เป๊ปซี่ รุกระเบิดศึกตลาดเลมอนไลม์ต่อเนื่อง ออกเซเว่น-อัพขนาด 15 ออนซ์เสริมทัพ หลังเป็นขนาดที่มีอัตราการเติบโตสูง หวังเป็นหมัดไล่บี้บัลลังก์สไปรท์ สิ้นปีดูดแชร์เพิ่มจากปัจจุบันมีเพียง 10% ในตลาดเลมอนไลม์ 3,000 ล้านบาท
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้รีคอลแบรนด์เซเว่น-อัพ ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยการสร้างการรับรู้แบบอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้การใช้คาแรคเตอร์แบรนด์ไอคอน"ไฟโด-ดิโด" กลับมาทำตลาดอีกครั้ง เพื่อให้มีภาพลักษณ์ในระดับที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวแบรนด์“เซเว่น-อัพ”ได้ชัดเจน เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มีอายุ 20-29 ปี เป็นตัวของตัวเอง และกล้าใช้ชีวิตในแบบที่แตกต่าง
ล่าสุดบริษัทได้เพิ่มเซเว่น-อัพขนาด 15 ออนซ์ลงสู่ตลาด เนื่องจากเป็นขนาดที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ทั้งนี้เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันที่ตลาดน้ำอัดลมกลุ่มเลมอนไลม์ ค่ายคู่แข่งคือโค้กมี”สไปรท์”เป็นผู้นำตลาดในตลาดเลมอนไลม์ครองส่วนแบ่ง 90% ในขณะที่เซเว่น-อัพมีส่วนแบ่งตลาด 10% สำหรับงบการตลาดเซเว่น-อัพใช้ราว 10 ล้านบาท
ตลาดเลมอนไลม์คิดเป็น 10% ของตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่การก้าวสู่ผู้นำตลาดน้ำอัดลมโดยรวมจะต้องรุกในทุกตลาด ซึ่งปัจจุบันมี 2 ตลาดที่เป๊ปซี่ยังไม่ได้เป็นผู้นำ คือ ตลาดเลมอนไลม์ และตลาดน้ำสี ซึ่งที่ผ่านมามิรินด้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาด 24% ส่วนแฟนต้าผู้นำตลาดมีส่วนแบ่ง 70% จากมูลค่าตลาดน้ำสี 6,600 ล้านบาท ส่วนตลาดน้ำดำมูลค่า 22,000 ล้านบาท เป๊ปซี่เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 63.5% ที่เหลือเป็นของ 26.5% เป็นของโค้ก
สำหรับภาพรวมตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 30,000 ล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโต 3% ขณะที่สภาพตลาดน้ำดำสัดส่วน 70%ของตลาดรวมปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5% สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ากลุ่มน้ำดำมีอัตราการเติบโต 8% มากกว่าตลาด มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1.5% จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาเป๊ปซี่มีส่วนแบ่ง63.5%
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้รีคอลแบรนด์เซเว่น-อัพ ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยการสร้างการรับรู้แบบอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้การใช้คาแรคเตอร์แบรนด์ไอคอน"ไฟโด-ดิโด" กลับมาทำตลาดอีกครั้ง เพื่อให้มีภาพลักษณ์ในระดับที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวแบรนด์“เซเว่น-อัพ”ได้ชัดเจน เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มีอายุ 20-29 ปี เป็นตัวของตัวเอง และกล้าใช้ชีวิตในแบบที่แตกต่าง
ล่าสุดบริษัทได้เพิ่มเซเว่น-อัพขนาด 15 ออนซ์ลงสู่ตลาด เนื่องจากเป็นขนาดที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ทั้งนี้เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันที่ตลาดน้ำอัดลมกลุ่มเลมอนไลม์ ค่ายคู่แข่งคือโค้กมี”สไปรท์”เป็นผู้นำตลาดในตลาดเลมอนไลม์ครองส่วนแบ่ง 90% ในขณะที่เซเว่น-อัพมีส่วนแบ่งตลาด 10% สำหรับงบการตลาดเซเว่น-อัพใช้ราว 10 ล้านบาท
ตลาดเลมอนไลม์คิดเป็น 10% ของตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่การก้าวสู่ผู้นำตลาดน้ำอัดลมโดยรวมจะต้องรุกในทุกตลาด ซึ่งปัจจุบันมี 2 ตลาดที่เป๊ปซี่ยังไม่ได้เป็นผู้นำ คือ ตลาดเลมอนไลม์ และตลาดน้ำสี ซึ่งที่ผ่านมามิรินด้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาด 24% ส่วนแฟนต้าผู้นำตลาดมีส่วนแบ่ง 70% จากมูลค่าตลาดน้ำสี 6,600 ล้านบาท ส่วนตลาดน้ำดำมูลค่า 22,000 ล้านบาท เป๊ปซี่เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 63.5% ที่เหลือเป็นของ 26.5% เป็นของโค้ก
สำหรับภาพรวมตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 30,000 ล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโต 3% ขณะที่สภาพตลาดน้ำดำสัดส่วน 70%ของตลาดรวมปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5% สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ากลุ่มน้ำดำมีอัตราการเติบโต 8% มากกว่าตลาด มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1.5% จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาเป๊ปซี่มีส่วนแบ่ง63.5%