"หลวงพ่อคูณ"กลับวัดบ้านไร่แล้ว แพทย์เตือนญาติโยมใครป่วยเป็นไข้ห้ามเข้าใกล้เป็นอันขาด หวั่นนำเชื้อโรคติด แนะลดเวลาเข้าเยี่ยมหรือเคาะหัวให้น้อยลง "หลวงพ่อคูณ"เทศน์เตือนสติทุกฝ่ายทำดีถวายในหลวงในปีมหามงคล ด้วยการทำให้พระเจ้าแผ่นดินสบายพระราชหฤทัย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อายุ 83 ปี ซึ่งนอนรักษาตัวที่ห้อง 9821 หอพักผู้ป่วยพิเศษ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า วานนี้ (3 ก.ค.) แพทย์อนุญาตให้หลวงพ่อคูณ กลับวัดบ้านไร่ได้แล้ว
โดยหลวงพ่อคูณ ได้ตื่นเช้าเป็นพิเศษตั้งแต่เวลา 04.45 น. ด้วยใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใส และเดินออกกำลังกายบริเวณชั้น 8 ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยแกว่งแขน มือ ขา สลับไปมานานประมาณ 20 นาที พร้อมทั้งฉันภัตตาหารเช้าเป็นโจ๊ก ปลาช่อนแดดเดียวอบน้ำผึ้ง ผัดฟักทองเห็ดหอม หมูหวานผัดเค็ม มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า มะม่วงสุก ก่อนจะเดินทางกลับวัดบ้านไร่ในเวลา 08.35 น.โดยรถตู้โฟล์คสวาเกน มูลค่า 3 ล้านบาท ขทะเบียน นข-1 นครราชสีมาที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลถวายให้ แต่เขียนชื่อติดข้างรถมอบในนาม "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี"
ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณ กล่าวก่อนเดินทางกลับวัดบ้านไร่ว่า "กูไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร ตอนนี้รู้สึกตัวเองว่า ดีขึ้นตามลำดับ กูก็ดีไป ดีไปอย่างนี้แหละ เมื่อคืนกูก็นอนหลับสนิทดี ตื่นมาเดินออกกำลังกาย วันนี้ฉันอาหารก็อร่อยดี พี่น้องที่ยังเป็นห่วงกูขอบอกให้ทราบกันถ้วนหน้าว่ากูกลับวัดบ้านไร่แล้ว เพราะออกมาจากวัดหลายวันพอสมควรแล้ว ทีนี้กูก็จะกลับไปอยู่วัดบ้านไร่ตามเคยแหละ ลูกหลานเอ๊ย"
หลวงพ่อคูณยังฝากถึงพุทธศาสนิกชนและญาติโยมด้วยว่า "ขอให้ทำความดีถวายในหลวงเป็นปีมหามงคล ทำให้พระเจ้าแผ่นดินเบาใจ ก็คือ พวกพี่น้องเราอย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน อย่าไปรุกที่ไร่ที่นา ที่เรือกที่สวนอะไรกัน ทำให้ตรงไปตรงมา อย่าไปรุกของกันและกัน ทำให้เกิดการโต้ตอบกัน เดี๋ยวก็โต้ตอบกันขึ้นอีก ไม่ดีดอกนะลูกหลานเน้อ ทะเลาะเบาะแว้งกันมันไม่ดี กูว่าเราทำกันให้ตรงไปตรงมาซะ จะได้ไม่มีเรื่องมีราวอะไรกัน"
ด้าน นพ.พินิจจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์เจ้าของไข้ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวภายหลังตรวจอาการหลวงพ่อคูณครั้งสุดท้าย ว่า อาการโดยทั่วไปถือว่าดีขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องน้ำตาลในเลือดต่ำนั้น ตอนนี้หมดปัญหาไปแล้ว เช้าวันนี้ปริมาณน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ 161 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าปกติ ส่วนความดันโลหิต 130/70 ไม่มีไข้ ขณะนี้แพทย์ได้ลดการให้ยาเบาหวานลง เพื่อให้ร่างกายปรับเข้ากลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งทางแพทย์ได้เปลี่ยนจากยาฉีดเข้าเส้นมาเป็นยาฉันแทน และยังคงให้หลวงพ่อฉันยาปฏิชีวนะต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่ง
"ญาติโยมที่เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อคูณ ต้องขอร้องว่า ถ้าไม่สบาย หรือมีไข้ ห้ามเข้าใกล้ท่านเป็นอันขาด เพราะจะเอาเชื้อโรคไปติดหลวงพ่อได้ นอกจากนี้ แพทย์ยังให้งดรับกิจนิมนต์ที่ต้องเดินทางไกล เพื่อจะให้หลวงพ่อได้พักผ่อนมากๆ ได้ปรับเวลาเข้านมัสการ หรือเคาะหัวญาติโยมใหม่คือให้ลดเวลาลง เพื่อให้ท่านพักผ่อนมากที่สุด"
