เจาะใจสุดยอดเซียนพนันบอลทั้งรุ่นเล็กจนถึงรุ่นเก๋า สาวก (ผี)น้อยใหญ่แฉกลวิธีการเล่นแยบยลพัฒนาตามเทคโนโลยี ฟันธงแก้ไม่ตกเพราะเบื้องหลังคนบงการล้วนเป็นผู้ทรงอิทธิพล พร้อมเผยโต๊ะรอบมหาวิทยาลัยเพียบ ด้านบรรยากาศโต๊ะบอลชายแดนคึกคัก ท่าขี้เหล็กนักเล่นแห่เปิดโต๊ะรับแทงมากกว่า 10 แห่ง ส่วน “กาสิโน” น้อยใหญ่ในพม่า ทั้งของนายทุนอินโด-มาเลย์-ว้า และทุนไทยที่อ้าแขนรับแมลงเม่าจากฝั่งไทยแบบไม่อั้น ส่วนด่านอรัญประเทศจับตาเซียนพนันบอลใกล้ชิดลอบเข้าปอยเปต
วานนี้(8 มิ.ย.) ม.ราชภัฏสวนดุสิตได้จัดเสวนาในหัวข้อ “พนันบอล ปัญหาที่ซ้ำซาก แก้ได้ยากจริงหรือ?” โดยนำนักเล่นในหลากหลายอาชีพ รวมทั้งนักศึกษามาสะท้อนปัญหาที่แท้จริง
นายประสิทธิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของการแข่งขันฟุตบอลแทบจะทุกนัด รวมทั้งชื่นชอบการเล่นพนันบอลเป็นชีวิตจิตใจ เปิดเผยว่า เริ่มเล่นการพนันบอลอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2542 สาเหตุที่ทำให้หันมาเล่นเพราะไม่มีงานทำและเห็นว่าการเล่นทายผลฟุตบอล เป็นเกมที่ทำให้ได้เงินมาอย่างง่ายดาย ถ้าเทียบกับเงินลงทุนที่เสียไปถือว่าคุ้มค่า กระทั่งเล่นเป็นอาชีพไปแล้วจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เคยเล่นได้มากที่สุดประมาณ 120,000 บาท และเสียไปมากที่สุดประมาณ 84,000 บาท
สำหรับวิธีการทายผลฟุตบอลในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนซึ่งจะทำให้ตำรวจตรวจค้นได้ยาก ทั้งวิธีการรับทายผลกันทางโทรศัพท์ ซึ่งวิธีการนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีเครดิตหรือรู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี โดยการจ่ายเงินส่วนมากจะใช้วิธีโอนผ่านธนาคารแล้วเก็บใบสลิปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยถูกตำรวจจับได้สักที
“ถ้าจะให้เลิกผมว่าคงยากมันเลิกไม่ได้หรอก แต่อยากฝากไว้แค่ว่าถ้าใครจะเล่นก็ขอให้ประมาณตัวเองไว้บ้าง ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเล่น หรือมีเท่าไหร่ก็เล่นเท่านั้น ส่วนเรื่องจะให้ปราบปรามนั้นผมว่าไม่มีทางจะหมดไปได้หรอก เพราะคนที่จ้องจะเล่นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และโต๊ะบอลก็หาได้ง่ายเหลือเกิน มันกลายเป็นของคู่กันไปแล้ว”
ปราบพนันบอลต้องฟันสื่อที่มีราคาต่อรอง
ส่วนนายชรัส หอยสังข์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อายุ 18 ปี บอกว่า ตนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เล่นพนันฟุตบอลมาตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น โดยในครั้งแรกเริ่มเล่น ด้วยเงินจำนวน 200 บาทซึ่งเป็นเงินเก็บที่ได้จากค่าขนม ที่ผู้ปกครองต้องจ่ายให้เป็นประจำ เป็นการทายผลกันในกลุ่มเพื่อนฝูงธรรมดาในส่วนตัวจะเล่นเฉพาะคู่ที่สนใจหรือเป็นทีมฟุตบอลในดวงใจเท่านั้น ทั้งนี้ เคยต้องเสียค่าทายผลฟุตบอลไปมากที่สุดประมาณ 2,000 บาท แต่เคยได้กลับมามากที่สุด 5,000 บาท
