ผ่านไปแล้ว 4 ยกครับ ยังน็อกไม่อยู่ สู้พงษ์ศักดิ์เล็กไม่ได้ แถมยกที่แล้วโดนต่อยใต้เข็มขัดไป 2 กระจับ จุกแอ็ดไปเลย ต้องเปลี่ยนสไตล์ชกแทบไม่ทัน
คู่ชกผม ไม่รู้แกเป็นแชมป์มาได้ยังไง เหวี่ยงสะเปะสะปะเหมือนไม่เป็นมวย จู่ๆ ก็วิ่งไปเกาะขอบสังเวียนพ่นน้ำลายขึ้นไปบนฟ้าทั้ง 4 ทิศ ราวกับร่ายมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของเขมรหรือปฏิญญาฟินแลนด์ยังงั้น
พอกรรมการเรียกให้กลับมาชก แกก็คุ้มคลั่ง หาว่าสนามเปรียบคู่ให้แกผิด ความจริงแกจะต้องข้ามรุ่นขึ้นไปชิงเข็มขัดกับ “บารมี ลูกพระราม” ต่างหาก กำหนดไว้แล้วเป็นรายการพิเศษ 120 ยก ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549
นี่จับแกมาต่อยกับมวยแทนกระจอกๆ แกเลยขู่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งพันล้าน เอากะแกสิ ยังไงก็ทนหน่อยนะครับ รับรองไม่ครบยกแน่
เราหันมาพูดเรื่องทักษิณกันดีกว่านะครับ เมื่อวันที่ 29 มิถุนา ทักษิณพูดกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำเนียบว่ายังไงบ้าง ผมได้ลัดคิวเอามาเล่าให้ฟังในเรื่อง ทักษิณถ่มนำลายรดฟ้า ในฉบับวันจันทร์ที่แล้ว
ทักษิณนี่รนหาที่แท้ๆ ลืมว่าตนไปล้างสมองชาวชนบทไว้ว่าอย่างไร ด้วยการใช้วิทยุและทีวีที่รัฐบาลคุมกรอกหูชาวบ้านอยู่ทุกวัน ด้วยกลไกราชการและเครือข่ายข่าวลือของรัฐบาล ชาวบ้านต่างก็เชื่อทักษิณว่า พวกที่คัดค้านขับไล่ทักษิณมีแต่พวกกุ๋ยข้างถนน คนที่ไม่มีความรู้ ผู้ที่เสียประโยชน์ ไม่มีผู้ลากมากดีมีตำแหน่งมาจากไหนเท่าใดเลย มีแต่พวกขี้แพ้ชวนตีทั้งนั้นหละ ตั้งใจจะล้มรัฐบาล ทำลายประชา ธิปไตยลูกเดียว ชาวบ้านต่างก็เชื่อทักษิณสนิทใจ
ครั้นแล้ว ทักษิณก็เอาลิ้นตระหวัดใบหู ปูดออกมาเสียเองว่าผู้มีบารมีนอกระบอบ เหนือรัฐธรรมนูญ อยู่เบื้องหลังการล้มล้างรัฐบาลและประชาธิปไตย อ้าวก็เข้าล็อกละซี ทักษิณไม่น่าโกหกกันเลย คอยดูนะครับ คราวนี้ข่าวจะสะพัดเหมือนไฟไหม้ป่า ว่าทักษิณจะหาญสู้ผู้มีบารมี ชาวบ้านเขาไม่ต้องมาเดาโน่นเดานี่หรอกครับว่าใครคือผู้มีบารมี เพราะเขาเทิดของเขาไว้เหนือหัวเหนือเกล้าอยู่แล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งที่เขาเชียร์ทักษิณจะเป็นจะตาย ก็เพราะเขาเชื่อว่าผู้มีบารมีส่งทักษิณมาโปรด เมื่อทักษิณกลายเป็นผู้เนรคุณมากลับตาลปัตรเสียอย่างนี้ อีกไม่นาน...รับรองได้ เขาจะพากันใส่เสื้อเหลืองมาถล่มทักษิณ ทั้งแผ่นดินจะกลายเป็นซอยละลายทรัพย์ไปหมด ไม่เชื่อ คอยดู
ใน “สู้กับทักษิณ” ตอนที่ 3 เรื่อง “ทักษิณกลัวอะไร” เรายังพูดถึงเรื่องทักษิณกลัวอะไรไม่จบ ผมเลยฝากการบ้านไว้ ขอให้ท่านผู้อ่านไปช่วยกันคิด และโพสต์กลับมาทางเว็บไซต์ว่ายังมีอะไรอีกบ้างที่ทักษิณกลัว จะได้นำมารวบรวมกันเป็นความรู้
ขอบคุณยิ่งครับ มีผู้อ่านเว็บไซต์ประมาณ 2 หมื่นราย คงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะพากันเบื่อ มีผู้โพสต์ความเห็นมา 222 ท่าน เป็นตัวเลขสำคัญที่ผมอยากจะให้พวกเราจำเอาไว้ เพราะตรงพอดีกับ รัฐธรรมนูญมาตรา 222 ซึ่งในในวรรค 2 มีบัญญัติสำคัญ ว่าดังนี้
“ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกเฉพาะแห่งเป็นการรีบด่วน เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารย่อมกระทำได้ตามกฎหมายว่าด้วยกฎอัยการศึก”
อันนี้มิใช่รัฐบาลหรือทักษิณสั่งนะครับ ผู้บัญชาการทหารเฉพาะแห่งเป็นผู้สั่ง ไม่จำเป็นต้องฟังทักษิณเลย ผมเกรงว่าในเดือนกรกฎาคมนี้แหละ ที่กองกำลังเถื่อนของทักษิณจะออกมาเคลื่อนไหวกดดันศาล และผู้มีบารมี ทักษิณเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ทำชั่วให้แผ่นดิน มีข่าวว่าตอนนี้กำลังฝึกแกนนำจำนวนหนึ่งอยู่ในอุทยานเขาใหญ่
ถึงตอนนั้นแหละครับ ทหารของพระเจ้าอยู่หัวที่ไม่ต้องการปฏิวัติ ก็อาจจำเป็นจะต้องป้องกันปฏิวัติหรือสยบการใช้กำลังเถื่อนเพื่อปกป้องบัลลังก์ของทักษิณให้อยู่หมัด
ผมต้องขอโทษที่ไม่อาจนำความเห็นที่ท่านผู้อ่านโพสต์มาพิมพ์ทั้งหมดได้ กรุณากลับไปอ่านในเว็บไซต์หรือถ้าไม่มีลองโทร. ไปขอที่คุณวิภา เบอร์ 0-2629-4488 นะครับ วันนี้เราจะเติมว่าทักษิณกลัวอะไร ทักษิณกับพวกนั้น ยิ่งกว่าอีกาตาแววเสียอีก
แต่เราจะยกมาเฉพาะบางเรื่อง ที่จะต้องนำไปปรับเป็นยุทธวิธีต่อสู้กับทักษิณได้ 7-8 อันด้วยกัน คือ ทักษิณ (1) กลัว กกต.ชุดนี้ไปเร็ว (2) กลัวกฤษฎีกาเลือกตั้งออกช้า(3) กลัว ป.ป.ช.ชุดใหม่มาเร็ว (4) กลัว ส.ว.ชุดใหม่มาช้า(5) กลัวศาลตัดสินเร็ว (6) กลัวรัฐบาลรักษาการไปเร็ว (7) กลัวภริยาและลูกถูกลักพาตัว (8)กลัวถูกลอบสังหาร
1. กลัวกกต.ไปเร็ว ในหลวงทรงขอร้องให้ศาลกู้ชาติ อย่าให้ล่มจม เพราะเดี๋ยวนี้วิกฤตที่สุดในโลก เลือกตั้งพรรคเดียว อาจไม่เป็นประชาธิปไตย ใครเป็นผู้ก่อวิกฤต ตอบว่ามีหลายฝ่าย แต่ที่สาหัสและต้องรับผิดชอบโดยตรงหนีไม่พ้นได้แก่ทักษิณกับกกต.ที่ออก พ.ร.ฎ.และดำเนินการเลือกตั้ง จนกระทั่งในหลวงต้องทรงขอร้องศาล เมื่อศาลสั่งให้การเลือกตั้งมิชอบและแนะนำให้ กกต.ลาออก เพราะขาดความสุจริตเที่ยงธรรม ไม่สมควรทำหน้าที่ต่อไป หากขืนดันทุรังทำต่อ ศาลและองค์กรอื่นๆ ก็ไม่สามารถร่วมมือได้ เราก็เห็นแล้วว่ากกต.สวนกระแสพระราชดำรัสในหลวงอย่างมิยำเกรง และไม่ฟังศาลแม้แต่นิด ถามว่าหากกกต.ชุดนี้อยู่ใครได้ประโยชน์ แหงอยู่แล้ว คือทักษิณและไทยลักไทย เหนือสิ่งอื่นใด ทักษิณต้องการอาศัย กกต.ในการแต่งตั้งข้าราชการทหารตำรวจที่เป็นพวกหรือตนคุมได้ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 215 ห้ามมิให้รัฐบาลรักษาการกระทำเช่นนั้น “เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเลือกตั้ง” แม้ขณะนี้คณะกรรมการเลือกตั้งมีเหลืออยู่เพียง 3 นาย น่าจะมีปัญหาไม่ครบองค์ประกอบ แต่ทั้ง 3 ก็ยังทนทู่ซี้กอดขาเก้าอี้อยู่เหมือนถูกล่ามโซ่ พ้น 15 กรกฎาคมไปแล้ว อันตรายยิ่งนัก
2. กลัวกฤษฎีกาเลือกตั้งออกช้า หากพ.ร.ฎ.ออกตอนนี้ก็จะเกิดเสียหายซ้ำซ้อน ศาลจะหมดความหมาย กกต.จะได้รับความคุ้มครอง เพื่อให้เดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป โดยไม่ละอายว่า การออกพ.ร.ฎ.คราวที่แล้วก็ดี การดำเนินการเลือกตั้งก็ดี ขาดความเป็นกลาง และไม่สุจริตยุติธรรม จนต้องคำสั่งศาลยกเลิก ถ้าหากพวกเราจำได้ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยถูกศาลตัดสินปรับหลายหมื่นหรือแสนล้านบาทเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ในการป้องกันค่าเงินบาท คราวนี้ทักษิณกับ กกต.ทำให้ประเทศเสียเงินไปเปล่าๆ กว่า 2 พันล้านบาท เสียเวลา เกิดวิกฤต จนอาจจะเสียประชาธิปไตย ทั้งคู่ยังไม่มีหิริโอตตัปปะ ขาดความละอาย ปัดความรับผิดชอบ กลับโทษและป้ายผิดให้ผู้อื่น น่าเขกกบาลจริงๆ ผมจะฟ้องดีมั้ยนี่ จะได้เอาเงินมาจ่ายคดีทักษิณฟ้อง
