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส จะเปิดอีก 100 กว่าสาขา

ขณะที่ในปีนี้บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ ทุ่มงบกว่า 3 พันล้านบาทในการเพิ่มสาขาและรีโนเวต แบ่งเป็นเปิดสาขาใหม่ 4 แห่งได้แก่ จ.แพร่ ราชบุรี และปลายปีนี้เปิดอีก 2 แห่งใช้งบ 2,000 ล้านบาทและงบรีโนเวตสาขาเดิม 1,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของซูเปอร์เซ็นเตอร์ หรือทาวน์เซ็นเตอร์และพื้นที่ให้เช่าต่างๆ เพราะการปรับปรุงสาขาเดิมนั้นปกติจะคืนทุนจากเงินที่รีโนเวตไปประมาณ 3.5 ปีและจะสามารถทำเงินได้เพิ่มขึ้นประมาณ 30%

ส่วนคาร์ฟูร์ ปีนี้เตรียมงบอีก 3,000 ล้านบาท โดยวงเงินลงทุนนั้นหากเป็นรูปแบบใหญ่ลงทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนรูปแบบเล็กลงทุนประมาณ 300 ล้านบาทต่อสาขา ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือนจึงแล้วเสร็จ ในปีนี้คาดว่าจะเปิดรูปแบบเล็กได้ประมาณ 3-4 สาขาอยู่ระหว่างการพิจารณาทำเลและเจรจากับเจ้าของพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น
ด้านแม็คโคร คาดว่าจากนี้จะเปิดอีกประมาณ 2 สาขา
กำลังโหลดความคิดเห็น