สำหรับช่วงที่ต้องเสียพนันนั้น ก็ต้องโกหกพ่อแม่ว่าจะเอาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนบ้างหรือนำไปซื้อเสื้อผ้าบ้างแต่สุดท้ายก็เอาเงินไปจ่ายให้กับโต๊ะบอล อีกทั้งเพื่อนในกลุ่มยังมีเพื่อนผู้หญิงร่วมเล่นด้วยแต่เล่นคนละทีม ซึ่งเพื่อนผู้หญิงคนดังกล่าวมีกำลังเล่นมากกว่าตน เล่นทีครั้งละเป็นหมื่นๆบาท
“ผมว่าสื่อมีส่วนในการชักจูงให้เยาวชนสนใจกีฬาพวกนี้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อพวกนิตยสารกีฬาต่างๆ เห็นด้านหน้าหนังสือจะมีราคาต่อรองไว้ให้ ส่วนด้านในหรือส่วนหลังของหนังสือจะมีการวิเคราะห์การเตะของแต่ละคู่ ตรงนี้เป็นข้อมูลสำคัญของพวกที่ชอบแทงบอล ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะมีไว้ทำไม ผมว่าถ้าจะปราบปรามให้หมดไปเรื่องของสื่อเหล่านี้ก็ควรคำนึงถึงและควรนำเสนอให้เหมาะสมด้วย”
รับมีผู้หญิงยอมเสียตัวเพื่อแทงบอล
ขณะที่ น.ส.กุหลาบ ดวงจินดา นักศึกษาม.ราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เคยเห็นมาจะเล่นพนันบอลตามแฟน อย่างตนเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มนั้นด้วยทุกครั้งที่เล่นจะฝากแฟนไปจ่ายเงินแต่ไม่รู้ว่าเขาไปจ่ายเงินที่โต๊ะไหน แต่เท่าที่รู้คือส่วนใหญ่จะอยู่ไม่ไกลจากบริเวณมหาวิทยาลัย อีกทั้งโต๊ะบอลเดี๋ยวนี้หาได้ไม่ยากนัก เริ่มตั้งแต่ในรั้วสถาบันการศึกษา จากกลุ่มเพื่อนซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่ใช่การเล่นพนันแค่เงินอย่างเดียว บางกลุ่มเล่นกันสนุกๆก็ใช้เหล้า หรือสิ่งเสพติดอื่นๆ ที่หาได้ง่ายๆ มาวางไว้ทายผลกัน
ส่วนกรณีที่เคยมีข่าวว่านักศึกษาหญิงยอมแลกตัวเองเพื่อแทงผลฟุตบอลนั้น น.ส.กุหลาบ บอกว่า ส่วนมากก็เป็นนักศึกษาที่เคยเสียตัวให้แฟนแล้วมักจะคิดว่า ยอมแลกกับเงินแค่พันหรือสองพันไม่น่าจะเป็นเรื่องเสียหาย รวมทั้งพวกผู้หญิงที่ทำงานตอนกลางคืน ซึ่งผู้หญิงจำพวกนั้นจะมีความคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วถ้าเล่นได้ก็ถือว่ามีเงินใช้แต่ถ้าเล่นแล้วต้องเสียก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
แฉซอยสวนอ้อยแหล่งแทงพนันบอล
ด้านผศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา ม.ราชภัฎสวนดุสิต กล่าวว่าปัญหาของการพนันบอลนั้นแม้จะเป็นปัญหาที่หลายคนคิดว่ามันแก้ไม่หายสักที แต่ก็อยากฝากให้ทุกคนเป็นหูเป็นตา ทั้งนี้ ต้นตอของปัญหาในการจะเข้าไปแก้ไขปราบปรามนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ทางตำรวจเองยังไม่ดำเนินการอย่างจริงจังเท่าที่ควร หรือแม้กระทั่งบางทีมีผู้มีอิทธิพลเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งกลวิธีในการเล่นพนันก็พัฒนาเทคโนโลยีไปตามยุคสมัยซึ่งทำให้ยากในการหาหลักฐานมาเอาความผิดได้
“หากคิดว่าถ้าเป็นลูกหลานเราที่ต้องตกไปเป็นผีพนันแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร แล้วเราจะต้องทำอย่างไร สวนดุสิตเองก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะเร่งหาทางแก้ไขโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสวนาในครั้งนี้ทำให้เรายิ่งทราบว่าแถวสวนอ้อย ซึ่งอยู่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยเราเป็นแหล่งที่มีการเปิดโต๊ะบอลกันมากยิ่งทำให้เราต้องหาวิธีแก้ให้เร็วที่สุด เชื่อว่าปัญหาถ้าแก้กันตรงจุดจะช่วยได้แน่นอนิ ผศ.สุขุม กล่าว
