xs
xsm
sm
md
lg

ดับเครื่องชนทักษิณ (2)

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ผมเคยเขียนเรื่อง “การล้มล้างรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในทัศนะพุทธ” ได้นำ “ปลายิชาดก : ว่าด้วยการขับไล่ศัตรูแบบสายฟ้าแลบ” มาเล่าสู่กันฟัง

ใน “ปลายิชาดก” มหาศัตรูประกาศดับเครื่องชน “ธรรมิกมหาราชา” เหิมเกริมเปล่งเสียงขู่ดังลั่นว่า

“เมืองตักกสิลาถูกเราล้อมไว้ทุกด้านแล้ว ด้วยกองพลช้างตัวประเสริฐ ซึ่งร้องคำรณอยู่ด้านหนึ่ง ด้วยกองพลม้าตัวประเสริฐ ซึ่งคลุมมาลาเครื่องครบอยู่ด้านหนึ่ง ด้วยกองพลรถดุจคลื่นในมหาสมุทรอันยังฝนคือ ลูกศรให้ตกลงด้านหนึ่ง ด้วยกองพลเดินเท้า ถือธนูมั่นมีฝีมือยิงแม่นอยู่ ด้านหนึ่ง ท่านทั้งหลายจงรีบรุกเข้าไป และจงรีบบุกเข้าไป จงไสช้างให้หนุนเนื่องกันเข้าไปเลย จงโห่ร้องให้สนั่นหวั่นไหวในวันนี้ ดุจสายฟ้าอันซ่าน ออกจากกลีบเมฆคำรณอยู่ฉะนั้น”

“ธงสำหรับรถของเรามีมากมาย พลพาหนะของเราก็นับไม่ถ้วนแสนยาก ที่ศัตรูจะหาญหักเข้าสู้รบได้ ดุจสาครยากที่ฝูงกาจะบินข้ามให้ถึงฝั่งได้ ฉะนั้น อนึ่ง กองพลของเรานี้ยากที่กองพลอื่นจะหาญเข้าตีหักได้ดุจภูเขา อันลมไม่อาจให้ไหวได้ ฉะนั้น วันนี้ เราประกอบด้วยกองพลเท่านี้ อันกองพลเช่นนั้นยากที่ศัตรูจะหาญหักเข้ารุกรานได้”

แทนที่จะเกรงกลัวสุนัขบ้าจนตรอกข่มขู่ถึงปานฉะนั้น กองทัพธรรมของพระพุทธเจ้าที่เสวยชาติมาปราบยุคเข็ญหาได้พรั่นพรึงแม้แต่น้อย พระองค์ตรัสว่า

“คนเช่นท่านอย่าพูดเพ้อถึงความที่ตนเป็นคนโง่เขลาไปเลย คนเช่นท่านจะเรียกว่า ผู้สามารถไม่ได้ ท่านถูกความเร่าร้อน คือ ราคะ โทสะ โมหะ และมานะ เผารนอยู่เสมอ ไม่อาจจะกำจัดเราได้เลย จะต้องหนีเราไป กองพลของเราจักย่ำยีท่านหมดทั้งกองพล ดุจช้างเมามันขยี้ไม้อ้อด้วยเท้า ฉะนั้น”

เช่นเดียวกับ “ปลายิชาดก” กองทัพหญิงไทยไม่กลัวทักษิณ หมอดูชั้นนำหลายคนบอกว่า ดวงทักษิณแพ้ผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนอก-ฝ่ายใน เพราะความหลงใหลใจอ่อน มักมากหรือทนความเย้ายวนมิได้อะไรก็ตามที แต่ที่จะพังพินาศในทางการเมืองนั้น กลับจะเป็นด้วยน้ำมือของผู้หญิงที่รู้ทันทักษิณ ที่ทักษิณไม่รู้จัก และนึกไม่ถึง

เพื่อความเป็นธรรม ผมขอฝากข้อสังเกต คือ (1) หมอดูเป็นสถาบันสังคมในวิถีชีวิตไทย แม้ในการเมือง โหราศาสตร์ก็มีอิทธิพลเกินขอบเขต สมัยสงครามเวียดนาม ซีไอเอจ้างหมอดูเป็นร้อยเป็นพันให้ “บิดเบือนดวงดาว” เพื่อสืบข่าวและปล่อยข่าวเพราะฉะนั้น ทักษิณอาจตกเป็นเหยื่อแบบนี้ก็ได้ หรือไม่ตัวเองก็อาจเชื่อหมอดูเขมรจนฉิบหาย (2) เรื่องในมุ้งเป็นเสรีภาพส่วนตัว คนนอกไม่ควรเสือก เว้นแต่เรื่องนั้นๆ จะมีอิทธิพลต่อการเมืองจนเกิดความเสียหาย (3) ผู้ต่อต้านทักษิณ มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ส่วนใหญ่มักจะมีอายุกลางคนขึ้นไป การที่มีผู้หญิงตื่นตัวมากมายเช่นนี้จะมีคุณมหาศาลต่อไปในภายหน้า และในปัจจุบัน น่าจะป้องกันการตอบโต้ที่หยาบคายโหดเหี้ยมได้

