xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณกลัวอะไร

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมขอขอบคุณที่พากันเป็นห่วง และถามไถ่มาไม่ขาดสาย คุณประสงค์ นุรักษ์ นิติศาสตร์ศิลปศาสตร์รุ่นแรกของธรรมศาสตร์ อุตส่าห์โทร.ทางไกลมาจากไอโอว่า สหรัฐฯ ขออนุญาตเอาผมเป็นตัวตั้ง เพื่อระดมเงินมาสู้คดีที่ถูกทักษิณฟ้อง

ด้วยความซาบซึ้งและขอบคุณ ผมได้ตอบไปว่าอย่ายึดถือตัวบุคคลเลย ขอให้ตั้งกองทุนส่งเสริมและต่อสู้เพื่อเสรีภาพทางการเมืองที่ถูกอำนาจรัฐรังแกจะดีกว่า เพราะจะได้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน

ผมคิดในใจแต่มิได้บอกไปว่า คนเราเป็นแค่ผงธุลีในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล และเมื่อเทียบกับนิรันดรแห่งกาลเวลา ชีวิตของคนเราสั้นกว่าแสงหิ่งห้อยกะพริบหนึ่งครั้ง อีกไม่นาน ร้อยหรือพันวันเท่านั้น ผมก็จะจากไป จะก่อนหรือหลังทักษิณยังไม่รู้ เพราะเรื่องอย่างนี้ไม่มีคิว หนุ่มกว่าอาจจะไปก่อนก็ได้ไม่แน่ แต่ผมรู้แน่ๆ ว่า ประชาธิปไตยอันมีมหากษัตริย์เป็นประมุขจะต้องสั่นคลอนต่อไป ตราบใดที่ทักษิณยังอยู่ (ในตำแหน่ง)

ประสงค์ นุรักษ์ เป็นรุ่นหลัง พล.ต.อ.วาสนาหนึ่งรุ่น ไปทำมาหากินอยู่ในอเมริกา จนกระทั่งมีชื่อเสียงและฐานะเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้สัมภาษณ์ขึ้นหน้าหนึ่ง นสพ.ยักษ์ใหญ่ของโลกคือนิวยอร์กไทม์ ซึ่งแม้แต่ทักษิณก็ไม่เคยจะเฉียดเข้าไปได้

เขียนถึงตอนนี้ หวนคิดถึงเพื่อนรุ่นน้องที่จากไป ถ้าเขายังอยู่ถึงทุกวันนี้ คุณภาพและความเป็นอิสระของสื่อคงจะก้าวรุดไปมาก แสงชัย สุนทรวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการ อสมท.ถูกลอบสังหารคาตำแหน่ง เพราะความซื่อสัตย์ไม่ยอมให้ใครนำคลื่นความถี่วิทยุซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดินไปปู้ยี่ปู้ยำ แสงชัยจบธรรมศาสตร์รุ่นเดียวกับวาสนา ไปทำมาหากินในอเมริกาเช่นเดียวกับประสงค์ จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาและเจนจบในความรู้เรื่องอเมริกา ซึ่งแน่นอนที่สุดหนึ่งในนั้นคือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และเสรีภาพของสื่อ

แสงชัยกลับเมืองไทยมาร่วมงานอยู่กับผมประมาณ 2 ปี ย้ายไปองค์การฟอกหนัง ก่อนเป็นผู้อำนวยการ อสมท.กลายเป็นคอลัมนิสต์ดังระเบิดที่ไทยรัฐ ซึ่งนิติภูมิ นวรัตน์มารับมรดกต่อ ผมสังเกตเห็นความห้าวหาญและเข้าใจการเมืองไทยเป็นพิเศษของแสงชัย พบกันทีไรก็ต้องคุยกันเรื่องนี้ ผมคิดว่าสักวันหนึ่งแสงชัยจะเป็นทรัพยากรการเมืองชั้นดีของประเทศ ที่ช้าอยู่อาจจะเป็นเพราะเขาไม่พึงใจพรรคการเมืองใดเลย แสงชัยสนิท และเคารพพลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ มาก ทั้งคู่อาจจะมีความผิดพลาดอะไรๆ ในฐานะปุถุชน แต่หัวใจอันล้ำค่าของทั้งคู่คือความซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน

พี่ชายของแสงชัยเป็นคนโปรดของทักษิณ ชื่อสมชาย สุนทรวัฒน์ หนีจากพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐมนตรี ขณะนี้ดูแลเรื่องการปกครองท้องถิ่น ผมได้ติดตาม และเป็นห่วงอย่างลึกซึ้ง เพราะเชื่อว่าขณะนี้ท้องถิ่นกำลังถูกล่อให้ดื่มยาพิษและทำลายจิตวิญญาณ ให้สมคบกันโกงกินและทำลายหลักของบ้านเมือง ผมอยากเห็นสมชายยืนหยัดเหมือนแสงชัย แต่ผมก็รู้ดีว่า ไม้ไผ่ยังต่างปล้อง พี่น้องยังต่างใจ ป่านนี้สมชายอาจกู่ไม่กลับเหมือนทักษิณไปแล้วก็ได้

ทำไมทักษิณจึงกู่ไม่กลับ หากเราตอบสั้นๆ มองไม่เห็น และไม่เข้าใจที่ไปที่มาต่างๆที่เชื่อมโยงกัน เราก็อาจจะสรุปผิดๆ พิชิตทักษิณไม่สำเร็จ

ยกที่แล้วเราถามกันว่า ทำไมทักษิณจึงทนอย่างนี้ ความจริงเรายังพูดไม่จบดี ท่านผู้อ่านหลายคนบอกมาว่า ทนเพราะเขาทะเยอทะยาน อยากเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินบางคนถึงกับยืนยันได้ยินจากปากทักษิณเองว่า ไม่เป็นไรเขาต้องทน เขายังหนุ่มอยู่ เขารอได้ ผมไม่ได้ถามว่ารอจะเป็นอะไร เดี๋ยวจะเป็นการต่อยใต้เข็มขัดไป

ยกนี้ เราจะตั้งคำถามใหม่ว่า ทักษิณกลัวอะไร ผมอยากจะแนะว่า สวนดุสิตโพล เอแบคโพลล์ รามคำแหงโพลล์ จุฬาโพลล์ และธีรยุทธโพลล์ ควรแข่งและร่วมมือกันสอบถามความคิดเห็นประชาชนหรือที่ภาษาฝรั่งเรียกว่าโพลล์นี่แหละ ว่า ทักษิณกลัวอะไร

โพลล์ยังเป็นของใหม่สำหรับเมืองไทย โพลล์ที่พัฒนาสูงสุดโดยเฉพาะเรื่องการทำนายผลเลือกตั้งในอเมริกา อังกฤษและญี่ปุ่นต่างก็ประสบความผิดพลาดเสมอๆ จึงมีข้อเตือนใจว่า ประชาชนควรจะรับรู้ผลของโพลล์ แต่อย่าปักใจว่าจะต้องเป็นจริงตามนั้น ทั้งนี้เป็นเพราะโพลล์ไม่มีหลักประกันว่าประชาชนที่ตอบคำถามจะมีจำนวนและสัดส่วนพอที่จะเป็นแบบจำลองของสังคมทั้งหมดได้ ความรู้และความสามารถตลอดจนวิธีการวัดของเจ้าสำนักโพลล์อาจจะไม่ถึงมาตรฐาน หรือคำถามที่ตั้งอาจจะคลุมเครือและดิ้นได้ หรือแม้กระทั่งคนตอบอาจจะเข้าใจคำถามคลาดเคลื่อน หรือไม่ก็ตั้งใจโกหกดื้อๆ ไม่ตอบให้ตรงคำถาม

