xs
xsm
sm
md
lg

ถกพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กวันนี้ "พี่หนา"งงผลสรุปอนุกกต.หลุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทรท.โต้ ปชป.กรณีจ้างพรรคเล็กลงสมัครส.ส. ท้า "เทพเทือก"แฉหลักฐานก่อน 29 พ.ค. เผยชื่อ 2 พยานบุคคลมีเอี่ยวสร้างหลักฐานเท็จมาซัดทอดทรท. "พี่หนา"เรียกประชุมกกต.วันนี้ งงผลสอบหลุดไปถึงสื่อได้อย่างไร ด้าน"สุวโรช"ออกโรงป้อง"สุเทพ"ยันไม่เคยรู้จัก"ไทกร-ฐัติมา" จี้กกต.เอาผิดพรรคใหญ่ตามผลสรุปของคณะอนุกรรมการฯ อดีตอัยการแนะกกต.เอาผิดยุบทิ้ง 2 พรรคที่พัวพันจ้างพรรคเล็ก เหตุเลวทั้งคู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมหารือกับพรรคการเมืองเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสม นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วย ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง นายประชา ประสพดี นายสุรชัย เบ้าจรรยา คณะทำงานด้านการเมืองและกฎหมาย พรรคไทยรักไทย ได้ยื่นหนังสือต่อ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.ขอความเป็นธรรม และขอทราบข้อเท็จจริงการสืบสวนสอบสวนข้อร้องเรียน กรณีอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่มี นายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน สรุปผลการสอบสวนว่าพรรคไทยรักไทยจ้างพรรคการเมืองเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และมีมติเป็นเอกฉันท์สมควรแจ้งข้อกล่าวหา ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย พร้อมกับขอให้ดำเนินการยุบพรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ ในเอกสารที่มีการยื่นถึงกกต.ระบุว่า ข่าวเกี่ยวกับผลสรุปของคณะอนุกรรมการสร้างความเสียหายต่อพรรคเป็นอย่างยิ่ง และขอปฏิเสธว่าไม่มีมูลความจริงตามข้อกล่าวหา ทางพรรคจึงจำเป็นที่จะทราบข้อเท็จจริงจากกกต.คือ 1.รายงานการสืบสวนสอบสวนดังกล่าวที่ปรากฎเป็นข่าวเป็นของกกต.จริงหรือไม่ 2. ถ้าจริง เหตุใดจึงให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ซึ่งถือว่าขัดต่อมาตรา 19 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.กกต.และข้อ 40 ของระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3. รายงานสืบสวนสอบสวนดังกล่าวถือเป็นความลับทางราชการ แต่กลับมีการเผยแพร่ในสื่อมวลชน ทำให้พรรคและบุคคลของพรรคได้รับความเสียหายจากการโฆษณาข้อความในสื่อมวลชนดังกล่าว จึงขอทราบว่าเป็นการกระทำของผู้ใด

