xs
xsm
sm
md
lg

DSI ล่าเว็บปล่อยภาพเจ้าชายจิกมีถ่ายคู่สาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมว.ต่างประเทศห่วงสื่อนำภาพ “เจ้าชายจิกมี” ถ่ายคู่สาวนิรนาม มาตีพิมพ์อาจกระทบต่อความรู้สึกของชาวภูฏาน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะที่ ดีเอสไอ เตรียมเล่นงานผู้นำภาพมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต เตือนใครเผยแพร่ต่อมีสิทธิถูกดำเนินคดี พร้อมระบุแนวโน้มคดีอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ตเพิ่งสูงขึ้น

นายกันตธีร์ ศุภมงคล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์บางฉบับ นำภาพ เจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเจล วังชุก แห่งภูฏาน ที่ถ่ายคู่กับสาวนิรนาม ซึ่งเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซด์มาลงตีพิมพ์ ว่า เป็นห่วงการเผยแพร่ ของสื่อมวลชน ในเรื่องของการเสนอรูปภาพที่อาจจะไปกระทบต่อความรู้สึกของประเทศ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอให้สื่อที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้วยความเข้าใจถึงความละเอียดอ่อนด้วย ไม่ว่าจะเป็นใคร เพราะเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง

ส่วนจะมีการสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงไอซีที ดำเนินการอย่างไร นายกันตธีร์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะได้มีการประสานไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ว่าเรื่องนี้มันมาอย่างไร แต่ที่สำคัญคือ การที่มีการพิมพ์ออกมาในสื่อด้วยเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง โดยที่ไม่รู้ว่าภาพนี้เป็นภาพในลักษณะเรื่องส่วนตัว มันจึงเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน สื่อต้องระมัดระวังด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยื่น ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวในงานสัมมนา “ภัยทางอินเทอร์เน็ตและการสื่อสาร : ภัยร้ายสายพันธุ์ในสังคมไทย” ว่า ขณะนี้แนวโน้มการเกิดคดี อาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ตสูงขึ้น แม้จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพียงร้อยละ 5 ของประชากรทั้งหมด เช่น การโกงสินค้า การขายวีซีดีโป๊ การกระทำผิดข้ามชาติ การโพสต์ข้อความและรูปภาพ

“ที่น่าเป็นห่วงคือการนำเรื่องการเมืองมาเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตโดยผู้เข้าชมไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลเท็จจริงหรือไม่ ทำให้ผู้ตกเป็นข่าวได้รับความเสียหาย ขณะที่การดำเนินคดีทำได้ยาก แม้จะรู้ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องใดถูกใช้ทำความผิด เนื่องจาก ระบุบุคคลได้ยาก อีกทั้งคดีลักษณะนี้มักเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ประกอบกับกฎหมายไทยตามไม่ทันเทคโนโลยี โดย พ.ร.บ.การปราบปรามอาชญากรรม ทางอินเทอร์เน็ตยังไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร

พ.ต.อ.ญาณพล กล่าวถึงการเผยแพร่ภาพเจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเจล วังชุก แห่งประเทศภูฏาน กับหญิงสาวในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และมีหนังสือพิมพ์บางฉบับมาตีพิมพ์ว่า ดีเอสไอจะดำเนินคดีเรื่องนี้ด้วยการตรวจสอบว่าภาพและข้อความแสดงบนเว็บไซต์เป็นการมิบังควรหรือไม่ เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญและไม่เหมาะสมที่จะนำออกมากระทำในลักษณะดังกล่าว

“ผมอยากให้ผู้ดำเนินการนึกถึงจิตใจของคนภูฏานด้วยว่ามีความรักในสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับไทย และยากเรียกร้องให้คนไทยที่ได้รับภาพดังกล่าวอย่าเผยแพร่ต่อ มิฉะนั้นอาจจะมีความผิด ซึ่งการดำเนินคดีดังกล่าวจะไม่รอให้ภูฏานประสานมา แต่จะหาคนที่โพสต์ภาพและข้อความเป็นอันดับแรก”

ส่วนกรณีคลิปวิดีโอนักเรียนตบกันซึ่งมีมากขึ้นนั้น พ.ต.อ.ญาณพล กล่าวว่า ถือเป็นความเสื่อมทางสังคม จึงเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองดูแลเยาวชน มากกว่าสร้างความวุ่นวายทางการเมืองและให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะภาคความบันเทิงให้หยุดว่าจ้างนางแบบหรือนายแบบที่เคยถ่ายภาพโป๊มาเป็นสินค้าหรือรับบท ในละคร ภาพยนตร์ เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชนไทย ส่วนการเอาผิด สามารถทำได้โดยผู้ที่ปรากฏภาพในคลิปวิดีโอสามารถแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ด้าน นางมณีรัตน์ ผลิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวถึงกรณีที่มีการนำภาพ ตัดต่อของเจ้าชายจิกมี แห่งประเทศภูฏาน กับหญิงสาวไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ตว่า ตามกฎหมายไทยผู้เสียหายต้องมาแจ้งความร้องทุกข์จึงจะสามารถดำเนินคดีได้ พร้อมร้องขอผู้ปกครองให้ความรู้เยาวชนในการระมัดระวังใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งขณะนี้ถูกนำมาถ่ายภาพและวิดีโอมากขึ้น ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ส่วนผู้ที่รับคลิปวิดีโอจะต้องไม่เผยแพร่ต่อ เพราะอาจจะมีความผิดได้หากผู้เสียหายแจ้งคามร้องทุกข์
กำลังโหลดความคิดเห็น