พระประมุขและราชวงศ์ทั่วโลกเข้าเฝ้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมชมการแสดงกระบวนเรือพระราชพิธีวันนี้ ด้านพลุฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปีสุดอลังการ คนแห่ดูกันล้นหลาม ขณะที่ประชาชนคนไทยมีความสุขสูงสุดในรอบปีเนื่องจากมีพลังความจงรักภักดี “เรารักในหลวง” ส่วนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติวันสุดท้ายที่เมืองทองธานีแน่นขนัด รัฐบาลเตรียมตั้งถาวรที่ดอนเมือง
วานนี้(11 มิ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นผู้แทนพระองค์ ทรงรับพระประมุขและพระราชวงศ์จากประเทศต่างๆ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย เพื่อทรงร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
**รับเสด็จเจ้าสีหมุนี-พระราชาธิบดีสวาติ
เมื่อเวลา 12.15 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศดอนเมือง
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้านโรดม สีหนุ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ นับเป็นการเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในฐานะประมุขของราชอาณาจักรกัมพูชา
ต่อมาเวลา 12.48 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงรับเสด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ และเจ้าหญิงลาดูเบ พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่3
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในจำนวน 67 พระองค์ ในสมเด็จพระราชาธิบดีซบบูซา ที่ 2 และเป็นพระราชโอรสองค์เดียวในสมเด็จพระราชชนนีเนตอมบี โดยเป็นพระประมุขตามระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ปัจจุบันทรงมีพระชนมพรรษา 38 พรรษา
**รับเสด็จพระจักรพรรดิ-จักรพรรดินีญี่ปุ่น
ต่อเวลา 13.36 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินรับเสด็จสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น ในการนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ถวายช่อดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ แด่สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่นเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2532จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเจริญพระราชไมตรีกับประเทศต่างๆ โดยเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกพร้อมกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะเมื่อปี 2534และขณะทรงพระราชอิสริยยศมกุฎราชกุมารได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้ง
**รับเสด็จกษัตริย์บรูไน-มาเลเซีย
ต่อมาเวลา 15.42 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงรับสมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ และสมเด็จพระราชินีราชา อิสตรี เป็งงีรัน อานัก ฮัจญะห์ ซาเลฮา แห่งบรูไนดารุสซาลาม
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2510 เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้ง ทั้งเป็นการส่วนพระองค์และอย่างเป็นทางการเพื่อทรงร่วมประชุมผู้นำต่างๆ รวมทั้งทรงเป็นพระราชอาคันตุกะในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึง 2 ครั้ง
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์รับเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดีตวนกู ไซอิด ซิรัจอุดดิน อิบนี อัลมาร์ฮูม ตวนกูไซอิด ปุตรา จามาลุลไลล์ ยังดีเปอร์ตวน อากง แห่งมาเลเซีย
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นราชาแห่งรัฐปะลิส เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2543 และเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2544 ทรงเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 12 แห่งมาเลเซีย
**รับเสด็จเจ้าชายฟิลิป-ผู้แทนกษัตริย์โอมาน
ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินรับเสด็จ เจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม พระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งชาวเบลเยียมกับสมเด็จพระราชินีเปาลา
เจ้าชายฟิลิป ทรงได้รับการสถาปนาเป็นดยุกแห่งบราบันต์ มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม เมื่อปี 2536
และในเวลา 18.31 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ได้รับเสด็จเจ้าชาย ซัยยิด ชีฮาบ บิน ตาริก ตัยมูร อัล-ซาอิด ที่ปรึกษาประจำพระองค์ และเป็นพระญาติสนิทในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโอมาน ในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีกอบูส บิน ซาอิสแห่งโอมาน
**เจ้าชายเฮนริกใส่เสื้อเหลืองล่องเจ้าพระยา
เมื่อเวลา 05.20 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ทรงรับเจ้าชายเฮนริก พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถ มาร์เกรเธอที่ 2 แห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก ที่เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 951 ถึงยังท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อเวลา 06.00 น.
