จากการที่หนังสือพิมพ์มติชนได้นำความบางตอนในคำสัตยาธิษฐานของอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ไปลงพิมพ์เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้มีผู้สนใจมากหลายสอบถามและอยากรู้ข้อความเต็ม จึงจำเป็นที่จะต้องขอรบกวนทางกองบรรณาธิการเพื่อขออนุญาตนำเรื่องนี้มาลงเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ทราบและเข้าใจโดยทั่วกัน
การอธิษฐานที่จะให้บังเกิดผลตามแนวทางที่มีมาในพระพุทธศาสนานั้นเป็น กรรมวิธีที่สำคัญและถ้าทำได้ถูกต้องก็จะทำให้เกิดฤทธิ์ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าอธิษฐาน ฤทธิ์ จัดเป็นหนึ่งในฤทธิ์ 10 จำพวก
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนพระอานนท์พุทธอุปัฏฐากเกี่ยวกับกรรมวิธีในการกระทำอธิษฐานเป็นครั้งแรก ดังที่ปรากฏความในรัตนสูตรซึ่งถือเป็นพระสูตรสำคัญที่พระสงฆ์ใช้สวดพระปริตร
ในสมัยนั้นบังเกิดมีโรคห่าลงกินเมือง ผู้คนป่วยเจ็บล้มตายลงเป็นอันมาก กษัตริย์ลิจฉวีแห่งกรุงไพสาลีจึงอาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เสด็จไปโปรดเพื่อช่วยชีวิตของชาวไพสาลีนั้น
พระตถาคตเจ้าซึ่งมีน้ำพระทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณต่อสรรพสัตว์ทรงรับอาราธนาแล้ว จึงพร้อมด้วยพระสาวกหมู่ใหญ่เสด็จไปที่เมืองไพสาลีนั้น ประชาชน ได้ทราบความก็พากันมาต้อนรับเสด็จอย่างคับคั่งตลอดทาง
เมื่อเสด็จฯถึงเมืองไพสาลีจึงตรัสเรียกพระอานนท์พุทธอุปัฏฐากเข้ามาพบ แล้วทรงสอนมนต์บทหนึ่งสำหรับทำน้ำมนต์ ให้พระอานนท์สวดพระคาถาบทนี้และทำน้ำมนต์ไปประพรมทั่วเมืองไพสาลี
พระอานนท์ได้เรียนมนต์จากพระบรมศาสดาแล้ว จึงพร้อมด้วยพระเถระได้ สวดมนต์นั้นทำน้ำมนต์ไปประพรมทั่วทั้งเมืองไพสาลี จากนั้นได้เกิดฝนห่าใหญ่ตกลงทั่วทั้งเมือง โรคห่าก็หายไป
มนต์บทนี้มีชื่อว่ารัตนสูตร ซึ่งพระสงฆ์ได้ถือเป็นปริตรหนึ่งในพิธีกรรมสวดพระปริตรมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
เนื้อหาของรัตนสูตรก็คือการอ้างอิงเอาความสัตย์เกี่ยวกับพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ แล้วขอความสัตย์ดังกล่าวนี้ได้ทำให้ภูต อมนุษย์ และความชั่วร้ายทั้งหลายได้สูญสลายไป
การอ้างความสัตย์เพื่อให้เกิดผลประการใดประการหนึ่งจึงได้ชื่อว่าการทำสัจจาธิษฐานหรือสัตยาธิษฐาน ด้วยกำลังแห่งความสัตย์ ด้วยกำลังแห่งอธิษฐาน และด้วยกำลังบุญกุศล จึงประกอบขึ้นเป็นอธิษฐานฤทธิ์ มีประสิทธิผลดังปรารถนา
ในการสวดพระปริตรในงานมงคลใดๆ พระสงฆ์จะสวดรัตนสูตรก็คือการอ้าง เอาพระคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นรัตนะอันประเสริฐ ไม่มีรัตนะ อื่นใดเสมอเหมือน และขออำนาจแห่งความสัตย์นี้ดลบันดาลให้สรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยสิ้นสลายไป ให้อวมงคลทั้งหลายสิ้นสลายไป ให้ถึงซึ่งมงคลทั้งปวง
คนไทยทั่วไปก็รักที่จะทำอธิษฐานในกิจการมากหลาย จนอธิษฐานกันเกลื่อนไป ในแทบทุกเรื่องราว บางครั้งก็เกิดผลบ้าง บางครั้งก็ไม่เกิดผลบ้าง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ว่าเหตุหรือปัจจัยในการทำอธิษฐานนั้นว่ามีพลัง มีอานุภาพหรือไม่ มากน้อยเพียงใด
ดังนั้น การทำความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับกรรมวิธีในการทำสัตยาธิษฐานจึงอาจเป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ เพราะครั้งหนึ่งของชีวิตก็อาจจำเป็นที่ต้องอธิษฐานบ้างก็ได้ และถ้าถึงคราวจำเป็นเช่นว่านั้นก็พึงทำให้คำอธิษฐานนั้นเป็นผล
เหตุนี้จึงควรที่จะได้รู้กรรมวิธีในการกระทำสัตยาธิษฐาน