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม มี “ชมรมเพื่อความจริงและความโปร่งใส” อันประกอบด้วยสตรีอาวุโสประมาณ 40 ท่าน ออกมาเรียกร้องให้ทักษิณระบุว่า “บุคคลผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” นั้นทักษิณหมายถึงผู้ใด ทักษิณเป็นผู้เดียวที่จะให้ความกระจ่างได้ มิฉะนั้นจะระคายเคืองเบื้องยุคลบาท

ระบอบทักษิณจะให้เกียรติผู้หญิงก็หาไม่ ลิ่วล้อชั้นต่ำระดับปลายอ้อปลายแขมของทักษิณออกมาตอบโต้อย่างไม่ลดละ โกหก-ปกปิด-บิดเบือน และหยาบโลนตามสันดานเดิมนั่นเอง

สำรอกว่า ผู้หญิงพวกนี้เป็นใคร มาจากไหน เป็นพวกสนธิที่ออกมาขอมาตรา 7 มิใช่หรือ ยังไม่สำเนียกหรือว่า “ราชนิกูลกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ใครด้วยซ้ำ” ควรจะพากันไปขอโทษประชาชนจะดีกว่า เหตุไฉนจึงมาพูดในแหล่งมั่วสุมหนุ่มสาวที่มีปัญหาอย่างร้านโอลด์เล้งในย่านอาร์ซีเอ เยี่ยงนี้

เห็นไหมครับ ปากตลาดแบบนี้แหละชาวบ้านชอบฟังนัก เพราะเอาไปนินทาต่อได้สนุกดี มันจับราชนิกูลชนกับชาวบ้านง่ายๆ สไตล์ทักษิณยังงั้นแหละ ทั้งๆ ที่คณะผู้จัดได้แถลงแล้วว่า ไม่สามารถจัดในโรงแรมต่างๆได้ เพราะทุกโรงแรมกลัว ไม่กล้าให้ไปพูด แม้จะพูดปกป้องพระเจ้าอยู่หัวก็ไม่ได้ ที่ไหนๆ ก็กลัวทักษิณหัวหดหมด อนึ่งทุกคนพูดในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ทั้งสื่อและผู้ฟังโปรดกรุณาอย่าไปอ้างว่าเป็นชมรมราชนิกุล เพราะวันนี้มาในนาม “ชมรมเพื่อความจริงและความโปร่งใส”

ผมอยากให้สังคมไทยรู้ว่า ผู้หญิงที่ออกมาต่อต้านทักษิณนี้มิใช่พวกกุ๊ย ผู้สูญเสียประโยชน์ หรือโง่เง่าไม่เข้าใจโลกาภิวัตน์ ตามที่ทักษิณกล่าวหา ทักษิณชอบอ้างส่งเดช ดูตัวอย่างได้จากที่มีชัย ฤชุพันธุ์ ตอกกลับไปว่า ทุกเรื่อง ไม่จริง โกหกทั้งหมด

สี่ สตรีอาวุโสที่ออกมาดับเครื่องชนทักษิณคือใคร

1. ม.ล.อนงค์ นิลอุบล อายุ 89 ปี เป็นน้องของ ม.ล.มานิจ ชุมสาย บิดาการฝึกหัดครูไทย พ่อของดร.สุเมธ และดร.อาจอง ชุมสาย ราชตระกูลสายพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ท่านเป็นศิษย์เก่าดีเด่นคณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ เป็นบัณฑิตสตรีทางวิทยาศาสตร์รุ่นแรก สำเร็จปริญญาโททาง Organic Chemistry จากมหาวิทยาลัยมารีแลนด์ อเมริกา แล้วไปวิจัยในสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำของอิสราเอล 1 ปี กลับมาบุกเบิกที่สถาบันปรมาณูเพื่อสันติ ค้นพบวิธีพัฒนาพันธุ์พืชต่างๆ เป็นอันมาก ม.ล.อนงค์ ไม่รู้จักคำว่าหยุดงานหรือเกษียณ ได้ทำงานรับใช้สังคมมาตลอดชีวิต ขณะนี้เป็นประธานที่เข้มแข็งของมูลนิธิถึง 5 แห่ง ที่สำคัญ คือ สมาคมมิตรภาพไทยอิสราเอลในพระบรมราชูปถัมภ์ ท่านพาทุ่มเทให้การศึกษาปฐมวัยของเด็กตั้งแต่แรกเกิด จัดให้ชุมชนและครูไทยได้รับการฝึกอบรมและไปดูงานอนุบาลที่อิสราเอลมากมาย ม.ล.อนงค์ได้รับพระราช ทานเหรียญตราชั้นทุติยจุลจอมเกล้าเป็นคุณหญิง

