ปัญหาเมืองไทยทุกวันนี้ ไม่มีวันที่ใครจะเข้ามาแก้ไขอะไรได้เด็ดขาดแม้แต่ขี้ผง!
ต่อให้จับพระอินทร์ พระพรหม พระนารายณ์ และพระผู้เป็นเจ้าลงมาเกิดก็แก้ไม่ได้ เพราะความชั่วของชาติไทยมันเข้มแข็งเกินไป
ความชั่วที่ว่านั้นที่หนักหนาสาหัสที่สุดและเลวร้ายยิ่งกว่าที่มีอยู่ในนรกทุกขุมที่มีอยู่ในอดีตและในปัจจุบันมาเทียบได้
ความชั่วที่ว่านั้นเมืองไทยมีอยู่ 3 ประการคือ (1) เพราะเรามีนักการเมืองที่เลวที่สุดในชาติ (2) เพราะเราเป็นชาติที่มีคอร์รัปชันสูงสุดในบรรดาประเทศและชนชาติต่างๆ ที่โลกมี(3) เราเป็นประเทศที่นักการเมืองไทยขายชาติขายแผ่นดินสร้างความร่ำรวยให้ตัวเองและวงศ์วาน
ปัญหาเหล่านี้ เป็นปัญหาตายตัวที่ขยับเขยื้อนไม่ได้ เพราะทำกันมาเป็นเวลานานนับร้อยปีมาแล้วในการปกครองของไทยที่เรียกว่าระบอบประชาธิปไตย จะไม่มีทางแก้ได้ ไม่ว่าใครจะเกิดมาจากไหนหรือกะล่อนขนาดไหนก็ตาม คนไทยควรจะเอาความคิดและสติปัญญาไปใช้ในเรื่องอื่นๆ เพราะว่าเรื่องคอร์รัปชันและการกินบ้านกินเมืองในขณะนี้เป็นเรื่องมาจากสถาบันที่เรียกว่า สถาบันการเมืองโดยมีนักการเมืองเป็นผู้แย่งกันทำงานหรือฉวยโอกาสทำงานเพื่อที่จะได้หากินโดยการคอร์รัปชัน
หรือถ้าจะพูดกันง่ายๆ ให้มองเห็นภาพชัดๆ การเมืองก็คือ ซ่องโจรนั่นเอง ภาระหน้าที่ของการเมืองและนักการเมือนั้นแท้ที่จริงแล้วก็คือการทำหน้าที่หยิบฉวยฉ้อฉลเอาเงินทองและทรัพย์สินของชาติและของประชาชนไปเป็นของตนเองโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมไปถึงขายชาติขายแผ่นดินและทรัพย์สินของชาติเอาไปเป็นประโยชน์ของตนเอง โดยการใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองเบียดเบียนฉ้อฉลไป
ตัวอย่างที่คนไทยทุกคนรู้จากความจริงที่เปิดเผยกันออกมาก็คือการสมคบกับต่างชาติ คนไทยและรัฐบาลไทยขายกิจการไอทีวีให้แก่สิงคโปร์ไปโดยวิธีการซับซ้อนที่ประชาชนไม่รู้เพื่อให้กิจการโทรทัศน์ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลใดยอมขายให้ต่างชาติ นักการเมืองในประวัติศาสตร์ของโลกและประเทศต่างๆ ทุกประเทศบนแผ่นดินไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน ของแผ่นดิน ผมพยายามอ่านและศึกษามานานพอสมควรและที่สำคัญที่สุดในเมืองไทย โดยเริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เป็นต้นมา
ทุกวันนี้คนไทยที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกคนนอกจากการหายใจเข้าหายใจออกเป็นปกติแล้ว สิ่งที่จะต้องสนใจไปพร้อมกันคือขอให้ทุกคนคิดอยู่ทุกลมหายใจว่า เมืองไทยที่เราอยู่กันทุกวันนี้ เราอยู่กันท่ามกลาง (1) นักการเมืองชั่ว (2) นักการเมืองคือโจรที่คอยทำหน้าที่ปล้นและเบียดเบียนประชาชนเป็นอาชีพ (3) นักการเมืองเหล่านี้เอาชาติเอาประเทศไปขายให้ต่างชาติเท่านั้น