ในงานพิธีสมโภชหนังสือ 'วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์แห่งโลกภายใน' ซึ่งพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นประธานจัดพิมพ์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2549 นั้น สมเด็จพระญาณวโรดม วัดเทพศิรินทราวาสได้เป็นประธานสงฆ์แทนสมเด็จพระสังฆราช
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้กระทำสัตยาธิษฐานในท่ามกลางสงฆ์ และปวงเทวดา ที่พระสงฆ์สวดอัญเชิญมาฟังพระธรรม ดังปรากฏความที่นำมาลงพิมพ์ไว้ต่อไปนี้
'ข้าพเจ้าพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 แห่งราชอาณาจักร ไทย สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้นมหาโยธิน พร้อมคณะ มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น
ดังนั้น ในมหามงคลสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปีพุทธศักราช 2549 นี้ ข้าพเจ้าพร้อมคณะทั้งหลายจึงได้จัดพิมพ์หนังสือ 'วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์ แห่งโลกภายใน' เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล
และขออานิงสงส์แห่งการเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาได้ดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
ข้าพเจ้าและคณะทั้งหลายขอตั้งสัตยาธิษฐานเบื้องหน้าพระพุทธปฏิมา พระธรรม และพระสงฆ์ ตลอดจนเทพยดาอารักษ์ ซึ่งพระสงฆ์ได้สวดเชิญชวนมาร่วมฟังพระธรรมอันประเสริฐอยู่ ณ บัดนี้ว่า
‘ สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระปัญญาจักษุขจัดมลทินเสียแล้ว ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าด้วยพระองค์เอง ทรงเป็นศาสดาเอกของเทวดาและมนุษย์ ทั้งหลาย ทรงปลดเปลื้องเวไนยสัตว์จากบ่วงมารให้ถึงซึ่งความเกษม ทรงเสด็จไปดีแล้ว
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ พระธรรมอันสมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็น ดุจธงชัยแห่งพระตถาคตเจ้าพระองค์นั้น แสดงทางแห่งความบริสุทธิ์แก่โลก คุ้มครอง ชนผู้ทรงธรรม นำพาให้พ้นจากยุคเข็ญ เวไนยสัตว์ผู้ประพฤติปฏิบัติพระธรรมนั้น ดีแล้ว ย่อมถึงซึ่งประโยชน์และความสุขแม้ที่สุดย่อมถึงซึ่งความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย พระธรรมและอานิสงส์แห่งพระธรรมนั้นเป็นความจริงอยู่ในทุกกาล ไม่ว่าในกาลไหนๆ
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ พระสงฆ์สาวกแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น สดับแล้ว ประพฤติปฏิบัติ แล้ว ในพระธรรมที่พระตถาคตเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็นเสนาประกาศพระสัตย์ธรรม ดำเนินตามพระศาสดาผู้เสด็จดีแล้ว เป็นผู้สงบ ปราศจากอุปกิเลส อันลามกของโลก ทำให้เวไนยสัตว์ได้รู้และได้รับผลแห่งพระธรรมอันประเสริฐ เป็นเนื้อนาบุญของโลก
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ ปวงเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายที่สงฆ์ได้สวดเชิญชวนมาชุมนุม ณ ที่นี้ เพื่อ ฟังพระธรรมอันประเสริฐของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นย่อมอุดมด้วยบุญ ด้วย บารมี และด้วยฤทธิ์
ครั้นได้ฟังพระธรรมอันเลิศในโลกซึ่งพระสงฆ์ได้สวดแสดงแล้ว ย่อมมีจิตเมตตาและกรุณาอย่างเปี่ยมล้น ย่อมได้รับอานิสงส์แห่งการสดับพระธรรมอันประเสริฐนั้น ย่อมเป็นประโยชน์และความสุขแก่ปวงเทพยดาอารักษ์ทั้งหลาย
