ไม่จำเป็นที่ใครจะหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนที่จะมาคัดค้านความเข้าใจปัญหา 3จังหวัดภาคใต้ที่กำลังจะเจ๊งหรือหดหายไปจากอำนาจความร่มเย็นของคนไทยและชาติไทย เพราะคนไทยที่มีโอกาสเข้ามาปกครองประเทศชาติในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เริ่มตั้งแต่พวกเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีความรู้ความสามารถใดๆ ที่พอจะเข้ามาปกครองป้องกันอะไรให้คนไทยและชาติไทยจะอยู่รอดได้ทั้งหมด
เป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่ประชาชนคนไทยทุกมุมเมืองของเราที่ว่าการที่คนชั้นปกครองอุบาทว์มีอำนาจได้ขึ้นมาครองเมืองพวกนี้ได้ขึ้นมาเพราะมีเงินเท่านั้น
เงินนั้นซื้อได้ทุกอย่าง ซื้อคน ซื้อความโง่ ความฉลาดเอามาไว้เป็นผ้าเช็ดเท้าที่จะเช็ดไปทุกเวลาตามที่ต้องการ
การปกครองประเทศทุกวันนี้ก็คือการกระทำที่เรียกกันว่า “เล่นการเมือง”
ไม่ว่าคนหรือตำแหน่งหน้าที่ความดี ความชั่ว ความถูกความผิดนั้น จะต้องซื้อมันด้วยเงิน
และเงินที่นำมาซื้อนั้นจะเป็นเงินที่ได้มาจากการตุ้มตุ๋น การขายชาติที่ขายกันมาแล้วและกำลังจะขายอยู่ต่อไป
ผมพูดถึงภาคใต้หรือ 3 จังหวัดภาคใต้คือ
ยะลา ปัตตานี นราธิวาส
ผมจับรถไฟจากสถานีจันดี ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมุ่งหน้าไปหาดใหญ่และเดินทางต่อไปที่นั่น เพราะสถานที่เหล่านี้เป็นเสมือนบ้านเกิดของผม เอากันว่าหลายสิบปีมาแล้วสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น ผมจะใช้ชีวิตที่ไม่มีอนาคตอยู่ในดินแดนเหล่านี้ทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นนราธิวาส ปัตตานี หรือยะลา
ผมรู้สึกว่าเป็นเมืองของผม หรือเป็นแผ่นดินของผม!
เป็นแผ่นดินที่ให้แต่ความอบอุ่น ความเป็นมิตร ความเป็นกันเอง การเห่า การกัด และการแย่งกันกินชนิดหมาชั้นต่ำอย่างที่มีอยู่ในวงการเมืองของเราในขณะนี้ไม่เคยมี ไม่ว่าจะเป็นคนเก่าคนแก่ ลูกเล็กเด็กแดง แม้กระทั่งผู้หญิงสาวๆ
ชีวิตผมอาจลืมอะไรต่ออะไรได้หลายอย่าง แต่สำหรับผู้คนในนราธิวาสหรือคนใน 3 จังหวัดนี้ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าจะยากจนหรือมีเงินไม่มีใครเป็นอันตรายสำหรับผม นอกจากความปรารถนาดีต่อกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ผู้คนที่ว่านั้น เป็นคนไทยมุสลิมทั้งสิ้น
เท่านั้นเองที่เป็นต้นเหตุของปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ แต่ผมอัศจรรย์ใจที่ต้องนั่งทนฟังข่าวอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ว่าคนใน 3 จังหวัดภาคใต้มีการฆ่ากันทุกวัน เป็นเวลานานเกือบ 5 ปีมาแล้ว และยังจะฆ่ากันต่อไปอีกนานเท่านาน