นอกจากนี้ ขอให้นายทะเบียนพรรคเมืองดำเนินการยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากปรากฎหลักฐานชัดเจนว่า ระหว่างเดือนมกราคม -มีนาคม หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคบางคน และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมขบวนการพันธมิตรกู้ชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายล้มล้างรัฐบาล และประกาศขอใช้มาตรา 7 ในการขอนายกฯพระราชทาน ตลอดจนคว่ำบาตรไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ปลุกระดมมวลชนโดยใช้คำว่าระบอบทักษิณ รณรงค์ให้ประชาชนไปลงคะแนนโดยไม่ลงคะแนนให้พรรคใด ไม่ให้ผู้สมัครอื่นได้รับคะแนนถึงร้อยละ 20 อีกทั้งสมคบกับ นายไทกร พลสุวรรณ กระทำการฉ้อฉอ หลอกลวง เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานอันเป็นเท็จ โดยว่าจ้างหัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า และหัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย ใส่ร้ายกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ว่าได้จ้างพรรคอื่นลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความเท็จ และ เลขาฯพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้สมคบกับ นายทักษะนัย กี่สุ่น ผู้ช่วย ส.ส.ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นำสมาชิกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ไปลงสมัครรับเลือกตั้งที่ จ.ตรัง แล้วให้นายทักษะนัย มาใส่ร้ายว่ากรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทยเป็นผู้ว่าจ้างให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง อีกทั้ง ยังหน่วงเหนี่ยวกักขังนางฐัติมา ภาวะลี ให้ใส่ร้ายด้วยความเท็จต่อกรรมการบริหารพรรคว่าได้ว่าจ้างสมาชิกพรรคแผ่นดินไทยให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง "ทั้งหมดเป็นเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง มุ่งหวังเพียงล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กระทำการขัดต่อกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ โดยวิธีการที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติข้อเท็จจริงมีพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ ขอให้นายทะเบียนร้องต่ออัยการสูงสุด พร้อมเอกสารดังกล่าวเพื่อยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 66 และ 67 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง"

ด้านนายปริญญา ปฏิเสธว่ายังไม่เป็นรายงานผลการสืบสวนของคณะอนุกรรมการ เมื่อถามว่า รายงานดังกล่าว ได้ส่งให้กกต.ทุกคนแล้ว ที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชนก็น่าจะหลุดมาจากกรรมการ นายปริญญา กล่าวว่า "เหรอ"

เมื่อถามต่อว่า กกต.จะดำเนินการอย่างไรต่อมติของคณะอนุกรรมการฯ นายปริญญา กล่าวว่า คงต้องประชุมกัน ซึ่งในวันนี้ ( 16 พ.ค.) จะมีการประชุมกกต.โดยแนวปฏิบัติ หากจะมีการยุบพรรค กกต.ก็ต้องมีการเชิญผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงก่อน

ขณะเดียวกันก็ได้มีกลุ่มเครือข่ายพลังประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประมาณ 20 คน นำโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำดอกไม้ และพระปางปราบมารมาให้กำลังใจกับกกต. พร้อมกับขอให้กกต.เร่งดำเนินคดีกับนายไทกร พลสุวรรณ แกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ เพราะคำสัมภาษณ์ของ นายไทกร เท่ากับเป็นการยอมรับว่า ได้กระทำความผิดจริง ถือว่าเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย และเรียกร้องให้กกต.เร่งสืบสวนสอบหาพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการจ้างวานเพื่อล้มเลือกตั้งแล้วเปิดเผยให้สังคมรับรู้ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งใหม่จะมีขึ้น

เมื่อเวลา 12.20 น.วันเดียวกันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่นายนายสุเทพ ระบุว่า พรรคไทยรักไทยทำซีดีที่มีนายไทกร พลสุวรรณ ปรากฏอยู่เมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ขึ้นมานั้น ถ้านายสุเทพไม่มั่ว ก็เข้าใจผิด เพราะเทปดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. โดยนายไทกร เสนอเงื่อนไขต่อหัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า แล้วเดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์ทันที ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เตรียมพร้อมเรื่องนี้ไว้ตลอด ขอท้านายสุเทพว่า ถ้าแน่จริงไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 29 พ.ค.จึงจะแฉหลักฐาน เปิดมาตอนนี้เลยดีกว่า ขอร้องอย่าไปทำแบบกรณีของนางฐัติมา ภาวะลี ที่แสดงเอง เขียนบทเอง อย่าทำตัวเป็นเลขาฯพรรคเลี้ยงแกะ