จากนั้นในเวลา 11.15 น. เจ้าชายเฮนริกได้เสด็จลงเรือที่ประทับ ณ ท่าเรือโรงแรมโอเรียนเต็ล เพื่อทอดพระเนตรทัศนียภาพริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยทรงล่องเรือในเส้นทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จากนั้นเสด็จกลับมาที่ท่าเรือโรงแรมโอเรียนเต็ล การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้พระองค์ฉลองพระองค์สีเหลืองตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และมีพระราชปฏิสันถารกับทุกคนอย่างไม่ถือพระองค์ ต่อมาในช่วงเย็นได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยเพื่อรวมงานวันคล้ายวันพระราชสมภพที่ทางสถานทูตจัดให้
**กษัตริย์เลโซโทมาเมืองไทยครั้งแรก
เวลา 10.15 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ยังห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ทรงรับสมเด็จพระราชาธิบดีเลทซี ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีมาเซเนท โมฮาโต ซีโซ แห่งราชอาณาจักรเลโซโท ที่เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบินที่ CX 713
สำหรับสมเด็จพระราชาธิบดีเลทซี ที่ 3 เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อปี 2543 เนื่องจากพระราชบิดาทรงอยู่ระหว่างการลี้ภัยทางการเมือง และทรงสละราชสมบัติเมื่อปี 2538ต่อมาเมื่อปี 2540เสด็จขึ้นครองราชย์อีกครั้ง ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซ เมื่อวันที่ 18 ก.พ..2543มีพระราชธิดา2พระองค์ ส่วนสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยศเป็นสมเด็จพระราชินี เมื่อปี 2543 สำหรับการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 พระองค์ด้วย
**แกรนด์ดยุกออกรี-เจ้าชายโฮกุ้นถึงไทย
ในเวลา 12.40 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงรับแกรนด์ ดยุก อองรี แห่งราชรัฐลักเซมเบิร์ก ณ ห้องรับรองพิเศษท่าอากาศยานกรุงเทพ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ TG923
สำหรับ แกรนด์ ดยุก อองรี เป็นพระโอรสพระองค์แรกในแกรนด์ ดยุก ฌอง และแกรนด์ดัชเชส โจเซฟิน-ชาล็อต เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2543 แกรนด์ ดยุก อองรี เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทย 3 ครั้ง ขณะดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์ก
จากนั้น เวลา 13.20 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเจ้าชายโฮกุ้น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีฮาราลด์ที่ 5 ซึ่งเสด็จฯ พร้อมเจ้าหญิงเมตเต-มาริต มกุฎราชกุมารี พระชายา และเจ้าชายสแวร์เร แมกนัส พระโอรส ที่มีพระพรรษา 6 เดือน
เจ้าชายโฮกุ้น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในสมเด็จพระราชาธิบดีฮาราลด์ที่ 5 และสมเด็จพระราชินี ซอนยา ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2534
**รับเสด็จมกุฎราชกุมารภูฎาน-ลิกเตนสไตน์-ตองกา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเสด็จพระราชวงศ์อีก 3 ประเทศ เริ่มจากมกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ซึ่งเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก โดยมกุฎราชกุมาร จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยเป็นการส่วนพระองค์หลายครั้งและมีโอกาสได้ทอดพระเนตรโครงการหลวงที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทรงสนพระทัยในเรื่องการพัฒนาชนบท เพื่อการพัฒนาประเทศ
เวลา 14.25 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเจ้าชายอาโลอิส มกุฎราชกุมารแห่งราชรัฐลิกเตนสไตน์ ผู้แทนพระองค์เจ้าชายฮันส์-แอดัมที่ 2 แห่งราชรัฐลิกเตนสไตน์ ปัจจุบันทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระราชบิดาตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2547 สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของพระองค์ จากนั้นเจ้าชายอาโลลิสได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมชมความงามของพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ต่อมาในเวลา 15.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเจ้าชายทูโฟทัว มกุฎราชกุมารแห่งตองกา ผู้แทนสมเด็จพระราชาธิบดีเทาฟา เฮา ทูโพ ที่ 4 ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 4 .ค. 2509
**เจ้าชายโมนาโกถึงเชียงใหม่
เมื่อเวลา09.00 น. วานนี้ (11 มิ.ย.) นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมคณะข้าราชการ เจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ ร่วมถวายการต้อนรับเจ้าชาย อัลแบร์ที่ 2 แห่งราชรัฐ โมนาโก เสด็จประทับเครื่องบินพิเศษ FALCON 2000 บินตรงจากตะวันออกกลาง ถึงท่าอากาศยานกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ โดยมีนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ ถวายการฟ้อนพื้นเมืองแบบล้านนา
จากนั้นเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี ที่ประทับ โดยเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 จะทรงประทับแรมที่เชียงใหม่ 1 คืน ก่อน ประทับเครื่องบินพิเศษไปร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กรุงเทพฯ ในเวลา 09.00 น.วันนี้