คนไทยในสมัยก่อน ที่เรายังมีนักการเมืองที่มีความเป็นผู้เป็นคนเหลืออยู่เป็นจำนวนมากที่พอเชื่อถือและเคารพเชื่อฟังกันในหมู่ผู้คนทั่วไปได้มากพอสมควร แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งเพราะทุกคนทุกฝ่ายต้องการมีอำนาจวาสนากันมาก ใครที่มีอำนาจวาสนาก็สำแดงเดชอภินิหารโง่ๆ กันออกมา ผู้คนในสมัยนั้น ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจหรือเอาจริงเอาจังอะไรมากนักกับการมีชีวิตที่มีกฎเกณฑ์ เฉพาะคนที่เกิดมายากจนโดยกำเนิดอย่างผม เพราะเป็นระยะหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประชาชนยังวุ่นวายอยู่กับการปรับตัวเองในเรื่องการทำมาหากินและการปรับชีวิตให้สามารถอยู่ต่อไปได้ตามมีตามเกิด ทุกคนทุกชีวิตในระยะนั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจมากนัก ในเรื่องที่จะพูดอะไรคิดอะไร เอาแต่เพียงอยู่ได้ก็หลับหูหลับตาอยู่กันไปวันๆ
คนรุ่นผมส่วนมากมาจากบ้านนอกก็ถือว่าเป็นขบวนการบุคคลผู้ไม่มีความคิด และไม่มีความหมายอะไรสำหรับใครในโลกนี้และโลกหน้า ก็หาทางมีชีวิตอยู่ไปตามมีตามเกิด เที่ยวระเห็จเตร็ดเตร่ไปตามประสาผู้ชายไทยที่จะต้องหาเลี้ยงตัวเอง เพราะไม่มีเงินมีทองพอที่จะไปเรียนหนังสืออะไรเพื่อทำตัวให้วิเศษไปกว่าคนไม่มีอนาคต เพราะฉะนั้น คนยากคนจนพวกนี้จะพากันเดินเตะฝุ่น ผมเองก็เป็นคนหนึ่งในขบวนการมนุษย์สิ้นคิดสิ้นหวังที่ต้องระเห็จหากินไปในบ้านเมืองต่างๆ ทำมาหากินอะไรได้ที่ไหนก็จะพากันไปที่นั่น เช่นเดียวกับ 3 จังหวัดภาคใต้ ตอนวัยรุ่นผมก็จะพากันมาอยู่ในภาคใต้ แล้วแต่จะมีทางทำมาหากินอย่างไรก็ทำกันเพื่อให้อยู่รอดไปวันหนึ่งๆ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นยอดคนระเหเร่ร่อนในยุคนั้น และแหล่งที่มาปักหลักอยู่ในนราธิวาส ซึ่งมีพรรคพวกเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูปอยู่ที่นั่น บางคนก็เป็นเจ้าของสวนยาง อดอยากหรือหมดทางหากินขึ้นมาก็แวบเข้าป่ายางรับจ้างหากินไปเรื่อย คนไทยสมัยนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีอำนาจมากที่สุด อยากจะฆ่าใครยิงใครก็สามารถทำได้อย่างราบรื่น เฉพาะคนที่ตำรวจและเจ้านายของเขาคิดว่าถ้าหากฆ่าคนพวกนี้ให้หมดไปจากแผ่นดินเสียได้เมืองไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจ คนพวกนั้นคือตำรวจเช่นเดียวกับตำรวจทุกวันนี้
คนไทยสมัยนั้นมีคนสองพวกที่จะต้องอยู่อย่างระมัดระวังมากในการที่จะต้องถูกฆ่า พวกแรกก็คือคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้พวกหนึ่ง และอีกพวกหนึ่งได้แก่คนอีสานซึ่งเป็นลาวหรือถือว่าเป็นคนอีสานแล้วต้องเป็นลาวไม่ใช่ไทย จะมีความผิดมากนอกจากจะเปลี่ยนชื่อเรียกเสียใหม่ว่าไทยอีสาน คนพวกนี้ก็จะรอดตัวได้หรืออยู่ได้อย่างทุกวันนี้
แต่สำหรับชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่ตำรวจและชนชั้นปกครองไทยได้ฆ่ามาแล้วเป็นจำนวนมาก และกำลังฆ่าอยู่ทุกวันนี้ และจะต้องฆ่าต่อไปเพื่อให้ตำรวจ ทหาร และคนไทยภาคประชาชนได้รับการฆ่าตอบแทนเพื่อความบันเทิงอย่างที่เคยทำกันมา