ส่วนการที่บอกว่ากำลังถูกคุกคาม และได้สั่งเสียลูกหลานว่า ถ้าเป็นตัวเองเป็นอะไรจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เรื่องเดียวนั้น อยากถามว่าใครกล้าทำอะไรนายสุเทพ มีแต่นายสุเทพ จะไปข่มขู่คนอื่นมากกว่า นายสุเทพไม่เหมาะจะมาเล่นบทดาวพระศุกร์เรียกน้ำตาจากประชาชน เพราะบทนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ผูกขาดอยู่แล้ว ถ้านายสุเทพไปเล่นหนังก็คงเจ๊งตั้งแต่ยังไม่ได้ทันสร้าง

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า เรามีหลักฐานเพิ่มเติมกรณีพรรคเล็กคือ คนอีก 2 คน ประกอบด้วย นายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีต ผ.อ.เลือกตั้งจังหวัดนครพนมพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวการ โตสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายสุราพื้นบ้าน ซึ่งเคยทำงานหาเสียงให้พรรคมหาชน ทั้ง 2 คนนี้ร่วมมือกับนายไทกร ให้การเท็จบอกว่าได้รับการจ้างวานจากพรรคไทยรักไทย ซึ่งนายไทกรเองก็ยอมรับว่าส่งคนตัวเองเข้าไปที่พรรคพัฒนาชาติไทย กระบวนนี้คือ นายสุเทพส่ง 2 คนนี้เข้าไปร่วมพรรคพัฒนาชาติไทย โดยนายสุขสันต์ เป็นคนแก้เอกสารเปลี่ยนแปลงรายชื่อทั้งหมดของพรรคพัฒนาชาติไทย ซึ่งได้รับการแนะนำมาจากนายไทกร และที่สำคัญ ในคืนที่ 15 มี.ค.เวลา 02.00 นายไทกร เป็นผู้ประสานงานพานายสุเทพไปพบหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ซึ่งต่อมาหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ไปบอกกับ กกต.ว่า ถูกเกลี้ยกล่อมให้รับเงิน 15 ล้านบาท เพื่อใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย อยากถามว่าคนเป็นถึงเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มีเหตุผลใดต้องเดินทางไปในยามวิกาล

"นายสุเทพ และนายไทกรร่วมมือกันสร้างพยานหลักฐานเท็จแล้วไปเสนอผลประโยชน์ให้หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทยตอนตี 2 วันที่ 15 มี.ค. นี่คือขบวนการจัดฉากสร้างเรื่องทำลายพรรคไทยรักไทย ในส่วนของการดำเนินคดีกับนายไทกรนั้น กำลังหารืออยู่ว่าจะทำในนามพรรคหรือในนาม พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา หรือนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" นายจตุพร กล่าว

**"เพ้ง"ยัน ไม่รู้จักพรรคเล็ก

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการ รมว.คมนาคม กล่าวยืนยันไม่เคยรู้จักหัวหน้าพรรคเล็ก และไม่เคยจ่ายเงินให้ใครหรือให้ใครไปจ่ายเงินแทน รวมทั้งบุคคลที่ออกมาพูดตนก็ไม่รู้จักเลย ซึ่งปกติหากต้องมีการพบปะใครก็จะต้องมีการนัดหมาย แต่การที่ตนเดินทางไปที่ใดอาจมีการพบปะคนทั่วไปที่ไม่ได้นัดหมายได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการเรียกตนไปถาม ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมจาก กกต.ด้วย

"ผมอยู่การเมืองมานาน ไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองไม่เคยยุ่ง หรืออาจเป็นเพราะผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมด้วยก็ได้ ส่วนการฟ้องร้องนั้น ผมไม่รู้เรื่องกฎหมายและพรรคมีฝ่ายกฎหมายที่ดำเนินการอยู่แล้ว"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

**"วาสนา"เรียก กกต.หารือวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ได้เดินทางกลับจากประเทศออสเตรเลียแล้ว โดยกล่าวถึงข่าวผลการสอบสวนกรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งว่า รู้สึกแปลกใจ ทำไมผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการกกต.ถูกนำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ เพราะรายงานผลการสอบสวนดังกล่าวตนได้แจกให้ กกต.อีก 3 คนเท่านั้น เพื่อเตรียมไว้หารือในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เวลาไม่พอ จึงยังไม่มีการหารือ แต่ทั้งนี้จะสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจากเลขาธิการ กกต. อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร คนทำงานมันต้องมีระเบียบวินัย เคารพกติกา ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดยาก

พล.ต.อ.วาสนา ยังกล่าวด้วยว่า ผลการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวยังถือว่าไม่เป็นข้อยุติ เพราะยังมีข้อสงสัยอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะหลักฐานวีซีดีที่พรรคไทยรักไทยนำมาเปิดเผย รวมทั้งมีพยานนำหลักฐานมามอบให้ตนเพิ่มเติม และจะให้การเพิ่มเติมกับตนด้วย ซึ่งหลักฐานที่นำมามอบให้แล้วมีข้อสงสัยหลายอย่างที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม รวมไปถึงวีซีดีด้วย

พล.อ.วาสนา กล่าวว่า ในวันนี้ จะมีการประชุมพิจารณาผลสอบของคณะอนุกก.ตรวจสอบพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง โดยได้นัดประชุมกับกกต.เรียบร้อยแล้ว

**ปชป.ย้ำผลสรุปของอนุ กก.ฯ ระบุชัด

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ พรรคไทยรักไทยจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับพรรคประชาธิปัตย์ ฐานอยู่เบื้องหลังกลุ่มอีสานกู้ชาติให้ล้มการเลือกตั้ง และจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พรรคไทยรักไทยคงดิ้นรนเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งคณะอนุกรรมการของกกต.ได้สอบสวนแล้วและรายงานชัดเจนว่า เป็นการกระทำของผู้บริหารพรรคไทยรักไทย แต่ตนไม่เคยไปเรียกร้องให้ยุบพรรคไทยรักไทย เพียงแต่ไปร้องกกต.ว่าทำทุจริตเลือกตั้ง แต่พอเรื่องนี้ปรากฎชัดเจน ก็ดิ้นรน แล้วมาเปิดเกมใหม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนว่างจ้างพรรคเล็กให้ล้มการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าพรรคไทยรักไทย ท้าว่าหากนายสุเทพไม่เกี่ยวข้องกับนายไทกร ก็ควรจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายไทกรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมตนจะต้องเชื่อฟังพรรคไทยรักไทยด้วย และคิดว่าไม่ใช่เฉพาะนายไทกร แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่พยายามล้มล้าง หรือต่อต้านระบอบทักษิณ ตนควรจะต้องขอบคุณด้วยซ้ำ จะไปเล่นงานนายไทกรทำไม เพียงแต่ยืนยันว่า นายไทกรไม่ได้ทำตามคำสั่งของตนและพรรคประชาธิปัตย์

"ผมพึ่งมารู้จักกับนายไทกรเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วอยู่ ๆ จะมาว่านายไทกรใช้เงินจากกระเป๋าของผมก็เกินไปหน่อย และขอให้กลับไปดูว่านายไทกรเป็นนักเคลื่อนไหวที่ร่วมเวทีพันธมิตรและรวบรวมคนอีสานกู้ชาติมาร่วมชุมนุมอยู่แล้ว ดังนั้นขออย่ากล่าวหากัน"นายสุเทพ กล่าว