(3) กลัว ป.ป.ช.ชุดใหม่มาเร็ว พวกเราเห็นหรือไม่ ได้ยินหรือเปล่าว่ารัฐบาลทักษิณแทรกแซงการแต่งตั้งองค์กรอิสระ การแทรกแซง มี 2 ประการ คือ (1) ระดมเอาพรรคพวกตนเองเข้าไปให้มากที่สุด คนดีๆ ที่อยู่ข้างความถูกต้อง อาทิ กล้าณรงค์ ไม่สามารถผ่านด่านเข้าไปได้ (2) เมื่อไม่แน่ใจในตัวบุคคลหรือขบวนการ หรือแน่ใจแต่กลัวข้อหาใดข้อหาหนึ่ง ก็ใช้อิทธิพลถ่วงเวลาจนไม่สามารถแต่งตั้ง ป.ป.ช.ทั้งคณะได้เสียเลย ทำให้การร้องเรียนตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญกระทำมิได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกล่าวหาว่านักการเมืองทุจริต ซึ่งสมาชิกสภาไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ หรือประชาชนห้าหมื่นคนขึ้นไปเข้าชื่อกัน ยื่นผ่านวุฒิสภา เพื่อให้ส่งต่อ ป.ป.ช. ก็เลยกระทำมิได้ การเกิดสุญญากาศหรือชะงักงันของรัฐธรรมนูญเช่นนี้ นักการเมืองได้ประโยชน์ ประเทศชาติเสียประโยชน์ กรณีเช่นนี้แหละ ถ้ารัฐบาลมีน้ำยาหรือยางอาย สามารถนำรัฐธรรมนูญมาตรา 7 มาปรับใช้ให้อัยการและศาลฎีกาคดีการเมือง กระทำหน้าที่แทนได้ มิใช่ปล่อยให้ทุจริตรายใหญ่ลอยนวลหมดอายุความไป
4. กลัว ส.ว.ชุดใหม่มาช้า ผมเสียดายแทน ส.ว.น้ำดีหลายคน แต่โดยส่วนรวม ส.ว.ชุดนี้เป็นยิ่งกว่าทายาทอสูรที่ ศ.ดร.บุนทัน ดอกไธสง กลัว อาจารย์บุญทันเป็นอดีตรองประธานวุฒิสภาชุดรักษาการ เป็นกลาง ยึดหลักการและเข้าข้างการเลือกตั้ง แต่ได้เห็นการแทรกแซงและทำลายเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแล้วทนไม่ได้ ทักษิณต้องการ ส.ว.ชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอคอยประธานสมัคร เพราะ ส.ว.ชุดใหม่อาจจะเรียกได้ว่าไทยลักไทยเกือบทั้งชุด ต่อไปนี้การตรวจสอบแต่งตั้งอะไรจะอยู่ในกำมือทักษิณ วิธีการก็ง่ายๆ อย่างที่เสนาะ เทียนทอง เล่าให้ฟัง การกำหนดวันเลือก ส.ส.ในวันที่ 2 เมษายน เพื่อให้ช่วยกันอุ้ม ส.ว.ในวันที่ 19 เดือนเดียวกันนั้น เป็นการวางหมากอย่างล้ำลึก ถ้ามิใช่ทักษิณกับวาสนาทำไม่ได้ และการดำเนินการเลือกตั้งก็อีหรอบเดียวกัน ถ้าหากเราปฏิรูปวุฒิสภาไม่ได้ อย่ามีเสียเลยดีกว่า ผมได้ยินว่าอุทัย พิมพ์ใจชน ลาออกไปแล้ว ไม่ทราบจริงหรือไม่
5. กลัวศาลตัดสินเร็ว ทักษิณมีคดีค้างศาลทั้งศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอาญา ตั้งแต่เรื่องละเมิดรัฐธรรมนูญ ลงมาถึงเรื่องโป้ปดคดโกงและโกหกศาล ไม่เร็วหรือช้าศาลก็ต้องตัดสิน เมื่อวานนี้ก็มีคนหลายกลุ่มมาประชุมกันที่ฐานเศรษฐกิจ เพื่อกดดันและถอดถอนศาล ใครลองหาข้อมูลได้มั้ยครับ จะได้เอาไปลงกินเนสส์ว่า ใครเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องคดีมากที่สุดในโลก
