ศูนย์ข่าวภูเก็ต-นักลงทุนไทย-เทศแห่ผุดโรงแรม รีสอร์ตหรู ที่ป่าคลอก รองรับนักท่องเที่ยว ที่หันมาสนใจเที่ยวชมธรรมชาติของป่าชายเลนมากขึ้น โดยล่าสุดขออนุญาตก่อสร้างผ่านอบต.แล้ว 7-8 แห่ง เงินลงทุนรายละ 200-300 ล้านบาท ในอนาคตป่าคลอกมีห้องพักกว่า 500 ห้อง ส่งผลอบต.เก็บภาษีโรงเรือนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทแน่นอน นายกเผยรายได้หลัก ขณะนี้มาจากการนิติกรรมที่ดิน ที่มีการเปลี่ยนมือสูงมาก
นายปัญญา สำเภารัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก(อบต.)อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึง ภาวะการลงทุนในพื้นที่ต.ป่าคลอก ว่า ขณะนี้พื้นที่ต.ป่าคลอกกำลังได้รับความนิยม จากนักลงทุนทั้งไทยจากส่วนกลางและต่างชาติ ในการเข้ามาลงทุนทั้งโครงการบ้านจัดสรรและโรงแรมที่พัก จากเดิมพื้นที่ป่าคลอก เป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต ที่ชายหาดมีความสวยงามน้อยกว่าทางฝั่งตะวันตก
ปัจจุบัน พื้นที่ป่าคลอกเป็นพื้นที่อยู่ติดริมทะเล กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ในบริเวณหมู่ที่ 7 บ้านยามู หมู่ที่ 6 บ้านอ่าวปอ และหมู่ที่ 5 บ้านเกาะนาคา ทั้ง 3 พื้นที่นี้ กำลังจะมีการลงทุนด้านโรงแรม รีสอร์ต และที่พักเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 7-8 แห่ง โดยขณะนี้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมรีสอร์ตต่ออบต.ป่าคลอกแล้ว 7-8 ราย เพื่อที่จะเตรียมลงทุนก่อสร้างโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ซึ่งบางแห่งกำลังเริ่มการก่อสร้าง บางแห่งยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเตรียมก่อสร้าง
สำหรับโรงแรม และรีสอร์ตที่จะเกิดขึ้นที่ป่าคลอก เป็นโรงแรมขนาดกลางมีไม่เกิน 80 ห้อง ใช้เงินลงทุนรายละประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว มี 1 แห่ง คือโรงแรมจันทร์ดารา ส่วนที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า คือ โรงแรมสุภาลัยรีสอร์ต
ทั้งนี้ หากโรงแรมและรีสอร์ต ที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างต่ออบต.ไว้แล้ว เปิดให้บริการทั้งหมด คาดว่าในพื้นที่ป่าคลอก จะมีห้องพักไม่ต่ำกว่า 500-600 ห้อง ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับพื้นที่ป่าคลอก เนื่องจากพื้นที่นี้ ไม่ได้มีจุดขายทางการท่องเที่ยว จากทะเลและหาดทรายที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน แต่มีธรรมชาติของป่าชายเลนที่สมบูรณ์
นายปัญญา กล่าวอีกว่า อบต.ป่าคลอก จึงได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ ให้ดำรงอยู่ต่อไป เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวมีความเข้มแข็ง
"จุดขายการท่องเที่ยวของป่าคลอก จะอยู่ที่ป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ ที่ชาวบ้านช่วยด้วยกันดูแล และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเขาพระแทว ชายหาดที่เกาะนาคา น้ำตกบางแป เป็นต้น" นายปัญญากล่าวและว่า
สำหรับการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ป่าคลอก จากที่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนบ้านจัดสรรในพื้นที่หลายโครงการ ถึงตอนนี้คิดว่า บ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และการเกิดขึ้นของโครงการบ้านจัดสรรจำนวนมาก ยังจะเป็นภาระให้แก่อบต. ในการเข้าไปดูแลจัดเก็บขยะด้วย โดยปัจจุบันยังไม่มีโครงการบ้านจัดสรรรายใหม่ ยื่นขอก่อสร้างต่ออบต.