สรุปแล้ว ผลของโพลล์ที่อ้างว่าทักษิณดีอย่างโน้นอย่างนี้ หรือแม้แต่ตรงกันข้าม ก็เป็นแต่เพียงเรื่องที่ต้องฟังหูไว้หู อย่าเชื่อกันเป็นตุเป็นตะ เพราะโอกาสที่จะผิดพลาดมีมากกว่าจะเป็นจริง สู้เรารวบรวมตรวจสอบข้อมูลและคิดเอาเองให้ถี่ถ้วนไม่ได้

แม้คำถามของผมว่า ทักษิณกลัวอะไร ก็อย่ายกเว้น ต้องช่วยกันถามและช่วยกันตอบให้หลากหลายแตกต่างจึงจะดี

เมื่อวันพุธนี้ มีกองถ่ายทีวีจำนวน 6 คนมาสัมภาษณ์ผมที่บ้าน ผมเลยถือโอกาสถามและขอให้ตอบสั้นที่สุดว่า ทักษิณกลัวอะไร

คำตอบที่ซ้ำกันอย่างละ 2 คนคือ กลัวถูกยึดทรัพย์ และกลัวเมีย อีกหนึ่งบอกว่ากลัวถูกขับไล่ออกจากประเทศไทย คนสุดท้ายบอกว่า กลัวสนธิ

ความจริงผมเที่ยวถามมาหลายวันแล้ว ได้คำตอบทำนองเดียวหรือคล้ายๆ กัน คือกลัวถูกออก กลัวติดคุก กลัวยึดทรัพย์ กลัวจับโกหก กลัวความลับเปิดเผย กลัวเสียเหลี่ยม กลัวแพ้สนธิ กลัวพิสูจน์ว่าไม่จงรักภักดีในหลวง กลัวกลับมาเป็นนายกฯ ไม่ได้ กลัวเนวิน กลัวไม่มีแผ่นดินอยู่ กลัวหาเงินต่อไม่ได้ ฯลฯ

คนที่ตอบคำถามผมมีทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. นักวิชาการ ถึงแม้ถือว่าเป็นตัวแทนของสังคมไทยพอดีไม่ได้ ก็นับว่าหลากหลายพอสมควร แต่ยังขาดชาวบ้าน นักเรียน เครือข่ายพันธมิตรฯ และอื่นๆ อีกมาก

ที่สำคัญกว่าคำตอบ ต่างก็มีเหตุผลต่างๆ กัน ว่าทำไมทักษิณจึงกลัว

กลัวที่หนึ่ง ถูกออก เพราะว่านั่งทับขี้ไว้เยอะ กลัวว่าน้ำลดตอจะผุด เกิดผลร้ายต่างๆ ตามมา นอกจากนั้นทักษิณยังเป็นร่างทรงของความกลัวรวมหมู่ของลูกพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกแนวหน้า ที่กลัวว่าสิ้นทักษิณแล้ว ชาตินี้ตนจะไปไม่รอด ทำนองเดียวกับนิทานเห็บกินเลือดหมา ที่ต้องทนดูดอยู่จนกว่าหมาจะตาย เพราะหาตัวใหม่มาดูดไม่ได้

กลัวที่สอง คุก ทำไม เพราะทักษิณมีคดีอาญาที่คล้องคออยู่ เช่น คดีโกหกตำรวจ โกหกศาล โกหกผู้พิพากษาหน้าบัลลังก์ ถ้าหากทักษิณไม่มีอำนาจค้ำยันอยู่ ยังไงก็ไปไม่รอด นอกจากนั้นยังมีคดีที่อาจจะโผล่มาอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งทักษิณในฐานะนายกรัฐมน ตรีละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายปกครอง กฎหมายอาญาฯลฯ