เมื่อสมัยที่เมืองไทยเป็นประชาธิปไตย เป็นระยะเวลาที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจอะไรมากในเรื่องการเมืองการปกครองประเทศ คนที่อ่านหนังสือและเรียนมาน้อยก็ไม่รู้และไม่เข้าใจอะไร คนที่มีความรู้เฉพาะทางด้านทหารที่มีปืนมีอำนาจก็พากันยึดอำนาจร่วมกันทำมาหากินตั้งแต่สมัยนั้นพอหอมปากหอมคอ หรือหัดคอร์รัปชันกันเท่าที่ใครจะถนัดทางไหน แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ง่ายนัก แต่ก็เรียกว่ายังพอทำได้ การคอร์รัปชันก็เริ่มเจริญงอกงามขึ้นมาเป็นลำดับ เฉพาะอย่างยิ่ง โดยการฝึกปรือของพวกนักการเมืองที่สมัครเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรซึ่งเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีหลายอย่างที่คนพวกนี้จะเริ่มต้นปฏิบัติกันเป็นตัวอย่างมากมายหลายเรื่อง เฉพาะการจัดทำโครงการใหญ่ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าราคาเป็นแสนๆ ล้านหรือโครงการหมู่บ้านและสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ในขณะที่ประเทศไทยไม่มีเงิน แต่ก็รีบทำกันเพราะต้องการเพียงแต่ค่านายหน้าในการยื่นประมูลที่ประมาณกันว่าจะไม่น้อยกว่า 38 เปอร์เซ็นต์ของราคาค่าก่อสร้างทั้งหมดและสามารถนำที่ดินในบริเวณนั้นไปขายได้ราคาเกินความจริงอีกด้วย
สมัยก่อนส่วนมากก็จะเป็นนักการเมืองระดับปลายแถวประเภทนายหน้าหาวิ่งเต้นกินเล็กกินน้อยกัน ไม่มากมายสาหัสสากรรจ์อะไรถึงขนาดทุกวันนี้ และต้องเป็นนักการเมืองที่มีพรรคหรือสังกัดพรรค ถ้าหากพรรคได้เป็นรัฐบาลแล้วโอกาสที่จะทำมาหากินหรือคอร์รัปชันขนาดหนักหรือเรียกว่ากินทีเดียวอิ่มไปตลอดชีวิตก็มี เพราะทำในนามของพรรคหรือใช้พรรคพวกในพรรคสนับสนุนการทุจริตคิดมิชอบที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ ขึ้นอยู่กับว่านักการเมืองพวกนั้นจะเป็นลูกพรรคใหญ่เงินหนาหรือไม่ ผู้มีความรู้หรือความเป็นเพื่อนฝูงมีความสำคัญในพรรคหรือนักการเมืองที่เป็นหญิงสวย ทั้งสาวหรือไม่สาวก็สามารถจะใช้ความเป็นผู้หญิงเข้ามาหากินในทางการเมืองได้สบายมาก ถือว่าเป็นผู้ที่เกิดมาเป็นคนที่โชคดีที่สุด เพราะอาศัยว่าอยู่ในพรรคใหญ่ มีอำนาจและมีชื่อสียงมาก จะพูดจะทำอะไร จะกินอะไรก็กินได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเมืองชั่วที่เราเอามาใช้กันอยู่ทุกวันนี้ทั้งสิ้น
พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงที่มีคนเชื่อถือหรือเห็นว่าจะหากินได้ก็จัดตั้งพรรคขึ้นมา แล้วก็หาทางระดมพรรคพวกเข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นบริษัทการค้าใหญ่ๆ ที่ต้องการทำมาหากินให้รวยหนักยิ่งขึ้นไปอีก ผูกขาดธุรกิจที่สำคัญหรือรับเหมาก่อสร้างสะพานหรือถนนหนทาง คนเหล่านี้จะช่วยกันหาเงินมาเพื่อสนันสนุบพรรคเพื่อให้พรรคนำไปซื้อตัวนักการเมืองที่กำลังแสวงหาเงินเพิ่มเติมอยู่ซึ่งเงินจำนวนที่หามาได้นี้ที่นิยมกระทำก็คือการซื้อเสียงเลือกตั้งจากประชาชน ซึ่งว่ากันว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งคนหนึ่งๆ จะต้องจ่ายตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไปกระทั่งถึง 1 ล้านหรือ 2 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ แล้วก็จะได้รับเลือกตั้งขึ้นมาและได้รับตำแหน่งที่จะใช้หาเงินต่อไปได้อีกในรูปต่างๆ ทั้งเงินเดือนจากรัฐ เงินจากพ่อค้าและเงินจากธุรกิจรีดไถและการเป็นนายหน้าในทางธุรกิจอื่นต่อไปไม่สิ้นสุด
