ผู้จัดการรายวัน - กรมการค้าภายใน เตรียมตรวจสอบพฤติกรรม “ทศภาค” เข้าข่ายผูกขาดทางการค้า หลังบีบให้ร้านอาหาร ผับ เธค ที่จะเปิดถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกต้องขายสินค้าค่าย “ช้าง” หากผิดจริง มีโทษทั้งจำและปรับ ขณะที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หวั่นมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ “ทศภาค” ตบทรัพย์ร้านอาหารทั่วประเทศ
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท ทศภาค จำกัด เจ้าของ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเพียงรายเดียวของประเทศไทยเข้าข่ายมีพฤติกรรมผูกขาดทางการค้าว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมไปตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัทแล้วว่าเข้าข่ายผูกขาดทางการค้าหรือไม่ ซึ่งหากมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงจะถือว่าเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าพ.ศ.2542 และจะมีทั้งโทษจำและปรับ
“หากบริษัท ทศภาค มีเงื่อนไขว่าหากร้านอาหาร ผับ เธค ที่จะเปิดให้ลูกค้าชมการแข่งขันจะต้องจำหน่าย เบียร์ช้างเพียงอย่างเดียวนั้น กรมก็จะต้องดูว่า เป็นการบีบบังคับร้านอาหาร และเข้าข่ายผูกขาดหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงบริษัทจะต้องมีทางเลือกให้ร้านอาหาร โดยอาจให้เสียค่าลิขสิทธิ์ และสามารถขายเครื่องดื่มยี่ห้ออื่นได้ ซึ่งตอนนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูพฤติกรรม แต่ยังตัดสินไม่ได้ว่าเป็นการผูกขาดทางการค้าหรือไม่” นายศิริพลกล่าว
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า การที่บริษัท ทศภาคระบุถึงความกังวลต่อการถูกละเมิดสิขสิทธ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และนำไปใช้เชิงพาณิชย์ กรมฯเกรงว่า จะมีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ทศภาค ออกไปเรียกทรัพย์จากร้านค้า ร้านอาหาร ผับ เธค ทั่วไป หรือที่เรียกว่า ขบวนการตบทรัพย์ จึงได้แจ้งให้บริษัท ทศภาค จัดส่งรายละเอียดว่าจะมีใครได้รับสิทธ์จากฟุตบอลโลกบ้าง และจะดำเนินการเอาผิดอย่างไร แต่บริษัทยังไม่ได้จัดส่งมาให้ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล และจะได้ทำความเข้าใจต่อประชาชนต่อไป
“นอกจากขอทราบเรื่องขอบเขตลิขสิทธิ์ของทศภาคแล้ว ยังขอรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อไลเซนสินค้าประเภทด้วยว่า มีสินค้าประเภทใดบ้าง และมีการนำมาจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในไทยหรือไม่ เพื่อป้องกันบุคคลอื่นเอาสินค้าไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ซึ่งบริษัทได้แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมผู้บริหาร และจะสามารถจัดส่งข้อมูลได้ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้” นายบรรยงค์กล่าว
ส่วนในกรณีที่ฟีฟ่า ระบุว่า คำว่า World Cup และโลโก้ฟุตบอลโลก เป็นลิขสิทธิ์ของฟีฟ่า จะทำให้ผู้ที่เอาคำว่า World Cup และโลโก้ฟุตบอลโลก มาใช้ โดยเฉพาะบริษัท ไปรษณีย์ไทย ที่ร่วมมือกับหนังสือพิมพ์ต่างๆ ทายผลฟุตบอลโลก ละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่นั้น นายบรรยงค์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว กรมยังไม่ได้รับการติดต่อจากไปรษณีย์ แต่กรณีนี้ถือเป็นประเด็นระหว่างภาคเอกชนกับเอกชน ทกรมไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
ทั้งนี้ บริษัท ทศภาค ได้ระบุว่า หากร้านค้าใดที่ไม่ได้ขายสินค้าเบียร์ช้าง และต้องการจะรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก บริษัทไม่ได้เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ เพียงแต่ขอความร่วมมือให้ร้านค้าเหล่านั้นนำสินค้าของเบียร์ช้างไปขายด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว อาจเข้าข่ายผูกขาดทางการค้า และไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีทางเลือกบริโภคสินค้าชนิดเดียวกันจากค่ายอื่น อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ฝ่ายกฎหมายของบริษัท บุญรอด บลิวเวอรี่ ผู้จำหน่าย เบียร์สิงห์ ระบุว่าเป็นการผูกขาดทางการค้า