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ สมเด็จพระบุรพมหากษัตริย์แห่งสยามรัฐสีมาอาณาจักรนี้ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของมหาชน ทรงตั้งอยู่ในธรรม ทรงเคารพธรรม ทรงประกาศธรรม ทรงประพฤติธรรม เป็นอาณาประโยชน์บังเกิดความสงบร่มเย็นแก่อาณาประชาราษฎรและสมณะชีพราหมณ์ทั้งปวง
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ พระตถาคตเจ้าทรงประกาศแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายว่าธรรมทั้งหลาย ย่อมมีเหตุเป็นแดนเกิด เหตุทั้งหลายย่อมมีผลเป็นเบื้องปลาย บุญทั้งหลายย่อมมี อานิสงส์เป็นเที่ยงแท้ กรรมทั้งหลายย่อมยังเหล่าสัตว์ให้เป็นไปตามกรรม การเผย แผ่และสืบทอดพระศาสนาเพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากย่อมมีอานิสงส์ แห่งความเจริญ ความยั่งยืน ความสมบูรณ์ และความยาวนานเป็นเที่ยงแท้
ขอความสัตย์นี้และขออานิสงส์แห่งการพิมพ์หนังสือ 'วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์ แห่งโลกภายใน' เพื่อเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน มั่นคง เป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มากตลอดพุทธันดรนี้จงดลบันดาลให้พระบาท- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อม ด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
ขอสัตยาธิษฐานอันข้าพเจ้าและคณะทั้งหลายได้ปรารภโดยชอบ ได้ตั้งไว้โดย ชอบ ด้วยความสงบ ด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความตั้งมั่น และด้วยจิตที่มีความจงรัก ภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จงสำเร็จเป็นอิทธิฤทธิ์ เป็นบุญฤทธิ์ เป็นอธิษฐานฤทธิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ดุจดั่งห้วงมหรรณพอันเปี่ยมด้วยน้ำและดุจดังพระจันทร์เต็มดวงในคืนวันเพ็ญนั้น
ขอพระสงฆ์ ขอเทพยดาอารักษ์ที่สงฆ์ได้สวดเชิญชวนมาชุมนุม ณ มหา-สมาคมนี้จงอนุโมทนาเพื่อสำเร็จประโยชน์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงพร้อมกันเทอญ
การอธิษฐานที่จะให้บังเกิดผลตามแนวทางที่มีมาในพระพุทธศาสนานั้นเป็น กรรมวิธีที่สำคัญและถ้าทำได้ถูกต้องก็จะทำให้เกิดฤทธิ์ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าอธิษฐาน ฤทธิ์ จัดเป็นหนึ่งในฤทธิ์ 10 จำพวก
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนพระอานนท์พุทธอุปัฏฐากเกี่ยวกับกรรมวิธีในการกระทำอธิษฐานเป็นครั้งแรก ดังที่ปรากฏความในรัตนสูตรซึ่งถือเป็นพระสูตรสำคัญที่พระสงฆ์ใช้สวดพระปริตร
ในสมัยนั้นบังเกิดมีโรคห่าลงกินเมือง ผู้คนป่วยเจ็บล้มตายลงเป็นอันมาก กษัตริย์ลิจฉวีแห่งกรุงไพสาลีจึงอาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เสด็จไปโปรดเพื่อช่วยชีวิตของชาวไพสาลีนั้น
พระตถาคตเจ้าซึ่งมีน้ำพระทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณต่อสรรพสัตว์ทรงรับอาราธนาแล้ว จึงพร้อมด้วยพระสาวกหมู่ใหญ่เสด็จไปที่เมืองไพสาลีนั้น ประชาชน ได้ทราบความก็พากันมาต้อนรับเสด็จอย่างคับคั่งตลอดทาง
เมื่อเสด็จฯถึงเมืองไพสาลีจึงตรัสเรียกพระอานนท์พุทธอุปัฏฐากเข้ามาพบ แล้วทรงสอนมนต์บทหนึ่งสำหรับทำน้ำมนต์ ให้พระอานนท์สวดพระคาถาบทนี้และทำน้ำมนต์ไปประพรมทั่วเมืองไพสาลี
พระอานนท์ได้เรียนมนต์จากพระบรมศาสดาแล้ว จึงพร้อมด้วยพระเถระได้ สวดมนต์นั้นทำน้ำมนต์ไปประพรมทั่วทั้งเมืองไพสาลี จากนั้นได้เกิดฝนห่าใหญ่ตกลงทั่วทั้งเมือง โรคห่าก็หายไป
มนต์บทนี้มีชื่อว่ารัตนสูตร ซึ่งพระสงฆ์ได้ถือเป็นปริตรหนึ่งในพิธีกรรมสวดพระปริตรมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
