อาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ดีขึ้น พร้อมให้สัมภาษณ์บอกญาติโยม “กูดีขึ้นแล้ว ไม่เป็นอะไร” แพทย์ระบุสาเหตุการอาพาธ เกิดจากการตรากตรำงานมากและมีการติดเชื้อ สั่งงดรับกิจนิมนต์ทั้งหมดไว้ก่อนเพื่อจะได้พักผ่อนให้มากที่สุด พร้อมอนุญาตให้กลับวัดบ้านไร่ได้ในวันเสาร์ 1 ก.ค.นี้
ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งลูกศิษย์นำส่งโรงพยาบาลเมื่อเช้าวานนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำผิดปกติและแพทย์ให้นอนพักรักษาตัวเพื่อรอดูอาการอยู่ที่ ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นวันที่สอง
ล่าสุดเช้าวานนี้ (29 มิ.ย.) อาการโดยภาพรวมของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก มีใบหน้าสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยกับศิษยานุศิษย์ได้ตามปกติ ซึ่งหลวงพ่อคูณ ตื่นตั้งแต่เวลา 05.40 น.และฉันอาหารเช้าเมื่อเวลา 07.10 น.ได้ปริมาณมาก โดยอาหารที่ญาติโยมนำมาถวาย ได้แก่ ข้าว, ข้าวต้ม, ปลาทับทิมทอด, หมูกรอบ, แกงจืดตำลึง, แกงป่า, ผัดผัก, น้ำพริกผักต้ม ส่วนของหวานเป็นขนมชั้น เม็ดบัวและผลไม้
ต่อมาเวลา 08.20 น. พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำพวงมาลัยเข้าเยี่ยมอาการอาพาธและกราบนมัสการหลวงพ่อคูณภายในห้องพักผู้ป่วย พร้อมสนทนาสอบถามอาการหลวงพ่อคูณ ประมาณ 10 นาทีก่อนจะเดินทางกลับ
จากนั้น นพ.พินิจจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เข้าตรวจร่างกายและวัดความดันโลหิตของหลวงพ่อคูณ พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจและวินิจฉัยของคณะแพทย์ ในวันนี้หลวงพ่อคูณ มีอาการดีขึ้นมาก ความดันโลหิต, หัวใจ และปอด อยู่ในเกณฑ์ปกติ และภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 107 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ เช่นกัน
คาดว่าสาเหตุของการอาพาธครั้งนี้น่าจะมาจากการที่หลวงพ่อตรากตรำจนเกินไป และเกิดภาวะการติดเชื้อ ซึ่งคงจะต้องรอดูอาการต่อไปอีกสักระยะก่อนที่จะอนุญาตให้หลวงพ่อกลับวัดบ้านไร่ได้ หรืออย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.ค.นี้
นพ.พินิจจัย กล่าวต่อว่า จากนี้ไปคงจะต้องให้หลวงพ่อคูณได้พักผ่อนให้มากที่สุดและงดรับกิจนิมนต์ทั้งหมดก่อนโดยเฉพาะที่ต้องเดินทางไกล และคงต้องเข้มงวดเรื่องการเข้าเยี่ยมหลวงพ่อด้วย เนื่องจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในการอาพาธครั้งนี้อาจจะมาจากญาติโยมที่ป่วยและเข้าใกล้หลวงพ่อคูณ
ด้านหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กล่าวฝากบอกประชาชนผ่านสื่อมวลชนว่า ให้ลูกหลานบอกต่อ ๆ กันไปว่ากูดีแล้ว แข็งแรงแล้ว กลับวัดก็ได้ ส่วนการรับกิจนิมนต์นั้นถ้ามันไกล ๆ กูก็ไม่ไปด๊อก... ใกล้ ๆ ก็ไม่ไปดอกเพราะมันเยอะตอนนี้ร่างกายยังไม่ดีพอ
