xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิบัติการเหยียบหน้าท้า “ธรรมรักษ์”

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

1 ใน 9 ภาพจากกล้องวงจรปิดที่กระทรวงกลาโหม
สำราญ รอดเพชร
samr_rod@hotmail.com

ถ้าเป็นเรื่องจริงครบถ้วนกระบวนความอย่างที่เป็นข่าว...นั่นคือภาพ 9 ซ็อตที่ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นำมาแฉโพยระบุว่า เป็นปฏิบัติการของผู้สมัครจากพรรคเล็กบุกกระทรวงกลาโหม ไปรับเงินจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา “บิ๊กแอ๊ด” รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง จริงๆ แล้วล่ะก็...

นอกจากจะบอกว่ารู้สึกรันทดหดหู่ใจยิ่งนักแล้ว ยังต้องขอบอกว่า..งานนี้สำหรับพล.อ.ธรรมรักษ์ นายทหาร จปร.10 คนดัง พลาดท่าเสียทีเข้าให้แล้ว...เสียเหลี่ยมลูกกำนันเป็นอย่างยิ่ง..

โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าภาพข่าวอื้อฉาวหนนี้เป็นเรื่องจริง ก็ได้แต่รอดูรอฟังว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ของผม ตลอดจนบรรดาเสธ.ๆ ทั้งหลาย จะชี้แจงแถลงไขออกมาอย่างไร...

ตัวละครในข่าวหรือจากภาพทีวีวงจรปิด ผมรู้จักอย่างน้อย ก็ 3 ท่าน พล.อ.ธรรมรักษ์, พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ เสธ.ไอซ์ และ ทวี สุวรรณพัฒน์

โดยเฉพาะ ทวี สุวรรณพัฒน์ แม้ไม่ได้พบปะกันหลายปี แต่เมื่อ 28 ปีก่อนก็เคยร่วมงานเป็นนักข่าวในเครือ“อาทิตย์ - พลังงานของเหตุและผล” ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะแยกจากกัน และนานๆ จะได้พบกันอย่างบังเอิญสักครั้งหนึ่ง...

กระทั่งเมื่อพล.อ.ธรรมรักษ์ไปนั่งเก้าอี้รมว.กลาโหมตั้งแต่ปลายปี 2545 ผมก็แว่วๆ มาว่า เพื่อนของผมไปช่วยงานท่าน “บิ๊กแอ๊ด”

และกระทั่งกลายเป็นตัวละครสำคัญ ประมาณว่าเป็นมือประสาน มือหอบหิ้วหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็กไปรับเงินจาก“นาย” ตามยุทธการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร...

ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ทราบแล้วก็ได้แต่ปลงๆ แบบว่า...ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไร แต่ยุทธการแบบนี้แม้มันจะเข้าใจได้แต่ก็รับไม่ได้...

สำหรับพล.อ.ธรรมรักษ์...

นอกจากท่านจะเสียเหลี่ยมลูกกำนันกรณีมีคนนำภาพจากวงจรปิดไปให้ฝ่ายค้านแล้ว ในผลสอบเรื่องพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กที่อนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงของ กกต.ชุดที่ ท่านนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธานนั้น พล.อ.ธรรมรักษ์ก็คือตัวละครสำคัญที่มีบทบาท..

“...เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแ ก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เป็นความผิดตามมาตรา 47แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 โดยให้เงินสนับสนุนแก่พรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย เพื่อ....ฯลฯ....”

นั่นเป็นเพียงบางตอนจากรายงาน เป็นเพียงข้อกล่าวหาความผิดเดียวจากทั้งหมด 4 ข้อกล่าวหาความผิด...

# # # # #

ผมรู้จัก พล.อ.ธรรมรักษ์มาตั้งแต่ท่านติดยศพันเอก เป็น ผอ.กองข่าวอยู่ที่กองทัพภาคที่ 4 ยุคนโยบายใต้ร่มเย็นของ พล.อ.หาญ ลีนานนท์ ดังระเบิด (2524-25)

พล.อ.ธรรมรักษ์ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารเก่งงานข่าว แต่ก็ไม่น่าจะเก่งเท่างานมวลชน - การเมือง

จากพันเอก ไต่ระดับไปเป็นพลโทด้วยความไม่ง่ายดายนัก หลายครั้งปิดทองหลังพระช่วยรัฐบาลสลายม็อบ - ประสานความขัดแย้งระหว่างรัฐกับขบวนการผู้ใช้แรงงาน กระทั่งบั้นปลายได้เปล่งบารมีสีเขียวอีกครั้งตอนไปนั่งเก้าอี้ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) นาน 2 ปี แล้วไปเกษียณเป็นพลเอกในตำแหน่งประจำ ที่กองบัญชาการทหารสูงสุด..