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อายุ 83 ปี ซึ่งนอนรักษาตัวที่ห้อง 9821 หอพักผู้ป่วยพิเศษ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า วานนี้ (3 ก.ค.) แพทย์อนุญาตให้หลวงพ่อคูณ กลับวัดบ้านไร่ได้แล้ว
โดยหลวงพ่อคูณ ได้ตื่นเช้าเป็นพิเศษตั้งแต่เวลา 04.45 น. ด้วยใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใส และเดินออกกำลังกายบริเวณชั้น 8 ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยแกว่งแขน มือ ขา สลับไปมานานประมาณ 20 นาที พร้อมทั้งฉันภัตตาหารเช้าเป็นโจ๊ก ปลาช่อนแดดเดียวอบน้ำผึ้ง ผัดฟักทองเห็ดหอม หมูหวานผัดเค็ม มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า มะม่วงสุก ก่อนจะเดินทางกลับวัดบ้านไร่ในเวลา 08.35 น.โดยรถตู้โฟล์คสวาเกน มูลค่า 3 ล้านบาท ขทะเบียน นข-1 นครราชสีมาที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลถวายให้ แต่เขียนชื่อติดข้างรถมอบในนาม "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี"
ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณ กล่าวก่อนเดินทางกลับวัดบ้านไร่ว่า "กูไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร ตอนนี้รู้สึกตัวเองว่า ดีขึ้นตามลำดับ กูก็ดีไป ดีไปอย่างนี้แหละ เมื่อคืนกูก็นอนหลับสนิทดี ตื่นมาเดินออกกำลังกาย วันนี้ฉันอาหารก็อร่อยดี พี่น้องที่ยังเป็นห่วงกูขอบอกให้ทราบกันถ้วนหน้าว่ากูกลับวัดบ้านไร่แล้ว เพราะออกมาจากวัดหลายวันพอสมควรแล้ว ทีนี้กูก็จะกลับไปอยู่วัดบ้านไร่ตามเคยแหละ ลูกหลานเอ๊ย"
หลวงพ่อคูณยังฝากถึงพุทธศาสนิกชนและญาติโยมด้วยว่า "ขอให้ทำความดีถวายในหลวงเป็นปีมหามงคล ทำให้พระเจ้าแผ่นดินเบาใจ ก็คือ พวกพี่น้องเราอย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน อย่าไปรุกที่ไร่ที่นา ที่เรือกที่สวนอะไรกัน ทำให้ตรงไปตรงมา อย่าไปรุกของกันและกัน ทำให้เกิดการโต้ตอบกัน เดี๋ยวก็โต้ตอบกันขึ้นอีก ไม่ดีดอกนะลูกหลานเน้อ ทะเลาะเบาะแว้งกันมันไม่ดี กูว่าเราทำกันให้ตรงไปตรงมาซะ จะได้ไม่มีเรื่องมีราวอะไรกัน"
ด้าน นพ.พินิจจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์เจ้าของไข้ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวภายหลังตรวจอาการหลวงพ่อคูณครั้งสุดท้าย ว่า อาการโดยทั่วไปถือว่าดีขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องน้ำตาลในเลือดต่ำนั้น ตอนนี้หมดปัญหาไปแล้ว เช้าวันนี้ปริมาณน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ 161 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าปกติ ส่วนความดันโลหิต 130/70 ไม่มีไข้ ขณะนี้แพทย์ได้ลดการให้ยาเบาหวานลง เพื่อให้ร่างกายปรับเข้ากลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งทางแพทย์ได้เปลี่ยนจากยาฉีดเข้าเส้นมาเป็นยาฉันแทน และยังคงให้หลวงพ่อฉันยาปฏิชีวนะต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่ง
"ญาติโยมที่เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อคูณ ต้องขอร้องว่า ถ้าไม่สบาย หรือมีไข้ ห้ามเข้าใกล้ท่านเป็นอันขาด เพราะจะเอาเชื้อโรคไปติดหลวงพ่อได้ นอกจากนี้ แพทย์ยังให้งดรับกิจนิมนต์ที่ต้องเดินทางไกล เพื่อจะให้หลวงพ่อได้พักผ่อนมากๆ ได้ปรับเวลาเข้านมัสการ หรือเคาะหัวญาติโยมใหม่คือให้ลดเวลาลง เพื่อให้ท่านพักผ่อนมากที่สุด"