สำหรับการรวบรวมเงินบริจาค 100 ล้านบาทเพื่อทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ เสร็จวัดบ้านไร่นั้น หลวงพ่อคูณ บอกว่า ไม่เป็นไรดอก ถ้ามีครบก็ทูลถวาย ถ้ายังไม่ครบก็เอาไว้ก่อน
ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งลูกศิษย์นำส่งโรงพยาบาลเมื่อเช้าวานนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำผิดปกติและแพทย์ให้นอนพักรักษาตัวเพื่อรอดูอาการอยู่ที่ ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นวันที่สอง
ล่าสุดเช้าวานนี้ (29 มิ.ย.) อาการโดยภาพรวมของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก มีใบหน้าสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยกับศิษยานุศิษย์ได้ตามปกติ ซึ่งหลวงพ่อคูณ ตื่นตั้งแต่เวลา 05.40 น.และฉันอาหารเช้าเมื่อเวลา 07.10 น.ได้ปริมาณมาก โดยอาหารที่ญาติโยมนำมาถวาย ได้แก่ ข้าว, ข้าวต้ม, ปลาทับทิมทอด, หมูกรอบ, แกงจืดตำลึง, แกงป่า, ผัดผัก, น้ำพริกผักต้ม ส่วนของหวานเป็นขนมชั้น เม็ดบัวและผลไม้
ต่อมาเวลา 08.20 น. พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำพวงมาลัยเข้าเยี่ยมอาการอาพาธและกราบนมัสการหลวงพ่อคูณภายในห้องพักผู้ป่วย พร้อมสนทนาสอบถามอาการหลวงพ่อคูณ ประมาณ 10 นาทีก่อนจะเดินทางกลับ
จากนั้น นพ.พินิจจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เข้าตรวจร่างกายและวัดความดันโลหิตของหลวงพ่อคูณ พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจและวินิจฉัยของคณะแพทย์ ในวันนี้หลวงพ่อคูณ มีอาการดีขึ้นมาก ความดันโลหิต, หัวใจ และปอด อยู่ในเกณฑ์ปกติ และภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 107 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ เช่นกัน
คาดว่าสาเหตุของการอาพาธครั้งนี้น่าจะมาจากการที่หลวงพ่อตรากตรำจนเกินไป และเกิดภาวะการติดเชื้อ ซึ่งคงจะต้องรอดูอาการต่อไปอีกสักระยะก่อนที่จะอนุญาตให้หลวงพ่อกลับวัดบ้านไร่ได้ หรืออย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.ค.นี้
นพ.พินิจจัย กล่าวต่อว่า จากนี้ไปคงจะต้องให้หลวงพ่อคูณได้พักผ่อนให้มากที่สุดและงดรับกิจนิมนต์ทั้งหมดก่อนโดยเฉพาะที่ต้องเดินทางไกล และคงต้องเข้มงวดเรื่องการเข้าเยี่ยมหลวงพ่อด้วย เนื่องจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในการอาพาธครั้งนี้อาจจะมาจากญาติโยมที่ป่วยและเข้าใกล้หลวงพ่อคูณ
ด้านหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กล่าวฝากบอกประชาชนผ่านสื่อมวลชนว่า ให้ลูกหลานบอกต่อ ๆ กันไปว่ากูดีแล้ว แข็งแรงแล้ว กลับวัดก็ได้ ส่วนการรับกิจนิมนต์นั้นถ้ามันไกล ๆ กูก็ไม่ไปด๊อก... ใกล้ ๆ ก็ไม่ไปดอกเพราะมันเยอะตอนนี้ร่างกายยังไม่ดีพอ
สำหรับการรวบรวมเงินบริจาค 100 ล้านบาทเพื่อทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ เสร็จวัดบ้านไร่นั้น หลวงพ่อคูณ บอกว่า ไม่เป็นไรดอก ถ้ามีครบก็ทูลถวาย ถ้ายังไม่ครบก็เอาไว้ก่อน