ท็อปส์ไม่หวั่นเศรษฐกิจ ยังคงเดินหน้าเปิดท็อปส์เดลี่ตามเป้าที่วางไว้ 10 สาขาในปีนี้ ล่าสุดเตรียมเปิดสาขา 3 ที่เชียงราย ส่วนกรุงเทพฯคาดไตรมาส 3 เห็นแน่ ส่วนความร่วมมือกับปั้มสตาร์มาร์ทยังอ้ำอึ้ง เบนเข็มจับฐานสมาชิกเพิ่มยอด ล่าสุดจับมือยูนิลิเวอร์ ชูกลยุทธ์มาร์เก็ตติ้ง ลองเทอม ครั้งแรก หวังเพิ่มฐานสมาชิกเป็น 3 ล้านรายสิ้นปีนี้ มั่นใจยังมีการเติบโต 15 % ตามเป้า
นางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารจัดซื้อและการตลาดบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา บริษัทฯยังคงมีความมั่นใจว่า กำลังซื้อส่วนใหญ่ยังคงให้การตอบรับที่ดีอยู่ อาจเป็นเพราะสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและอาหาร ทำให้ยอดขายยังคงเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นบริษัทฯมีรายได้เป็นไปตามเป้า
ดังนั้นแผนการเปิดโมเดลท็อปส์เดลี่ที่วางไว้ว่าจะเปิด 10 สาขาในปีนี้นั้น จึงจะยังคงเป็นไปตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยในขณะนี้เปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ อ่างทอง และเชียงราย ล่าสุดกำลังจะเปิดอีก 1 สาขากลางเดือนนี้ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงราย และในช่วงไตรมาสสามนี้ยังเปิดในกรุงเทพฯอีกด้วย
การที่สามสาขาแรกของท็อปส์เดลี่เปิดที่ต่างจังหวัดนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าท็อปส์เดลี่อาจจะเป็นโมเดลสำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัด แต่นางจิรนันท์ ได้กล่าวว่า การที่ท็อปส์เดลี่เปิดตัวในต่างจังหวัดก่อนนั้น เนื่องจากพาร์ทเนอร์ในต่างจังหวัดส่วนใหญ่มีความมั่นใจในแบรนด์ของเราเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงแรกจึงอาจจะเห็นท็อปส์เดลี่เปิดแต่ในต่างจังหวัดก่อน อย่างไรก็ตามโมเดลดังกล่าวจะใช้ทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักอย่างทำเลและโอกาสในการที่จะเปิดในแต่ละที่ด้วย
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือกับร้านสตาร์มาร์ทในปั้มคาล์เท็กซ์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ต้องรอปรึกษากับทางผู้บริหารก่อน
อย่างไรก็ตามช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯจะหันมาเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น โดยจะมีการจัดแคมเปญใหญ่ประมาณ 4-5 แคมเปญต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ล่าสุดได้จับมือกับทางยูนิลิเวอร์ ตอกย้ำแบรนด์ลอยัลตี้ด้วยกลยุทธ์มัดใจลูกค้าสมาชิก จัดสรรงบการตลาดกว่า 25-30 ล้านบาท เปิดตัว “ SPOT Rewards Vitality Club by Unilever” ซึ่งถือเป็นมาร์เก็ตติ้งแคมเปญครั้งแรก ที่จับมือกับคู่ค้าในลักษณะลองเทอม เป็นระยะเวลากว่า1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 สิ้นสุดแคมเปญวันที่ 30 มิ.ย.2550
โดยกลยุทธ์ดังกล่าว ถือเป็น กลยุทธ์ CRM ล่าสุด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ได้แก่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์, มาร์เก็ตเพลส บาย ท็อปส์ และ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติประมาณ 20 % และเพิ่มฐานจำนวนสมาชิกที่มีอยู่เดิม 2.7 ล้านราย เป็น 3 ล้านรายในสิ้นปี
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมั่นใจว่าทั้งปีจะเติบโต 15% ตามที่วางไว้ โดยรายได้หลักกว่า 80% จะมาจากฐานลูกค้าสมาชิก และอีก 20% เป็นลูกค้าทั่วไป ทั้งนี้บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากสมาชิกจะเพิ่มเป็น 90% ได้ในอนาคต ในขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายของสมาชิกต่อคนเฉลี่ยอยู่ที่ 550 บาทต่อครั้ง โดยมีความถี่ในการใช้จ่ายประมาณ 2-3 ครั้งในแต่ละเดือน
นางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารจัดซื้อและการตลาดบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา บริษัทฯยังคงมีความมั่นใจว่า กำลังซื้อส่วนใหญ่ยังคงให้การตอบรับที่ดีอยู่ อาจเป็นเพราะสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและอาหาร ทำให้ยอดขายยังคงเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นบริษัทฯมีรายได้เป็นไปตามเป้า
ดังนั้นแผนการเปิดโมเดลท็อปส์เดลี่ที่วางไว้ว่าจะเปิด 10 สาขาในปีนี้นั้น จึงจะยังคงเป็นไปตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยในขณะนี้เปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ อ่างทอง และเชียงราย ล่าสุดกำลังจะเปิดอีก 1 สาขากลางเดือนนี้ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงราย และในช่วงไตรมาสสามนี้ยังเปิดในกรุงเทพฯอีกด้วย
การที่สามสาขาแรกของท็อปส์เดลี่เปิดที่ต่างจังหวัดนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าท็อปส์เดลี่อาจจะเป็นโมเดลสำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัด แต่นางจิรนันท์ ได้กล่าวว่า การที่ท็อปส์เดลี่เปิดตัวในต่างจังหวัดก่อนนั้น เนื่องจากพาร์ทเนอร์ในต่างจังหวัดส่วนใหญ่มีความมั่นใจในแบรนด์ของเราเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงแรกจึงอาจจะเห็นท็อปส์เดลี่เปิดแต่ในต่างจังหวัดก่อน อย่างไรก็ตามโมเดลดังกล่าวจะใช้ทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักอย่างทำเลและโอกาสในการที่จะเปิดในแต่ละที่ด้วย
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือกับร้านสตาร์มาร์ทในปั้มคาล์เท็กซ์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ต้องรอปรึกษากับทางผู้บริหารก่อน
อย่างไรก็ตามช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯจะหันมาเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น โดยจะมีการจัดแคมเปญใหญ่ประมาณ 4-5 แคมเปญต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ล่าสุดได้จับมือกับทางยูนิลิเวอร์ ตอกย้ำแบรนด์ลอยัลตี้ด้วยกลยุทธ์มัดใจลูกค้าสมาชิก จัดสรรงบการตลาดกว่า 25-30 ล้านบาท เปิดตัว “ SPOT Rewards Vitality Club by Unilever” ซึ่งถือเป็นมาร์เก็ตติ้งแคมเปญครั้งแรก ที่จับมือกับคู่ค้าในลักษณะลองเทอม เป็นระยะเวลากว่า1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 สิ้นสุดแคมเปญวันที่ 30 มิ.ย.2550
โดยกลยุทธ์ดังกล่าว ถือเป็น กลยุทธ์ CRM ล่าสุด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ได้แก่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์, มาร์เก็ตเพลส บาย ท็อปส์ และ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติประมาณ 20 % และเพิ่มฐานจำนวนสมาชิกที่มีอยู่เดิม 2.7 ล้านราย เป็น 3 ล้านรายในสิ้นปี
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมั่นใจว่าทั้งปีจะเติบโต 15% ตามที่วางไว้ โดยรายได้หลักกว่า 80% จะมาจากฐานลูกค้าสมาชิก และอีก 20% เป็นลูกค้าทั่วไป ทั้งนี้บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากสมาชิกจะเพิ่มเป็น 90% ได้ในอนาคต ในขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายของสมาชิกต่อคนเฉลี่ยอยู่ที่ 550 บาทต่อครั้ง โดยมีความถี่ในการใช้จ่ายประมาณ 2-3 ครั้งในแต่ละเดือน