“สุรนันทน์” รับแม้จะคัดสรรผู้ที่เหมาะสมจะมาเป็นเลขาธิการ ครม.อย่างไร แต่สุดท้าย “ทักษิณ” จะเป็นผู้เคาะเอง รับเสียดาย “บวรศักดิ์” ไขก๊อก แต่ไม่กล้าบอกทำให้รัฐบาลเสียศูนย์หรือไม่ อ้างอย่าโยนให้เป็นประเด็นการเมือง
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การสรรหาเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เลขาธิการ ครม.) คนใหม่แทนนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ว่าขณะนี้ยังไม่เริ่มกระบวนการ คงต้องรอให้เสร็จสิ้นพระราชพิธีเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อน อย่างไรก็ตามคิดว่าสัปดาห์หน้าจะหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
“เบื้องต้นนั้นคงไม่ต้องรีบเร่งเนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวมีความสำคัญจึงต้องสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในหลายมิติเช่นเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพราะวาระครม.ที่เข้ามาแต่ละเรื่องมีความละเอียดอ่อน หลายเรื่องต้องใช้ความรู้ความสามารถหลายด้าน สิ่งสำคัญต้องเป็นบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือและได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและในวงราชการ ฉะนั้นต้องใช้เวลาสรรหาบุคคลที่เหมาะสมและโปร่งใสจริงๆ เราคิดกันว่าอาจเปิดรับสมัครแต่ก็คงต้องรอผลการหารือในสัปดาห์หน้าเสียก่อน”
ส่วนเลขาธิการ ครม. คนใหม่จะเป็นตัวเต็งที่มีรายชื่อปรากฏในหนังสือพิมพ์ หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า เป็นเพียงชื่อที่ปรากฏเท่านั้น ตนประชุมร่วมกับ นายวิษณุก็ยังไม่มีการระบุชื่อใคร ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีชื่อใครในใจ ขอกำหนดกฎเกณฑ์และเวลาในการสรรหาเสียก่อน
สำหรับการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงเลขาธิการ ครม.นั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า หากมีกระบวนการสรรหามันต้องไปกำหนดรายละเอียดแต่คิดว่าคนๆ นั้นต้องมีความรู้ความสามารถหลายมิติจริงๆ เช่นนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ตนเชื่อว่าในระบบราชการมีบุคคลที่มีคุณสมบัติแบบนี้เยอะและต้องใช้เวลาคัดสรร
ส่วนจะต้องชำนาญด้านกฎหมายเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ความรู้ด้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติแต่พื้นฐานการศึกษาของแต่ละคนนั้น ควรเปิดกว้างไว้จะดีกว่าเพราะการสรุปวาระ ครม.ไม่ได้ใช้กฎหมายอย่างเดียว เพราะความรู้เกี่ยวกับการทำงานในระบบราชการรวมทั้งต้องประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ได้นั้นจะเป็นลักษณะสำคัญ
ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่านายกรัฐมนตรีมีบุคคลในใจแล้วนั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่าขอหารือก่อนแต่ในที่สุดแล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจที่มีน้ำหนักมากที่สุดและคิดว่าจะใช้หลักการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุด เมื่อถามว่า การสรรหาในช่วงรัฐบาลใหม่จะล่าช้าหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่าเป็นประเด็นหนึ่ง ที่ต้องหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากนานเกินไปและสมมติว่าการเลือกตั้งไม่เสร็จสิ้นและภาระของ ครม.มีมากก็อาจจะสรรหาให้เสร็จก่อน หากใช้เวลาสั้นๆ ก็เชื่อว่านายสุรชัยจะทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการลาออกของนายบวรศักดิ์ จะกระทบความเชื่อมั่นทางการเมืองของรัฐบาลหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า คิดว่าวันนี้อย่ามองไปถึงจุดนั้นเลย ทุกคนก็ทำงานและผ่านมาช่วงหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้เสมอ ตนเสียดายที่ต้องเสียคนดีๆ ไป แต่เชื่อมั่นว่าทุกคนมีความตั้งใจดีกับบ้านเมือง ตอนนี้ช่วยกันทำงานจะดีกว่า หากจะหยิบยกทุกเรื่องมาเป็นการเมืองหมด มันจะเสียหายกับบ้านเมืองมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบวรศักดิ์มีความสามารถในการประสานกับพรรคต่างๆ แต่ก็เกิดปัญหา นายสุรนันทน์กล่าวว่า ไม่แ น่ใจว่านายบวรศักดิ์จะมีปัญหา แต่คิดว่า นายบวรศักดิ์คงไม่มีปัญหา ฉะนั้นอย่าเพิ่งตีความการลาออกในครั้งนี้ว่าเป็นประเด็นการเมือง
ส่วนในเอกสารชี้แจงการลาออกของนายบวรศักดิ์ระบุเหตุผลทางการเมือง เป็นสิ่งสำคัญในการลาออก นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทุกคนมีเงื่อนไขชีวิตของตัวเอง เราเคารพสิทธินี้ของนายบวรศักดิ์จะดีกว่า เมื่อถามว่านายลิขิต ธีรเวคิน ผู้ก่อตั้งพรรคพลังแผ่นดินไทยระบุว่าการลาออกของนายบวรศักดิ์เกิดจากการถูกบีบ ทางการเมืองโดยเฉพาะการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่15 ต.ค. นายสุรนันทน์ไม่ยอมตอบคำถามนี้และเดินขึ้นไปยังห้องทำงานทันที
