xs
xsm
sm
md
lg

เปิดผลสอบดับเพลิง มท.ผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดผลสอบรถ-เรือดับเพลิง กทม.ชุด “บุญเสริม” พบ มท.ผิดเต็มประตู เหตุล็อคสเปกให้ซื้อจากสไตเออร์ฯ แพงเกินจริง แถม MOU ไม่สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติราชการ และไม่ผ่านอัยการสูงสุด

วานนี้(27 มิ.ย.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกทม.แถลงเปิดผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบสัญญาตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกทม. ซึ่งมี ศ.ดร.บุญเสริม วีสกุล เป็นประธานฝยการจัดซื้อรถ เรือและอุปกรณ์ดับเพลิงกทม.มูลค่า 6,687 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าความเป็นจริง

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ผสสอบพบว่าสิ่งของที่ซื้อตามสัญญานี้มีการกำหนดสเปกให้เป็นสิ่งของจาก บ.สไตเออร์ เดมเลอร์พุค จากออสเตรีย เท่านั้นซึ่งมี สเปกค่อนข้างเฉพาะ แตกต่างจากสิ่งของบริษัทอื่น นอกจากนั้น การซื้อขายตามโครงการนี้มีเงื่อนไขเฉพาะ 2 ประการคือผู้ซื้อได้รับการช่วยเหลือในการชำระราคาด้วยเงินผ่อนระยะยาว โดยมีระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี ชำระค่างวดสุดท้ายในเดือนที่ 73 หลังวันที่สัญญามีผลใช้บังคับ และมีการกำหนดให้ผู้ขายต้องทำการค้าต่างตอบแทนซึ่งเงื่อนไขทั้ง 2 ประการมีต้นทุนที่ผู้ขายจะต้องนำมารวมราคาขาย ขณะที่ MOU ที่ลงนามระหว่างรัฐบาลไทยกับเอกอัครราชทูตออสเตรีย ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2547 มีเนื้อหาเป็นสัญญาซื้อขายโดยมีกำหนดการรายละเอียดและสเปกของสิ่งของรวมทั้งราคาที่เสนอโดยผู้ขายซึ่งไม่สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติของราชการ รวมทั้งใน MOU ไม่มีการระบุการค้าต่างตอบแทนและเรื่องความช่วยเหลือที่รัฐบาลออสเตรียจะให้แก่ประเทศไทย

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯพบว่าการจัดซื้อครั้งนี้ก่อให้เกิดการซื้อสินค้าราคาแพง เนื่องจากไม่ได้จัดทำสเปกก่อนที่จะมีการลงนามใน MOU ไม่มีการสืบราคาจากแหล่งอื่นหรือผู้ขายรายอื่นก่อการจัดซื้อและทางราชการไม่ได้กำหดราคากลางไว้ ไม่มีการตรวจสอบว่า อุปกรณ์ใดสามารถผลิตในประเทศไทยได้หรือไม่ การกำหนดเงื่อนไขการชำระหนี้ระยะยาวโดยมีระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี ทำให้บ.สไตเออร์ฯ มีต้นทุนทางการเงินและนำมารวมกับราคาขาย แต่มิได้มีผลให้ประเทศไทยส่งสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำ MOU ที่ลงนามระหว่างรมว.มหาดไทยกับเอกอัครราชทูตออสเตรียและข้อตกลงซื้อขายที่ลงนามระหว่างกทม.กับสไตเอออร์ฯไม่ปรากฏว่าได้ผ่านการตรวจสอบร่างจากสำนักงานอัยการสงสุดหรือส่วนราชการที่รับผิดชอบก่อนลงนาม

ตลอดจนกระบวนการการจัดซื้อกระทำโดยเร่งรัดใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวันในการที่ กทม.พิจารณาร่าง MOU ของออสเตรียแล้วเสนอต่อมหาดไทยและได้มีการลงนามในวันรุ่งขึ้น และในขั้นตอนจัดซื้อของกทม.ได้ใช้ระยะเวลาเพียง 7 วันนับตั้งแต่แต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อฯไปจนถึงการลงนามข้อตกลงซื้อขาย,การเสนอขออนุมัติโครงการจัดซื้อฯไม่ได้คิดในรายละเอียดเรื่องภาษีอากรจำนวน 1,300 ล้านบาทจึงเท่ากับว่ากทม.ได้ดำเนินการเกินกว่าวงเงินที่ ครม.ได้อนุมัติ

คณะกรรมการฯมีข้อสังเกตว่าจากพันธะตาม MOU ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศออสเตรียและไทยซึ่งลงนามโดยรมว.มหาดไทยผู้มีอำนาจกำกับดูแลกทม.และได้รับความเห็นชอบจากครม.แล้ว

การท้าทายความชอบธรรมของ MOU เท่ากับว่า กทม.ก้าวล้ำเข้าไปในเรื่องที่อยู่นอกเหนือหน้าที่ 2 ประการคือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเรื่องการค้าต่างตอบแทน อย่างมากที่สุดที่กทม. สามารถทำได้คือการขอทบทวนโครงการซึ่งกทม.ได้ทำเรื่องไปแล้วจำนวน 4 ครั้งแต่มหาดไทยได้ปฏิเสธและเร่งรัดให้รีบดำเนินการ

คณะกรรมการฯ ได้ให้ความเห็นในข้อกฎหมายว่าเมื่อมีการลงนามในสัญญา รวมทั้งมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญามาระยะหนึ่ง ดังนั้น คู่สัญญาไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือไม่ปฏิบัติหรือยกเลิกสัญญา โดยอ้างปัจจัยภายนอกได้ เว้นแต่จะมีการตกลงเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ หากปรากฏในภายหลังว่าการจัดซื้อมีราคาแพงเกินกว่าความเป็นจริงจะต้องหาผู้รับผิดชอบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น