**เจ้าหญิงโมร็อกโก-แกรนด์ดยุกอองรีเสด็จจตุจักร
เวลา 11.00 น.เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ยังตลาดนัดสวนจตุจักร ทันทีที่เสด็จมาถึง ประชาชนที่เดินจับจ่ายสินค้า พร้อมทั้งพ่อค้า แม่ค้า ในสวนจตุจักร ต่างยืนเฝ้ารับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ จากการสอบถาม พ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจ และดีใจที่พระราชอาคันตุกะสนพระทัยที่จะเสด็จพระราชดำเนิน มาที่สวนจตุจักร เพราะพระองค์จะทำให้คนในต่างประเทศรู้จักตลาดนัดสวนจตุจักรและสินค้าไทยมากขึ้น
นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ผอ.ตลาดนัดสวนจตุจักร ให้สัมภาษณ์ว่า วานนี้(11 มิ.ย.)มีพระราชอาคันตุกะเสด็จพระราชดำเนินมาที่สวนจตุจักร 2 พระองค์ คือ เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก และแกรนด์ ดยุก อองรี แห่งราชรัฐลักเซมเบิร์ก ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินมาในเวลา 16.00 น. ซึ่งทางสวนจตุจักรได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาซื้อสินค้าตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ ที่ทรงโปรดจะทอดพระเนตรวิถีชีวิตตามธรรมชาติของตลาดนัดสวนจตุจักร ตามที่พระองค์ทรงเคยรับทราบมา และตลาดนัดสวนจตุจักรได้เตรียมของถวายเป็นของประดิษฐ์จิ๋วที่ประดิษฐ์อาหาร และวิถีชีวิตของสังคมไทยจำลองขนาดเล็ก ให้กับพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี ทรงสนพระทัยสินค้าประเภทผ้าไหมไทย เครื่องประดับหิน และรองเท้าสาน รองเท้าหนัง โดยทรงซื้อรองเท้า 3 คู่ ซึ่งพนักงานในร้านให้สัมภาษณ์ว่า ทรงมอบธนบัตรดอลลาร์ให้ แต่ทางร้านไม่มีเงินทอนจึงทรงเปลี่ยนเป็นธนบัตรไทย 1,000 บาท แทน หลังจากนั้นได้เสด็จไปยังตลาดนัดผลไม้สด อ.ต.ก.
**สำนักข่าวต่างประเทศประโคมข่าวทั่วโลก
สำหรับความเคลื่อนไหวของสำนักข่าวต่างชาตินั้น ก็ให้ความสนใจกับการเสด็จเยือนประเทศไทยของราชวงศ์ต่างๆ อย่างมาก โดยต่างพากันรายงานว่า ราชวงศ์ทั่วโลก ทยอยเสด็จมาที่กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ตำรวจไทยระดมกำลังถวายการอารักขาอย่างเข้มงวดรับการเสด็จเยือนของราชวงศ์ทั่วโลก โดยมีการปิดถนนในใจกลางกรุงเทพฯ และเส้นทางสัญจรบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับงานพระราชพิธี 5 วัน เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ต่างประเทศ จะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่และสวยงามตระการตาที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้
**เตรียมอารักขาสูงสุด
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติงานถวายความปลอดภัยใน งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีที่หอประชุมกองทัพเรือ และอาคารราชนาวิกสภา ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชีนีต่างประเทศ จะเสด็จฯ ทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธีในวันนี้ว่า ได้จัดกำลังพลจำนวนกว่า 1,700 นาย ดูแลพื้นที่ ทั้งบนบก ในน้ำและทางอากาศ และมีการประสานการทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชุมและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุกรณีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และมีการคุ้มเข้มการผ่านเข้า-ออก พื้นที่อย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ในการถวายความปลอดภัยของกองทัพเรือ ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไซด์ สแกน โซน่า (Side Scan Sonar) มาใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหว และวัตถุต้องสงสัย ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนรอบบริเวณอาคารราชนาวิก และหอประชุมกองทัพเรือ และมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการถวายความปลอดภัย และกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่อเป็นศูนย์ควบคุม กำกับดูแล และประสานการปฏิบัติกับหน่วยต่างๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
**โพลล์ชี้คนไทยมีความสุขสูงสุด
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องรายงานดัชนีความสุขมวลรวมของคนไทยภายในประเทศประจำเดือนพฤษภาคม : กรณีศึกษาประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด คือ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ นครสวรรค์ แพร่ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ชลบุรี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ หนองคาย ขอนแก่น สุรินทร์ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสงขลา จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 4,336 คน ระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อสำรวจภาวะความสุขของคนไทย อันมีปัจจัยประกอบด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และบริบทอื่นๆ ที่คนแต่ละคนดำเนินชีวิตประจำวันเกี่ยวข้อง
ผลการศึกษาพบว่า ความสุขมวลรวมของคนไทยภายในประเทศอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.59 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ซึ่งปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยด้านวัฒนธรรมประเพณีของไทย พลังความจงรักภักดี “เรารักในหลวง” การช่วยเหลือแบ่งบันกันเมื่อเกิดภัยพิบัติ และความรักความสามัคคีของคนในชาติ