โต๊ะบอลเปิดเกลื่อน“ท่าขี้เหล็ก”
สำหรับบรรยากาศการเล่นพนันบอลในต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนนั้น ปรากฏว่าเป็นไปอย่างคึกคักแม้จะมีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กวดขันและจับกุมแล้วก็ตาม โดยที่"ท่าขี้เหล็ก"ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการเปิดโต๊ะรับแทงบอลรองรับฟุตบอลโลกครั้งนี้กันมากกว่า 10 โต๊ะ โดยส่วนหนึ่งพบว่าเป็นโต๊ะของเจ้ามือชาวไทย ที่เข้าไปเปิดโต๊ะรับแทงในฝั่งพม่า หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางส่วนเป็นของกลุ่มว้า, นักธุรกิจพม่า รวมถึงชาวจีนด้วย นอกจากนี้กลุ่มทุนอินโดนิเชีย- มาเลย์ ที่เข้ามาร่วมทุนกับว้าทำบ่อนคาสิโนที่ท่าขี้เหล็ก ก็เปิดรับแทงพนันบอลเที่ยวนี้แบบไม่อั้นเช่นกัน
พ.ต.ท.สุนทร จันทรางกูร รอง ผกก.สส.สภ.อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเช่นกันว่ามีเซียนพนันฟุตบอลจากส่วนกลางและภาคเหนือ นิยมเดินทางมาแทงพนันฟุตบอลในท่าขี้เหล็ก เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มเข้ามารับแทงพนันฟุตบอลโลกใน จ.ท่าขี้เหล็ก ทำให้เซียนพนันที่หนีจากการถูกกดดันจากส่วนกลางและจังหวัดใหญ่ๆ เช่น กทม.,เชียงใหม่ มุ่งมาแทงพนันกับกลุ่มที่รับแทงบริเวณนี้
พ.ต.ท.สุนทร ยอมรับว่า กำลังกังวลว่าหากถูกทางการพม่าจับกุม อาจจะเป็นปัญหาเนื่องจากก่อนหน้านี้ราว 1 เดือน เคยมี 9 คนไทย ถูกเจ้าหน้าที่พม่า จับกุมที่ท่าขี้เหล็ก หลังจากเข้าไปรับแทงหวยใต้ดินของไทยในฝั่งพม่า แม้จะเสียค่าปรับเล่นการพนันแล้ว ยังถูกดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ขณะนี้ยังไม่ได้กลับมาประเทศไทย จึงไม่อยากเกิดปัญหาขึ้นอีก
สำหรับเซียนพนันที่เดินทางมาเล่นพนันฟุตบอล ทราบว่าขณะนี้ มี เจ้ามือรายใหญ่รับแทง คือ อาตี๋ ชาวพม่า มีร้านอยู่ในตลาดท่าล่อ หรือตลาดท่าขี้เหล็ก, อาคัง ชาวจีนมีร้านโทรศัพท์มือถืออยู่ในตลาดท่าล่อ เช่นกัน และมีบางเจ้า เป็นคนไทย ซึ่งอาจจะมีนายทุนจาก กทม.รับแทงที่บริเวณหลังวัดสายเมือง ซึ่งย่านนี้มีโต๊ะบอลประมาณ 4-5 โต๊ะด้วยกัน และมีอีกหลายแห่งรับแทงพนัน ซึ่งไม่แน่ว่าจะผิดกฎหมายในพม่าหรือไม่
นอกจากนี้ มีรายงานอีกว่า บ่อนกาสินโนในท่าขี้เหล็ก ทุกแห่ง ทั้งในโรงแรมอัลลัว,โรงแรมเรจิน่า,โรงแรมเก้าชั้น และโรงแรมโกลเด้นท์ไทรแองเกิ้ลพาราไดซ์รีสอร์ท ได้เปิดรับแทงพนันฟุตบอลทั้งหมดโดยลูกค้าที่คุ้นเคยสามรถจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคารใน กทม.ได้ หรือหากต้องการมาเล่นพนันที่ท่าขี้เหล็ก สามารถโอนเงินผ่านธนาคารแล้วมารับชิบในกาสิโนได้ โดยไม่ต้องนำเงินสดผ่านแดน ทำให้การผ่านแดนขณะนี้คึกคักขึ้น คาดว่าจะมีเงินสะพัดนับร้อยล้านบาทในระยะนี้
พล.ต.ต.จำนง แก้วศิริ ผบก.ภ.จว.เชียงราย เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทุกท้องที่สอดส่องดูแล และจับตาผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นเจ้ามือรับพนันทายผลบอล ในช่วงฟุตบอลโลก ตามสถานบันเทิงต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ จ.เชียงรายพบว่า มีอยู่หลายราย
