xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมต้องไปต้มลาว เมืองไทยยังมีเหลือกิน

เผยแพร่:   โดย: ยอดธง ทับทิวไม้

ดูเหมือนว่าเมืองไทยจะได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างสวยงามมาหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เป็นต้นมา ที่ทำให้ประเทศไทยมีระบบการปกครองแบบใหม่ และจากนั้นก็เปลี่ยนแปลงเรื่อยมาจนกระทั่งถึงยุคคอมมิวนิสต์ และ14 ตุลา มาจนกระทั่งการฆ่ากันครั้งสุดท้ายในวันพฤษภาทมิฬ ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นของการเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งไม่ทำให้เกิดผลดีอะไรขึ้นแก่คนไทย และบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อยเพราะการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งนั้นเป็นการแสวงหาที่ทำมาหากินที่โอชะของพวกที่เรียกตัวเองว่านักการเมืองหรือผู้หวังดีต่อชาติเท่านั้น

คนที่อยู่มากับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาเหล่านี้ ทั้งที่ตายไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่ ต่างก็ต้องถามตัวเองวันแล้ววันเล่าว่าจะต้องทำอะไรกับมันอีกกับเมืองไทยของเราที่มันจะชั่วช้าน้อยลงไปกว่านี้หรือเป็นประเทศที่มีความสง่างามขึ้นมาได้

มีคำถาม ถามกันว่าจะต้องปฏิวัติหรือฆ่าคนทิ้งอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนมันถึงจะหมดคนชั่วและคนลวงโลกอย่างที่เมืองไทยมีกันอยู่

ผมเองก็ตอบไม่ได้และยังมีความสงสัยอยู่เช่นเดียวกัน ผมมีอายุมากพอ และได้ผ่านยุคกาลอันชั่วร้ายต่างๆ มาพอทนอยู่ได้ ก็เริ่มคำถามและหาคำตอบให้ตัวเองซึ่งบัดนี้ผมก็ได้คำตอบแล้วและอยากจะขอเผยแพร่บอกกล่าวคนไทยทั่วไปว่า การรวมตัวและการเคลื่อนไหวในนามพันธมิตรฯ นั้น เป็นทางออกและลู่ทางที่จะประสบความสำเร็จพอสมควรขึ้นมาแล้ว

ประกอบด้วยความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นแก่บ้านเมือง เช่น การขายชาติ การปล้นชาติ และการพยายามทำลายวัฒนธรรมประเพณีของบ้านเมืองตามปฏิญญาต่างประเทศที่พูดกันอยู่ทั่วทุกหัวระแหงในขณะนี้ เฉพาะอย่างยิ่งการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์

'แค่ไปต้มลาวนี่ก็แย่แล้วไม่ต้องถึงกับไปต้มฝรั่งหรอก เพราะอ้ายนั่นมันเข้าคุกแน่'

พรรคพวกคนหนึ่งที่ประเทศลาวซึ่งขณะนี้กำลังทำมาหากินอยู่ในอเมริกาเขียนจดหมายมาบอกผมเรื่องที่มหาเศรษฐีไทยท่านหนึ่งพากันยกขบวนเข้าไปหลอกลวงผู้หญิงลาวที่เวียงจันทน์ให้ทำธุรกิจ โดยให้สัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบแทนเป็นล้านบาท ซึ่งเมื่อทำสำเร็จแล้วเป็นสิบๆ ปีเพื่อนก็ทำเป็นลืมไปเสีย เหมือนกับการหากินโดยการหลอกลวงที่มีเสียงอื่นๆ เช่นเซ็นเช็คไม่มีเงินจากนักหมุนเงินรายหนึ่ง และการโกงฝรั่งหน้าตาเฉย ตอนนี้ก็กำลังมีเรื่องเกี่ยวกับไอทีวีกับสิงคโปร์อยู่

ผมเองมีความคุ้นเคยกับคนลาวมากทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ตั้งแต่คนแจวเรือจ้างจนกระทั่งเลขานุการพรรคคอมมิวนิสต์อย่างท่านไกรสอน พรหมวิหาร และคนอื่นๆ อีกมาก ในสมัยที่ลาวยังเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ ผมเองไม่เคยมองหรือเกิดความรู้สึกว่าคนลาวทั้งประเทศนั้นโง่เขลาเบาปัญญาพอที่จะต้องจะคบหากันอย่างเหยียดหยามอย่างคนไทยบางคนของเราไปทำกันอยู่ เฉพาะผู้หญิงคนที่ถูกโกงคนนี้ซึ่งผมเองไม่รู้จักคุ้นเคยกับเธอเป็นการส่วนตัว คนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นใครหรือชื่ออะไรก็ตาม ผมไม่ได้รู้สึกอะไรต่อเขามากกว่าความเป็นพี่เป็นน้องเป็นมิตรแท้ของผมและคนไทยทั้งชาติที่เป็นมาแล้วและจะเป็นตลอดไป

ลาวเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่จะไม่มีเวรมีภัยใดๆ ต่อคนไทยเลยแม้แต่เส้นยาแดงเดียว

เราจะคบกันได้ อยู่ร่วมโลกกันได้

แต่ผมไม่สามารถที่จะคดโกงโกหกเพื่อหากินกับคนลาวพวกนี้ได้ เพราะผมไม่มีอำนาจวาสนา ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโตและที่สำคัญที่สุดก็คือโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลของผมไม่ได้หอบหิ้วความชั่วใดๆ พร้อมกับการเกิดมาเป็นคนของผมด้วย

แต่กลับเป็นว่าตอนนี้มีข่าวว่ามันเกิดความระยำกันขึ้นคือคนไทยที่มียศมีอำนาจท่านหนึ่งลงทุนใช้ตำแหน่งหน้าที่พาพรรคพวก และบริษัทการค้าของตนไปต้มและหลอกคนลาวให้ทำธุรกิจแข่งกับนักธุรกิจฝรั่งเศสในประเทศลาวที่มีราคาค่างวดเป็นร้อยล้านพันล้านบาท แต่ไม่ยอมให้เงินค่าการติดต่อทำธุรกิจเป็นที่รู้กันว่ามีมูลค่าเกือบจะ 2 ล้านบาท โกงเอาดื้อๆ ซึ่งเรื่องราวสกปรกเหล่านี้ น่าจะเป็นไปได้ว่าจะถูกนำไปเผยแพร่ไปทั่วโลกให้เป็นที่รู้กันต่อไปอีกในไม่ช้า

เป็นอันว่าการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองด้วยข้ออ้างต่างๆ เราทำกันมา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เราจะทำต่อไปโดยการเลือกตั้งครั้งใหม่คราวนี้ หรือที่ทำกันมาครั้งแล้วครั้งเล่านั้นไม่ได้ให้ผลอะไรแก่ผู้คนและบ้านเมืองเลย นอกจากความอับอายขายหน้าเพราะความระยำตำบอนและความไร้ยางอายของผู้นำประเทศของเรา

วันหนึ่งถ้าหากว่าผมจะต้องออกเดินทางไปต่างประเทศเหมือนสมัยก่อน ผมคงจะถูกทั่วโลกถามว่าในประเทศของผมนั้น คนที่เป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมืองจะต้องต้มลาวโกงลาวหรือเซ็นเช็คปลอมแลกเงินชาวบ้าน ทำไมคนไทยจึงยอมกันได้

ผมคงทำได้เพียงอย่างเดียวคือยิ้มอย่างชื่นอกชื่นใจแก้เซ็งไปวันๆ เท่านั้น

การเมืองไทยหรือนักการเมืองไทยไม่ว่าจะอย่างไร มันก็คือการเข้ามาทำมาหากิน

ไม่ได้มีการกระทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพื่อบ้านเมืองและประเทศชาติประชาชน

ตรงข้าม เราได้รู้ได้เห็นแต่เพียงความชั่วร้ายและการหลอกลวงผู้คนที่จะเปลี่ยนแปลงหรือพยายามเปลี่ยนแปลงเป็นเพียงกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งที่ขึ้นมามีอำนาจเพื่อประเทศชาติประชาชน และหลอกลวงประชาชนอย่างมหันต์อนันตกรรมทั้งสิ้น

มาถึงวันนี้ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2549นี้ ได้มีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความคิดและนโยบายอย่างเดียวกับกลุ่มต่างๆในอดีตที่ว่ามาแล้ว ไปร่วมชุมนุมกันจากสมาชิกทั่วประเทศที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตในนามของ 'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' ที่มาร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อไขว่คว้าระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจังกลับคืนมาและขจัดความชั่วร้ายต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นจากบ้านเมือง และบรรดาอสรพิษทางการเมืองที่กำลังกินบ้านกินเมืองอยู่ในขณะนี้กลับคืนมา จะมีทางเป็นไปได้อย่างไร

เพราะมันเป็นความจริงที่ไม่มีอะไรนอกจากความจริงที่ว่า การเมืองของบ้านเราในขณะนี้หนักหนาสาหัสกว่าที่ได้กระทำกันมาแต่ก่อน แม้แต่ในสมัยที่เมืองไทยกำลังคลาคล่ำไปด้วยคอมมิวนิสต์เต็มบ้านเต็มเมือง เศษมนุษย์จำนวนหนึ่งซึ่งทุกคนพากันอ้างว่าตนเป็นนักการเมือง นักประชาธิปไตย มีความรักชาติบ้านเมืองเป็นที่สุด มีเงินมากพอที่คดโกงฉ้อฉลทุกประการจะร่วมกันมาลงทุนเพื่อเข้าปกครองประเทศ หรือเพื่อเสนอหน้าขึ้นมาจัดการปัญหาบ้านเมืองปกครองบ้านเมืองให้สะอาดกว่าในยุคเก่าๆ ที่ผ่านมาแล้ว และโดยที่คนไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะงงงัน และไม่เคยรู้ว่าทุกคนเคยถูกต้มถูกหลอกลวงกันมาแล้ว ก็ไม่เอะใจว่าจะมีเสนียดจัญไรใดๆ เกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้ เพราะนักการเมืองมหาวิบัติพวกนี้