**แสตมป์ทอง 2 สองชุดหมดใน 1 ชม.
วันเดียวกัน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) แจ้งว่า แสตมป์ทองคำชุดฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งจัดทำไว้ 2 แสนชุด หรือ 1.2 ล้านดวง ในราคาชุดละ 600 บาท ได้จำหน่ายหมดลงแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยหมดลงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ขณะนี้มีการเปิดซื้อขายแสตมป์ชุดดังกล่าวในกลุ่มนักสะสมแสตมป์ถึงชุดละ 1,500 บาท บริษัทไปรษณีย์ไทย จึงได้ออกแสตมป์ชุดครองราชย์ครองใจไทยทั่วหล้าออกมาจำหน่ายแก่ประชาชนที่พลาดโอกาส ในราคาชุดละ 650 บาท ซึ่งประกอบด้วย แสตมป์ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี 6 ดวง แสตมป์ทองคำ 1 ดวง และแสตมป์ชุด 150 ปี พระพุทธเจ้าหลวง โดยจัดทำเพียง 10,000 ชุด เท่านั้น มีจำหน่ายที่อิมแพค เมืองทองธานี และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
นอกจากนี้ ยังมีแสตมป์ชุดขบวนเรือพระราชพิธีพร้อมซองที่ระลึกราคาชุดละ 18 บาท และแสตมป์รูปเรือพระที่นั่งชุด 2 ดวง ราคา 34 บาท จำหน่ายที่เมืองทองธานี ไปรษณีย์หน้าพระลาน และไปรษณีย์ดุสิตเท่านั้น
**แห่ชมนิทรรศการฯวันสุดท้าย
การเปิดชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งวานนี้(11 มิ.ย.)เปิดให้เข้าชมเป็นวันสุดท้าย เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักในการจัดลำดับให้ประชาชนเช้าชมอย่างทั่วถึง เนื่องจากประชาชนยังคงเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ
จากการสอบถามประชาชนที่มารอคิวเพื่อเข้าชมงานเป็นเวลานานพบว่า ยินดีที่จะรอเพื่อได้มีโอกาสเข้าชมนิทรรศการในครั้งนี้ เพราะถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะมีโอกาสชมนิทรรศการซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศ และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สำหรับการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯซึ่งผ่านไปแล้ว16 วัน มีจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานมากว่า 5,327,000 คน และคาดว่าเมื่อรวมกับวันสุดท้ายจะมีจำนวนประชาชนเข้าชมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน
**เล็งดอนเมืองจัดนิทรรศการถาวร
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการจัดงานนิทรรศการฯ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาสถานที่ที่จะจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติการครองสิริราชสมบัติ 60 ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นการถาวร โดยได้มีการพิจารณาไว้ 4 จุดคือ 1.บริเวณพิพิธภัณฑ์การเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2.บริเวณพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์คลอง 5 จ.ปทุมธานี 3.มูลนิธิศูนย์ศิลปาชีพพิเศษบางไทร จ.อยุธยา และ 4.บริเวณสนามบินดอนเมือง
สำหรับสนามบินดอนเมืองนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจมากที่สุด เนื่องจากในอนาคตบริเวณนี้จะมีระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น และเมื่อสนามบินดอนเมืองย้ายไปอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมดแล้วก็จะทำให้มีพื้นที่กว้างขวางขึ้นอีกมาก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชุมชน มีประชาชนอยู่เป็นจำวนมาก ซึ่งในอนาคตจะมีการทำระบบไอทีเข้าไปเสริมด้วย ทำให้นิทรรศการมีความทันสมัยมากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการที่จะขยายพื้นที่การจัดนิทรรศการดังกล่าวเป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะมีการทำห้องสมุดเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริด้วย ซึ่งครม.จะมีการพิจารณาเพื่อกำหนดสถานที่ให้เร็วที่สุด โดยต้องการจะให้เสร็จให้ทันก่อนวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นพ.สุรพงษ์กล่าวต่อว่า ในเดือนกันยายนนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติการครองสิริราชสมบัติ 60 ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต่างประเทศเช่นที่แอล เอ และที่มหาวิทยาลัยแคมบริดส์ สหรัฐ รวมทั้งจะจัดตามหัวเมืองต่าง ๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ
ส่วนบรรยากาศการจุดพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติที่สนามราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) ประชาชนได้ให้ความสนใจอย่างคึกคักเนื่องจากเป็นการแสดงพลุที่มีขนาดใหญ่ จนทำให้การจราจรบริเวณรอบสนามม้าติดขัดอย่างมากโดยพลุแตกตัวเป็นเลข 60 ทั้งเลขไทยและอารบิกเป็นชุดที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