จากนั้นการฆ่าคนมุสลิมก็ยุติไประยะหนึ่งหันมาฆ่าคนไทยด้วยกันเองซึ่งจะเป็นเด็กหนุ่มหญิงสาวที่ยังเป็นนักศึกษาอย่างกรณี 14 ตุลา และมหกรรมการฆ่าอื่นๆ เรื่อยมาเป็นระยะตามยุคตามสมัยที่บรรดาสัตว์ร้ายทางการเมืองที่รู้จักกันในนามของคนมีเครื่องแบบแต่ก็หยุดไปเพราะปรากฏว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรนักถึงแม้ว่าจะแสดงถึงการมีอำนาจที่น่าสยดสยองของผู้มีบุญวาสนาก็ตาม จะไม่มีใครได้อะไรเลยนอกจากเสียงสาปแช่งของผู้คน
“พวกผมที่ปากีสถานก็พูดกันว่าในนรกทุกขุมทุกวันนี้ก็ไม่ปรากฏว่ามีตำรวจทหารที่ฆ่าพวกเราอย่างน่าสยดสยองมาหลายปีแล้วว่าคนพวกนี้เมื่อมันตายไปแล้ว ไปสุมหัวอยู่ไหน พวกผมที่ตายกันแล้วก็ตามหามันอยู่ทุกขุมนรก แต่ไม่รู้ว่ามันไปไหนหมด แต่ที่แน่นอนก็คือมันไม่ได้ขึ้นสวรรค์หลังจากฆ่าพวกเราอย่างหนักมาแล้ว” เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อนเก่าแก่ของผมที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาซึ่งเพิ่งกลับจากการเดินทางไปศึกษาที่โรงเรียนสอนศาสนาในปากีสถาน ได้ยกเอาเรื่องของสัตว์ร้ายในคราบของตำรวจทหารหรือผู้มีอำนาจที่เคยมีประวัติการฆ่าในแต่ละยุคให้ผมฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้เมื่อเร็วๆ นี้ เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรื่องเลวร้ายเหล่านี้มันเกิดขึ้นในเมืองไทย
เฉพาะอย่างยิ่ง การฆ่าอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินในภาคใต้เคยเกิดมาแล้วตั้งแต่สมัยคุณพ่อ คุณเด่น โต๊ะมีนา จนกระทั่งบัดนี้มันก็ยังไม่ยอมหยุดเด็ดขาด
คนหนุ่มคนสาวชาวมุสลิมในชายแดนภาคใต้ที่ผมทราบว่ามีเป็นจำนวน 6 ล้านหรือ 8 ล้านคน ถูกฆ่าครั้งแล้วครั้งเล่าในลักษณะเดียวกัน และความเป็นสารพัดสัตว์ของนักฆ่าพวกเดียวกัน แม้ว่าพ่อของเขาซึ่งเป็นเพื่อนของผมจะยืนยันว่าเขาไปเรียนการศาสนาที่ปากีสถานนั้น เป็นการบอกกล่าวแต่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะพรรคพวกมุสลิมหลายคนที่นั่นซึ่งมีลูกหลานไปเรียนในมหาวิทยาลัยไคโร ที่อียิปต์ เฉพาะอย่างยิ่งในปากีสถานเขาว่า “มันไปเรียนวิชาการฆ่าคน ตอบแทนที่พวกเราทุกคนถูกฆ่าในมหาวิทยาลัยไคโรในอียิปต์นั้น มีการสอนวิทยาการประเภทนี้ซึ่งมีศาสตราจารย์ชาวมุสลิมที่มีชื่อเสียงเปิดสอนกันมานานแล้ว และในปากีสถานเองก็มีการสอนของซีไอเอไปเปิดอบรมที่นั่นในสมัยตอลิบานและตอนนี้มันก็ยังสอนต่อกันอยู่ บินลาดินก็มีค่ายสอนลับๆ อยู่ในประเทศนั้น เราไม่ต้องไปห่วงอะไรเขาหรอก การต่อสู้ที่ยึดหลักการของมาร์กซ์-เลนินนั้น ได้รับการฝึกหัดอบรมกันอย่างละเอียดแม้กระทั่งจะต้องระเบิดตัวเองให้ตายไปพร้อมกัน ก็ยังถือว่าเรื่องเล็ก”