กลัวที่สาม กลัวถูกยึดทรัพย์ เพราะทักษิณน่าจะรู้ดีว่าทรัพย์ใดได้มาโดยสุจริต ทรัพย์ใดได้มาโดยไม่สมควร บัดนี้สังคมไทยได้เติบโต และการปฏิวัติเทคโนโลยีข่าวสารได้รุดหน้ามากเกินกว่าใครจะปิดบังอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอีกต่อไป ความจริงเรื่องนี้ทักษิณไม่น่ากลัว เพราะถ้าทักษิณยอมออกไปดีๆ ขื่อแปของบ้านเมืองที่ทักษิณทำลายก็จะกลับคืนมา ทักษิณในฐานะคนไทยคนหนึ่ง จะต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย ไม่มีผู้ใดจะมาฝ่าฝืนกฎหมายซ้ำเติมทักษิณตามกระแสหรืออำเภอใจได้ง่ายๆ

กลัวที่สี่ จับโกหก ถ้าท่านผู้อ่านกลับไปอ่านโกหกของทักษิณ และทักษิณโกหกอีกครั้งในคอลัมน์ของผมก็จะเข้าใจว่าทำไม แต่มีหลายคนที่ตอบด้วยเหตุผลที่ต่างกับผม คนเหล่านั้นต่างก็ทราบด้วยตนเองว่า ทักษิณโกหกอะไรเขามาบ้าง ส่วนใหญ่สังคมยังไม่รู้ตื่นลึกหนาบางเรื่องเหล่านี้ และเมื่อใดรู้จะเป็นโทษต่อทักษิณอย่างสาหัส

กลัวที่ห้า ความลับเปิดเผย ทักษิณและคณะมีพิรุธ เป็นวัวสันหลังหวะ และกินปูนร้อนท้องจนเกินเหตุที่มาฟ้องคนอย่างผมเป็นจำเลยที่หนึ่ง กล่าวหาว่าเป็นผู้เปิดประเด็น 'ปฏิญญาฟินแลนด์' ทักษิณและคณะแอบไปทำชั่วอะไรไว้นักหรือ หรือว่าไม่ชั่วแต่กลัวว่าตนยังไม่พร้อมที่จะประกาศชัยชนะ ยังจะต้องต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุความมุ่งหมายทั้ง 5 เสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการทำสถาบันกษัตริย์ให้เป็นสัญลักษณ์ อยากจะถามว่า มีความลับอะไรนักหรือ ท่านที่สนใจที่ยังไม่ทราบ โปรดไปอ่านบทความทั้งห้าของผม ที่มีผู้นำไปพิมพ์แจกเป็นแสนๆ จะบอกผมสักคำก็ไม่ ช่างเสียมารยาทจริงๆ

สำหรับกลัวอื่นๆ ก็ล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้น ผมอยากให้ท่านผู้อ่านร่วมสนุกช่วยกันโพสต์มา ว่ายังมีอยู่อีกกี่กลัว เพราะอะไร ด้วยเนื้อที่จำกัด เราต้องเก็บกลัวอื่นๆ ไว้ก่อน ยกเว้นกลัวเนวิน และกลัวเมีย

มีคนพูดกันให้ฉาวว่าทักษิณเป็นคนกลัวคาถาอาคม และเชื่อมั่นว่าคนชื่อพม่า หน้าเขมร มีคุณไสยอันน่าเกรงขาม จึงซูฮกบุคคลผู้นี้จนผิดสังเกต จนลืมไปว่าแก๊งสิบหกมีส่วนในการสร้างวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การล่ม ถูกศาลตัดสินให้จำคุก ทั้งๆ ที่คุณหญิงสุดารัตน์เอียนนักเอียนหนา ยังเอาประคบประหงมเหมือนไข่ในหินฯลฯ