วานนี้(11 มิ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นผู้แทนพระองค์ ทรงรับพระประมุขและพระราชวงศ์จากประเทศต่างๆ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย เพื่อทรงร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
**รับเสด็จเจ้าสีหมุนี-พระราชาธิบดีสวาติ
เมื่อเวลา 12.15 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศดอนเมือง
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้านโรดม สีหนุ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ นับเป็นการเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในฐานะประมุขของราชอาณาจักรกัมพูชา
ต่อมาเวลา 12.48 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงรับเสด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ และเจ้าหญิงลาดูเบ พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่3
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในจำนวน 67 พระองค์ ในสมเด็จพระราชาธิบดีซบบูซา ที่ 2 และเป็นพระราชโอรสองค์เดียวในสมเด็จพระราชชนนีเนตอมบี โดยเป็นพระประมุขตามระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ปัจจุบันทรงมีพระชนมพรรษา 38 พรรษา
**รับเสด็จพระจักรพรรดิ-จักรพรรดินีญี่ปุ่น
ต่อเวลา 13.36 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินรับเสด็จสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น ในการนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ถวายช่อดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ แด่สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่นเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2532จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเจริญพระราชไมตรีกับประเทศต่างๆ โดยเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกพร้อมกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะเมื่อปี 2534และขณะทรงพระราชอิสริยยศมกุฎราชกุมารได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้ง
**รับเสด็จกษัตริย์บรูไน-มาเลเซีย
ต่อมาเวลา 15.42 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงรับสมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ และสมเด็จพระราชินีราชา อิสตรี เป็งงีรัน อานัก ฮัจญะห์ ซาเลฮา แห่งบรูไนดารุสซาลาม
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2510 เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้ง ทั้งเป็นการส่วนพระองค์และอย่างเป็นทางการเพื่อทรงร่วมประชุมผู้นำต่างๆ รวมทั้งทรงเป็นพระราชอาคันตุกะในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึง 2 ครั้ง
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์รับเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดีตวนกู ไซอิด ซิรัจอุดดิน อิบนี อัลมาร์ฮูม ตวนกูไซอิด ปุตรา จามาลุลไลล์ ยังดีเปอร์ตวน อากง แห่งมาเลเซีย
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นราชาแห่งรัฐปะลิส เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2543 และเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2544 ทรงเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 12 แห่งมาเลเซีย
**รับเสด็จเจ้าชายฟิลิป-ผู้แทนกษัตริย์โอมาน
ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จพระราชดำเนินรับเสด็จ เจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม พระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งชาวเบลเยียมกับสมเด็จพระราชินีเปาลา
เจ้าชายฟิลิป ทรงได้รับการสถาปนาเป็นดยุกแห่งบราบันต์ มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม เมื่อปี 2536
และในเวลา 18.31 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ได้รับเสด็จเจ้าชาย ซัยยิด ชีฮาบ บิน ตาริก ตัยมูร อัล-ซาอิด ที่ปรึกษาประจำพระองค์ และเป็นพระญาติสนิทในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโอมาน ในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีกอบูส บิน ซาอิสแห่งโอมาน
**เจ้าชายเฮนริกใส่เสื้อเหลืองล่องเจ้าพระยา
เมื่อเวลา 05.20 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ทรงรับเจ้าชายเฮนริก พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถ มาร์เกรเธอที่ 2 แห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก ที่เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 951 ถึงยังท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อเวลา 06.00 น.