ชีวิตและผลงานของท่านเป็นตัวอย่างจรรโลงใจสังคมไทยมาก ผมถือว่าท่านบุกเบิกและเป็นมารดาของขบวนการเอ็นจีโอของเมืองไทยคนหนึ่ง

2. ม.ร.ว.รำพิอาภา เกษมศรี หรือคุณหญิงเอ๋ย เป็นภริยาของ ม.ล.พีระพงศ์ เกษมศรี อดีตราชเลขาธิการ อดีตผู้แทนไทยประจำสหประชาชาติ และเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว และวอชิงตัน คุณหญิงเป็นธิดาของ ม.จ.ยุศทิเสถียร พระอนุชา(น้อง) แท้ๆ ของพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีในพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 คุณหญิงเอ๋ยและท่านราชฯ ผู้สามีใช้ชีวิตในต่างแดนเป็นส่วนใหญ่ แต่ได้รับใช้ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินินาถ ไม่ว่าจะอยู่ ที่ใด

3. คุณสุมาลี วีระไวทยะ เป็นพี่สาวของมีชัย วีระไวทยะ สามีของท่านผู้หญิงบุตรี รองราชเลขาธิการ สำเร็จการศึกษาจากอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ พูดอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันได้คล่องแคล่วพอๆ กับภาษาไทย เคยเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเยล ที่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ไล่ๆ กับสมัยที่ประธานาธิบดีคลินตัน กับบุชเป็นนักเรียน ระหว่างปี 2510-16 เป็นคอลัมนิสต์ชื่อดังของนสพ.บางกอกโพสต์ ปี 2516-18 เป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญสตรีคนเดียวของประเทศไทย ที่ปักหลักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีอย่างเข้มแข็ง

4. คุณปราไพ ปราสาททองโอสถ นักธุรกิจสตรีแนวหน้า น้องสาวน.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ร่วมกับพี่ชายสร้างความสำเร็จให้กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ตามปกติหมอเสริฐ แนบแน่นอยู่กับ รสช.หรือรุ่น 5 ที่มีพลเอกสุจินดาเป็นผู้นำ ที่ยังมีท่าทีหนุนหลังทักษิณอยู่ การที่คุณปราไพก้าวออกมาอย่างนี้ กล้าหาญยิ่ง

สามท่านหลังนี้เป็นคนร่วมสมัยกับผม คือมีอายุ 70 ต้นๆหรือ 60 ปลายๆ สิ่งที่ทุกคนมีเหนือทักษิณเหมือนฟ้ากับดิน นอกจากความรู้ และภาษาต่างประเทศ ก็คือความคุ้นเคยกับโลกาภิวัตน์ที่ทักษิณชอบอ้างว่าตนเข้าใจดี แต่คนอื่นยังไม่เข้าใจ

สมาชิก “ชมรมเพื่อความจริงและความโปร่งใส” ท่านอื่นๆ อาทิ ม.ร.ว.วิมลพโยม สวัสดิวัตน์, ม.ร.ว.สิริมา วรวรรณ, ม.ล.ทิพยวรรณ วรวรรณ, เต็มดวง จาตุรจินดา, จิตติมา แพ่งสภา, บ้านบุนนาค, บ้านโชติกเสถียร, บ้านโฆวินทะ, บ้านเฟื่องอนิรุจน์เทวา และบ้านไกรฤกษ์ ล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกราชนิกุลหรือทายาทของตระกูลที่ได้รับพระราช ทานนามสกุล เพราะรับใช้ใกล้ชิดราชวงศ์ทั้งสิ้น หาใช่เจ้าที่ไหนก็ไม่รู้อย่างที่ลูกน้องทักษิณโกหกบิดเบือนให้ชาวบ้านเข้าใจผิดไม่

ผมใคร่ลอกคำเด่นของชมรมมาเสนอเป็นตัวอย่างดังนี้

“ขอร้องว่าอย่าดึงฟ้ามาต่ำ เพราะการพูดของนายกฯ แสดงให้เห็นว่าไม่มีสมอง แล้วเราจะปล่อยให้คนอย่างนี้มาบริหารประเทศชาติได้อย่างไร ซึ่งยังมาบอกให้ประชาชนอย่าวิเคราะห์ ให้ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา คนไทยไม่ใช่คนไม่มีสมอง คนไทยทุกคนรักประเทศชาติ ซึ่งนายกฯ ถ้ามีความสมบูรณ์ด้วยสมองและจิตใจ ต้องออกมาบอกให้ประชาชนคลายความสงสัย” (ปราไพ ปราสาททองโอสถ)