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท ทศภาค จำกัด เจ้าของ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเพียงรายเดียวของประเทศไทยเข้าข่ายมีพฤติกรรมผูกขาดทางการค้าว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมไปตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัทแล้วว่าเข้าข่ายผูกขาดทางการค้าหรือไม่ ซึ่งหากมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงจะถือว่าเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าพ.ศ.2542 และจะมีทั้งโทษจำและปรับ
“หากบริษัท ทศภาค มีเงื่อนไขว่าหากร้านอาหาร ผับ เธค ที่จะเปิดให้ลูกค้าชมการแข่งขันจะต้องจำหน่าย เบียร์ช้างเพียงอย่างเดียวนั้น กรมก็จะต้องดูว่า เป็นการบีบบังคับร้านอาหาร และเข้าข่ายผูกขาดหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงบริษัทจะต้องมีทางเลือกให้ร้านอาหาร โดยอาจให้เสียค่าลิขสิทธิ์ และสามารถขายเครื่องดื่มยี่ห้ออื่นได้ ซึ่งตอนนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูพฤติกรรม แต่ยังตัดสินไม่ได้ว่าเป็นการผูกขาดทางการค้าหรือไม่” นายศิริพลกล่าว
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า การที่บริษัท ทศภาคระบุถึงความกังวลต่อการถูกละเมิดสิขสิทธ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และนำไปใช้เชิงพาณิชย์ กรมฯเกรงว่า จะมีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ทศภาค ออกไปเรียกทรัพย์จากร้านค้า ร้านอาหาร ผับ เธค ทั่วไป หรือที่เรียกว่า ขบวนการตบทรัพย์ จึงได้แจ้งให้บริษัท ทศภาค จัดส่งรายละเอียดว่าจะมีใครได้รับสิทธ์จากฟุตบอลโลกบ้าง และจะดำเนินการเอาผิดอย่างไร แต่บริษัทยังไม่ได้จัดส่งมาให้ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล และจะได้ทำความเข้าใจต่อประชาชนต่อไป
“นอกจากขอทราบเรื่องขอบเขตลิขสิทธิ์ของทศภาคแล้ว ยังขอรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อไลเซนสินค้าประเภทด้วยว่า มีสินค้าประเภทใดบ้าง และมีการนำมาจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในไทยหรือไม่ เพื่อป้องกันบุคคลอื่นเอาสินค้าไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ซึ่งบริษัทได้แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมผู้บริหาร และจะสามารถจัดส่งข้อมูลได้ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้” นายบรรยงค์กล่าว
ส่วนในกรณีที่ฟีฟ่า ระบุว่า คำว่า World Cup และโลโก้ฟุตบอลโลก เป็นลิขสิทธิ์ของฟีฟ่า จะทำให้ผู้ที่เอาคำว่า World Cup และโลโก้ฟุตบอลโลก มาใช้ โดยเฉพาะบริษัท ไปรษณีย์ไทย ที่ร่วมมือกับหนังสือพิมพ์ต่างๆ ทายผลฟุตบอลโลก ละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่นั้น นายบรรยงค์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว กรมยังไม่ได้รับการติดต่อจากไปรษณีย์ แต่กรณีนี้ถือเป็นประเด็นระหว่างภาคเอกชนกับเอกชน ทกรมไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
ทั้งนี้ บริษัท ทศภาค ได้ระบุว่า หากร้านค้าใดที่ไม่ได้ขายสินค้าเบียร์ช้าง และต้องการจะรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก บริษัทไม่ได้เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ เพียงแต่ขอความร่วมมือให้ร้านค้าเหล่านั้นนำสินค้าของเบียร์ช้างไปขายด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว อาจเข้าข่ายผูกขาดทางการค้า และไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีทางเลือกบริโภคสินค้าชนิดเดียวกันจากค่ายอื่น อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ฝ่ายกฎหมายของบริษัท บุญรอด บลิวเวอรี่ ผู้จำหน่าย เบียร์สิงห์ ระบุว่าเป็นการผูกขาดทางการค้า