สำหรับประชาชนคนเลือกตั้งเพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยก็จะต้องรอการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า นั่นก็จะทำให้โจรพวกนั้นโยนเงินให้มาแย่งกันต่อไปอีกและการโกหกหลอกลวงต่างๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้นตามวิถีทางของการเมือง
และโดยวิธีการเป็นนักการเมืองที่เป็นง่ายหรือเพียงแต่มีเงินซื้อเสียงได้เพียงพอหรือสร้างชื่อเสียงเฮงซวยขึ้นมาได้บ้างก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะเป็นนักการเมือง
เพราะฉะนั้น การเมืองไทยและนักการเมืองไทย จึงจะต้องมีแต่ความชั่วคืออาศัยแต่เงินชั่วตัวเดียวที่จะตัดสินปัญหาทุกอย่างได้ เพราะฉะนั้นคุณธรรม ศีลธรรม และความถูกต้องใดๆ ในกระบวนการทางการเมืองจะมีไม่ได้ หรือไม่ต้องมี
อย่างในระยะนี้มีคนเรียกว่าความยุ่งยากทางการเมือง เป็นวิกฤตการณ์ทางการเมืองชั่วร้ายที่สุด ซึ่งมันไม่ได้เกิดอะไรเลยนอกจากการแก่งแย่งผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน การปล้นบ้านปล้นเมืองและประชาชน โกหกหลอกลวงซึ่งกันและกันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
มีคนยืนยันว่าการเมืองในเมืองไทยระยะนี้สกปรกที่สุด นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่มีศีลธรรม ไม่มีคุณธรรม ไม่มีสัจจะ เป็นเพียงไอ้พวกนักต้มมนุษย์ธรรมดานี่เอง!
บางคนที่สนใจการเมืองไทยยอมรับว่าในบรรดาความชั่วช้าสกปรกที่ผลิตขึ้นมาได้ในโลกนี้เป็นความสกปรกชั่วช้าที่จะหมกอยู่ในหัวใจนักการเมืองของไทยเรานั้น ฝรั่งบอกเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานประเภทหนึ่ง เช่น จิ้งเหลน ตะกวดหรือเหี้ยโดยเรียกว่า chameleon หมายถึง Any of various tropical Old World lizards of the family chamaeleonidae or changeable or inconstant person ซึ่งในประโยคแรกท่านหมายถึงสัตว์ชนิดที่มีหางและรูปร่างลักษณะเดียวกับจิ้งจก ตุ๊กแกในสมัยโบราณที่มีวิธีหากินและวิธีการคอร์รัปชันอย่างว่องไว เชี่ยวชาญ ในการกินบางชนิดอาจจะต้องไปหลอกต่างประเทศหรืออะไรก็ตาม ตามวิธีการของจิ้งจก ตุ๊กแก และเหี้ยในสมัยโบราณซึ่งเป็นสัตว์ประเภทเดียวกันกับนักการเมืองคอร์รัปชันทั่วไป สำหรับประโยคหลังเป็นพวกกะล่อนพูดเช้าลืมเย็นและพูดได้สารพัด ทั้งโกหกมดเท็จ ท่านใช้คำว่าบุคคลที่ไม่มีความมั่นคงและเปลี่ยนคำพูดได้ทุกนาที นั่นก็เป็นตัวอย่างนักการเมืองไทยในยุคปัจจุบันนี้ที่นักคอร์รัปชันทั่วไปจะเอาเป็นตัวอย่างได้อย่างดี