6. กลัวรัฐบาลรักษาการไปเร็ว ไม่ต้องอธิบาย
7. กลัวภริยาและลูกถูกลักพาตัว ไม่ต้องอธิบาย แต่ผมเป็นห่วงด้วยใจจริง ขอภาวนาอย่าให้เกิดขึ้น
8. กลัวถูกลอบสังหาร ทั้งลินคอล์นและเคนเนดี้ เป็นประธานาธิบดีที่มีเกียรติศักดิ์และบารมีของประเทศประชาธิปไตยชั้นนำ ทั้งสองถูกลอบสังหารเพราะคนพาลที่เสียประโยชน์เห็นว่า 4 ปีนานเกินไป รอไม่ได้ ผมเคยเล่าให้พวกเราฟังว่า ระดับของความโหดร้ายในการต่อสู้ทางการเมืองนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากทางเลือกน้อยลงๆ ขั้นสุดท้ายก็จะถึงการลักพาตัวและลอบสังหารผู้นำ ผมไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย ไม่ว่ากับผู้ใด คุณทักษิณ โปรดฟังและร่วมมือกับเราป้องกันด้วย
ประมาณ 4-5 เดือนมานี้ ผมทราบว่ามีการติดตามสังเกตพฤติการของทักษิณ โดยกลุ่มแพทย์โรคจิตที่เป็นห่วงว่าเมืองไทยจะต้องถูกปกครองโดยคนบ้า ผลการวิเคราะห์ไม่สามารถยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าทักษิณเป็นโรคไบโพลาร์หรือไม่ ทราบแต่ว่ามีอาการอ่อนๆ ทางตับ ทำให้อาเจียนบ่อยๆ หน้าเหี่ยว แก่เกินวัย แต่อาการไบโพลาร์ซึ่งมีลักษณะชัดแจ้งอยู่ประมาณ 7 อย่างนั้น 2 อย่างโดดเด่นมาก คือ เดี๋ยวก็ซึมเศร้า เดี๋ยวก็เหิมเกริม แต่สรุปแล้ว มีการดำรงความมุ่งหมาย คือผลประโยชน์หรือสิ่งที่ตนหวงแหนอยากได้อย่างเด็ดเดี่ยวไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
การที่ทักษิณออกมาถ่มน้ำลายรดฟ้าเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนนี้ บางคนบอกว่าเป็นอาการเบรกแตก บ้างก็บอกไม่ใช่ เป็นพฤติกรรมต่อเนื่องคงเส้นคงวาต่างหาก เราจะยังไม่กล่าวถึงเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างที่ทักษิณถูกโจมตีว่าละเมิดพระเจ้าอยู่หัว แต่เราอาจยืนยันได้จากประกาศของพรรคไทยลักไทยว่าเราจะสู้อุปสรรคทุกอย่างที่ขัดขวางทางสำเร็จของพรรค มีคนมาเล่าว่าในการประชุมวงในของพรรค 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทักษิณย้ำเสมอว่าไม่ต้องกลัว เราจะสู้จนหมดหน้าตัก ความเคลื่อนไหวแบบอีแต๋น คาราวานคนจน และคนยามรักษาป่ายังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง คนระดับรองประธานสภาอกมาลบหลู่ศาลจนต้องถูกตำหนิโทษ การข่มขู่จะถอดถอนศาลทั้งโดยตรงและการสร้างข่าว จนกระทั่งถึงการประชุมที่ฐานเศรษฐกิจ 2-3 วันนี้ มีการล่ารายชื่ออย่างเปิดเผยที่จะถอดถอนศาล และกดดันให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ให้จงได้
ประกาศต่อหน้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในทำเนียบเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนนี้ พุ่งเป้าไปที่ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” โดยตรง ทักษิณบอกว่าจะขอต่อสู้ด้วยชีวิต ผมเลยคิดถึงเขาอดีตอธิบดีกรมตำรวจ ว่าเขาจะไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน เขาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ผิดชอบชั่วดี เขาไม่กลัวใครทั้งสิ้น ไม่ว่าทักษิณจะกลัวจนเป็นบ้า หรือกล้าเสียจนบิ่น แต่คราวนี้ไม่ต้องแปลอะไรแล้ว