ถ้าเรายังมีรัฐบาลปกครองบ้านเมืองห่วยๆ และไม่มีปัญญารับผิดชอบใดๆ อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ พวกมุสลิมทั่วโลกจะมีโอกาสตื่นขึ้นทั่วโลกและก็คงจะสู้รบและฆ่ากันได้เป็นอีกร้อยๆ ปี
เหตุการณ์ 3 จังหวัดในภาคใต้นั้นบอกให้เรารู้แน่นอนว่า เราจะมีผู้ปกครองที่โง่เขลาหรือรัฐบาลที่เป็นเพียงเศษมนุษย์ที่มีแต่เพียงเงิน ปล้นชิงฉ้อฉลคนอื่นเขามาอย่างไม่มีศีลมีธรรมนั้น ยากอย่างยิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองมีความสุขความเจริญได้
การเมืองระหว่างประเทศ จะดำเนินไปด้วยการต่อสู้และแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างไม่ยอมรับนับถืออะไรใครทั้งสิ้น 3 จังหวัดภาคใต้เป็นดินแดนที่คนหลายกลุ่มหลายพวกต้องการเห็นมันแตกร้าวและระส่ำระสายทำนองนี้อยู่แล้ว เฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ซีไอเอของอเมริกันซึ่งได้หอบหิ้วกันมาตั้งสำนักงานสาขาจารชนอยู่ที่หาดใหญ่หลายปีมาแล้ว ต้องการเห็นความฉิบหายของเมืองไทยเพื่อแสวงหาโอกาสที่จะเข้ามาปกครองประเทศไทยหรือเพื่อใช้ประเทศไทยเป็นดินแดนขยายตัวออกไปเพื่อเตรียมรับมือประเทศในเอเชียอาคเนย์อยู่
และบรรดานักขายชาติไทยที่มีโอกาสเข้ามาปล้นชาติและขายชาติก็จะหาโอกาสที่จะขายหรือต่อรองผลประโยชน์กันต่อไป
อนาคตที่มองเห็นภาพของเมืองไทยมันไม่น่าอภิรมย์อะไรนักหรอก!
เฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยยังมีเดียรัจฉานทางการเมืองฉิบหายบางพวกกำลังจะใช้วิธีการปฏิญญาฟินแลนด์ฮุบอยู่ทุกลมหายใจ
ไม่รู้ว่าจะต้องทำกันยังไงต่อไป ถ้าหากเรายังมีรัฐบาลอย่างที่เรามีอยู่ทุกวันนี้มันช่วยอะไรไม่ได้หรอก ยังไงคนไทยก็จะต้องทำใจเอา!!
เป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่ประชาชนคนไทยทุกมุมเมืองของเราที่ว่าการที่คนชั้นปกครองอุบาทว์มีอำนาจได้ขึ้นมาครองเมืองพวกนี้ได้ขึ้นมาเพราะมีเงินเท่านั้น
เงินนั้นซื้อได้ทุกอย่าง ซื้อคน ซื้อความโง่ ความฉลาดเอามาไว้เป็นผ้าเช็ดเท้าที่จะเช็ดไปทุกเวลาตามที่ต้องการ
การปกครองประเทศทุกวันนี้ก็คือการกระทำที่เรียกกันว่า “เล่นการเมือง”
ไม่ว่าคนหรือตำแหน่งหน้าที่ความดี ความชั่ว ความถูกความผิดนั้น จะต้องซื้อมันด้วยเงิน
และเงินที่นำมาซื้อนั้นจะเป็นเงินที่ได้มาจากการตุ้มตุ๋น การขายชาติที่ขายกันมาแล้วและกำลังจะขายอยู่ต่อไป
ผมพูดถึงภาคใต้หรือ 3 จังหวัดภาคใต้คือ
ยะลา ปัตตานี นราธิวาส
ผมจับรถไฟจากสถานีจันดี ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมุ่งหน้าไปหาดใหญ่และเดินทางต่อไปที่นั่น เพราะสถานที่เหล่านี้เป็นเสมือนบ้านเกิดของผม เอากันว่าหลายสิบปีมาแล้วสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น ผมจะใช้ชีวิตที่ไม่มีอนาคตอยู่ในดินแดนเหล่านี้ทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นนราธิวาส ปัตตานี หรือยะลา
ผมรู้สึกว่าเป็นเมืองของผม หรือเป็นแผ่นดินของผม!