การแก้ปัญหาเมืองไทย จึงจำเป็นที่จะต้องแก้ที่ประเด็นแรกคือ
(1) จะต้องแก้ที่การเมืองหรือไม่ให้มีนักการเมืองชั่วทั้งหมดที่เรามีอยู่เป็นประการแรก
(2) การคอร์รัปชันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำของนักการเมืองทั้งหมด ถ้าเราไม่จัดการกับนักการเมืองชั่วเหล่านี้ คนพวกนี้ตราบใดที่มันยังมีลมหายใจอยู่แล้ว มันก็จะคอร์รัปชันกันต่อไป เพราะหลักการมีอยู่ว่าถ้าเรามีการเมืองและนักการเมืองก็จะต้องมีการคอร์รัปชัน เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็เป็นอันว่า ปัญหาเมืองไทยเราจะแก้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
(3) เมื่อมันมีปัญหาประจำชาติดังกล่าวนี้แล้ว ความจริงประการนี้จึงไม่มีท่าทีจะแก้ได้ไม่ว่าจะเกิดหรือตายไปกี่ร้อยกี่พันชาติ ปัญหาการขายชาติก็จึงไม่ต้องพูดกันต่อไป
ปัญหาชั่วของเมืองไทยจึงจะต้องยอมให้มีอยู่ต่อไป
ถ้ามีนักการเมืองถ่อยที่ไหนจะมาตะโกนบอกว่า จะแก้ปัญหาจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ให้แก่ประเทศไทย นอกจากไม่ควรเชื่อถือแล้วก็ควรจะโยนลงนรกไปเสีย
จะดีมาก!
ต่อให้จับพระอินทร์ พระพรหม พระนารายณ์ และพระผู้เป็นเจ้าลงมาเกิดก็แก้ไม่ได้ เพราะความชั่วของชาติไทยมันเข้มแข็งเกินไป
ความชั่วที่ว่านั้นที่หนักหนาสาหัสที่สุดและเลวร้ายยิ่งกว่าที่มีอยู่ในนรกทุกขุมที่มีอยู่ในอดีตและในปัจจุบันมาเทียบได้
ความชั่วที่ว่านั้นเมืองไทยมีอยู่ 3 ประการคือ (1) เพราะเรามีนักการเมืองที่เลวที่สุดในชาติ (2) เพราะเราเป็นชาติที่มีคอร์รัปชันสูงสุดในบรรดาประเทศและชนชาติต่างๆ ที่โลกมี(3) เราเป็นประเทศที่นักการเมืองไทยขายชาติขายแผ่นดินสร้างความร่ำรวยให้ตัวเองและวงศ์วาน
ปัญหาเหล่านี้ เป็นปัญหาตายตัวที่ขยับเขยื้อนไม่ได้ เพราะทำกันมาเป็นเวลานานนับร้อยปีมาแล้วในการปกครองของไทยที่เรียกว่าระบอบประชาธิปไตย จะไม่มีทางแก้ได้ ไม่ว่าใครจะเกิดมาจากไหนหรือกะล่อนขนาดไหนก็ตาม คนไทยควรจะเอาความคิดและสติปัญญาไปใช้ในเรื่องอื่นๆ เพราะว่าเรื่องคอร์รัปชันและการกินบ้านกินเมืองในขณะนี้เป็นเรื่องมาจากสถาบันที่เรียกว่า สถาบันการเมืองโดยมีนักการเมืองเป็นผู้แย่งกันทำงานหรือฉวยโอกาสทำงานเพื่อที่จะได้หากินโดยการคอร์รัปชัน
หรือถ้าจะพูดกันง่ายๆ ให้มองเห็นภาพชัดๆ การเมืองก็คือ ซ่องโจรนั่นเอง ภาระหน้าที่ของการเมืองและนักการเมือนั้นแท้ที่จริงแล้วก็คือการทำหน้าที่หยิบฉวยฉ้อฉลเอาเงินทองและทรัพย์สินของชาติและของประชาชนไปเป็นของตนเองโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมไปถึงขายชาติขายแผ่นดินและทรัพย์สินของชาติเอาไปเป็นประโยชน์ของตนเอง โดยการใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองเบียดเบียนฉ้อฉลไป