ก่อนที่จะมาร่วมวงกับไทยรักไทย ได้เป็นแม่ทัพใหญ่ภาคอีสาน โดยที่บทบาททับซ้อนกับคนชื่อเสนาะ เทียนทอง ในช่วงแรกๆ

หลังเลือกตั้ง 2544 พล.อ.ธรรมรักษ์ ได้รับโบนัสเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทั่ง เดือนต.ค. 2545 ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น รมว.กลาโหม ครั้งแรก และอีกครั้งเมื่อเดือนมี.ค. 2548 จวบจนปัจจุบัน

จะว่าไป..แม้จะไม่โดดเด่นบนเก้าอี้รมว.กลาโหม แต่ความเป็นคน “นักเลง” ตรงไปตรงมา ออกลีลาลูกทุ่งและความเป็นทหาร...พล.อ.ธรรมรักษ์ก็พอจะมีส่วนทำให้กองทัพไม่แตกแยกร้าวฉานกันได้พอประมาณ แต่กระนั้นก็ดูเหมือนว่าไม่อาจต้านวาระการรุกคืบของท่านผู้นำได้...

แล้ววันนี้..ก็อย่างที่เห็นๆ มันเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง ถ้าสำนักงาน รมว.กลาโหมได้กลายเป็นกองบัญชาการส่วนหน้าของพรรคไทยรักไทย เพื่อปฏิบัติการแจกเงินจ้างวานพรรคเล็ก...

กว่า 20 ปีมาแล้วผมเคยวิ่งทำข่าวสายทหาร - ความมั่นคง จำได้ว่าในห้วงปี 2522 -29 ยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็น รมว.กลาโหม แม้จะได้ไปทำข่าว สัมภาษณ์ระดับสูงของกระทรวงบ้าง แต่ไม่เคยเลยที่จะได้เหยียบย่างห้องทำงานรมว.กลาโหม เพิ่งจะปี 2529 - 31 เมื่อรมว.กลาโหม เป็น พล.อ.อ.พะเนียง กานตะรัตน์ ถึงได้มีโอกาสไปนั่งสัมภาษณ์รมว.กลาโหม

และครั้งสุดท้ายก็เมื่อปี 2545 ยุคพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

ภาพจากทีวีวงจรปิดที่กำลังเป็นข่าว ได้ทำลายความศักดิ์สิทธิ์ ความน่าเชื่อถือ น่าคร้ามเกรงของกระทรวงกลาโหมลงไปมาก...อีกด้านหนึ่งน่าจะสะท้อนว่า ในสำนักงานปลัดกระทรวง หรือส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับเจ้ากระทรวง ไม่เป็นเอกภาพหรือเป็นหนึ่งเดียว..

ไม่เช่นนั้นภาพจากวงจรปิด...ซึ่งถือเป็น “ความลับ” ของชาติอย่างหนึ่งในกระทรวงที่ดูแลความมั่นคง คงไม่หลุดมาข้างนอก...

เรื่องทางการเมือง ข้อหาจ้างพรรคเล็กลงสมัครเพื่อช่วยไทยรักไทย พล.อ.ธรรมรักษ์ในฐานะเป็นรองหัวหน้าพรรคก็คงต้องตามไปว่าตามไปแก้ต่างตามกระบวนการกฎหมาย..

แต่เรื่องถูกล้วงตับ ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิแห่งกระทรวงถูกแปดเปื้อนด้วยการเมืองสีเทา พล.อ.ธรรมรักษ์น่าที่จะได้กอบกู้ ทำอะไรมากไปกว่าการตั้งกรรมการสอบสวนหรือล้อมคอก..

พูดก็พูดเถอะ ทั้งหลายทั้งปวง พล.อ.ธรรมรักษ์ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า เหตุการณ์ทั้งดีร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็เนื่องจากการทุ่มกายถวายใจรับใช้พรรคไทยรักไทย ซึ่งก็คือการรับใช้ระบอบทักษิณนั่นแหละ...

อะไรผิด อะไรถูก อะไรเป็นชัยชนะทางการเมือง(ของไทยรักไทย) แต่เป็นภัยต่อความมั่นคง ภัยต่อระบอบประชาธิปไตย และเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ดังพระราชดำรัสเมื่อ 25 เม.ย. 2549 นายทหารยศพลเอกแห่งกองทัพไทย รมว.กลาโหม 2 สมัย น่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี...

หลุดตัวเองจากลูกน้อง บริวาร พรรคพวกเพื่อนฝูง พันธกิจการเมืองทีผูกยึดอยู่กับคำว่าแพ้ - ชนะ... อยู่กับตัวเองดูสัก 2 -3 วัน บางทีอาจจะคิดออกว่าควรจะทำอย่างไรกับตัวเอง และงานในกระทรวง ทั้งนี้เพื่อให้ “กระทรวงกลาโหมคู่ชาติ เอกราชไทยมั่นคง” จริง ๆ

ผมไม่ได้บอกว่าท่านควรลาออกเพื่อแสดงสปิริต แต่กำลังบอกว่า...น่าจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อบ้านเพื่อเมืองจริงๆ ไม่ใช่เพื่อไทยรักไทย...!!

ทำก่อนที่ไทยรักไทยอาจจะตัดสินใจ ไม่ใช้ให้ท่านทำอะไรอีก...ก็เป็นได้ !!??

กำลังโหลดความคิดเห็น