xs
xsm
sm
md
lg

เราจะไม่อดตาย ถ้ายังมีสิงคโปร์อยู่

เผยแพร่:   โดย: ยอดธง ทับทิวไม้

เมืองไทยทุกวันนี้ เป็นของคนขายชาติขายบ้านขายเมือง สร้างความร่ำรวยให้แก่ตัวเอง กฎหมายเป็นเพียงมีไว้สำหรับเป็นเครื่องมือทำมาหากินของคนที่มีโอกาสจะหากินได้เท่านั้น ความยุ่งยากวุ่นวายจึงได้เกิดขึ้นไม่เคยหยุด

เมืองไทยทุกวันนี้ เดินทางมาถึงยุคที่คนไทยที่มีศีลธรรมจะต้องเข้าป่าเข้าพงไปไร่นา และที่ทำมาหากินไม่มีโอกาสจะเหลือเพราะถูกความเจริญของโจรปล้นไปสร้างความร่ำรวยและนำไปขายกันเกือบหมดทั้งชาติภายในเวลาไม่กี่ชั่วพริบตา ใครไม่เป็นนักการเมืองและไม่มีพรรคการเมืองที่โกหกหลอกลวงผู้คนจนร่ำรวย จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในเมืองไทยได้ ข้าราชการส่วนมากที่มีหน้าที่ดูแลตัวบทกฎหมายจะทำหน้าที่เป็นเพียงสุนัขที่ใช้ปลอกคอของนักการเมืองคล้องคออยู่เพื่อถูกใช้ทำมาหากินเกือบทั้งสิ้น

“มันอยากจะทำอะไร มันก็ทำตามใจมัน” คนขับแท็กซี่รายหนึ่งในซอยบ้านผมพูดอะไรต่ออะไรตลอดทางไปส่งผมที่สยามสแควร์ “บ้านเมืองวุ่นวายไปหมดทุกหนทุกแห่ง ตั้งแต่ยอดเขาลงไปถึงทะเลลึก คนไทยเรามีกี่คนที่กล้าโผล่ออกมาคัดค้านชี้แจง แล้วเราจะอยู่กันยังไงต่อไป”

“ก็ขายชาติกันต่อไปนะสิ” ผมตอบไปเรื่อยๆ “เรายังพอมีอะไรเหลือที่จะขายได้ไม่ใช่หรือ?”

แท็กซี่หัวเราะในลำคอ เขาบอกว่า “เหลือแต่วัดพระแก้ว และศาลหลักเมืองกระมังพอที่จะขายได้”


ผมหัวเราะไม่ออก ถึงแม้ว่าจะเป็นการพูดที่เกินความจริงไปก็ตาม แต่เราจะประมาทอะไรไม่ได้ในประเทศไทยและชาติไทยในตอนนี้ เพราะมันอยู่ในระยะเคราะห์ร้ายหนักที่โบราณเรียกว่า “อภิไธโพธิบาทว์” หรือเกิด “เสนียดจัญไร” ร้อยแปดขึ้นมาทำลายความมั่นคง เพราะว่าคนชั่วและพวกเสนียดจัญไรมันแย่งกันเข้ามาก่อกวนขนาดที่พระมหากษัตริย์ที่คนไทยเป็นล้านๆ คนให้ความเคารพบูชาสูงสุดก็หนีไม่พ้นจากการย่ำยีอย่างอุบาทว์ของพวกมัน

เมื่อเช้าวันที่ 9 กรกฎาคม ผมก็เจอเรื่องที่ไม่น่าเชื่อหรือไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ในที่สุดมันก็เป็น!

นั่นคือข่าวที่ว่ามีคนเอาเกาะสมุยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีไปขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั่นคือเกาะสมุยขายตั้งแต่ยอดเขาลงมาจนถึงทะเล

โอ... คุณพระช่วย!