กลัวเมีย ความจริงเป็นเรื่องส่วนตัว ผมเคยอ่านหนังสือของสุรเธียร มือขวาทักษิณเรื่องอสังหาริมทรัพย์ บอกว่าทักษิณไม่มีวันได้ดีถ้าปราศจากผู้หญิงชื่ออ้อ มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ว่าในที่ประชุมใดๆ กับใคร เวลาทักษิณตอบคำถามอะไร เสร็จแล้วจะต้องหันหน้าไปหาเมียเสมอ ผมไม่เคยสังเกต แต่ก็มีบางคนบอกว่า ไม่จริง ทักษิณเป็นคนมีเหลี่ยมแบบเสือซ่อนคม มีหรือโลกนี้ที่ผู้หญิงจะไม่หึง ถ้ากลัวจริงๆ มีหรือจะกล้าเชิดชูนางอื่น ท่านผู้ฟังครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมสกปรก ในประเทศประชาธิปไตยผู้นำการเมืองจะต้องถูกกล้องจุลทัศน์ตรวจชีวิตส่วนตัว ความอื้อฉาวเรื่องชู้สาวแม้แต่นิดเดียวก็จะเป็นเหตุให้ตกจากเก้าอี้

ผมถูกครอบครัวค่อนแคะเสมอว่าช่างทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ใครจะว่าอะไร จริงก็ช่าง ไม่จริงก็ช่าง เป็นที่น่าสังเกตว่าคอลัมนิสต์จากป่าค่ายมติชนนำเรื่องเท็จเกี่ยวกับตัวผมมาตีพิมพ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ตีผมคนเดียวไม่เป็นไรดอก หากจะไม่มีสุ้มเสียงเป็นการปกป้องระบอบทักษิณไปในตัวด้วย

ท่านผู้อ่านอีกหลายคนเล่าให้ฟังว่า เว็บไซต์ชื่อว่าคนผ่านฟ้าก็พาดพิงถึงผมด้วยความเท็จเหมือนกัน ยังไงครับ ต่อยใต้เข็มขัดหรือเปล่า

ช่างเถอะครับ ทำการบ้านต่อกันดีกว่า กลัวอื่นๆ มีอะไรอีกบ้าง เพราะอะไร

ก่อนจบ ผมอยากจะบอกว่าพลตรีจำลอง บุพการีการเมืองของทักษิณเป็นผู้เคร่งครัดศีลแปด ผมเองก็เชื่อว่าถ้าผู้นำประเทศหรือนักการเมืองชั้นนำสมาทานศีลแปดกันให้มากๆ ประเทศจะต้องดีขึ้นแน่ๆ

ผมอยากให้สังคมไทยช่วยกันสอดส่องว่า ทักษิณถือศีลห้าหรือผิดศีลข้อใดเป็นประจำ อย่างไหนจะมีผลทำให้การบริหารบ้านเมืองกลายเป็นเรื่องมั่ว ไม่อยู่กับร่องกับรอย จนแผ่นดินเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แม้นกระทั่งฟ้าก็กระเทือน

แต่ที่ศาลได้พิสูจน์แล้ว ก็คือ ในอดีตทักษิณเป็นคนโป้ปดและคดโกง ณ ปัจจุบัน

ทักษิณยังเผชิญข้อหาเดิมๆ อยู่ ยังไม่ทราบว่าอนาคตจะไล่ล่าทักษิณด้วยเรื่องอะไรอีก

บ้านเมืองและประชาชนจะต้องพลอยรับกรรมไปกับทักษิณอีกนานเท่าใด

คนอย่างนี้หรือที่อาสาจะเป็นผู้นำปฏิรูปสังคมไทย

คนอย่างนี้หรือที่พวกเราจะเชิดชูเทิดทูนไว้อย่างไม่ลืมหูลืมตา เพียงแต่ว่าเขาเป็นเศรษฐีมีทรัพย์เที่ยวจับจ่าย

คนอย่างนี้หรือสะเออะจะเป็นนายกรัฐมนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกสมัย

แม้แต่วันเดียว ก็นานเกินไปเสียแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น