ตัวอย่างที่คนไทยทุกคนรู้จากความจริงที่เปิดเผยกันออกมาก็คือการสมคบกับต่างชาติ คนไทยและรัฐบาลไทยขายกิจการไอทีวีให้แก่สิงคโปร์ไปโดยวิธีการซับซ้อนที่ประชาชนไม่รู้เพื่อให้กิจการโทรทัศน์ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลใดยอมขายให้ต่างชาติ นักการเมืองในประวัติศาสตร์ของโลกและประเทศต่างๆ ทุกประเทศบนแผ่นดินไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน ของแผ่นดิน ผมพยายามอ่านและศึกษามานานพอสมควรและที่สำคัญที่สุดในเมืองไทย โดยเริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เป็นต้นมา
ทุกวันนี้คนไทยที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกคนนอกจากการหายใจเข้าหายใจออกเป็นปกติแล้ว สิ่งที่จะต้องสนใจไปพร้อมกันคือขอให้ทุกคนคิดอยู่ทุกลมหายใจว่า เมืองไทยที่เราอยู่กันทุกวันนี้ เราอยู่กันท่ามกลาง (1) นักการเมืองชั่ว (2) นักการเมืองคือโจรที่คอยทำหน้าที่ปล้นและเบียดเบียนประชาชนเป็นอาชีพ (3) นักการเมืองเหล่านี้เอาชาติเอาประเทศไปขายให้ต่างชาติเท่านั้น
เมื่อสมัยที่เมืองไทยเป็นประชาธิปไตย เป็นระยะเวลาที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจอะไรมากในเรื่องการเมืองการปกครองประเทศ คนที่อ่านหนังสือและเรียนมาน้อยก็ไม่รู้และไม่เข้าใจอะไร คนที่มีความรู้เฉพาะทางด้านทหารที่มีปืนมีอำนาจก็พากันยึดอำนาจร่วมกันทำมาหากินตั้งแต่สมัยนั้นพอหอมปากหอมคอ หรือหัดคอร์รัปชันกันเท่าที่ใครจะถนัดทางไหน แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ง่ายนัก แต่ก็เรียกว่ายังพอทำได้ การคอร์รัปชันก็เริ่มเจริญงอกงามขึ้นมาเป็นลำดับ เฉพาะอย่างยิ่ง โดยการฝึกปรือของพวกนักการเมืองที่สมัครเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรซึ่งเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีหลายอย่างที่คนพวกนี้จะเริ่มต้นปฏิบัติกันเป็นตัวอย่างมากมายหลายเรื่อง เฉพาะการจัดทำโครงการใหญ่ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าราคาเป็นแสนๆ ล้านหรือโครงการหมู่บ้านและสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ในขณะที่ประเทศไทยไม่มีเงิน แต่ก็รีบทำกันเพราะต้องการเพียงแต่ค่านายหน้าในการยื่นประมูลที่ประมาณกันว่าจะไม่น้อยกว่า 38 เปอร์เซ็นต์ของราคาค่าก่อสร้างทั้งหมดและสามารถนำที่ดินในบริเวณนั้นไปขายได้ราคาเกินความจริงอีกด้วย
สมัยก่อนส่วนมากก็จะเป็นนักการเมืองระดับปลายแถวประเภทนายหน้าหาวิ่งเต้นกินเล็กกินน้อยกัน ไม่มากมายสาหัสสากรรจ์อะไรถึงขนาดทุกวันนี้ และต้องเป็นนักการเมืองที่มีพรรคหรือสังกัดพรรค ถ้าหากพรรคได้เป็นรัฐบาลแล้วโอกาสที่จะทำมาหากินหรือคอร์รัปชันขนาดหนักหรือเรียกว่ากินทีเดียวอิ่มไปตลอดชีวิตก็มี เพราะทำในนามของพรรคหรือใช้พรรคพวกในพรรคสนับสนุนการทุจริตคิดมิชอบที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ ขึ้นอยู่กับว่านักการเมืองพวกนั้นจะเป็นลูกพรรคใหญ่เงินหนาหรือไม่ ผู้มีความรู้หรือความเป็นเพื่อนฝูงมีความสำคัญในพรรคหรือนักการเมืองที่เป็นหญิงสวย ทั้งสาวหรือไม่สาวก็สามารถจะใช้ความเป็นผู้หญิงเข้ามาหากินในทางการเมืองได้สบายมาก ถือว่าเป็นผู้ที่เกิดมาเป็นคนที่โชคดีที่สุด เพราะอาศัยว่าอยู่ในพรรคใหญ่ มีอำนาจและมีชื่อสียงมาก จะพูดจะทำอะไร จะกินอะไรก็กินได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเมืองชั่วที่เราเอามาใช้กันอยู่ทุกวันนี้ทั้งสิ้น
พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงที่มีคนเชื่อถือหรือเห็นว่าจะหากินได้ก็จัดตั้งพรรคขึ้นมา แล้วก็หาทางระดมพรรคพวกเข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นบริษัทการค้าใหญ่ๆ ที่ต้องการทำมาหากินให้รวยหนักยิ่งขึ้นไปอีก ผูกขาดธุรกิจที่สำคัญหรือรับเหมาก่อสร้างสะพานหรือถนนหนทาง คนเหล่านี้จะช่วยกันหาเงินมาเพื่อสนันสนุบพรรคเพื่อให้พรรคนำไปซื้อตัวนักการเมืองที่กำลังแสวงหาเงินเพิ่มเติมอยู่ซึ่งเงินจำนวนที่หามาได้นี้ที่นิยมกระทำก็คือการซื้อเสียงเลือกตั้งจากประชาชน ซึ่งว่ากันว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งคนหนึ่งๆ จะต้องจ่ายตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไปกระทั่งถึง 1 ล้านหรือ 2 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ แล้วก็จะได้รับเลือกตั้งขึ้นมาและได้รับตำแหน่งที่จะใช้หาเงินต่อไปได้อีกในรูปต่างๆ ทั้งเงินเดือนจากรัฐ เงินจากพ่อค้าและเงินจากธุรกิจรีดไถและการเป็นนายหน้าในทางธุรกิจอื่นต่อไปไม่สิ้นสุด
สำหรับประชาชนคนเลือกตั้งเพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยก็จะต้องรอการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า นั่นก็จะทำให้โจรพวกนั้นโยนเงินให้มาแย่งกันต่อไปอีกและการโกหกหลอกลวงต่างๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้นตามวิถีทางของการเมือง
และโดยวิธีการเป็นนักการเมืองที่เป็นง่ายหรือเพียงแต่มีเงินซื้อเสียงได้เพียงพอหรือสร้างชื่อเสียงเฮงซวยขึ้นมาได้บ้างก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะเป็นนักการเมือง
เพราะฉะนั้น การเมืองไทยและนักการเมืองไทย จึงจะต้องมีแต่ความชั่วคืออาศัยแต่เงินชั่วตัวเดียวที่จะตัดสินปัญหาทุกอย่างได้ เพราะฉะนั้นคุณธรรม ศีลธรรม และความถูกต้องใดๆ ในกระบวนการทางการเมืองจะมีไม่ได้ หรือไม่ต้องมี
อย่างในระยะนี้มีคนเรียกว่าความยุ่งยากทางการเมือง เป็นวิกฤตการณ์ทางการเมืองชั่วร้ายที่สุด ซึ่งมันไม่ได้เกิดอะไรเลยนอกจากการแก่งแย่งผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน การปล้นบ้านปล้นเมืองและประชาชน โกหกหลอกลวงซึ่งกันและกันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
มีคนยืนยันว่าการเมืองในเมืองไทยระยะนี้สกปรกที่สุด นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่มีศีลธรรม ไม่มีคุณธรรม ไม่มีสัจจะ เป็นเพียงไอ้พวกนักต้มมนุษย์ธรรมดานี่เอง!