ทักษิณดับเครื่องชน
ปัญหาขึ้นอยู่กับพวกเราว่า จะสู้ หรือ หนี
คู่ชกผม ไม่รู้แกเป็นแชมป์มาได้ยังไง เหวี่ยงสะเปะสะปะเหมือนไม่เป็นมวย จู่ๆ ก็วิ่งไปเกาะขอบสังเวียนพ่นน้ำลายขึ้นไปบนฟ้าทั้ง 4 ทิศ ราวกับร่ายมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของเขมรหรือปฏิญญาฟินแลนด์ยังงั้น
พอกรรมการเรียกให้กลับมาชก แกก็คุ้มคลั่ง หาว่าสนามเปรียบคู่ให้แกผิด ความจริงแกจะต้องข้ามรุ่นขึ้นไปชิงเข็มขัดกับ “บารมี ลูกพระราม” ต่างหาก กำหนดไว้แล้วเป็นรายการพิเศษ 120 ยก ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549
นี่จับแกมาต่อยกับมวยแทนกระจอกๆ แกเลยขู่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งพันล้าน เอากะแกสิ ยังไงก็ทนหน่อยนะครับ รับรองไม่ครบยกแน่
เราหันมาพูดเรื่องทักษิณกันดีกว่านะครับ เมื่อวันที่ 29 มิถุนา ทักษิณพูดกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำเนียบว่ายังไงบ้าง ผมได้ลัดคิวเอามาเล่าให้ฟังในเรื่อง ทักษิณถ่มนำลายรดฟ้า ในฉบับวันจันทร์ที่แล้ว
ทักษิณนี่รนหาที่แท้ๆ ลืมว่าตนไปล้างสมองชาวชนบทไว้ว่าอย่างไร ด้วยการใช้วิทยุและทีวีที่รัฐบาลคุมกรอกหูชาวบ้านอยู่ทุกวัน ด้วยกลไกราชการและเครือข่ายข่าวลือของรัฐบาล ชาวบ้านต่างก็เชื่อทักษิณว่า พวกที่คัดค้านขับไล่ทักษิณมีแต่พวกกุ๋ยข้างถนน คนที่ไม่มีความรู้ ผู้ที่เสียประโยชน์ ไม่มีผู้ลากมากดีมีตำแหน่งมาจากไหนเท่าใดเลย มีแต่พวกขี้แพ้ชวนตีทั้งนั้นหละ ตั้งใจจะล้มรัฐบาล ทำลายประชา ธิปไตยลูกเดียว ชาวบ้านต่างก็เชื่อทักษิณสนิทใจ
ครั้นแล้ว ทักษิณก็เอาลิ้นตระหวัดใบหู ปูดออกมาเสียเองว่าผู้มีบารมีนอกระบอบ เหนือรัฐธรรมนูญ อยู่เบื้องหลังการล้มล้างรัฐบาลและประชาธิปไตย อ้าวก็เข้าล็อกละซี ทักษิณไม่น่าโกหกกันเลย คอยดูนะครับ คราวนี้ข่าวจะสะพัดเหมือนไฟไหม้ป่า ว่าทักษิณจะหาญสู้ผู้มีบารมี ชาวบ้านเขาไม่ต้องมาเดาโน่นเดานี่หรอกครับว่าใครคือผู้มีบารมี เพราะเขาเทิดของเขาไว้เหนือหัวเหนือเกล้าอยู่แล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งที่เขาเชียร์ทักษิณจะเป็นจะตาย ก็เพราะเขาเชื่อว่าผู้มีบารมีส่งทักษิณมาโปรด เมื่อทักษิณกลายเป็นผู้เนรคุณมากลับตาลปัตรเสียอย่างนี้ อีกไม่นาน...รับรองได้ เขาจะพากันใส่เสื้อเหลืองมาถล่มทักษิณ ทั้งแผ่นดินจะกลายเป็นซอยละลายทรัพย์ไปหมด ไม่เชื่อ คอยดู
ใน “สู้กับทักษิณ” ตอนที่ 3 เรื่อง “ทักษิณกลัวอะไร” เรายังพูดถึงเรื่องทักษิณกลัวอะไรไม่จบ ผมเลยฝากการบ้านไว้ ขอให้ท่านผู้อ่านไปช่วยกันคิด และโพสต์กลับมาทางเว็บไซต์ว่ายังมีอะไรอีกบ้างที่ทักษิณกลัว จะได้นำมารวบรวมกันเป็นความรู้
ขอบคุณยิ่งครับ มีผู้อ่านเว็บไซต์ประมาณ 2 หมื่นราย คงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะพากันเบื่อ มีผู้โพสต์ความเห็นมา 222 ท่าน เป็นตัวเลขสำคัญที่ผมอยากจะให้พวกเราจำเอาไว้ เพราะตรงพอดีกับ รัฐธรรมนูญมาตรา 222 ซึ่งในในวรรค 2 มีบัญญัติสำคัญ ว่าดังนี้
“ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกเฉพาะแห่งเป็นการรีบด่วน เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารย่อมกระทำได้ตามกฎหมายว่าด้วยกฎอัยการศึก”
อันนี้มิใช่รัฐบาลหรือทักษิณสั่งนะครับ ผู้บัญชาการทหารเฉพาะแห่งเป็นผู้สั่ง ไม่จำเป็นต้องฟังทักษิณเลย ผมเกรงว่าในเดือนกรกฎาคมนี้แหละ ที่กองกำลังเถื่อนของทักษิณจะออกมาเคลื่อนไหวกดดันศาล และผู้มีบารมี ทักษิณเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ทำชั่วให้แผ่นดิน มีข่าวว่าตอนนี้กำลังฝึกแกนนำจำนวนหนึ่งอยู่ในอุทยานเขาใหญ่
ถึงตอนนั้นแหละครับ ทหารของพระเจ้าอยู่หัวที่ไม่ต้องการปฏิวัติ ก็อาจจำเป็นจะต้องป้องกันปฏิวัติหรือสยบการใช้กำลังเถื่อนเพื่อปกป้องบัลลังก์ของทักษิณให้อยู่หมัด
ผมต้องขอโทษที่ไม่อาจนำความเห็นที่ท่านผู้อ่านโพสต์มาพิมพ์ทั้งหมดได้ กรุณากลับไปอ่านในเว็บไซต์หรือถ้าไม่มีลองโทร. ไปขอที่คุณวิภา เบอร์ 0-2629-4488 นะครับ วันนี้เราจะเติมว่าทักษิณกลัวอะไร ทักษิณกับพวกนั้น ยิ่งกว่าอีกาตาแววเสียอีก
แต่เราจะยกมาเฉพาะบางเรื่อง ที่จะต้องนำไปปรับเป็นยุทธวิธีต่อสู้กับทักษิณได้ 7-8 อันด้วยกัน คือ ทักษิณ (1) กลัว กกต.ชุดนี้ไปเร็ว (2) กลัวกฤษฎีกาเลือกตั้งออกช้า(3) กลัว ป.ป.ช.ชุดใหม่มาเร็ว (4) กลัว ส.ว.ชุดใหม่มาช้า(5) กลัวศาลตัดสินเร็ว (6) กลัวรัฐบาลรักษาการไปเร็ว (7) กลัวภริยาและลูกถูกลักพาตัว (8)กลัวถูกลอบสังหาร
1. กลัวกกต.ไปเร็ว ในหลวงทรงขอร้องให้ศาลกู้ชาติ อย่าให้ล่มจม เพราะเดี๋ยวนี้วิกฤตที่สุดในโลก เลือกตั้งพรรคเดียว อาจไม่เป็นประชาธิปไตย ใครเป็นผู้ก่อวิกฤต ตอบว่ามีหลายฝ่าย แต่ที่สาหัสและต้องรับผิดชอบโดยตรงหนีไม่พ้นได้แก่ทักษิณกับกกต.ที่ออก พ.ร.ฎ.และดำเนินการเลือกตั้ง จนกระทั่งในหลวงต้องทรงขอร้องศาล เมื่อศาลสั่งให้การเลือกตั้งมิชอบและแนะนำให้ กกต.ลาออก เพราะขาดความสุจริตเที่ยงธรรม ไม่สมควรทำหน้าที่ต่อไป หากขืนดันทุรังทำต่อ ศาลและองค์กรอื่นๆ ก็ไม่สามารถร่วมมือได้ เราก็เห็นแล้วว่ากกต.สวนกระแสพระราชดำรัสในหลวงอย่างมิยำเกรง และไม่ฟังศาลแม้แต่นิด ถามว่าหากกกต.ชุดนี้อยู่ใครได้ประโยชน์ แหงอยู่แล้ว คือทักษิณและไทยลักไทย เหนือสิ่งอื่นใด ทักษิณต้องการอาศัย กกต.ในการแต่งตั้งข้าราชการทหารตำรวจที่เป็นพวกหรือตนคุมได้ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 215 ห้ามมิให้รัฐบาลรักษาการกระทำเช่นนั้น “เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเลือกตั้ง” แม้ขณะนี้คณะกรรมการเลือกตั้งมีเหลืออยู่เพียง 3 นาย น่าจะมีปัญหาไม่ครบองค์ประกอบ แต่ทั้ง 3 ก็ยังทนทู่ซี้กอดขาเก้าอี้อยู่เหมือนถูกล่ามโซ่ พ้น 15 กรกฎาคมไปแล้ว อันตรายยิ่งนัก
2. กลัวกฤษฎีกาเลือกตั้งออกช้า หากพ.ร.ฎ.ออกตอนนี้ก็จะเกิดเสียหายซ้ำซ้อน ศาลจะหมดความหมาย กกต.จะได้รับความคุ้มครอง เพื่อให้เดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป โดยไม่ละอายว่า การออกพ.ร.ฎ.คราวที่แล้วก็ดี การดำเนินการเลือกตั้งก็ดี ขาดความเป็นกลาง และไม่สุจริตยุติธรรม จนต้องคำสั่งศาลยกเลิก ถ้าหากพวกเราจำได้ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยถูกศาลตัดสินปรับหลายหมื่นหรือแสนล้านบาทเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ในการป้องกันค่าเงินบาท คราวนี้ทักษิณกับ กกต.ทำให้ประเทศเสียเงินไปเปล่าๆ กว่า 2 พันล้านบาท เสียเวลา เกิดวิกฤต จนอาจจะเสียประชาธิปไตย ทั้งคู่ยังไม่มีหิริโอตตัปปะ ขาดความละอาย ปัดความรับผิดชอบ กลับโทษและป้ายผิดให้ผู้อื่น น่าเขกกบาลจริงๆ ผมจะฟ้องดีมั้ยนี่ จะได้เอาเงินมาจ่ายคดีทักษิณฟ้อง