ผมอัศจรรย์พันลึกกับข่าวนี้เหมือนจะช็อกขึ้นมาเฉยๆ อะไรทำนองนั้น

ประเทศนี้แย่ถึงขนาดที่จะมีการขายอะไรต่ออะไรกันจนหมดชาติ โดยไม่มีใครสนอกสนใจกันอย่างนั้นหรือว่าทุกอย่างมันพิกลพิการไปหมดแล้ว

มันขายทุกสิ่งทุกอย่างกระทั่งดิน น้ำ ลม ไฟ ภูเขา ทะเล

หนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง พาดหัวข่าวเล็กๆ ที่หน้า 1 ไว้ว่า

“ตะลึงประกาศต่างชาติ ขายเกาะ 4 พันล้าน”

รายละเอียดต่อไปว่า

“ตะลึงบริษัทอุตสาหกรรมต่างชาติประกาศขายเกาะสมุยทั้งเกาะ เนื้อที่กว่า 541 ไร่ แบ่งขายไร่ละ 8 ล้านบาท มูลค่า 4 พันล้านบาท อ้างมีเอกสารสิทธิถูกต้อง ด้านพนักงานที่ดินงงโผล่ออกมายังไง” (มติชน 9 กรกฎาคม 2549)

เกาะสมุยเป็นแผ่นดินของไทยที่เกิดในเกาะนี้มาไม่รู้กี่พันปีมาแล้ว มันอยู่ที่มันเป็นทรัพย์สินของชาติของประชาชนที่ไม่เคยไปสร้างความยุ่งยากให้แก่คน เช่นเดียวกับในขณะนี้ เกาะสมุยก็มีผู้ปกครองเป็นผู้เป็นคน แต่มันก็สามารถยกเอาไปขายได้ต่อหน้าคนไทยทั้งชาติ

มันอะไรกัน?

ความจริงการขายชาติไทยและขายทรัพย์สินที่มีค่าของไทยให้แก่ต่างชาติที่นักการเมืองมีอำนาจของเขาขายกันมาตลอดเวลาอันยาวนานนั้น เราขายกันระหว่างไทยและสิงคโปร์ที่ขายกันอย่างเงียบๆ คือการขายแผ่นดินไทยให้เป็นสนามบินสิงคโปร์ หรือที่ดินสำหรับฝึกทหารของสิงคโปร์ เพราะประเทศสิงคโปร์ไม่มีที่ดินเพียงพอจะรบกับใครก็จะต้องอาศัยดินแดนไทยเป็นที่ตั้งหรือเป็นสมรภูมิ

แม้แต่เงินในท้องพระคลังของเราที่ถือว่ามีมากหรือใช้ไม่หมดก็ต้องขนเอาไปให้ต่างชาติช่วยกันใช้ซึ่งจะได้คืนหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ แต่อ้างเอาความเป็นลูกพี่ในภูมิภาคไปอ้างว่าต้องช่วยเหลือ เช่น ช่วยให้ลูกชายพลเอกขิ่นยุ้นต์ ของพม่าเอาไปใช้เพื่อร่วมกันสร้างเนื้อสร้างตัวระหว่างนักการเมืองไทยกับพม่า ซึ่งก็เป็นวิธีการขายชาติอีกวิธีหนึ่ง

ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรสำหรับประเทศนี้ นอกจากซื้อขายหากินไปตามโอกาสที่จะขายได้หากินได้ ในขณะที่คนไทยไม่น้อยกว่า 10 ถึง 20 ล้านคนทั่วประเทศ อดอยากปากแห้งนอนอยู่หรือแทบไม่มีจะกินกันอยู่เพราะไม่มีสมบัติแม้แต่ที่ทำกิน

และตอนนี้เราก็จะขายต่อไปอีกจนกว่าจะหมดทุกสิ่งทุกอย่าง

เพราะการปล้นชาติจะขโมยชาติเอาไปขายนั้น ทุกวันนี้เหมือนจะเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของนักการเมืองของเราไม่เคยกลัวใครเพราะ “ไม่ใช่พ่อกู”