จากนั้นในเวลา 11.15 น. เจ้าชายเฮนริกได้เสด็จลงเรือที่ประทับ ณ ท่าเรือโรงแรมโอเรียนเต็ล เพื่อทอดพระเนตรทัศนียภาพริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยทรงล่องเรือในเส้นทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จากนั้นเสด็จกลับมาที่ท่าเรือโรงแรมโอเรียนเต็ล การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้พระองค์ฉลองพระองค์สีเหลืองตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และมีพระราชปฏิสันถารกับทุกคนอย่างไม่ถือพระองค์ ต่อมาในช่วงเย็นได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยเพื่อรวมงานวันคล้ายวันพระราชสมภพที่ทางสถานทูตจัดให้
**กษัตริย์เลโซโทมาเมืองไทยครั้งแรก
เวลา 10.15 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ยังห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ทรงรับสมเด็จพระราชาธิบดีเลทซี ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีมาเซเนท โมฮาโต ซีโซ แห่งราชอาณาจักรเลโซโท ที่เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบินที่ CX 713
สำหรับสมเด็จพระราชาธิบดีเลทซี ที่ 3 เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อปี 2543 เนื่องจากพระราชบิดาทรงอยู่ระหว่างการลี้ภัยทางการเมือง และทรงสละราชสมบัติเมื่อปี 2538ต่อมาเมื่อปี 2540เสด็จขึ้นครองราชย์อีกครั้ง ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซ เมื่อวันที่ 18 ก.พ..2543มีพระราชธิดา2พระองค์ ส่วนสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยศเป็นสมเด็จพระราชินี เมื่อปี 2543 สำหรับการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 พระองค์ด้วย
**แกรนด์ดยุกออกรี-เจ้าชายโฮกุ้นถึงไทย
ในเวลา 12.40 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงรับแกรนด์ ดยุก อองรี แห่งราชรัฐลักเซมเบิร์ก ณ ห้องรับรองพิเศษท่าอากาศยานกรุงเทพ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ TG923
สำหรับ แกรนด์ ดยุก อองรี เป็นพระโอรสพระองค์แรกในแกรนด์ ดยุก ฌอง และแกรนด์ดัชเชส โจเซฟิน-ชาล็อต เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2543 แกรนด์ ดยุก อองรี เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทย 3 ครั้ง ขณะดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์ก
จากนั้น เวลา 13.20 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเจ้าชายโฮกุ้น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีฮาราลด์ที่ 5 ซึ่งเสด็จฯ พร้อมเจ้าหญิงเมตเต-มาริต มกุฎราชกุมารี พระชายา และเจ้าชายสแวร์เร แมกนัส พระโอรส ที่มีพระพรรษา 6 เดือน
เจ้าชายโฮกุ้น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในสมเด็จพระราชาธิบดีฮาราลด์ที่ 5 และสมเด็จพระราชินี ซอนยา ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2534
**รับเสด็จมกุฎราชกุมารภูฎาน-ลิกเตนสไตน์-ตองกา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเสด็จพระราชวงศ์อีก 3 ประเทศ เริ่มจากมกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ซึ่งเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก โดยมกุฎราชกุมาร จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยเป็นการส่วนพระองค์หลายครั้งและมีโอกาสได้ทอดพระเนตรโครงการหลวงที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทรงสนพระทัยในเรื่องการพัฒนาชนบท เพื่อการพัฒนาประเทศ
เวลา 14.25 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเจ้าชายอาโลอิส มกุฎราชกุมารแห่งราชรัฐลิกเตนสไตน์ ผู้แทนพระองค์เจ้าชายฮันส์-แอดัมที่ 2 แห่งราชรัฐลิกเตนสไตน์ ปัจจุบันทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระราชบิดาตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2547 สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของพระองค์ จากนั้นเจ้าชายอาโลลิสได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมชมความงามของพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ต่อมาในเวลา 15.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเจ้าชายทูโฟทัว มกุฎราชกุมารแห่งตองกา ผู้แทนสมเด็จพระราชาธิบดีเทาฟา เฮา ทูโพ ที่ 4 ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 4 .ค. 2509
**เจ้าชายโมนาโกถึงเชียงใหม่
เมื่อเวลา09.00 น. วานนี้ (11 มิ.ย.) นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมคณะข้าราชการ เจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ ร่วมถวายการต้อนรับเจ้าชาย อัลแบร์ที่ 2 แห่งราชรัฐ โมนาโก เสด็จประทับเครื่องบินพิเศษ FALCON 2000 บินตรงจากตะวันออกกลาง ถึงท่าอากาศยานกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ โดยมีนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ ถวายการฟ้อนพื้นเมืองแบบล้านนา
จากนั้นเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี ที่ประทับ โดยเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 จะทรงประทับแรมที่เชียงใหม่ 1 คืน ก่อน ประทับเครื่องบินพิเศษไปร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กรุงเทพฯ ในเวลา 09.00 น.วันนี้