บางคนที่สนใจการเมืองไทยยอมรับว่าในบรรดาความชั่วช้าสกปรกที่ผลิตขึ้นมาได้ในโลกนี้เป็นความสกปรกชั่วช้าที่จะหมกอยู่ในหัวใจนักการเมืองของไทยเรานั้น ฝรั่งบอกเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานประเภทหนึ่ง เช่น จิ้งเหลน ตะกวดหรือเหี้ยโดยเรียกว่า chameleon หมายถึง Any of various tropical Old World lizards of the family chamaeleonidae or changeable or inconstant person ซึ่งในประโยคแรกท่านหมายถึงสัตว์ชนิดที่มีหางและรูปร่างลักษณะเดียวกับจิ้งจก ตุ๊กแกในสมัยโบราณที่มีวิธีหากินและวิธีการคอร์รัปชันอย่างว่องไว เชี่ยวชาญ ในการกินบางชนิดอาจจะต้องไปหลอกต่างประเทศหรืออะไรก็ตาม ตามวิธีการของจิ้งจก ตุ๊กแก และเหี้ยในสมัยโบราณซึ่งเป็นสัตว์ประเภทเดียวกันกับนักการเมืองคอร์รัปชันทั่วไป สำหรับประโยคหลังเป็นพวกกะล่อนพูดเช้าลืมเย็นและพูดได้สารพัด ทั้งโกหกมดเท็จ ท่านใช้คำว่าบุคคลที่ไม่มีความมั่นคงและเปลี่ยนคำพูดได้ทุกนาที นั่นก็เป็นตัวอย่างนักการเมืองไทยในยุคปัจจุบันนี้ที่นักคอร์รัปชันทั่วไปจะเอาเป็นตัวอย่างได้อย่างดี
การแก้ปัญหาเมืองไทย จึงจำเป็นที่จะต้องแก้ที่ประเด็นแรกคือ
(1) จะต้องแก้ที่การเมืองหรือไม่ให้มีนักการเมืองชั่วทั้งหมดที่เรามีอยู่เป็นประการแรก
(2) การคอร์รัปชันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำของนักการเมืองทั้งหมด ถ้าเราไม่จัดการกับนักการเมืองชั่วเหล่านี้ คนพวกนี้ตราบใดที่มันยังมีลมหายใจอยู่แล้ว มันก็จะคอร์รัปชันกันต่อไป เพราะหลักการมีอยู่ว่าถ้าเรามีการเมืองและนักการเมืองก็จะต้องมีการคอร์รัปชัน เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็เป็นอันว่า ปัญหาเมืองไทยเราจะแก้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
(3) เมื่อมันมีปัญหาประจำชาติดังกล่าวนี้แล้ว ความจริงประการนี้จึงไม่มีท่าทีจะแก้ได้ไม่ว่าจะเกิดหรือตายไปกี่ร้อยกี่พันชาติ ปัญหาการขายชาติก็จึงไม่ต้องพูดกันต่อไป
ปัญหาชั่วของเมืองไทยจึงจะต้องยอมให้มีอยู่ต่อไป
ถ้ามีนักการเมืองถ่อยที่ไหนจะมาตะโกนบอกว่า จะแก้ปัญหาจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ให้แก่ประเทศไทย นอกจากไม่ควรเชื่อถือแล้วก็ควรจะโยนลงนรกไปเสีย
จะดีมาก!