“คนที่เป็นผู้นำต้องมีความรับผิดชอบในคำพูดตนเอง รับผิดชอบต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน ทุกอย่างต้องโปร่งใส เรียกร้องให้ลาออกคงไม่ออก เพราะไล่ทุกวันยังไม่ยอมลาออก จะทำอย่างไรเราต้องรวมตัวกันถามเสียงดังๆ ฝากสื่อไปถามว่าเมื่อไรจะลาออก” (ม.ล.อนงค์)

อย่างที่พวกทูตว่าทักษิณเป็นโรคจิตติดโกหกเป็นสันดาน ทักษิณโกหกว่า “ตอนท่านรองฯ วิษณุ ท่านบวรศักดิ์ มาขอลาออก ก็ยังพูดกับผมถึงเรื่องแรงจูงใจที่มีคนมาขอให้ออก ยังพูดถึงความพยายามที่จะมีรัฐบาลชั่วคราว แก้รัฐธรรมนูญก่อนจึงจะมีการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นประชาธิปไตย บางองค์กรหัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรของตัวเองเสีย เพื่อที่จะทำตามนโยบาย ผู้ที่ร้องขอบางราย” ทั้งบวรศักดิ์และวิษณุออกมาปฏิเสธหนักแน่นว่า ทั้งหมดนี้ไม่มีมูลความจริงเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองไม่เคยพูด ทักษิณเอามาจากไหนไม่ทราบ

แต่ที่วิษณุกับบวรศักดิ์พูดแน่ๆ และพวกเราจะต้องตอกย้ำถามกันต่อ มีดังนี้

“นายวิษณุกล่าวว่า ตนเองผ่านการยุบสภามา 6-7 ครั้ง ก็เห็นว่าข้าราชการประจำเขาอยู่กันได้ แต่การที่อยู่ 2-3 เดือนนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่ 6-7 เดือนที่อยู่นี่ไม่เห็นอนาคตว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ และไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมีหรือไม่ แล้วจะให้นั่งอยู่อย่างนี้หรือ” ดร.วิษณุกล่าวต่อไปว่า ลาออกแล้วรู้สึกสบายมาก แสดงว่านายวิษณุอยู่กับรัฐบาลทักษิณอย่างไม่สบายใจเลย วันนี้ ผมค้นหาคำพูดของดร.วิษณุมาลอกไม่เจอ ที่วิษณุเคยกล่าวว่ารัฐบาลนี้อยู่นานเกินไป โครงการบางอย่างขาดธรรมาภิบาล เพราะไม่โปร่งใส ไม่มีส่วนร่วม และมีข้อน่าสงสัยทางกฎหมาย ถ้าผมอ้างผิดขอให้ดร.วิษณุช่วยแก้ด้วย รวมทั้งเรื่องที่ผมจะถามว่า ดร.วิษณุได้รับคำขอร้องให้มาเตือนทักษิณว่าเวลาเข้าเฝ้าออกมาแล้ว อย่าเอาในหลวงมาอ้าง นายกฯ คนอื่นๆ ไม่มีใครเขาอ้างเลย แต่ทักษิณไม่เชื่อ จริงหรือไม่

สำหรับดร.บวรศักดิ์นั้น พูดชัดว่าอึดอัดเพราะตนพูดและแนะนำอะไร (ที่ถูกที่ควร..ผมเติม) แล้วไม่มีใคร (ทักษิณ) เชื่อ เดินหน้าทำผิดกันต่อไปเรื่อยๆ เรื่องสำคัญที่ดร.บวรศักดิ์ขอร้อง ให้คิดถึงพระเจ้าอยู่หัวมากขึ้นสักนิด คิดถึงประชาชนมากขึ้นสักหน่อย คิดถึงตนเองให้น้อยๆ ลงบ้าง ก็ไม่สำเร็จอีก ทักษิณกับพวกคิดถึงแต่อะไร ประโยชน์ของตนใช่หรือไม่ ไม่เคยคิดถึงในหลวงและบ้านเมืองเลย

ท่านผู้อ่านที่เคารพ แผ่นดินใดที่ไม่ไร้คนกล้า แผ่นดินนั้นย่อมจะยังมีความหวัง ขอเชิญเพื่อนผู้กล้า หลั่งไหลออกมา อย่ากลัวมันเลย สตรีผู้กล้าก็ออกมาแล้ว นักกฎหมายผู้แกล้วก็ออกมาทันเวลา

บัดนี้กองทัพของธรรมิกมหาราชาได้ลั่นกลองรบ ดับเครื่องชนทักษิณแล้ว จะหาความเกรงกลัวสักน้อยนิดก็ไม่มี ไม้อ้อที่จะถูกบดขยี้เป็นผงธุลีด้วยเท้าช้างเมามัน เป็นใคร จะเห็นกันในไม่ช้า
กำลังโหลดความคิดเห็น