**เจ้าหญิงโมร็อกโก-แกรนด์ดยุกอองรีเสด็จจตุจักร
เวลา 11.00 น.เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ยังตลาดนัดสวนจตุจักร ทันทีที่เสด็จมาถึง ประชาชนที่เดินจับจ่ายสินค้า พร้อมทั้งพ่อค้า แม่ค้า ในสวนจตุจักร ต่างยืนเฝ้ารับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ จากการสอบถาม พ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจ และดีใจที่พระราชอาคันตุกะสนพระทัยที่จะเสด็จพระราชดำเนิน มาที่สวนจตุจักร เพราะพระองค์จะทำให้คนในต่างประเทศรู้จักตลาดนัดสวนจตุจักรและสินค้าไทยมากขึ้น
นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ผอ.ตลาดนัดสวนจตุจักร ให้สัมภาษณ์ว่า วานนี้(11 มิ.ย.)มีพระราชอาคันตุกะเสด็จพระราชดำเนินมาที่สวนจตุจักร 2 พระองค์ คือ เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก และแกรนด์ ดยุก อองรี แห่งราชรัฐลักเซมเบิร์ก ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินมาในเวลา 16.00 น. ซึ่งทางสวนจตุจักรได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาซื้อสินค้าตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ ที่ทรงโปรดจะทอดพระเนตรวิถีชีวิตตามธรรมชาติของตลาดนัดสวนจตุจักร ตามที่พระองค์ทรงเคยรับทราบมา และตลาดนัดสวนจตุจักรได้เตรียมของถวายเป็นของประดิษฐ์จิ๋วที่ประดิษฐ์อาหาร และวิถีชีวิตของสังคมไทยจำลองขนาดเล็ก ให้กับพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา เบนนานี ทรงสนพระทัยสินค้าประเภทผ้าไหมไทย เครื่องประดับหิน และรองเท้าสาน รองเท้าหนัง โดยทรงซื้อรองเท้า 3 คู่ ซึ่งพนักงานในร้านให้สัมภาษณ์ว่า ทรงมอบธนบัตรดอลลาร์ให้ แต่ทางร้านไม่มีเงินทอนจึงทรงเปลี่ยนเป็นธนบัตรไทย 1,000 บาท แทน หลังจากนั้นได้เสด็จไปยังตลาดนัดผลไม้สด อ.ต.ก.
**สำนักข่าวต่างประเทศประโคมข่าวทั่วโลก
สำหรับความเคลื่อนไหวของสำนักข่าวต่างชาตินั้น ก็ให้ความสนใจกับการเสด็จเยือนประเทศไทยของราชวงศ์ต่างๆ อย่างมาก โดยต่างพากันรายงานว่า ราชวงศ์ทั่วโลก ทยอยเสด็จมาที่กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ตำรวจไทยระดมกำลังถวายการอารักขาอย่างเข้มงวดรับการเสด็จเยือนของราชวงศ์ทั่วโลก โดยมีการปิดถนนในใจกลางกรุงเทพฯ และเส้นทางสัญจรบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับงานพระราชพิธี 5 วัน เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ต่างประเทศ จะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่และสวยงามตระการตาที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้
**เตรียมอารักขาสูงสุด
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติงานถวายความปลอดภัยใน งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีที่หอประชุมกองทัพเรือ และอาคารราชนาวิกสภา ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชีนีต่างประเทศ จะเสด็จฯ ทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธีในวันนี้ว่า ได้จัดกำลังพลจำนวนกว่า 1,700 นาย ดูแลพื้นที่ ทั้งบนบก ในน้ำและทางอากาศ และมีการประสานการทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชุมและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุกรณีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และมีการคุ้มเข้มการผ่านเข้า-ออก พื้นที่อย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ในการถวายความปลอดภัยของกองทัพเรือ ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไซด์ สแกน โซน่า (Side Scan Sonar) มาใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหว และวัตถุต้องสงสัย ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนรอบบริเวณอาคารราชนาวิก และหอประชุมกองทัพเรือ และมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการถวายความปลอดภัย และกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่อเป็นศูนย์ควบคุม กำกับดูแล และประสานการปฏิบัติกับหน่วยต่างๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
**โพลล์ชี้คนไทยมีความสุขสูงสุด
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องรายงานดัชนีความสุขมวลรวมของคนไทยภายในประเทศประจำเดือนพฤษภาคม : กรณีศึกษาประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด คือ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ นครสวรรค์ แพร่ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ชลบุรี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ หนองคาย ขอนแก่น สุรินทร์ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสงขลา จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 4,336 คน ระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อสำรวจภาวะความสุขของคนไทย อันมีปัจจัยประกอบด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และบริบทอื่นๆ ที่คนแต่ละคนดำเนินชีวิตประจำวันเกี่ยวข้อง
ผลการศึกษาพบว่า ความสุขมวลรวมของคนไทยภายในประเทศอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.59 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ซึ่งปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยด้านวัฒนธรรมประเพณีของไทย พลังความจงรักภักดี “เรารักในหลวง” การช่วยเหลือแบ่งบันกันเมื่อเกิดภัยพิบัติ และความรักความสามัคคีของคนในชาติ