เนื้อหาของรัตนสูตรก็คือการอ้างอิงเอาความสัตย์เกี่ยวกับพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ แล้วขอความสัตย์ดังกล่าวนี้ได้ทำให้ภูต อมนุษย์ และความชั่วร้ายทั้งหลายได้สูญสลายไป
การอ้างความสัตย์เพื่อให้เกิดผลประการใดประการหนึ่งจึงได้ชื่อว่าการทำสัจจาธิษฐานหรือสัตยาธิษฐาน ด้วยกำลังแห่งความสัตย์ ด้วยกำลังแห่งอธิษฐาน และด้วยกำลังบุญกุศล จึงประกอบขึ้นเป็นอธิษฐานฤทธิ์ มีประสิทธิผลดังปรารถนา
ในการสวดพระปริตรในงานมงคลใดๆ พระสงฆ์จะสวดรัตนสูตรก็คือการอ้าง เอาพระคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นรัตนะอันประเสริฐ ไม่มีรัตนะ อื่นใดเสมอเหมือน และขออำนาจแห่งความสัตย์นี้ดลบันดาลให้สรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยสิ้นสลายไป ให้อวมงคลทั้งหลายสิ้นสลายไป ให้ถึงซึ่งมงคลทั้งปวง
คนไทยทั่วไปก็รักที่จะทำอธิษฐานในกิจการมากหลาย จนอธิษฐานกันเกลื่อนไป ในแทบทุกเรื่องราว บางครั้งก็เกิดผลบ้าง บางครั้งก็ไม่เกิดผลบ้าง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ว่าเหตุหรือปัจจัยในการทำอธิษฐานนั้นว่ามีพลัง มีอานุภาพหรือไม่ มากน้อยเพียงใด
ดังนั้น การทำความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับกรรมวิธีในการทำสัตยาธิษฐานจึงอาจเป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ เพราะครั้งหนึ่งของชีวิตก็อาจจำเป็นที่ต้องอธิษฐานบ้างก็ได้ และถ้าถึงคราวจำเป็นเช่นว่านั้นก็พึงทำให้คำอธิษฐานนั้นเป็นผล
เหตุนี้จึงควรที่จะได้รู้กรรมวิธีในการกระทำสัตยาธิษฐาน
ในงานพิธีสมโภชหนังสือ 'วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์แห่งโลกภายใน' ซึ่งพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นประธานจัดพิมพ์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2549 นั้น สมเด็จพระญาณวโรดม วัดเทพศิรินทราวาสได้เป็นประธานสงฆ์แทนสมเด็จพระสังฆราช
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้กระทำสัตยาธิษฐานในท่ามกลางสงฆ์ และปวงเทวดา ที่พระสงฆ์สวดอัญเชิญมาฟังพระธรรม ดังปรากฏความที่นำมาลงพิมพ์ไว้ต่อไปนี้
'ข้าพเจ้าพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 แห่งราชอาณาจักร ไทย สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้นมหาโยธิน พร้อมคณะ มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น
ดังนั้น ในมหามงคลสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปีพุทธศักราช 2549 นี้ ข้าพเจ้าพร้อมคณะทั้งหลายจึงได้จัดพิมพ์หนังสือ 'วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์ แห่งโลกภายใน' เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล
และขออานิงสงส์แห่งการเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาได้ดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
ข้าพเจ้าและคณะทั้งหลายขอตั้งสัตยาธิษฐานเบื้องหน้าพระพุทธปฏิมา พระธรรม และพระสงฆ์ ตลอดจนเทพยดาอารักษ์ ซึ่งพระสงฆ์ได้สวดเชิญชวนมาร่วมฟังพระธรรมอันประเสริฐอยู่ ณ บัดนี้ว่า
‘ สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระปัญญาจักษุขจัดมลทินเสียแล้ว ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าด้วยพระองค์เอง ทรงเป็นศาสดาเอกของเทวดาและมนุษย์ ทั้งหลาย ทรงปลดเปลื้องเวไนยสัตว์จากบ่วงมารให้ถึงซึ่งความเกษม ทรงเสด็จไปดีแล้ว