เป็นแผ่นดินที่ให้แต่ความอบอุ่น ความเป็นมิตร ความเป็นกันเอง การเห่า การกัด และการแย่งกันกินชนิดหมาชั้นต่ำอย่างที่มีอยู่ในวงการเมืองของเราในขณะนี้ไม่เคยมี ไม่ว่าจะเป็นคนเก่าคนแก่ ลูกเล็กเด็กแดง แม้กระทั่งผู้หญิงสาวๆ
ชีวิตผมอาจลืมอะไรต่ออะไรได้หลายอย่าง แต่สำหรับผู้คนในนราธิวาสหรือคนใน 3 จังหวัดนี้ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าจะยากจนหรือมีเงินไม่มีใครเป็นอันตรายสำหรับผม นอกจากความปรารถนาดีต่อกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ผู้คนที่ว่านั้น เป็นคนไทยมุสลิมทั้งสิ้น
เท่านั้นเองที่เป็นต้นเหตุของปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ แต่ผมอัศจรรย์ใจที่ต้องนั่งทนฟังข่าวอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ว่าคนใน 3 จังหวัดภาคใต้มีการฆ่ากันทุกวัน เป็นเวลานานเกือบ 5 ปีมาแล้ว และยังจะฆ่ากันต่อไปอีกนานเท่านาน
คนไทยในสมัยก่อน ที่เรายังมีนักการเมืองที่มีความเป็นผู้เป็นคนเหลืออยู่เป็นจำนวนมากที่พอเชื่อถือและเคารพเชื่อฟังกันในหมู่ผู้คนทั่วไปได้มากพอสมควร แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งเพราะทุกคนทุกฝ่ายต้องการมีอำนาจวาสนากันมาก ใครที่มีอำนาจวาสนาก็สำแดงเดชอภินิหารโง่ๆ กันออกมา ผู้คนในสมัยนั้น ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจหรือเอาจริงเอาจังอะไรมากนักกับการมีชีวิตที่มีกฎเกณฑ์ เฉพาะคนที่เกิดมายากจนโดยกำเนิดอย่างผม เพราะเป็นระยะหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประชาชนยังวุ่นวายอยู่กับการปรับตัวเองในเรื่องการทำมาหากินและการปรับชีวิตให้สามารถอยู่ต่อไปได้ตามมีตามเกิด ทุกคนทุกชีวิตในระยะนั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจมากนัก ในเรื่องที่จะพูดอะไรคิดอะไร เอาแต่เพียงอยู่ได้ก็หลับหูหลับตาอยู่กันไปวันๆ
คนรุ่นผมส่วนมากมาจากบ้านนอกก็ถือว่าเป็นขบวนการบุคคลผู้ไม่มีความคิด และไม่มีความหมายอะไรสำหรับใครในโลกนี้และโลกหน้า ก็หาทางมีชีวิตอยู่ไปตามมีตามเกิด เที่ยวระเห็จเตร็ดเตร่ไปตามประสาผู้ชายไทยที่จะต้องหาเลี้ยงตัวเอง เพราะไม่มีเงินมีทองพอที่จะไปเรียนหนังสืออะไรเพื่อทำตัวให้วิเศษไปกว่าคนไม่มีอนาคต เพราะฉะนั้น คนยากคนจนพวกนี้จะพากันเดินเตะฝุ่น ผมเองก็เป็นคนหนึ่งในขบวนการมนุษย์สิ้นคิดสิ้นหวังที่ต้องระเห็จหากินไปในบ้านเมืองต่างๆ ทำมาหากินอะไรได้ที่ไหนก็จะพากันไปที่นั่น เช่นเดียวกับ 3 จังหวัดภาคใต้ ตอนวัยรุ่นผมก็จะพากันมาอยู่ในภาคใต้ แล้วแต่จะมีทางทำมาหากินอย่างไรก็ทำกันเพื่อให้อยู่รอดไปวันหนึ่งๆ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นยอดคนระเหเร่ร่อนในยุคนั้น และแหล่งที่มาปักหลักอยู่ในนราธิวาส ซึ่งมีพรรคพวกเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูปอยู่ที่นั่น