“อาจช่วยได้บ้าง” แท็กซี่ช่างพูดคนนั้นไม่ยอมหยุด เขาว่า “มีคนเดียวเท่านั้นที่พอจะช่วยคนไทยอย่างเราได้ เราจะต้องไปขอพึ่งอำนาจท่านจอร์จ บุชมาช่วยจัดการให้ จะให้เขาช่วยแต่เรื่องประชาธิปไตยอย่างเดียวคงไม่พอต้องช่วยให้มีที่อยู่ที่กินด้วย”

“เอายังงั้นเชียวหรือ” ผมอดถามต่อไม่ได้

เขาพยักหน้าด้วยท่าทางเคร่งเครียด “ทำไงได้ ประเทศไทยเราทุกวันนี้มีพ่ออยู่คนเดียวคือ จอร์จ บุช ประธานาธิบดีรายนั้น”

ไม่ว่าจะทำหน้าที่ปกครองประเทศให้มีศักดิ์ศรี เราก็ไม่มีปัญหาเพราะเรามีมนุษย์ที่น่าอนาถพากันจับพลัดจับผลูขึ้นมาเป็นนักการเมือง แม้แต่ภูเขา ที่ดิน และทะเลเราก็ต้องมอบให้ฝรั่งซึ่งเข้ามาทำหน้าที่เป็นพ่อของคนไทยจัดการเอาไปขายให้ฝรั่ง

ไม่ต้องมาพูดแก้ตัวหรือแก้เกี้ยวอะไร เมืองไทยนั้นคนไทยที่มีความรับผิดชอบมันหมดตัวหรือพากันสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว

คนไทยในอนาคตส่วนใหญ่ที่ไม่มีอำนาจต่อรองก็จะกลายเป็นเพียงเศษขยะที่รกแผ่นดินเท่านั้น และจะต้องเป็นเช่นนั้นต่อไป เพราะราคาของประเทศไทยนั้นสามารถนำไปขายได้ในราคาที่ถูกแสนถูกได้ทุกเวลา และการซื้อขายชาติไทยและคนไทยกับนักการเมืองไทยก็มีการวางแผนและเตรียมตัวกันอยู่ เฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองเดียรัจฉานบางคนที่อาศัยตำแหน่งหน้าที่เป็นข้ออ้างไปพบผู้นำต่างประเทศทั่วโลกเพื่อซื้อขายประเทศ และตกลงราคากันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย

ผมไม่ได้พูดเอาเอง เรื่องราวทั้งหมดนี้มีคนบอกผมมาและอธิบายให้ผมเข้าใจ จะเป็นใครก็ช่างเถอะแต่เป็นรายงานที่มาจากสิงคโปร์ที่เขียนมาถึงผมเมื่อไม่กี่วันมานี้ชื่อ “Thailand today and future” ซึ่งมีข้อความว่า

“ท่านผู้นำและ tycoons ทั้งในและนอกสภากำลังจะขายคลองเตยให้สิงคโปร์ เข้ามาสร้างเป็น hub (ไม่อุบาทว์สำหรับคนไทยโง่ครบวงจร) และจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นรอบๆสนามบินสุวรรณภูมิ ฝรั่งหัวเราะและสมเพชเวทนาที่เห็นคนไทยเรายังโง่กันอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะเทียบกับ heathrow gettwicks and standstead of London ที่ยังคงสภาพเขียวและสงบเย็นรอบๆ บริเวณและสองฟากทางที่ไปสู่ใจกลางมหานครลอนดอน และอีกแห่งหนึ่งคือสนามบิน Frankfurt deutsland ยังมีป่าและเป็นเขารอบๆรันเวย์ แล้วยังทอดยาวออกไปไกลสุดลูกตาและป่าธรรมชาติจากสนามบินสู่ตัวเมือง

ไปขอความรู้ว่าเขารักษาทุ่งหญ้า ป่าเขาไว้เป็นสมบัติของชาติและเขียวขจียั
่งยืนต่อไปอีกแสนนานได้อย่างไร?