**แสตมป์ทอง 2 สองชุดหมดใน 1 ชม.
วันเดียวกัน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) แจ้งว่า แสตมป์ทองคำชุดฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งจัดทำไว้ 2 แสนชุด หรือ 1.2 ล้านดวง ในราคาชุดละ 600 บาท ได้จำหน่ายหมดลงแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยหมดลงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ขณะนี้มีการเปิดซื้อขายแสตมป์ชุดดังกล่าวในกลุ่มนักสะสมแสตมป์ถึงชุดละ 1,500 บาท บริษัทไปรษณีย์ไทย จึงได้ออกแสตมป์ชุดครองราชย์ครองใจไทยทั่วหล้าออกมาจำหน่ายแก่ประชาชนที่พลาดโอกาส ในราคาชุดละ 650 บาท ซึ่งประกอบด้วย แสตมป์ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี 6 ดวง แสตมป์ทองคำ 1 ดวง และแสตมป์ชุด 150 ปี พระพุทธเจ้าหลวง โดยจัดทำเพียง 10,000 ชุด เท่านั้น มีจำหน่ายที่อิมแพค เมืองทองธานี และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
นอกจากนี้ ยังมีแสตมป์ชุดขบวนเรือพระราชพิธีพร้อมซองที่ระลึกราคาชุดละ 18 บาท และแสตมป์รูปเรือพระที่นั่งชุด 2 ดวง ราคา 34 บาท จำหน่ายที่เมืองทองธานี ไปรษณีย์หน้าพระลาน และไปรษณีย์ดุสิตเท่านั้น
**แห่ชมนิทรรศการฯวันสุดท้าย
การเปิดชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งวานนี้(11 มิ.ย.)เปิดให้เข้าชมเป็นวันสุดท้าย เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักในการจัดลำดับให้ประชาชนเช้าชมอย่างทั่วถึง เนื่องจากประชาชนยังคงเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ
จากการสอบถามประชาชนที่มารอคิวเพื่อเข้าชมงานเป็นเวลานานพบว่า ยินดีที่จะรอเพื่อได้มีโอกาสเข้าชมนิทรรศการในครั้งนี้ เพราะถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะมีโอกาสชมนิทรรศการซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศ และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สำหรับการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯซึ่งผ่านไปแล้ว16 วัน มีจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานมากว่า 5,327,000 คน และคาดว่าเมื่อรวมกับวันสุดท้ายจะมีจำนวนประชาชนเข้าชมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน
**เล็งดอนเมืองจัดนิทรรศการถาวร
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการจัดงานนิทรรศการฯ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาสถานที่ที่จะจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติการครองสิริราชสมบัติ 60 ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นการถาวร โดยได้มีการพิจารณาไว้ 4 จุดคือ 1.บริเวณพิพิธภัณฑ์การเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2.บริเวณพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์คลอง 5 จ.ปทุมธานี 3.มูลนิธิศูนย์ศิลปาชีพพิเศษบางไทร จ.อยุธยา และ 4.บริเวณสนามบินดอนเมือง
สำหรับสนามบินดอนเมืองนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจมากที่สุด เนื่องจากในอนาคตบริเวณนี้จะมีระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น และเมื่อสนามบินดอนเมืองย้ายไปอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมดแล้วก็จะทำให้มีพื้นที่กว้างขวางขึ้นอีกมาก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชุมชน มีประชาชนอยู่เป็นจำวนมาก ซึ่งในอนาคตจะมีการทำระบบไอทีเข้าไปเสริมด้วย ทำให้นิทรรศการมีความทันสมัยมากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการที่จะขยายพื้นที่การจัดนิทรรศการดังกล่าวเป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะมีการทำห้องสมุดเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริด้วย ซึ่งครม.จะมีการพิจารณาเพื่อกำหนดสถานที่ให้เร็วที่สุด โดยต้องการจะให้เสร็จให้ทันก่อนวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นพ.สุรพงษ์กล่าวต่อว่า ในเดือนกันยายนนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติการครองสิริราชสมบัติ 60 ปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต่างประเทศเช่นที่แอล เอ และที่มหาวิทยาลัยแคมบริดส์ สหรัฐ รวมทั้งจะจัดตามหัวเมืองต่าง ๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ
ส่วนบรรยากาศการจุดพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติที่สนามราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) ประชาชนได้ให้ความสนใจอย่างคึกคักเนื่องจากเป็นการแสดงพลุที่มีขนาดใหญ่ จนทำให้การจราจรบริเวณรอบสนามม้าติดขัดอย่างมากโดยพลุแตกตัวเป็นเลข 60 ทั้งเลขไทยและอารบิกเป็นชุดที่ได้รับความสนใจมากที่สุด