โดยส่วนหนึ่งได้ย้ายเข้าไปตั้งโต๊ะอยู่ในบ่อนกาสิโน ฝั่งประเทศพม่า ซึ่งมี 5 แห่ง จึงให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,เจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนไทย-พม่า ทั้งด้าน อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน ตรวจเข้มนักท่องเที่ยวทุกคน ที่เดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีบัญชีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการพนัน รวมถึงประสานกับตำรวจจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของพม่า ขอความร่วมมือในการกวาดล้างดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สุบิน บุญเล็ก รอง ผกก.หน.สภ.ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดเผยภายหลังประชุมชุดเฉพาะกิจปราบปรามการพนันฟุตบอลโลกวานนี้ว่า แม้การตรวจสอบในพื้นที่ ต.คลองลึก ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของเจ้ามือรับทายผลพนันการแข่งขันฟุตบอลโลก แต่ทราบว่าชาวเขมรที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือบางคนมีพฤติกรรมเดินโพยให้กับโต๊ะรับแทงในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งได้ให้ชุดเฉพาะกิจฯ ลงพื้นที่หาข่าวตลอดเวลา
เบื้องต้นทราบว่าในฝั่งปอยเปตมีคนไทยเข้าไปร่วมเป็นเจ้ามือรับพนัน และอยู่ระหว่างเฝ้าจับตาของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังประสานขอความร่วมมือสถาบันการศึกษาในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ช่วยกันกวดขันนักเรียนไม่ให้ตกเป็นทาสการพนัน ส่วนแต่ละชุมชนได้ให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และผู้นำท้องถิ่นสอดส่องดูแลอีกทางหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้การพนันฟุตบอลกำลังคืบคลานเข้ามาถึงชุมชนรากหญ้าแล้ว
วานนี้(8 มิ.ย.) ม.ราชภัฏสวนดุสิตได้จัดเสวนาในหัวข้อ “พนันบอล ปัญหาที่ซ้ำซาก แก้ได้ยากจริงหรือ?” โดยนำนักเล่นในหลากหลายอาชีพ รวมทั้งนักศึกษามาสะท้อนปัญหาที่แท้จริง
นายประสิทธิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของการแข่งขันฟุตบอลแทบจะทุกนัด รวมทั้งชื่นชอบการเล่นพนันบอลเป็นชีวิตจิตใจ เปิดเผยว่า เริ่มเล่นการพนันบอลอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2542 สาเหตุที่ทำให้หันมาเล่นเพราะไม่มีงานทำและเห็นว่าการเล่นทายผลฟุตบอล เป็นเกมที่ทำให้ได้เงินมาอย่างง่ายดาย ถ้าเทียบกับเงินลงทุนที่เสียไปถือว่าคุ้มค่า กระทั่งเล่นเป็นอาชีพไปแล้วจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เคยเล่นได้มากที่สุดประมาณ 120,000 บาท และเสียไปมากที่สุดประมาณ 84,000 บาท
สำหรับวิธีการทายผลฟุตบอลในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนซึ่งจะทำให้ตำรวจตรวจค้นได้ยาก ทั้งวิธีการรับทายผลกันทางโทรศัพท์ ซึ่งวิธีการนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีเครดิตหรือรู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี โดยการจ่ายเงินส่วนมากจะใช้วิธีโอนผ่านธนาคารแล้วเก็บใบสลิปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยถูกตำรวจจับได้สักที
