xs
xsm
sm
md
lg

"อีสท์วอเตอร์"ชงบอร์ดปรับขึ้นค่าน้ำปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา-"อีสท์วอเตอร์"ชงบอร์ด ขออนุมัติปรับขึ้นค่าน้ำอีกรอบปลายปีนี้ หลังขอปรับราคาค่าน้ำก่อนหน้านี้ จากต้นทุนเพิ่มบานเบอะ แต่โดนตีกลับมาเหตุ ภาคตะวันออกเผชิญวิกฤตน้ำ

นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 หรือ ไตรมาส 4 บริษัทฯจะปรับค่าน้ำดิบ ที่ขายให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก เนื่องจากทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถปรับราคาได้ เพราะในช่วงนั้นมีปัญหาวิกฤตน้ำจึงต้องชะลอไว้ก่อน

สาเหตุที่ต้องปรับราคาค่าน้ำขึ้น เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ค่ากระแสไฟฟ้ามีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าใช้จ่ายของบริษัทฯเพิ่มขึ้นด้วย แต่บริษัทฯก็ยังไม่ปรับราคาขึ้น เพราะทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่ต้องรับภาระด้านต่างๆ แต่ขณะนี้ภาระของบริษัทฯเพิ่มมากขึ้นจนสุดที่จะทนแบกรับไว้ได้ จึงต้องเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด) เพื่อพิจารณาการปรับราคาขึ้นต่อไป

นายวันชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้บริษัทฯได้เสนอ บอร์ดโดยมีนายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดประทรวงมหาดไทย พิจารณาไปนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ ซึ่งการจะปรับราคาขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบอร์ด หากคณะกรรมการบอร์ดไม่อนุมัติ บริษัทฯก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่อไป เพราะอาจมองเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้ หากมีการปรับราคาเพิ่มอีก

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการปรับราคาขึ้นเลย ก็จะส่งกระทบต่อการใช้น้ำเหมือนกัน เพราะประชาชนจะ ใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของน้ำ

ที่ผ่านมาเคยเสนอขออนุมัติให้ปรับขึ้นเมื่อต้นปี 2548 จำนวน 50 สตางค์ต่อลูกบาศก์เมตร ตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นถึง 25% แต่ไม่มีการปรับขึ้น เพราะเกิดวิกฤตน้ำขาดแคลนเสียก่อน หลังจากนั้นได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการ เพื่อขอปรับราคาค่าน้ำดิบขึ้นอีกประมาณ 2 บาทต่อลูกบาศก์เมตร เพื่อสะท้อนต้นทุนจากการลงทุนในระบบน้ำเพิ่มขึ้น โดยจะทยอยปรับ 2-3 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าของบริษัทฯที่มีอยู่ 54 ราย จะเข้าใจ

นายวันชัย กล่าวต่อไปว่า ในรอบปี 2548 บริษัทอีสท์วอเตอร์ มียอดการจำหน่ายน้ำดิบเป็นปริมาณ 190 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยสัดส่วนการใช้น้ำประเภทอุตสาหกรรมประมาณ 69 % และประเภทอุปโภคบริโภค ประมาณ 31 % ซึ่งผู้ใช้น้ำหลักๆด้านอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด , นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก ,นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง , นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ,โรงไฟฟ้าระยอง , โรงแยกก๊าซ ปตท.

ส่วนผู้ใช้น้ำหลักด้านอุปโภคบริโภค ได้แก่ การประปาชลบุรี , การประปาแหลมฉบัง , การประปาพัทยา ,การประปาบ้านฉาง ซึ่งในอนาคตปริมาณการใช้น้ำประเภทอุตสาหกรรม และด้านอุปโภคบริโภคจะเพิ่มขึ้นอีก 10 %
กำลังโหลดความคิดเห็น