(3) กลัว ป.ป.ช.ชุดใหม่มาเร็ว พวกเราเห็นหรือไม่ ได้ยินหรือเปล่าว่ารัฐบาลทักษิณแทรกแซงการแต่งตั้งองค์กรอิสระ การแทรกแซง มี 2 ประการ คือ (1) ระดมเอาพรรคพวกตนเองเข้าไปให้มากที่สุด คนดีๆ ที่อยู่ข้างความถูกต้อง อาทิ กล้าณรงค์ ไม่สามารถผ่านด่านเข้าไปได้ (2) เมื่อไม่แน่ใจในตัวบุคคลหรือขบวนการ หรือแน่ใจแต่กลัวข้อหาใดข้อหาหนึ่ง ก็ใช้อิทธิพลถ่วงเวลาจนไม่สามารถแต่งตั้ง ป.ป.ช.ทั้งคณะได้เสียเลย ทำให้การร้องเรียนตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญกระทำมิได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกล่าวหาว่านักการเมืองทุจริต ซึ่งสมาชิกสภาไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ หรือประชาชนห้าหมื่นคนขึ้นไปเข้าชื่อกัน ยื่นผ่านวุฒิสภา เพื่อให้ส่งต่อ ป.ป.ช. ก็เลยกระทำมิได้ การเกิดสุญญากาศหรือชะงักงันของรัฐธรรมนูญเช่นนี้ นักการเมืองได้ประโยชน์ ประเทศชาติเสียประโยชน์ กรณีเช่นนี้แหละ ถ้ารัฐบาลมีน้ำยาหรือยางอาย สามารถนำรัฐธรรมนูญมาตรา 7 มาปรับใช้ให้อัยการและศาลฎีกาคดีการเมือง กระทำหน้าที่แทนได้ มิใช่ปล่อยให้ทุจริตรายใหญ่ลอยนวลหมดอายุความไป
4. กลัว ส.ว.ชุดใหม่มาช้า ผมเสียดายแทน ส.ว.น้ำดีหลายคน แต่โดยส่วนรวม ส.ว.ชุดนี้เป็นยิ่งกว่าทายาทอสูรที่ ศ.ดร.บุนทัน ดอกไธสง กลัว อาจารย์บุญทันเป็นอดีตรองประธานวุฒิสภาชุดรักษาการ เป็นกลาง ยึดหลักการและเข้าข้างการเลือกตั้ง แต่ได้เห็นการแทรกแซงและทำลายเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแล้วทนไม่ได้ ทักษิณต้องการ ส.ว.ชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอคอยประธานสมัคร เพราะ ส.ว.ชุดใหม่อาจจะเรียกได้ว่าไทยลักไทยเกือบทั้งชุด ต่อไปนี้การตรวจสอบแต่งตั้งอะไรจะอยู่ในกำมือทักษิณ วิธีการก็ง่ายๆ อย่างที่เสนาะ เทียนทอง เล่าให้ฟัง การกำหนดวันเลือก ส.ส.ในวันที่ 2 เมษายน เพื่อให้ช่วยกันอุ้ม ส.ว.ในวันที่ 19 เดือนเดียวกันนั้น เป็นการวางหมากอย่างล้ำลึก ถ้ามิใช่ทักษิณกับวาสนาทำไม่ได้ และการดำเนินการเลือกตั้งก็อีหรอบเดียวกัน ถ้าหากเราปฏิรูปวุฒิสภาไม่ได้ อย่ามีเสียเลยดีกว่า ผมได้ยินว่าอุทัย พิมพ์ใจชน ลาออกไปแล้ว ไม่ทราบจริงหรือไม่
5. กลัวศาลตัดสินเร็ว ทักษิณมีคดีค้างศาลทั้งศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอาญา ตั้งแต่เรื่องละเมิดรัฐธรรมนูญ ลงมาถึงเรื่องโป้ปดคดโกงและโกหกศาล ไม่เร็วหรือช้าศาลก็ต้องตัดสิน เมื่อวานนี้ก็มีคนหลายกลุ่มมาประชุมกันที่ฐานเศรษฐกิจ เพื่อกดดันและถอดถอนศาล ใครลองหาข้อมูลได้มั้ยครับ จะได้เอาไปลงกินเนสส์ว่า ใครเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องคดีมากที่สุดในโลก
6. กลัวรัฐบาลรักษาการไปเร็ว ไม่ต้องอธิบาย