Heathrow and Frankfurt airport มีอายุเลยครึ่งศตวรรษมาแล้ว แต่ทำไมผู้นำ ผู้หลักผู้ใหญ่ในไทย ผู้เคยไปศึกษาต่างประเทศ (ไปดูงาน) มาแล้วตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง และเห่อแห่กันไปจนถึงปัจจุบันรวมไปถึงนักปกครอง และนักเลือกตั้งไทยทั้งหลายในบ้านเราจึงไร้สองอย่างคือ ไร้รสนิยม และไร้ยางอาย เคารพบูชาแต่เพียงเงินเก่งกาจเฉพาะการหาเงินเท่านั้นหรือ น่าจะรู้จักกันแต่เพียงว่าประเทศชาติที่พัฒนาแล้ว เขาจะสร้างสนามบินไกลจากตัวเมือง ผู้นำไทยแลนด์ทำไมจึงบัดซบมาก ขายชาติกินและแข่งขันความร่ำรวยไม่ต่างไปจากพวกเซลส์แมน นักการเงิน นักการธนาคาร และเป็นนักปั่นหุ้นระดับโลก น่าจะไปอยู่กับจอร์จ โซรอสที่นิวยอร์กหรือที่ไหนก็ได้ที่มันสะดวกในการฉ้อโกงและซุกซ่อนเงิน

ที่ changi airpot singapore ใกล้ไทยเราด้วย แถมตอนนี้เขากำลังสร้าง teminal 3 แข่งกับสนามบินสุวรรณภูมิ เขามีเนื้อที่และต้นไม้เขียวขจีรอบๆ สนามบินและสองฟากถนนจดตัวเมืองและจดถนน orchards where our embassy is located ผู้นำและลิ่วล้อในเมืองไทยควรจะพากันไปกราบเท้าอดีตนายกฯ ลีกวนยู และลูกชายเพื่อขอความรู้ว่า การรักชาติ รักส่วนรวมมากกว่ารักตนเอง และพวกพ้อง ไม่ใช่ไปกราบขอเงินค่านายหน้าจากการขายหุ้น ขายที่ดิน และสมบัติของชาติให้สยบยินยอมไปกับระบบเงินคือพระจ้า

ประชานิยมบัดซบ คนสิงคโปร์เขาดูถูกผู้นำไทย และพวก ส.ส. ส.ว.ที่นั่งหน้าสลอนกันเต็มสภาว่าโง่ ที่ชอบชนกันสนุกๆ และเห่ากันเหมือนหมาขี้เรื้อน ที่คันและแสบ หิวโหยไม่สิ้นสุด เก่งกาจกับอบายมุขทุกประเภท มอมเมาประชาชนให้โง่ สุรุ่ยสุร่ายและงมงาย ที่วิเศษที่สุดก็คือการฉ้อราษฎร์บังหลวงเท่านั้น”

ผมไม่คิดว่าจะได้ผลอะไร เอาแต่เพียงว่าขอความเมตตาจากสิงคโปร์ให้เหลือเศษอะไรต่ออะไรไว้บ้างเท่านั้น

คนไทยยังเชื่อมั่นว่าตราบใดที่โลกนี้ยังมีสิงคโปร์อยู่ คนไทยจะไม่อดตาย!!

ผมก็ตกลง และเขาบอกผมมาอีกว่ายังไงสิงคโปร์มันก็จะต้องอยู่ เราคงไม่ถึงกับจะอดตายง่ายๆ หรอกถึงเราสาปแช่งมัน แต่ที่แน่ที่สุดมันก็ยังจะต้องขายอะไรต่ออะไรให้สิงคโปร์ต่อไปอีกนาน!
กำลังโหลดความคิดเห็น