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การสรรหาเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เลขาธิการ ครม.) คนใหม่แทนนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ว่าขณะนี้ยังไม่เริ่มกระบวนการ คงต้องรอให้เสร็จสิ้นพระราชพิธีเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อน อย่างไรก็ตามคิดว่าสัปดาห์หน้าจะหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
“เบื้องต้นนั้นคงไม่ต้องรีบเร่งเนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวมีความสำคัญจึงต้องสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในหลายมิติเช่นเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพราะวาระครม.ที่เข้ามาแต่ละเรื่องมีความละเอียดอ่อน หลายเรื่องต้องใช้ความรู้ความสามารถหลายด้าน สิ่งสำคัญต้องเป็นบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือและได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและในวงราชการ ฉะนั้นต้องใช้เวลาสรรหาบุคคลที่เหมาะสมและโปร่งใสจริงๆ เราคิดกันว่าอาจเปิดรับสมัครแต่ก็คงต้องรอผลการหารือในสัปดาห์หน้าเสียก่อน”
ส่วนเลขาธิการ ครม. คนใหม่จะเป็นตัวเต็งที่มีรายชื่อปรากฏในหนังสือพิมพ์ หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า เป็นเพียงชื่อที่ปรากฏเท่านั้น ตนประชุมร่วมกับ นายวิษณุก็ยังไม่มีการระบุชื่อใคร ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีชื่อใครในใจ ขอกำหนดกฎเกณฑ์และเวลาในการสรรหาเสียก่อน
สำหรับการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงเลขาธิการ ครม.นั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า หากมีกระบวนการสรรหามันต้องไปกำหนดรายละเอียดแต่คิดว่าคนๆ นั้นต้องมีความรู้ความสามารถหลายมิติจริงๆ เช่นนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ตนเชื่อว่าในระบบราชการมีบุคคลที่มีคุณสมบัติแบบนี้เยอะและต้องใช้เวลาคัดสรร
ส่วนจะต้องชำนาญด้านกฎหมายเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ความรู้ด้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติแต่พื้นฐานการศึกษาของแต่ละคนนั้น ควรเปิดกว้างไว้จะดีกว่าเพราะการสรุปวาระ ครม.ไม่ได้ใช้กฎหมายอย่างเดียว เพราะความรู้เกี่ยวกับการทำงานในระบบราชการรวมทั้งต้องประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ได้นั้นจะเป็นลักษณะสำคัญ
ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่านายกรัฐมนตรีมีบุคคลในใจแล้วนั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่าขอหารือก่อนแต่ในที่สุดแล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจที่มีน้ำหนักมากที่สุดและคิดว่าจะใช้หลักการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุด เมื่อถามว่า การสรรหาในช่วงรัฐบาลใหม่จะล่าช้าหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่าเป็นประเด็นหนึ่ง ที่ต้องหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากนานเกินไปและสมมติว่าการเลือกตั้งไม่เสร็จสิ้นและภาระของ ครม.มีมากก็อาจจะสรรหาให้เสร็จก่อน หากใช้เวลาสั้นๆ ก็เชื่อว่านายสุรชัยจะทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการลาออกของนายบวรศักดิ์ จะกระทบความเชื่อมั่นทางการเมืองของรัฐบาลหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า คิดว่าวันนี้อย่ามองไปถึงจุดนั้นเลย ทุกคนก็ทำงานและผ่านมาช่วงหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้เสมอ ตนเสียดายที่ต้องเสียคนดีๆ ไป แต่เชื่อมั่นว่าทุกคนมีความตั้งใจดีกับบ้านเมือง ตอนนี้ช่วยกันทำงานจะดีกว่า หากจะหยิบยกทุกเรื่องมาเป็นการเมืองหมด มันจะเสียหายกับบ้านเมืองมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบวรศักดิ์มีความสามารถในการประสานกับพรรคต่างๆ แต่ก็เกิดปัญหา นายสุรนันทน์กล่าวว่า ไม่แ น่ใจว่านายบวรศักดิ์จะมีปัญหา แต่คิดว่า นายบวรศักดิ์คงไม่มีปัญหา ฉะนั้นอย่าเพิ่งตีความการลาออกในครั้งนี้ว่าเป็นประเด็นการเมือง
ส่วนในเอกสารชี้แจงการลาออกของนายบวรศักดิ์ระบุเหตุผลทางการเมือง เป็นสิ่งสำคัญในการลาออก นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทุกคนมีเงื่อนไขชีวิตของตัวเอง เราเคารพสิทธินี้ของนายบวรศักดิ์จะดีกว่า เมื่อถามว่านายลิขิต ธีรเวคิน ผู้ก่อตั้งพรรคพลังแผ่นดินไทยระบุว่าการลาออกของนายบวรศักดิ์เกิดจากการถูกบีบ ทางการเมืองโดยเฉพาะการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่15 ต.ค. นายสุรนันทน์ไม่ยอมตอบคำถามนี้และเดินขึ้นไปยังห้องทำงานทันที