xs
xsm
sm
md
lg

แม้วตกเขียวข้าราชการ เตรียมขึ้นเงินเดือนปี 51

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ทักษิณ"กล่อมข้าราชการ ทำงานหนักแต่เงินเดือนน้อย ไม่พอค่าครองชีพ เตรียมขึ้นเงินเดือนให้ในปี 51 ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาล อ้างปัญหาการเมืองวุ่น ทำให้ขึ้นเงินเดือนช้า ถ้าสงบเรียบร้อยอาจขึ้นให้ในปี 50

เมื่อเช้าวานนี้(3ก.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบเกียรติบัตรข้าราชการพลเรือนดีเด่น เนื่องในวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2549 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โอกาสนี้ ได้กล่าวกับบรรดาข้าราชการ ว่า จากรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ระบุชัดว่า ข้าราชการมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและบริการประชาชน ตรงกับหลักบริหารที่ว่า ต้องเป็นทั้งผู้ให้บริการ อำนวยความสะดวก และกำหนดกติกาบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบตามหลักประชาธิปไตย เรามีข้าราชการจำนวนมาก เราพยายามอย่างยิ่ง ในการพัฒนาสวัสดิการ สวัสดิภาพ และประสิทธิภาพของข้าราชการไปพร้อมกัน

ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปรับอัตราเงินเดือน ขึ้นถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่พอ ไม่ทันกับค่าครองชีพซึ่งขึ้นเร็วมาก วันนี้ปริมาณเม็ดเงินในโลกนี้ได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจาก 5 ปีที่แล้ว เพราะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมัน เมื่อราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้ค่าครองชีพต่างๆเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวนมาก ดังนั้นข้าราชการพลเรือน จึงเป็นผู้ที่ถูกคาดหวังสูง แต่เงินเดือนน้อย ถูกคาดหวังว่าต้องทำงานดีๆ ต้องประพฤติดีๆ แต่อย่าเอาเงินเดือนมากเลย ซึ่งตนพยายามพูดอยู่ตลอดเวลาว่า เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่ยอมรับโลกแห่งความเป็นจริง เราจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย ถ้าเราอยากแก้ปัญหาก็ต้องยอมรับว่า โลกแห่งความเป็นจริงคืออะไร แล้วมาคิดว่าเราจะไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร

แน่นอนว่า ต้องมีการพัฒนาทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ค่านิยม และความเป็นจริงของค่าใช้จ่าย เพราะวันนี้ถ้าข้าราชการพลเรือนถูกคาดหวังสูง และได้เงินเดือนขนาดนี้ยังลำบาก วันนี้อาจจะเห็นข้าราชการซี 7 ซี 8 และเมื่อหันไปหาเพื่อนที่อยู่ภาคเอกชน ใน 10 กว่าปีมานี้ แม้จะมีวิกฤติเศรษฐกิจบางช่วง แต่ก็เป็นเศรษฐกิจที่ทำให้ภาคธุรกิจสามารถจ้างคนในอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้น บางที่อาจจะเห็นว่า ชีวิตความเป็นอยู่อาจจะมีเกียรติยศกว่า แต่ก็ลำบากกว่าเพื่อนที่อยู่ภาคเอกชน อย่างเช่น วิชาชีพแพทย์เป็นต้น

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ได้พยายามตลอดเวลาว่าเราจะต้องปรับประสิทธิภาพของระบบราชการ และ ในที่สุดการลดอัตรากำลังพลภาครัฐที่พยายามลดหลังเกษียณนั้น ก็ต้องทำอย่างเป็นระบบ ซึ่งได้มอบหมายให้ทาง กพร.และ กพ.ศึกษา ดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ในระยะ 4-5 ปีหลังมานี้ เราเน้นเรื่องประสิทธิภาพ จึงทำให้ดีขึ้นมาเยอะ และต้องขอบคุณหลายหน่วยงานที่งานหนักมาก เช่น กรมควบคุมโรคติดต่อที่มีทั้งซาร์ และหวัดนก เรื่องยาเสพติดเราก็ทำงานหนัก ปฏิรูปการ ศึกษาก็หนัก ตอนนี้เรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน มันก็หนัก

"ถ้าเราไม่ทำงานหนักกันขนาดนี้ 4-5 ปีหลังมานี้ประเทศไม่ได้เปลี่ยนมากขนาดนี้หรอก แต่ที่ประเทศเปลี่ยนมากขนาดนี้ ผมบอกได้เลยว่า ข้าราชการไทยมีประสิทธิภาพ และความสามารถสูง เพียงแต่ว่าได้รับความท้าทายน้อยไปหน่อย แต่เมื่อถูกท้าทายมากๆ ก็พบว่าทำได้ และทำได้ดีด้วย เพียงแต่ความท้าทายนั้นผู้บังคับบัญชาต้องเข้าใจทิศทางและช่วยกันทำ"

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เรื่องขวัญกำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ ตนพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างขวัญกำลังใจ แต่แน่นอน คนบางทีมุ่งประสิทธิภาพ อาจทำให้คิดมากไปบ้างน้อยใจบ้าง หรืออาจดูแลกันไม่ทั่วถึง ต้องใจก่อนว่าตนเชื่อว่าถ้าอยากจะเห็นข้าราชการไทยมีประสิทธิภาพ ต้องมีการกำหนดหน้าที่การงานของแต่ละคนให้ชัดเจน แล้วมีปริมาณที่เหมาะสมกับงาน จากนั้นก็ปรับเงินเดือนให้ใกล้เคียงกับเอกชนให้มากที่สุด แน่นอนว่า เรามีสวัสดิการ เกียรติศักดิ์ เกียรติภูมิ เรามีมากกว่าเอกชน ในบางอย่าง เครื่อราชอิสริยาภรณ์ ที่เรารับพระราชทานก็เหนือกว่าเอกชน แต่เงินเดือนเป็นเรื่องความเป็นจริงของชีวิต ต้องให้อยู่ได้ ถ้าจะให้อยู่ได้ ประสิทธิภาพก็จำป็น เมื่อมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้น เก็บภาษีได้มากขึ้น เงินเหล่านั้นก็จะมาแยกเป็นเงินค่าจ้างของข้าราชการ ให้มีเงินเดือนที่ดีขึ้น

"ผมตั้งใจว่าปี 2551 จะมีการปรับเงินเดือนข้าราชการอีกครั้ง แต่ยังคิดว่า ถ้าไม่มีปัญหาการเมืองอาจจะปรับในปี 2550 ด้วยซ้ำ เพราะเห็นค่าใช้จ่ายที่ขึ้นมาแล้วดูน่ากลัว แล้วเราจะไปบังคับข้าราชการว่าต้องประหยัดนะ ก็ทำได้ระดับหนึ่ง ผมขอให้กำลังใจว่า จะพยายามอย่างยิ่งที่จะบริหารเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การปรับอัตราเงินเดือนเพื่อให้ข้าราชการอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มันมีศักดิ์ศรีแต่อยู่ไม่ได้ มันอยู่ได้แต่มีศักดิ์ศรี คือให้มีค่าจ้างค่าตอบแทนให้อยู่ในระดับซึ่งสามารถดำรงชีพ และดำรงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นข้าราการได้" รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่อม
กำลังโหลดความคิดเห็น