บางคนก็เป็นเจ้าของสวนยาง อดอยากหรือหมดทางหากินขึ้นมาก็แวบเข้าป่ายางรับจ้างหากินไปเรื่อย คนไทยสมัยนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีอำนาจมากที่สุด อยากจะฆ่าใครยิงใครก็สามารถทำได้อย่างราบรื่น เฉพาะคนที่ตำรวจและเจ้านายของเขาคิดว่าถ้าหากฆ่าคนพวกนี้ให้หมดไปจากแผ่นดินเสียได้เมืองไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจ คนพวกนั้นคือตำรวจเช่นเดียวกับตำรวจทุกวันนี้
คนไทยสมัยนั้นมีคนสองพวกที่จะต้องอยู่อย่างระมัดระวังมากในการที่จะต้องถูกฆ่า พวกแรกก็คือคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้พวกหนึ่ง และอีกพวกหนึ่งได้แก่คนอีสานซึ่งเป็นลาวหรือถือว่าเป็นคนอีสานแล้วต้องเป็นลาวไม่ใช่ไทย จะมีความผิดมากนอกจากจะเปลี่ยนชื่อเรียกเสียใหม่ว่าไทยอีสาน คนพวกนี้ก็จะรอดตัวได้หรืออยู่ได้อย่างทุกวันนี้
แต่สำหรับชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่ตำรวจและชนชั้นปกครองไทยได้ฆ่ามาแล้วเป็นจำนวนมาก และกำลังฆ่าอยู่ทุกวันนี้ และจะต้องฆ่าต่อไปเพื่อให้ตำรวจ ทหาร และคนไทยภาคประชาชนได้รับการฆ่าตอบแทนเพื่อความบันเทิงอย่างที่เคยทำกันมา
จากนั้นการฆ่าคนมุสลิมก็ยุติไประยะหนึ่งหันมาฆ่าคนไทยด้วยกันเองซึ่งจะเป็นเด็กหนุ่มหญิงสาวที่ยังเป็นนักศึกษาอย่างกรณี 14 ตุลา และมหกรรมการฆ่าอื่นๆ เรื่อยมาเป็นระยะตามยุคตามสมัยที่บรรดาสัตว์ร้ายทางการเมืองที่รู้จักกันในนามของคนมีเครื่องแบบแต่ก็หยุดไปเพราะปรากฏว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรนักถึงแม้ว่าจะแสดงถึงการมีอำนาจที่น่าสยดสยองของผู้มีบุญวาสนาก็ตาม จะไม่มีใครได้อะไรเลยนอกจากเสียงสาปแช่งของผู้คน
“พวกผมที่ปากีสถานก็พูดกันว่าในนรกทุกขุมทุกวันนี้ก็ไม่ปรากฏว่ามีตำรวจทหารที่ฆ่าพวกเราอย่างน่าสยดสยองมาหลายปีแล้วว่าคนพวกนี้เมื่อมันตายไปแล้ว ไปสุมหัวอยู่ไหน พวกผมที่ตายกันแล้วก็ตามหามันอยู่ทุกขุมนรก แต่ไม่รู้ว่ามันไปไหนหมด แต่ที่แน่นอนก็คือมันไม่ได้ขึ้นสวรรค์หลังจากฆ่าพวกเราอย่างหนักมาแล้ว” เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อนเก่าแก่ของผมที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาซึ่งเพิ่งกลับจากการเดินทางไปศึกษาที่โรงเรียนสอนศาสนาในปากีสถาน ได้ยกเอาเรื่องของสัตว์ร้ายในคราบของตำรวจทหารหรือผู้มีอำนาจที่เคยมีประวัติการฆ่าในแต่ละยุคให้ผมฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้เมื่อเร็วๆ นี้ เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรื่องเลวร้ายเหล่านี้มันเกิดขึ้นในเมืองไทย
เฉพาะอย่างยิ่ง การฆ่าอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินในภาคใต้เคยเกิดมาแล้วตั้งแต่สมัยคุณพ่อ คุณเด่น โต๊ะมีนา จนกระทั่งบัดนี้มันก็ยังไม่ยอมหยุดเด็ดขาด
