xs
xsm
sm
md
lg

รถดับเพลิงส่อซ้ำรอยCTX

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ตรวจสอบการทุจริตโครงการซื้อรถดับเพลิงของ กทม. พบ บริษัท สไตเออร์ฯเป็นบริษัทผลิตรถถัง ไม่ได้ผลิตรถดับเพลิง แถมเป็นบริษัทของสหรัฐ สไตเออร์ เป็นแค่โบรกเกอร์จัดหารถดับเพลิงให้ กทม. เท่านั้น ส่อเค้าซ้ำร้อย ซีทีเอ็กซ์ ระบุการจัดซื้อ เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยก็เพิ่งรู้เรื่อง หลังถูกกระทรวงต่างประเทศสั่งให้ประสานรัฐบาลออสเตรีย มั่นใจฝรั่งก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน ด้าน ทรท.โวย กทม.ส่งมอบเครื่องดับเพลิงไม่มีคุณภาพให้ชุมชน

นายยุทธพงศ์ จรัสเเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเดินทาง ไปกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหาข้อมูลกรณีจัดซื้อรถดับเพลิงของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. ว่าพบประเด็นใหม่คือบริษัท สไตร์เออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชี่ยล ฟายท์ ซอย จีเอ็มบีเอช เป็นบริษัทของเจเนอรัล ไดนามิคส์ สหรัฐอเมริกา อย่างแน่นอน และตรวจสอบพบว่า บริษัท สไตเออร์ฯ เป็นบริษัทที่ผลิตรถถัง ไม่ได้ผลิตรถดับเพลิง แม้แต่เคสซีของรถ บริษัทก็ไม่ได้ทำเอง ต้องซื้อจากบริษัทแมนของเยอรมนี

“สไตเออร์จึงทำหน้าที่เป็นเพียงนายหน้าหรือโบรกเกอร์จัดหารถดับเพลิงให้กับ กทม.เท่านั้น เหตุใด กทม.จึงต้องซื้อผ่านโบรกเกอร์ ซ้ำรอยเหมือนกรณีซี ทีเอ็กซ์ 9000 หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าบริษัทสไตเออร์ฯ วิตกกังวลกับกรณีที่เกิดขึ้น อย่างมาก จึงได้แจ้งว่าฝ่ายกฎหมายของบริษัทเจเนอรัล มีคำสั่งให้ผู้บริหารของ บริษัท สไตเออร์ฯ ชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้นกับการขายรถดับเพลิงของ กทม.” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ยังมีโอกาสพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สถานทูตไทยที่กรุงเวียนนา และได้สอบถามถึงโครงการดังกล่าวซึ่งมีมูลค่า 6,687 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรีย แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยบอกว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้เลยตั้งแต่เรื่องเซ็นสัญญา เมื่อปี 2547 จนกระทั่งกระทรวงการต่างประเทศแจ้งให้ทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่จาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาสอบสวนเรื่องนี้ โดยให้สถานทูตไทยประสานงานกับรัฐบาลออสเตรีย เจ้าหน้าที่คนนี้ยังบอกด้วยว่ารัฐบาลออสเตรียก็อาจจะไม่ทราบเรื่องนี้เช่นกัน

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า จากการเดินทางไปที่สถานีดับเพลิงที่ใหญ่ที่สุดของ กรุงเวียนนา ปรากฏว่ารถดับเพลิงที่ใช้เป็นคนละชนิดกับที่ขายให้ประเทศไทย โดยรถดับเพลิงของออสเตรียจะผลิตโดยบริษัทโรเซนบาวส์ ซึ่งเป็นโรงงานประกอบรถดับเพลิง ที่มีชื่อเสียงในยุโรป ขณะที่รถดับเพลิงที่ขายให้ กทม. ถูกส่งไปประกอบที่โรงงานโซมาติ ในประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งมีราคาถูกกว่าทำที่จะประกอบจากโรงงานใน

อีกด้าน นายวัฒนา เซ่งไพเราะ อดีต ส.ส. กทม. พรรคไทยรักไทย แถลงเรียกร้อง ให้ผู้บริหาร กทม. ได้ตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงที่มาจากงบสนับสนุนจากรัฐบาลว่า จากเหตุเพลิงไหม้ที่ชุมนุมเกตุไพเราะ 1-2 เขตพระโขนง เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พบว่าเครื่องดับเพลิงที่ กทม. มอบให้ชุมชนต่างๆ ชุมชนละ 34 เครื่อง ใช้งาน ได้เพียง 3-4 เครื่องเท่านั้น ทั้งที่อุปกรณ์ดับเพลิงดังกล่าวเพิ่งส่งมอบให้ชุมชน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนเกิดความเสียหายไปถึง 25 หลัง โดยบางเครื่องไม่สามารถฉีดน้ำยาดับเพลิงออกมาได้ หรือบางเครื่องไม่มีแรงดันของเครื่อง ซึ่งชาวบ้านต่างบอกว่าหากเครื่องดับเพลิงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ความเสียหายคงไม่เกิน 1-2 หลังคาเรือน

“ขอเรียกร้องให้ กทม. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคณะกรรมการตรวจรับพัสดุของ กทม. และขยายผลไปถึงบริษัทเจ้าของเครื่องดับเพลิงดังกล่าวด้วย เรียกเก็บเครื่องดับเพลิงที่ส่งมอบให้ชุมชนต่าง ๆ ใน กทม. รวมทั้งพื้นที่ที่ได้รับเครื่องดับเพลิงโดยงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยทั้งหมดด้วย และขอให้ กทม. ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ไม่ใช่เห็นว่าเป็นงบกลางไม่ใช่งบของ กทม. จึงไม่เอาใจใส่” นายวัฒนา กล่าว

ด้านนายวิสูตร สำเร็จวานิชย์ ส.ก. พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) จะไปยื่นเอกสารให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจสอบการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. ไม่มีความโปร่งใส รวมทั้งผลสอบของ กทม. ที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่มีความโปร่งใส เพราะมีการเอาผิดเพียงข้าราชการระดับเล็กเท่านั้น นอกจากนี้ ส.ก.ของพรรคไทยรักไทยได้รวมรวบรายชื่อเพื่อยื่นอภิปรายผู้ว่าฯ กทม. ในสมัยประชุมที่จะถึงนี้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น