ลูกชาย “จองชัย เที่ยงธรรม” ผุดบริษัท หวานหวาน ซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ร้าน Beard Papa’s จากญี่ปุ่นบุกตลาดครีมพัฟในไทย วางแผนเปิด 3 สาขาในปีนี้ ประเดิมสาขาแรก 7 ล้านบาทที่สยามพารากอน เล็งต่อที่เซ็นทรัลเวิลด์และสยามสแควร์ พร้อมเตรียมเปิดสาขารูปแบบใหม่ คาเฟ่
นางสาววินิตา วิราณุรักษ์ รองประธาน บริษัท หวาน หวาน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นมา โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งเป็นลูกชายของนายจองชัย เที่ยงธรรม นักการเมืองชื่อดังจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อทำธุรกิจซื้อแฟรนไชส์ร้าน Beard Papa’s หรือ ร้านเบียดปาปา เป็นร้านขายขนมปังอบสดครีมพัฟ คล้ายๆกับขนมเอแคร์ จากบริษัท Muginoho จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาดำเนินงานในไทยเพียงรายเดียวในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการซื้อแฟรนไชส์เช่น ค่าลิขสิทธิ์หรือค่าแฟรนไชส์ฟีนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากบริษัทฯสามารถเปิดสาขาได้มากกว่า 3 สาขาขึ้นไป ในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจของบริษัทแม่โดยดูจากภาวะเศรษฐกิจและตลาด ก็จะมอบสิทธิการเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับบริษัทฯในการดูแลตลาดประเทศไทยทั้งหมด
ทั้งนี้ตามแผนงานแล้วบริษัทฯวางเป้าหมายที่จะเปิดสาขาให้ได้ในปีแรกนี้ไม่ต่ำกว่า 3 สาขา โดยสาขาแรกเพิ่งเปิดบริการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง ตั้งอยู่ที่ชั้น จี ศูนย์การค้าสยามพารากอน มีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร มีโต๊ะบริการประมาณ 2 โต๊ะรองรับลูกค้านั่งทาน สาขานี้ลงทุนประมาณ 7 ล้านบาท
ส่วนสาขาต่อไปนั้นวางแผนที่จะเปิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหาพื้นที่ และสาขาที่สามคาดว่าจะเปิดที่สยามสแควร์ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทฯคาดว่าจะเปิดบริการร้านได้ใน 2 รูปแบบคือ ร้านแบบแรกที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนซึ่งไม่ได้เน้นที่นั่งมากนักและขายเฉพาะครีมพัฟอย่างเดียว กับร้านในรูปแบบที่เรียกว่า Beard Papa’s Cafe ซึ่งเป็นร้านที่นอกจากจะจำหน่ายครีมพัฟแล้วยังมี เบเกอรี่ เครื่องดื่มและกาแฟด้วย พร้อมกับมีที่นั่งบริการ ซึ่งคาดว่าสาขาสามที่สยามแสควร์จะเป็นรูปแบบคาเฟ่ โดยคาดว่าจะลงทุนรูปแบบนี้มากกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา และมีพื้นที่มากกว่าร้านรูปแบบแรก
เป้าหมายของการเปิดธุรกิจนี้ โดยเฉพาะในสาขาแรกบริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดขายประมาณ 800 -1,000 ชิ้นต่อวัน โดยมีราคาจำหน่าย 45 บาทต่อชิ้น โดยมีรายการพิเศษเมื่อซื้อ 5 ชิ้น จะคิดราคา 200 บาท และเมื่อซื้อ 10 ชิ้นจะเหลือราคา 350 บาท ในเบื้องต้นนี้จะมีแต่ครีมพัฟจำหน่ายอย่างเดียว แต่บริษัทฯจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาจำหน่ายตลอดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เช่น อีก 2 เดือนจะมี ชีสสติ๊ก เข้ามาจำหน่าย ลักษณะของร้านจะเป็นแบบครัวเปิดเหมือนมาตรฐานของญี่ปุ่น ที่ตกแต่งโทนสีเหลืองอ่อนและสีขาวเป็นหลัก พร้อมการตกแต่งด้วยสีสันที่สะดุดตาเพื่อดึงดูดความสนใจ
สำหรับร้าน Beard Papa’s เปิดดำเนินการที่ญี่ปุ่นมานานประมาณ 9 ปี โดยมีสาขาตั้งกระจายทั่วประเทศกว่า 250 สาขา และเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้เริ่มขายแฟรนไชส์ออกสู่ต่างประเทศ เช่น เกาหลีไต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อเมริกา ฮาวาย ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยมีสาขาแฟรนไชส์เปิดรวมกันในต่างประเทศแล้วมากกว่า 80 แห่ง และล่าสุดคือประเทศไทย