“ถ้าจะให้เลิกผมว่าคงยากมันเลิกไม่ได้หรอก แต่อยากฝากไว้แค่ว่าถ้าใครจะเล่นก็ขอให้ประมาณตัวเองไว้บ้าง ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเล่น หรือมีเท่าไหร่ก็เล่นเท่านั้น ส่วนเรื่องจะให้ปราบปรามนั้นผมว่าไม่มีทางจะหมดไปได้หรอก เพราะคนที่จ้องจะเล่นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และโต๊ะบอลก็หาได้ง่ายเหลือเกิน มันกลายเป็นของคู่กันไปแล้ว”
ปราบพนันบอลต้องฟันสื่อที่มีราคาต่อรอง
ส่วนนายชรัส หอยสังข์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อายุ 18 ปี บอกว่า ตนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เล่นพนันฟุตบอลมาตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น โดยในครั้งแรกเริ่มเล่น ด้วยเงินจำนวน 200 บาทซึ่งเป็นเงินเก็บที่ได้จากค่าขนม ที่ผู้ปกครองต้องจ่ายให้เป็นประจำ เป็นการทายผลกันในกลุ่มเพื่อนฝูงธรรมดาในส่วนตัวจะเล่นเฉพาะคู่ที่สนใจหรือเป็นทีมฟุตบอลในดวงใจเท่านั้น ทั้งนี้ เคยต้องเสียค่าทายผลฟุตบอลไปมากที่สุดประมาณ 2,000 บาท แต่เคยได้กลับมามากที่สุด 5,000 บาท
สำหรับช่วงที่ต้องเสียพนันนั้น ก็ต้องโกหกพ่อแม่ว่าจะเอาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนบ้างหรือนำไปซื้อเสื้อผ้าบ้างแต่สุดท้ายก็เอาเงินไปจ่ายให้กับโต๊ะบอล อีกทั้งเพื่อนในกลุ่มยังมีเพื่อนผู้หญิงร่วมเล่นด้วยแต่เล่นคนละทีม ซึ่งเพื่อนผู้หญิงคนดังกล่าวมีกำลังเล่นมากกว่าตน เล่นทีครั้งละเป็นหมื่นๆบาท
“ผมว่าสื่อมีส่วนในการชักจูงให้เยาวชนสนใจกีฬาพวกนี้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อพวกนิตยสารกีฬาต่างๆ เห็นด้านหน้าหนังสือจะมีราคาต่อรองไว้ให้ ส่วนด้านในหรือส่วนหลังของหนังสือจะมีการวิเคราะห์การเตะของแต่ละคู่ ตรงนี้เป็นข้อมูลสำคัญของพวกที่ชอบแทงบอล ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะมีไว้ทำไม ผมว่าถ้าจะปราบปรามให้หมดไปเรื่องของสื่อเหล่านี้ก็ควรคำนึงถึงและควรนำเสนอให้เหมาะสมด้วย”
รับมีผู้หญิงยอมเสียตัวเพื่อแทงบอล
ขณะที่ น.ส.กุหลาบ ดวงจินดา นักศึกษาม.ราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เคยเห็นมาจะเล่นพนันบอลตามแฟน อย่างตนเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มนั้นด้วยทุกครั้งที่เล่นจะฝากแฟนไปจ่ายเงินแต่ไม่รู้ว่าเขาไปจ่ายเงินที่โต๊ะไหน แต่เท่าที่รู้คือส่วนใหญ่จะอยู่ไม่ไกลจากบริเวณมหาวิทยาลัย อีกทั้งโต๊ะบอลเดี๋ยวนี้หาได้ไม่ยากนัก เริ่มตั้งแต่ในรั้วสถาบันการศึกษา จากกลุ่มเพื่อนซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่ใช่การเล่นพนันแค่เงินอย่างเดียว บางกลุ่มเล่นกันสนุกๆก็ใช้เหล้า หรือสิ่งเสพติดอื่นๆ ที่หาได้ง่ายๆ มาวางไว้ทายผลกัน
ส่วนกรณีที่เคยมีข่าวว่านักศึกษาหญิงยอมแลกตัวเองเพื่อแทงผลฟุตบอลนั้น น.ส.กุหลาบ บอกว่า ส่วนมากก็เป็นนักศึกษาที่เคยเสียตัวให้แฟนแล้วมักจะคิดว่า ยอมแลกกับเงินแค่พันหรือสองพันไม่น่าจะเป็นเรื่องเสียหาย รวมทั้งพวกผู้หญิงที่ทำงานตอนกลางคืน ซึ่งผู้หญิงจำพวกนั้นจะมีความคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วถ้าเล่นได้ก็ถือว่ามีเงินใช้แต่ถ้าเล่นแล้วต้องเสียก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
แฉซอยสวนอ้อยแหล่งแทงพนันบอล
ด้านผศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา ม.ราชภัฎสวนดุสิต กล่าวว่าปัญหาของการพนันบอลนั้นแม้จะเป็นปัญหาที่หลายคนคิดว่ามันแก้ไม่หายสักที แต่ก็อยากฝากให้ทุกคนเป็นหูเป็นตา ทั้งนี้ ต้นตอของปัญหาในการจะเข้าไปแก้ไขปราบปรามนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ทางตำรวจเองยังไม่ดำเนินการอย่างจริงจังเท่าที่ควร หรือแม้กระทั่งบางทีมีผู้มีอิทธิพลเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งกลวิธีในการเล่นพนันก็พัฒนาเทคโนโลยีไปตามยุคสมัยซึ่งทำให้ยากในการหาหลักฐานมาเอาความผิดได้
“หากคิดว่าถ้าเป็นลูกหลานเราที่ต้องตกไปเป็นผีพนันแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร แล้วเราจะต้องทำอย่างไร สวนดุสิตเองก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะเร่งหาทางแก้ไขโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสวนาในครั้งนี้ทำให้เรายิ่งทราบว่าแถวสวนอ้อย ซึ่งอยู่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยเราเป็นแหล่งที่มีการเปิดโต๊ะบอลกันมากยิ่งทำให้เราต้องหาวิธีแก้ให้เร็วที่สุด เชื่อว่าปัญหาถ้าแก้กันตรงจุดจะช่วยได้แน่นอนิ ผศ.สุขุม กล่าว
โต๊ะบอลเปิดเกลื่อน“ท่าขี้เหล็ก”
สำหรับบรรยากาศการเล่นพนันบอลในต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนนั้น ปรากฏว่าเป็นไปอย่างคึกคักแม้จะมีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กวดขันและจับกุมแล้วก็ตาม โดยที่"ท่าขี้เหล็ก"ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการเปิดโต๊ะรับแทงบอลรองรับฟุตบอลโลกครั้งนี้กันมากกว่า 10 โต๊ะ โดยส่วนหนึ่งพบว่าเป็นโต๊ะของเจ้ามือชาวไทย ที่เข้าไปเปิดโต๊ะรับแทงในฝั่งพม่า หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางส่วนเป็นของกลุ่มว้า, นักธุรกิจพม่า รวมถึงชาวจีนด้วย นอกจากนี้กลุ่มทุนอินโดนิเชีย- มาเลย์ ที่เข้ามาร่วมทุนกับว้าทำบ่อนคาสิโนที่ท่าขี้เหล็ก ก็เปิดรับแทงพนันบอลเที่ยวนี้แบบไม่อั้นเช่นกัน
พ.ต.ท.สุนทร จันทรางกูร รอง ผกก.สส.สภ.อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเช่นกันว่ามีเซียนพนันฟุตบอลจากส่วนกลางและภาคเหนือ นิยมเดินทางมาแทงพนันฟุตบอลในท่าขี้เหล็ก เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มเข้ามารับแทงพนันฟุตบอลโลกใน จ.ท่าขี้เหล็ก ทำให้เซียนพนันที่หนีจากการถูกกดดันจากส่วนกลางและจังหวัดใหญ่ๆ เช่น กทม.,เชียงใหม่ มุ่งมาแทงพนันกับกลุ่มที่รับแทงบริเวณนี้
พ.ต.ท.สุนทร ยอมรับว่า กำลังกังวลว่าหากถูกทางการพม่าจับกุม อาจจะเป็นปัญหาเนื่องจากก่อนหน้านี้ราว 1 เดือน เคยมี 9 คนไทย ถูกเจ้าหน้าที่พม่า จับกุมที่ท่าขี้เหล็ก หลังจากเข้าไปรับแทงหวยใต้ดินของไทยในฝั่งพม่า แม้จะเสียค่าปรับเล่นการพนันแล้ว ยังถูกดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ขณะนี้ยังไม่ได้กลับมาประเทศไทย จึงไม่อยากเกิดปัญหาขึ้นอีก
สำหรับเซียนพนันที่เดินทางมาเล่นพนันฟุตบอล ทราบว่าขณะนี้ มี เจ้ามือรายใหญ่รับแทง คือ อาตี๋ ชาวพม่า มีร้านอยู่ในตลาดท่าล่อ หรือตลาดท่าขี้เหล็ก, อาคัง ชาวจีนมีร้านโทรศัพท์มือถืออยู่ในตลาดท่าล่อ เช่นกัน และมีบางเจ้า เป็นคนไทย ซึ่งอาจจะมีนายทุนจาก กทม.รับแทงที่บริเวณหลังวัดสายเมือง ซึ่งย่านนี้มีโต๊ะบอลประมาณ 4-5 โต๊ะด้วยกัน และมีอีกหลายแห่งรับแทงพนัน ซึ่งไม่แน่ว่าจะผิดกฎหมายในพม่าหรือไม่
นอกจากนี้ มีรายงานอีกว่า บ่อนกาสินโนในท่าขี้เหล็ก ทุกแห่ง ทั้งในโรงแรมอัลลัว,โรงแรมเรจิน่า,โรงแรมเก้าชั้น และโรงแรมโกลเด้นท์ไทรแองเกิ้ลพาราไดซ์รีสอร์ท ได้เปิดรับแทงพนันฟุตบอลทั้งหมดโดยลูกค้าที่คุ้นเคยสามรถจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคารใน กทม.ได้ หรือหากต้องการมาเล่นพนันที่ท่าขี้เหล็ก สามารถโอนเงินผ่านธนาคารแล้วมารับชิบในกาสิโนได้ โดยไม่ต้องนำเงินสดผ่านแดน ทำให้การผ่านแดนขณะนี้คึกคักขึ้น คาดว่าจะมีเงินสะพัดนับร้อยล้านบาทในระยะนี้
พล.ต.ต.จำนง แก้วศิริ ผบก.ภ.จว.เชียงราย เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทุกท้องที่สอดส่องดูแล และจับตาผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นเจ้ามือรับพนันทายผลบอล ในช่วงฟุตบอลโลก ตามสถานบันเทิงต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ จ.เชียงรายพบว่า มีอยู่หลายราย
โดยส่วนหนึ่งได้ย้ายเข้าไปตั้งโต๊ะอยู่ในบ่อนกาสิโน ฝั่งประเทศพม่า ซึ่งมี 5 แห่ง จึงให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,เจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนไทย-พม่า ทั้งด้าน อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน ตรวจเข้มนักท่องเที่ยวทุกคน ที่เดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีบัญชีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการพนัน รวมถึงประสานกับตำรวจจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของพม่า ขอความร่วมมือในการกวาดล้างดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สุบิน บุญเล็ก รอง ผกก.หน.สภ.ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดเผยภายหลังประชุมชุดเฉพาะกิจปราบปรามการพนันฟุตบอลโลกวานนี้ว่า แม้การตรวจสอบในพื้นที่ ต.คลองลึก ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของเจ้ามือรับทายผลพนันการแข่งขันฟุตบอลโลก แต่ทราบว่าชาวเขมรที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือบางคนมีพฤติกรรมเดินโพยให้กับโต๊ะรับแทงในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งได้ให้ชุดเฉพาะกิจฯ ลงพื้นที่หาข่าวตลอดเวลา
เบื้องต้นทราบว่าในฝั่งปอยเปตมีคนไทยเข้าไปร่วมเป็นเจ้ามือรับพนัน และอยู่ระหว่างเฝ้าจับตาของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังประสานขอความร่วมมือสถาบันการศึกษาในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ช่วยกันกวดขันนักเรียนไม่ให้ตกเป็นทาสการพนัน ส่วนแต่ละชุมชนได้ให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และผู้นำท้องถิ่นสอดส่องดูแลอีกทางหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้การพนันฟุตบอลกำลังคืบคลานเข้ามาถึงชุมชนรากหญ้าแล้ว