นายสุวโรช พะลัง อดีต ส.ส.ชุมพร กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ที่ได้ออกมากล่าวหา ว่านายสุวโรช,นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ,นายสาธิต ปิตุเตชะ สมคบกับนายไทกร พลสุวรรณ ใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยว่าจ้างผู้สมัครพรรคเล็กลงสมัครเลือกตั้ง ว่า ตนไม่เคยรู้จักนายไทกรมาก่อน และไม่เคยทราบว่านายไทกร สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยเพิ่งทราบเรื่องนี้หลังจากพบนายไทกรที่สำนักงาน กกต. โดยเหตุผลที่ตนเดินทางไปกกต.ไม่เกี่ยวกับนายไทกร แต่ไปเพราะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าพรรคเพื่อให้ไปตรวจสอบรายชื่อ สมาชิกพรรคที่มีการปลอมแปลงแต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ได้เชิญให้ไปพบกับชายสองคน ซึ่งทราบภายหลังว่าชื่อนายไทกร และเพื่อนอีกคนนั่งอยู่ โดยนายไทกรได้บอกรายระเอียดเรื่องพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็ก โดยให้อามิสสินจ้างเพื่อส่งผู้สมัครแข่งกับพรรคไทยรักไทยเพื่อที่จะหนีการแข่งขันคนเดียวที่ต้องต่อสู้กับการได้คะแนนมากว่าร้อยละ 20 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น ดังนั้นนายจตุพร ที่เป็นถึงรองโฆษกพรรคไทยรักไทยจะต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง เพราะเป็นเรื่องเท็จ

ส่วนกรณีที่พรรคไทยรักไทย พยายามโยงนายไทกรให้มีความเกี่ยวข้องกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น นายสุเทพยืนยันว่า รู้จักนางฐัติมา ภาวะดี ผู้ประสานงานพรรคเพื่อแผ่นดินไทย จากนายไทกร ส่วนนายสุเทพ มารู้จักทั้งสองคนภายหลังจากที่ตนแนะนำให้รู้จัก

ทั้งนี้วันนี้กกต.ได้มีมติยุบพรรคเล็กที่ไปรับอามิสสินจ้างพรรคใหญ่ลงสมัครไปแล้วปัญหาคือพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงสมัครเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 ตนของเรียกร้องไปยังกกต.ให้ดำเนินการกับพรรคใหญ่ด้วย ซึ่งผลล สรุปของนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรมการที่ตรวจสอบเรื่องนี้คงได้รับความเป็นธรรมจากกกต.ชุดใหญ่ เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจนว่า พรรคใหญ่ที่จ้างคือ พรรคไทยรักไทย

**จี้ กกต.ยุบทิ้ง 2 พรรค เอี่ยวจ้างพรรคเล็ก

นายพนัส ทัศนียานนท์ รักษาการ ส.ว.ตาก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การดำเนินการสืบสวนเป็นอำนาจของคณะอนุฯ ที่ทำงานโดยอาศัยอำนาจของกกต.และทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งผลสอบครั้งที่แล้วที่ได้รายงานต่อกกต.กลาง ก็ทำให้กกต.กลางตัดสินยุบพรรคเล็กไปแล้วกว่า 2 พรรค นั่นแสดงให้เห็นว่า การจ่ายเงินจ้างพรรคเล็กลงสมัครมีเค้าความจริง "เมื่อรายงานดังกล่าวเป็นความจริง กกต.ก็ต้องดำเนินการเอาผิดด้วยการยุบพรรคไทยรักไทยที่ถูกกล่าวหา เพราะจากพยานหลักฐานที่ปรากฎในขณะนี้ ผมเห็นว่าสามารถยุบพรรคได้แล้ว ยกเว้นว่า กกต.จะมีเหตุผลหักล้างเป็นอย่างอื่น ถ้ามีการยกข้ออ้างเพื่อไม่ยุบพรรคที่มีความผิดชัดเจนนั่นแสดงให้เห็นว่า กกต.กำลังเอื้อให้พรรคนั้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ก็ทราบว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายจ้างวานพรรคเล็กลงสมัครด้วยเช่นกัน ดังนั้นผมเห็นว่า กกต.ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงและยุบพรรคที่กระทำความผิดทั้งสองพรรค ถือเป็นการล้างไพ่ให้กับการเมืองไทยเพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่ ตามรัฐธรรมนูญใหม่อย่างที่ต้องการ" อดีตอัยการ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น