นายกอบต.ป่าคลอก ยังกล่าวถึงการจัดเก็บภาษีว่า รายได้ของอบต.ป่าคลอกอยู่ที่ปีละ 15-20 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการจัดเก็บภาษี และค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมที่ดิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนมือที่ดินในพื้นที่ป่าคลอกมีสูงมาก แต่คาดว่าภายหลังโรงแรมทั้ง 7-8 แห่ง สร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการ จะทำให้อบต.สามารถจัดเก็บภาษีโรงเรือนได้ไม่น้อยกว่าปีละ 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายปัญญา สำเภารัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก(อบต.)อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึง ภาวะการลงทุนในพื้นที่ต.ป่าคลอก ว่า ขณะนี้พื้นที่ต.ป่าคลอกกำลังได้รับความนิยม จากนักลงทุนทั้งไทยจากส่วนกลางและต่างชาติ ในการเข้ามาลงทุนทั้งโครงการบ้านจัดสรรและโรงแรมที่พัก จากเดิมพื้นที่ป่าคลอก เป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต ที่ชายหาดมีความสวยงามน้อยกว่าทางฝั่งตะวันตก
ปัจจุบัน พื้นที่ป่าคลอกเป็นพื้นที่อยู่ติดริมทะเล กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ในบริเวณหมู่ที่ 7 บ้านยามู หมู่ที่ 6 บ้านอ่าวปอ และหมู่ที่ 5 บ้านเกาะนาคา ทั้ง 3 พื้นที่นี้ กำลังจะมีการลงทุนด้านโรงแรม รีสอร์ต และที่พักเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 7-8 แห่ง โดยขณะนี้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมรีสอร์ตต่ออบต.ป่าคลอกแล้ว 7-8 ราย เพื่อที่จะเตรียมลงทุนก่อสร้างโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ซึ่งบางแห่งกำลังเริ่มการก่อสร้าง บางแห่งยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเตรียมก่อสร้าง
สำหรับโรงแรม และรีสอร์ตที่จะเกิดขึ้นที่ป่าคลอก เป็นโรงแรมขนาดกลางมีไม่เกิน 80 ห้อง ใช้เงินลงทุนรายละประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว มี 1 แห่ง คือโรงแรมจันทร์ดารา ส่วนที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า คือ โรงแรมสุภาลัยรีสอร์ต
ทั้งนี้ หากโรงแรมและรีสอร์ต ที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างต่ออบต.ไว้แล้ว เปิดให้บริการทั้งหมด คาดว่าในพื้นที่ป่าคลอก จะมีห้องพักไม่ต่ำกว่า 500-600 ห้อง ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับพื้นที่ป่าคลอก เนื่องจากพื้นที่นี้ ไม่ได้มีจุดขายทางการท่องเที่ยว จากทะเลและหาดทรายที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน แต่มีธรรมชาติของป่าชายเลนที่สมบูรณ์
นายปัญญา กล่าวอีกว่า อบต.ป่าคลอก จึงได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ ให้ดำรงอยู่ต่อไป เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวมีความเข้มแข็ง
"จุดขายการท่องเที่ยวของป่าคลอก จะอยู่ที่ป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ ที่ชาวบ้านช่วยด้วยกันดูแล และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเขาพระแทว ชายหาดที่เกาะนาคา น้ำตกบางแป เป็นต้น" นายปัญญากล่าวและว่า
สำหรับการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ป่าคลอก จากที่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนบ้านจัดสรรในพื้นที่หลายโครงการ ถึงตอนนี้คิดว่า บ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และการเกิดขึ้นของโครงการบ้านจัดสรรจำนวนมาก ยังจะเป็นภาระให้แก่อบต. ในการเข้าไปดูแลจัดเก็บขยะด้วย โดยปัจจุบันยังไม่มีโครงการบ้านจัดสรรรายใหม่ ยื่นขอก่อสร้างต่ออบต.
นายกอบต.ป่าคลอก ยังกล่าวถึงการจัดเก็บภาษีว่า รายได้ของอบต.ป่าคลอกอยู่ที่ปีละ 15-20 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการจัดเก็บภาษี และค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมที่ดิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนมือที่ดินในพื้นที่ป่าคลอกมีสูงมาก แต่คาดว่าภายหลังโรงแรมทั้ง 7-8 แห่ง สร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการ จะทำให้อบต.สามารถจัดเก็บภาษีโรงเรือนได้ไม่น้อยกว่าปีละ 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน