พูดถึงฟุตบอลแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวถึงทีมบราซิลที่หลายคนมองว่า น่าจะเป็นทีมที่จัดว่าถูกวางไว้เป็นตัวเก็งทีมหนึ่งเหมือนกัน
พูดถึงฟุตบอลกับบราซิลแล้ว เราก็นึกถึงฮีโร่ของวงการลูกหนังของบราซิลอย่างเปเล่, การ์รินช่า, ทอสเทา, ริเวลิโน ตามมาด้วยซิโก้หรืออย่างซอคคราติส
นับจากกลางยุคปี 1990 เป็นต้นมา โรมาริโอ, โรนัลโด, โรนัลดินโฮ และปัจจุบันนักเตะ เช่น กาก้า, อาเดรียโน และโรบินโฮ ล้วนทำให้ทีมบราซิลเด่น และเมื่อไปเล่นให้ทีมอื่นก็ยิ่งเด่นขึ้นด้วย
ผู้ดูทั่วโลกมองว่า ฟุตบอลที่เล่นในประเทศบราซิลนั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่มีมาตรฐานเหนือกว่าประเทศอื่นๆ
แต่จริงๆ แล้ว ข้อเท็จจริงมีลึกไปกว่านั้น ใช่ว่าจะวัดกันที่บราซิลชนะบอลโลกมาด้วยสถิติถึง 5 สมัยก็ตาม
นักวิจารณ์ในบราซิลมองว่าในบราซิลนั้น “ไม่มีระบบ” คำกล่าวที่ว่านี้มาจากปากของโรเบอร์โต้ ดินามิเต ซึ่งอยู่ในทีมชาติบราซิลในปลายยุคปี 70 และช่วงต้นยุค 1980 เขายืนยันว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเป็นไปตามดวง และก็ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงในวงการฟุตบอลบราซิล
ถ้าว่ากันอย่างนี้ วงการฟุตบอลอาชีพมิยิ่งแย่ไปกว่าบราซิลหรือ?
แต่ว่ากันว่า วงการฟุตบอลอาชีพของบราซิลนั้นค่อนข้างสับสนอลหม่าน ไร้ทิศทาง แถมยังมีคอร์รัปชันกันด้วย
แต่ฟุตบอลนั้นอยู่ในสายเลือดของคนบราซิลครับ
มันช่วยได้มาก
ฟุตบอลถือเป็นเอกลักษณ์ของชาติ และเป็นเกียรติยศของแต่ละคนที่จะได้ติดทีมชาติ แม้แต่ทีมใดทีมหนึ่งในชาติ
ความแข็งแกร่งของกีฬาฟุตบอลในบราซิลนั้นเริ่มตั้งแต่ระดับรากหญ้ากันเลยทีเดียว
ว่ากันว่าเด็กเล็กๆ ตั้งแต่ 3 ขวบ พอวิ่งได้ก็เตะบอลกันแล้วครับ
พอแกร่งขึ้นมาหน่อยสัก 6-7 ขวบ เขาก็หาทางเล่นกันบนสนามทรายที่พอจะหาได้ใกล้ๆ บ้าน
เด็กบราซิลจะหาทางทุกที่ในการเล่นฟุตบอลไม่ว่าตามถนนรนแคม บนเขา ในป่า ขอบถนน ฯลฯ
แม้กระทั่งจะเข้านอนก็เอาฟุตบอลไปกอดแทนหมอนข้างด้วยซ้ำไป
ประเทศบราซิลนั้นแม้จะพัฒนาไปในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นประเทศที่มีคนยากจนหลายล้านคนจากจำนวนประชากร 185 ล้านคน
เชื่อหรือไม่ว่าคนจนพวกนี้แหละที่ประสบความสำเร็จกลายมาเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่หลายคนต่อหลายคนมาแล้ว
เพราะอะไรหรือครับ
เพราะว่าอาชีพฟุตบอลเป็นอาชีพเดียวที่จะช่วยให้คนยากคนจนสามารถไต่เต้าไปสู่ความร่ำรวยและมีชื่อเสียงได้
เป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ มาได้ด้วยฝีตีนของตัวเอง
เอาเป็นเวลาทีมชาติของบราซิลที่เข้าแข่งขันในบอลโลกที่ดำเนินอยู่ขณะนี้
มีนักฟุตบอลบราซิลอยู่ถึง 23 คน ที่มีเพียง 3 คนเท่านั้น ที่มาจากครอบครัวของคนชั้นกลาง
ส่วนใหญ่แล้วมาจากครอบครัวและเกิดในเมืองหรือต่างจังหวัด มาจากครอบครัวที่ยากจนทั้งนั้นครับ
ความสำเร็จตามมาพร้อมความสำเร็จในด้านอื่นๆ สำหรับนักเตะจากบราซิลด้วย
ยุคโลกาภิวัฒน์ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาเป็นที่ต้องการในตลาดนักเตะทั่วโลก
ด้วยค่าตัวราคาแพง พวกเขาเดินทางไปร่วมกับทีมที่จ่ายด้วยราคาแพงเหลือเชื่อ
แน่นอนเด็กจนที่อยู่ในบราซิลเมื่อเห็นดาราอย่างโรนัลดินโฮ ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะเยี่ยมที่สุดในโลก มีรายได้ถึง 1,160 ล้านบาทต่อปี เด็กจนๆ ในบราซิลทุกคนก็อยากฝันเป็นอย่างเขาบ้าง
และย่อมที่จะฝึกฝนตัวเองเป็นบ้าเป็นหลังที่จะมีฝีตีนให้เทียบเท่ายิ่งขึ้น
ด้วยเหตุผลง่ายๆ นี้แหละครับ
บราซิลจึงไม่เคยขาดแคลน นักเตะฝีตีนดีซึ่งมาจากผู้ยากไร้ในประเทศของตนเอง
“คุณไปทุกที่ทุกแห่งในบราซิล คุณจะพบเพื่อนคนใดคนหนึ่งที่อ้างว่าพวกเขาเคยเล่นบอลกับโรนัลโด หรือไม่ก็รู้จักกับนักเตะระดับชาติมาแล้ว ความคิดแบบนี้มันไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันคือความจริง” ชาวบราซิลให้ข้อมูลกับนักข่าวตะวันตก
แมวมองจะควานหานักเตะอาชีพตั้งแต่พวกนี้ยังเป็นเด็กๆ อยู่นะครับ และพวกนักเตะเมื่อสู่วัยรุ่น จะถูกเซ็นสัญญาเข้าสังกัดให้เล่นกับทีมใดทีมหนึ่ง เช่นทีมจังหวัด หรือทีมประจำภาค ถ้าโชคดีมีแมวมองจากต่างประเทศ เขาก็อาจไปเตะฟุตบอลในยุโรปได้ไม่ยาก ด้วยรายได้ที่สูงกว่าในบราซิลมาก
ในด้านอาชีพแล้วพวกเขาเหมือนสินค้า ถ้าเขาเรียกร้องเงินก็อาจโดนปลด ดังนั้นเมื่อเปเล่เป็น รมต.กีฬา เขาก็พยายามเปลี่ยนระบบ โดยร่างกฎหมายเพื่อลดอำนาจสโมสรฟุตบอลและให้นักฟุตบอลควบคุมอาชีพของตัวเองได้ ซึ่งทำให้สโมสรอ่อนแอลง แต่นักกีฬาได้ประโยชน์มาก
ตามกฎหมายของบราซิลนั้น และกฎหมายสากล ห้ามนักกีฬาเซ็นสัญญาหากอายุยังอยู่ในวัยรุ่น และอยู่ในวัยคุ้มครองของพ่อแม่ แต่พวกยุโรปก็มีวิธีการโดยการช่วยหางานให้พ่อแม่นักเตะ และก็พานักเตะไปอยู่ในสโมสรระดับจูเนียร์ทีม
นอกจากนี้บราซิลยังมีโรงเรียนฟุตบอลซึ่งเป็นเอกเทศจากสโมสร ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากกระทรวงกีฬา ซึ่งทางไนกี้ได้ให้ทุนมา 165 เหรียญสหรัฐ
ไม่น่าแปลกใจที่บราซิลกลายมาเป็นศูนย์กลางในการผลิตนักฟุตบอลระดับเวิลด์คราสที่อยู่ยงคงกระพันมาถึงวันนี้
พูดถึงฟุตบอลกับบราซิลแล้ว เราก็นึกถึงฮีโร่ของวงการลูกหนังของบราซิลอย่างเปเล่, การ์รินช่า, ทอสเทา, ริเวลิโน ตามมาด้วยซิโก้หรืออย่างซอคคราติส
นับจากกลางยุคปี 1990 เป็นต้นมา โรมาริโอ, โรนัลโด, โรนัลดินโฮ และปัจจุบันนักเตะ เช่น กาก้า, อาเดรียโน และโรบินโฮ ล้วนทำให้ทีมบราซิลเด่น และเมื่อไปเล่นให้ทีมอื่นก็ยิ่งเด่นขึ้นด้วย
ผู้ดูทั่วโลกมองว่า ฟุตบอลที่เล่นในประเทศบราซิลนั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่มีมาตรฐานเหนือกว่าประเทศอื่นๆ
แต่จริงๆ แล้ว ข้อเท็จจริงมีลึกไปกว่านั้น ใช่ว่าจะวัดกันที่บราซิลชนะบอลโลกมาด้วยสถิติถึง 5 สมัยก็ตาม
นักวิจารณ์ในบราซิลมองว่าในบราซิลนั้น “ไม่มีระบบ” คำกล่าวที่ว่านี้มาจากปากของโรเบอร์โต้ ดินามิเต ซึ่งอยู่ในทีมชาติบราซิลในปลายยุคปี 70 และช่วงต้นยุค 1980 เขายืนยันว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเป็นไปตามดวง และก็ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงในวงการฟุตบอลบราซิล
ถ้าว่ากันอย่างนี้ วงการฟุตบอลอาชีพมิยิ่งแย่ไปกว่าบราซิลหรือ?
แต่ว่ากันว่า วงการฟุตบอลอาชีพของบราซิลนั้นค่อนข้างสับสนอลหม่าน ไร้ทิศทาง แถมยังมีคอร์รัปชันกันด้วย
แต่ฟุตบอลนั้นอยู่ในสายเลือดของคนบราซิลครับ
มันช่วยได้มาก
ฟุตบอลถือเป็นเอกลักษณ์ของชาติ และเป็นเกียรติยศของแต่ละคนที่จะได้ติดทีมชาติ แม้แต่ทีมใดทีมหนึ่งในชาติ
ความแข็งแกร่งของกีฬาฟุตบอลในบราซิลนั้นเริ่มตั้งแต่ระดับรากหญ้ากันเลยทีเดียว
ว่ากันว่าเด็กเล็กๆ ตั้งแต่ 3 ขวบ พอวิ่งได้ก็เตะบอลกันแล้วครับ
พอแกร่งขึ้นมาหน่อยสัก 6-7 ขวบ เขาก็หาทางเล่นกันบนสนามทรายที่พอจะหาได้ใกล้ๆ บ้าน
เด็กบราซิลจะหาทางทุกที่ในการเล่นฟุตบอลไม่ว่าตามถนนรนแคม บนเขา ในป่า ขอบถนน ฯลฯ
แม้กระทั่งจะเข้านอนก็เอาฟุตบอลไปกอดแทนหมอนข้างด้วยซ้ำไป
ประเทศบราซิลนั้นแม้จะพัฒนาไปในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นประเทศที่มีคนยากจนหลายล้านคนจากจำนวนประชากร 185 ล้านคน
เชื่อหรือไม่ว่าคนจนพวกนี้แหละที่ประสบความสำเร็จกลายมาเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่หลายคนต่อหลายคนมาแล้ว
เพราะอะไรหรือครับ
เพราะว่าอาชีพฟุตบอลเป็นอาชีพเดียวที่จะช่วยให้คนยากคนจนสามารถไต่เต้าไปสู่ความร่ำรวยและมีชื่อเสียงได้
เป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ มาได้ด้วยฝีตีนของตัวเอง
เอาเป็นเวลาทีมชาติของบราซิลที่เข้าแข่งขันในบอลโลกที่ดำเนินอยู่ขณะนี้
มีนักฟุตบอลบราซิลอยู่ถึง 23 คน ที่มีเพียง 3 คนเท่านั้น ที่มาจากครอบครัวของคนชั้นกลาง
ส่วนใหญ่แล้วมาจากครอบครัวและเกิดในเมืองหรือต่างจังหวัด มาจากครอบครัวที่ยากจนทั้งนั้นครับ
ความสำเร็จตามมาพร้อมความสำเร็จในด้านอื่นๆ สำหรับนักเตะจากบราซิลด้วย
ยุคโลกาภิวัฒน์ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาเป็นที่ต้องการในตลาดนักเตะทั่วโลก
ด้วยค่าตัวราคาแพง พวกเขาเดินทางไปร่วมกับทีมที่จ่ายด้วยราคาแพงเหลือเชื่อ
แน่นอนเด็กจนที่อยู่ในบราซิลเมื่อเห็นดาราอย่างโรนัลดินโฮ ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะเยี่ยมที่สุดในโลก มีรายได้ถึง 1,160 ล้านบาทต่อปี เด็กจนๆ ในบราซิลทุกคนก็อยากฝันเป็นอย่างเขาบ้าง
และย่อมที่จะฝึกฝนตัวเองเป็นบ้าเป็นหลังที่จะมีฝีตีนให้เทียบเท่ายิ่งขึ้น
ด้วยเหตุผลง่ายๆ นี้แหละครับ
บราซิลจึงไม่เคยขาดแคลน นักเตะฝีตีนดีซึ่งมาจากผู้ยากไร้ในประเทศของตนเอง
“คุณไปทุกที่ทุกแห่งในบราซิล คุณจะพบเพื่อนคนใดคนหนึ่งที่อ้างว่าพวกเขาเคยเล่นบอลกับโรนัลโด หรือไม่ก็รู้จักกับนักเตะระดับชาติมาแล้ว ความคิดแบบนี้มันไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันคือความจริง” ชาวบราซิลให้ข้อมูลกับนักข่าวตะวันตก
แมวมองจะควานหานักเตะอาชีพตั้งแต่พวกนี้ยังเป็นเด็กๆ อยู่นะครับ และพวกนักเตะเมื่อสู่วัยรุ่น จะถูกเซ็นสัญญาเข้าสังกัดให้เล่นกับทีมใดทีมหนึ่ง เช่นทีมจังหวัด หรือทีมประจำภาค ถ้าโชคดีมีแมวมองจากต่างประเทศ เขาก็อาจไปเตะฟุตบอลในยุโรปได้ไม่ยาก ด้วยรายได้ที่สูงกว่าในบราซิลมาก
ในด้านอาชีพแล้วพวกเขาเหมือนสินค้า ถ้าเขาเรียกร้องเงินก็อาจโดนปลด ดังนั้นเมื่อเปเล่เป็น รมต.กีฬา เขาก็พยายามเปลี่ยนระบบ โดยร่างกฎหมายเพื่อลดอำนาจสโมสรฟุตบอลและให้นักฟุตบอลควบคุมอาชีพของตัวเองได้ ซึ่งทำให้สโมสรอ่อนแอลง แต่นักกีฬาได้ประโยชน์มาก
ตามกฎหมายของบราซิลนั้น และกฎหมายสากล ห้ามนักกีฬาเซ็นสัญญาหากอายุยังอยู่ในวัยรุ่น และอยู่ในวัยคุ้มครองของพ่อแม่ แต่พวกยุโรปก็มีวิธีการโดยการช่วยหางานให้พ่อแม่นักเตะ และก็พานักเตะไปอยู่ในสโมสรระดับจูเนียร์ทีม
นอกจากนี้บราซิลยังมีโรงเรียนฟุตบอลซึ่งเป็นเอกเทศจากสโมสร ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากกระทรวงกีฬา ซึ่งทางไนกี้ได้ให้ทุนมา 165 เหรียญสหรัฐ
ไม่น่าแปลกใจที่บราซิลกลายมาเป็นศูนย์กลางในการผลิตนักฟุตบอลระดับเวิลด์คราสที่อยู่ยงคงกระพันมาถึงวันนี้