นางสาววินิตา วิราณุรักษ์ รองประธาน บริษัท หวาน หวาน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นมา โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งเป็นลูกชายของนายจองชัย เที่ยงธรรม นักการเมืองชื่อดังจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อทำธุรกิจซื้อแฟรนไชส์ร้าน Beard Papa’s หรือ ร้านเบียดปาปา เป็นร้านขายขนมปังอบสดครีมพัฟ คล้ายๆกับขนมเอแคร์ จากบริษัท Muginoho จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาดำเนินงานในไทยเพียงรายเดียวในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการซื้อแฟรนไชส์เช่น ค่าลิขสิทธิ์หรือค่าแฟรนไชส์ฟีนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากบริษัทฯสามารถเปิดสาขาได้มากกว่า 3 สาขาขึ้นไป ในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจของบริษัทแม่โดยดูจากภาวะเศรษฐกิจและตลาด ก็จะมอบสิทธิการเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับบริษัทฯในการดูแลตลาดประเทศไทยทั้งหมด
ทั้งนี้ตามแผนงานแล้วบริษัทฯวางเป้าหมายที่จะเปิดสาขาให้ได้ในปีแรกนี้ไม่ต่ำกว่า 3 สาขา โดยสาขาแรกเพิ่งเปิดบริการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง ตั้งอยู่ที่ชั้น จี ศูนย์การค้าสยามพารากอน มีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร มีโต๊ะบริการประมาณ 2 โต๊ะรองรับลูกค้านั่งทาน สาขานี้ลงทุนประมาณ 7 ล้านบาท
ส่วนสาขาต่อไปนั้นวางแผนที่จะเปิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหาพื้นที่ และสาขาที่สามคาดว่าจะเปิดที่สยามสแควร์ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทฯคาดว่าจะเปิดบริการร้านได้ใน 2 รูปแบบคือ ร้านแบบแรกที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนซึ่งไม่ได้เน้นที่นั่งมากนักและขายเฉพาะครีมพัฟอย่างเดียว กับร้านในรูปแบบที่เรียกว่า Beard Papa’s Cafe ซึ่งเป็นร้านที่นอกจากจะจำหน่ายครีมพัฟแล้วยังมี เบเกอรี่ เครื่องดื่มและกาแฟด้วย พร้อมกับมีที่นั่งบริการ ซึ่งคาดว่าสาขาสามที่สยามแสควร์จะเป็นรูปแบบคาเฟ่ โดยคาดว่าจะลงทุนรูปแบบนี้มากกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา และมีพื้นที่มากกว่าร้านรูปแบบแรก
เป้าหมายของการเปิดธุรกิจนี้ โดยเฉพาะในสาขาแรกบริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดขายประมาณ 800 -1,000 ชิ้นต่อวัน โดยมีราคาจำหน่าย 45 บาทต่อชิ้น โดยมีรายการพิเศษเมื่อซื้อ 5 ชิ้น จะคิดราคา 200 บาท และเมื่อซื้อ 10 ชิ้นจะเหลือราคา 350 บาท ในเบื้องต้นนี้จะมีแต่ครีมพัฟจำหน่ายอย่างเดียว แต่บริษัทฯจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาจำหน่ายตลอดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เช่น อีก 2 เดือนจะมี ชีสสติ๊ก เข้ามาจำหน่าย ลักษณะของร้านจะเป็นแบบครัวเปิดเหมือนมาตรฐานของญี่ปุ่น ที่ตกแต่งโทนสีเหลืองอ่อนและสีขาวเป็นหลัก พร้อมการตกแต่งด้วยสีสันที่สะดุดตาเพื่อดึงดูดความสนใจ
สำหรับร้าน Beard Papa’s เปิดดำเนินการที่ญี่ปุ่นมานานประมาณ 9 ปี โดยมีสาขาตั้งกระจายทั่วประเทศกว่า 250 สาขา และเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้เริ่มขายแฟรนไชส์ออกสู่ต่างประเทศ เช่น เกาหลีไต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อเมริกา ฮาวาย ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยมีสาขาแฟรนไชส์เปิดรวมกันในต่างประเทศแล้วมากกว่า 80 แห่ง และล่าสุดคือประเทศไทย