จุดอ่อนของคนไทยเรา ถ้าหากเป็นคนบ้านนอกเราเรียกว่า ไม่มีการศึกษา ใครพูดอะไรไม่ขัดกูก็เชื่อแต่สำหรับคนในเมืองส่วนใหญ่แล้ว จะอาศัยความโง่เขลาดั้งเดิมที่อยู่ในวิญญาณของตนเองหรือเพราะความเห็นแก่ตัวที่จะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างไรก็ได้ นั่นคือความผิดพลาดและจุดอ่อนที่ทำให้เสือสิงห์กระทิงแรดมาช่วยกันทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนได้

เมื่อเกิดมีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนสามัญธรรมดามารวมตัวกันขึ้นเพื่อประกาศบอกกล่าวถึงสาเหตุเภทภัยในแผ่นดิน ออกมาประกาศบอกกล่าวแก่ประชาชนทั่วประเทศว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องโค่นล้มรัฐบาลอภิมหาอสรพิษวายร้ายที่มาจากพวกนักแลกเช็คไม่มีเงินที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ประกาศการโค่นล้มรัฐบาลที่มีทุกสิ่งแม้ความเฉลียวฉลาดของสุนัขจิ้งจอก พร้อมด้วยสมุนบริวารและสุนัขรับใช้ทั่วประเทศที่ยังชื่นชมกับการขายประเทศของอสรพิษพวกนี้ต่างก็วางเฉยกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่แผ่นดิน ในข้ออ้างที่ว่าอสรพิษเหล่านั้นเป็นตัวแทนประชาชนที่เข้ามาปกครองประเทศชาติถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย ย่อมไม่มีใครที่จะฟังและไปแตะต้องใดๆ เด็ดขาด

เพราะฉะนั้น การต่อสู้กวาดล้างพิษภัยของบ้านเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกลุ่มนี้ จึงไม่มีใครพร้อมที่จะต้อนรับและเห็นด้วย

เฉพาะอย่างยิ่งบรรดาข้าราชการที่อ้างตัวเองว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพากันปิดปากสนิท

อย่างที่พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ว่าอยู่ทุกวัน

ก็อย่างที่ผมบอกมาแล้วว่าผมเป็นคนรุ่นเก่าและผ่านการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองมาทุกครั้ง และก็ผิดหวังมาทุกครั้ง แต่มาถึงคราวนี้ ผมอยากจะยืนยันว่าถ้าหากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นไปได้บ้านเมืองจะถูกจัดทำให้มีหลักมีเกณฑ์และสะอาดขึ้นอย่างที่มีการบอกกล่าวแก่ประชาชนทั้งประเทศว่า คงไม่ต้องรีรออะไรต่อไปอีก ทางออกของคนไทยทั้งประเทศในขณะนี้มีทางเดียวคือทำลายรัฐบาลปัจจุบันนี้เสียโดยเด็ดขาด

ผมอยากจะยืนยันว่า ผมรู้และเข้าใจการดำเนินการต่อสู้ของคนไทยกลุ่มนี้เป็นส่วนตัวหลายต่อหลายคน ผมมองเห็นเหตุผลของการโค่นล้มผู้มีอำนาจกลุ่มนี้นับตั้งแต่เรื่องส่วนตัวไปจนถึงเรื่องของบ้านเมืองและประชาชนซึ่งเพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น ถ้ารัฐบาลนี้ยังไม่ถูกเปลี่ยนแปลง เมืองไทยจะไม่มีอะไรเหลือนอกจากการถูกขยี้ ถูกทำลายอย่างย่อยยับ

น่าจะเป็นรายการในหัวเมืองทุกภาคหรือแม้แต่กรุงเทพฯ อย่างสนามหลวงหรืออนุสาวรีย์ฯ เมื่อมีการเปิดโปงเรื่องจริงและความชั่วในบ้านเมืองขึ้น โดยกลุ่มพันธมิตรฯ ปรากฏว่าประชาชนเป็นแสนๆ จากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะมาชุมนุมฟังข้อเท็จจริงกันทุกครั้งด้วยความเชื่อถือและศรัทธาต่อการแสดงออกของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

แหล่งข่าวที่ถูกปิดกั้นอย่างแข็งแรงของนักกินเมืองของเราถูกทลายทะลวงออกมาให้เห็นความจริงกันชัดเจนแล้ว การปล้นบ้านปล้นเมืองของคนพวกนี้จะทำกันต่อไปอีกขนาดไหนก็ยากที่จะเดา

แต่คงไม่ต้องวิ่งไปต้มลาวอีก เพราะความจริงเมืองไทยยังมีพอที่จะปล้นได้อีกมากมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น