คนหนุ่มคนสาวชาวมุสลิมในชายแดนภาคใต้ที่ผมทราบว่ามีเป็นจำนวน 6 ล้านหรือ 8 ล้านคน ถูกฆ่าครั้งแล้วครั้งเล่าในลักษณะเดียวกัน และความเป็นสารพัดสัตว์ของนักฆ่าพวกเดียวกัน แม้ว่าพ่อของเขาซึ่งเป็นเพื่อนของผมจะยืนยันว่าเขาไปเรียนการศาสนาที่ปากีสถานนั้น เป็นการบอกกล่าวแต่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะพรรคพวกมุสลิมหลายคนที่นั่นซึ่งมีลูกหลานไปเรียนในมหาวิทยาลัยไคโร ที่อียิปต์ เฉพาะอย่างยิ่งในปากีสถานเขาว่า “มันไปเรียนวิชาการฆ่าคน ตอบแทนที่พวกเราทุกคนถูกฆ่าในมหาวิทยาลัยไคโรในอียิปต์นั้น มีการสอนวิทยาการประเภทนี้ซึ่งมีศาสตราจารย์ชาวมุสลิมที่มีชื่อเสียงเปิดสอนกันมานานแล้ว และในปากีสถานเองก็มีการสอนของซีไอเอไปเปิดอบรมที่นั่นในสมัยตอลิบานและตอนนี้มันก็ยังสอนต่อกันอยู่ บินลาดินก็มีค่ายสอนลับๆ อยู่ในประเทศนั้น เราไม่ต้องไปห่วงอะไรเขาหรอก การต่อสู้ที่ยึดหลักการของมาร์กซ์-เลนินนั้น ได้รับการฝึกหัดอบรมกันอย่างละเอียดแม้กระทั่งจะต้องระเบิดตัวเองให้ตายไปพร้อมกัน ก็ยังถือว่าเรื่องเล็ก”
ถ้าเรายังมีรัฐบาลปกครองบ้านเมืองห่วยๆ และไม่มีปัญญารับผิดชอบใดๆ อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ พวกมุสลิมทั่วโลกจะมีโอกาสตื่นขึ้นทั่วโลกและก็คงจะสู้รบและฆ่ากันได้เป็นอีกร้อยๆ ปี
เหตุการณ์ 3 จังหวัดในภาคใต้นั้นบอกให้เรารู้แน่นอนว่า เราจะมีผู้ปกครองที่โง่เขลาหรือรัฐบาลที่เป็นเพียงเศษมนุษย์ที่มีแต่เพียงเงิน ปล้นชิงฉ้อฉลคนอื่นเขามาอย่างไม่มีศีลมีธรรมนั้น ยากอย่างยิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองมีความสุขความเจริญได้
การเมืองระหว่างประเทศ จะดำเนินไปด้วยการต่อสู้และแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างไม่ยอมรับนับถืออะไรใครทั้งสิ้น 3 จังหวัดภาคใต้เป็นดินแดนที่คนหลายกลุ่มหลายพวกต้องการเห็นมันแตกร้าวและระส่ำระสายทำนองนี้อยู่แล้ว เฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ซีไอเอของอเมริกันซึ่งได้หอบหิ้วกันมาตั้งสำนักงานสาขาจารชนอยู่ที่หาดใหญ่หลายปีมาแล้ว ต้องการเห็นความฉิบหายของเมืองไทยเพื่อแสวงหาโอกาสที่จะเข้ามาปกครองประเทศไทยหรือเพื่อใช้ประเทศไทยเป็นดินแดนขยายตัวออกไปเพื่อเตรียมรับมือประเทศในเอเชียอาคเนย์อยู่
และบรรดานักขายชาติไทยที่มีโอกาสเข้ามาปล้นชาติและขายชาติก็จะหาโอกาสที่จะขายหรือต่อรองผลประโยชน์กันต่อไป
อนาคตที่มองเห็นภาพของเมืองไทยมันไม่น่าอภิรมย์อะไรนักหรอก!
เฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยยังมีเดียรัจฉานทางการเมืองฉิบหายบางพวกกำลังจะใช้วิธีการปฏิญญาฟินแลนด์ฮุบอยู่ทุกลมหายใจ
ไม่รู้ว่าจะต้องทำกันยังไงต่อไป ถ้าหากเรายังมีรัฐบาลอย่างที่เรามีอยู่ทุกวันนี้มันช่วยอะไรไม่ได้หรอก ยังไงคนไทยก็จะต้องทำใจเอา!!