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ พระธรรมอันสมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็น ดุจธงชัยแห่งพระตถาคตเจ้าพระองค์นั้น แสดงทางแห่งความบริสุทธิ์แก่โลก คุ้มครอง ชนผู้ทรงธรรม นำพาให้พ้นจากยุคเข็ญ เวไนยสัตว์ผู้ประพฤติปฏิบัติพระธรรมนั้น ดีแล้ว ย่อมถึงซึ่งประโยชน์และความสุขแม้ที่สุดย่อมถึงซึ่งความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย พระธรรมและอานิสงส์แห่งพระธรรมนั้นเป็นความจริงอยู่ในทุกกาล ไม่ว่าในกาลไหนๆ
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ พระสงฆ์สาวกแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น สดับแล้ว ประพฤติปฏิบัติ แล้ว ในพระธรรมที่พระตถาคตเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็นเสนาประกาศพระสัตย์ธรรม ดำเนินตามพระศาสดาผู้เสด็จดีแล้ว เป็นผู้สงบ ปราศจากอุปกิเลส อันลามกของโลก ทำให้เวไนยสัตว์ได้รู้และได้รับผลแห่งพระธรรมอันประเสริฐ เป็นเนื้อนาบุญของโลก
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ ปวงเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายที่สงฆ์ได้สวดเชิญชวนมาชุมนุม ณ ที่นี้ เพื่อ ฟังพระธรรมอันประเสริฐของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นย่อมอุดมด้วยบุญ ด้วย บารมี และด้วยฤทธิ์
ครั้นได้ฟังพระธรรมอันเลิศในโลกซึ่งพระสงฆ์ได้สวดแสดงแล้ว ย่อมมีจิตเมตตาและกรุณาอย่างเปี่ยมล้น ย่อมได้รับอานิสงส์แห่งการสดับพระธรรมอันประเสริฐนั้น ย่อมเป็นประโยชน์และความสุขแก่ปวงเทพยดาอารักษ์ทั้งหลาย
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ สมเด็จพระบุรพมหากษัตริย์แห่งสยามรัฐสีมาอาณาจักรนี้ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของมหาชน ทรงตั้งอยู่ในธรรม ทรงเคารพธรรม ทรงประกาศธรรม ทรงประพฤติธรรม เป็นอาณาประโยชน์บังเกิดความสงบร่มเย็นแก่อาณาประชาราษฎรและสมณะชีพราหมณ์ทั้งปวง
ขอความสัตย์นี้จงดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย-เดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อมด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
‘ พระตถาคตเจ้าทรงประกาศแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายว่าธรรมทั้งหลาย ย่อมมีเหตุเป็นแดนเกิด เหตุทั้งหลายย่อมมีผลเป็นเบื้องปลาย บุญทั้งหลายย่อมมี อานิสงส์เป็นเที่ยงแท้ กรรมทั้งหลายย่อมยังเหล่าสัตว์ให้เป็นไปตามกรรม การเผย แผ่และสืบทอดพระศาสนาเพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากย่อมมีอานิสงส์ แห่งความเจริญ ความยั่งยืน ความสมบูรณ์ และความยาวนานเป็นเที่ยงแท้
ขอความสัตย์นี้และขออานิสงส์แห่งการพิมพ์หนังสือ 'วิมุตตะมิติ มหัศจรรย์ แห่งโลกภายใน' เพื่อเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน มั่นคง เป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มากตลอดพุทธันดรนี้จงดลบันดาลให้พระบาท- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุสมบูรณ์พร้อม ด้วยพระพลานามัย พระสติปัญญาปฏิภาณตลอดกัปหรือกว่ากัป
ขอสัตยาธิษฐานอันข้าพเจ้าและคณะทั้งหลายได้ปรารภโดยชอบ ได้ตั้งไว้โดย ชอบ ด้วยความสงบ ด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความตั้งมั่น และด้วยจิตที่มีความจงรัก ภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จงสำเร็จเป็นอิทธิฤทธิ์ เป็นบุญฤทธิ์ เป็นอธิษฐานฤทธิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ดุจดั่งห้วงมหรรณพอันเปี่ยมด้วยน้ำและดุจดังพระจันทร์เต็มดวงในคืนวันเพ็ญนั้น
ขอพระสงฆ์ ขอเทพยดาอารักษ์ที่สงฆ์ได้สวดเชิญชวนมาชุมนุม ณ มหา-สมาคมนี้จงอนุโมทนาเพื่อสำเร็จประโยชน์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงพร้อมกันเทอญ