7. กลัวภริยาและลูกถูกลักพาตัว ไม่ต้องอธิบาย แต่ผมเป็นห่วงด้วยใจจริง ขอภาวนาอย่าให้เกิดขึ้น
8. กลัวถูกลอบสังหาร ทั้งลินคอล์นและเคนเนดี้ เป็นประธานาธิบดีที่มีเกียรติศักดิ์และบารมีของประเทศประชาธิปไตยชั้นนำ ทั้งสองถูกลอบสังหารเพราะคนพาลที่เสียประโยชน์เห็นว่า 4 ปีนานเกินไป รอไม่ได้ ผมเคยเล่าให้พวกเราฟังว่า ระดับของความโหดร้ายในการต่อสู้ทางการเมืองนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากทางเลือกน้อยลงๆ ขั้นสุดท้ายก็จะถึงการลักพาตัวและลอบสังหารผู้นำ ผมไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย ไม่ว่ากับผู้ใด คุณทักษิณ โปรดฟังและร่วมมือกับเราป้องกันด้วย
ประมาณ 4-5 เดือนมานี้ ผมทราบว่ามีการติดตามสังเกตพฤติการของทักษิณ โดยกลุ่มแพทย์โรคจิตที่เป็นห่วงว่าเมืองไทยจะต้องถูกปกครองโดยคนบ้า ผลการวิเคราะห์ไม่สามารถยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าทักษิณเป็นโรคไบโพลาร์หรือไม่ ทราบแต่ว่ามีอาการอ่อนๆ ทางตับ ทำให้อาเจียนบ่อยๆ หน้าเหี่ยว แก่เกินวัย แต่อาการไบโพลาร์ซึ่งมีลักษณะชัดแจ้งอยู่ประมาณ 7 อย่างนั้น 2 อย่างโดดเด่นมาก คือ เดี๋ยวก็ซึมเศร้า เดี๋ยวก็เหิมเกริม แต่สรุปแล้ว มีการดำรงความมุ่งหมาย คือผลประโยชน์หรือสิ่งที่ตนหวงแหนอยากได้อย่างเด็ดเดี่ยวไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
การที่ทักษิณออกมาถ่มน้ำลายรดฟ้าเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนนี้ บางคนบอกว่าเป็นอาการเบรกแตก บ้างก็บอกไม่ใช่ เป็นพฤติกรรมต่อเนื่องคงเส้นคงวาต่างหาก เราจะยังไม่กล่าวถึงเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างที่ทักษิณถูกโจมตีว่าละเมิดพระเจ้าอยู่หัว แต่เราอาจยืนยันได้จากประกาศของพรรคไทยลักไทยว่าเราจะสู้อุปสรรคทุกอย่างที่ขัดขวางทางสำเร็จของพรรค มีคนมาเล่าว่าในการประชุมวงในของพรรค 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทักษิณย้ำเสมอว่าไม่ต้องกลัว เราจะสู้จนหมดหน้าตัก ความเคลื่อนไหวแบบอีแต๋น คาราวานคนจน และคนยามรักษาป่ายังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง คนระดับรองประธานสภาอกมาลบหลู่ศาลจนต้องถูกตำหนิโทษ การข่มขู่จะถอดถอนศาลทั้งโดยตรงและการสร้างข่าว จนกระทั่งถึงการประชุมที่ฐานเศรษฐกิจ 2-3 วันนี้ มีการล่ารายชื่ออย่างเปิดเผยที่จะถอดถอนศาล และกดดันให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ให้จงได้
ประกาศต่อหน้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในทำเนียบเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนนี้ พุ่งเป้าไปที่ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” โดยตรง ทักษิณบอกว่าจะขอต่อสู้ด้วยชีวิต ผมเลยคิดถึงเขาอดีตอธิบดีกรมตำรวจ ว่าเขาจะไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน เขาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ผิดชอบชั่วดี เขาไม่กลัวใครทั้งสิ้น ไม่ว่าทักษิณจะกลัวจนเป็นบ้า หรือกล้าเสียจนบิ่น แต่คราวนี้ไม่ต้องแปลอะไรแล้ว
ทักษิณดับเครื่องชน
ปัญหาขึ้นอยู่กับพวกเราว่า จะสู้ หรือ หนี