คุณทักษิณ บอกนักข่าวว่า ตอนนี้ว่างงาน ไม่มีอะไรทำ มีพลังเหลือเยอะ เลยต้องออกรอบตีกอล์ฟเผาผลาญพลังออกซะบ้าง
ก็น่าเห็นใจอดีตนายกฯ ผู้มีพลังเหลือเฟือคนนี้จริงๆ ตอนที่ประกาศวางมือ ขนข้าวของออกจากทำเนียบบอกว่าต้องการพัก เจ้าตัวคงอยากจะพักจริงๆ เพราะหายไปต่างประเทศเสียพักใหญ่ กลับมาก็ออกรอบตีกอล์ฟเป็นว่าเล่น
ระยะหลังคงเริ่มเบื่อ ก็เลยควงคุณหญิงชอปปิ้งบ้างเป็นบางขณะ
แต่ท่านครับ! ขออภัยเถอะครับ เวลาที่เขาควงกันเดินนี่ ฝ่ายหญิงเขาต้องเอามือมาเกาะที่แขนฝ่ายชายไม่ใช่เหรอ...แบบว่ามันดูอบอุ่นนุ่มนวลกว่าท่าที่ท่านพยายามสอดมือไปเกาะแขนฝ่ายหญิง ให้ฝ่ายหญิงลากเอาลากเอา ..เวลาคุณหญิงเดินสาวเท้าเร็วขึ้นมันเลยดูเป็นลากลู่ถูกกังเข้าไปใหญ่...คือว่า มันดูแปลกๆ ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักง่ะครับ
ก็น่าเห็นใจอีกนั่นแหละ ..คนที่ไม่ค่อยได้ออกมาเดินชอปปิ้งไปเรื่อยเปื่อยแบบคนว่างงาน ก็เป็นหยั่งงี้แหละ..มือไม้ยังไม่เข้าที่ พอเจอะช่างภาพก็เลยต้องเป็นฝ่ายไล่เกาะแขนให้คุณหญิงลากเอาแบบนี้
อีกสักพักคงเข้ารูปเข้ารอยครับ! ต่อไปท่านก็จะรู้เองโดยอัตโนมัติว่า วันนี้แต่งตัวยังไงดี วันนี้ออกรอบกับใคร วันนี้ไปชอปปิ้งที่ไหน หรือวันนี้จะเข้าไปเจอหน้าผู้คนที่ทำการพรรคตอนไหนดี
กาลเวลาทำให้เราเคยชาชินไปเอง..เชื่อว่ายังไงท่านก็คงไม่กระอักเลือดตายหรอก แค่ระดับเหงาตะหงิดๆ ..ว้าเหว่ปนเว้าแหว่งแค่นั้นเอง
ข้าราชการที่เขาเกษียณกันโครมๆ แต่ละปีเป็นหมื่นๆ ได้ผ่านช่วงเวลาพิอักพิอ่วนแบบนี้มาทั้งนั้น.. ถ้าตายก็คงตายกันเป็นแสนๆ แล้ว
ท่านอดีตนายกฯ ได้ประกาศวางมือการบริหารประเทศจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ไปเดือนกว่าแล้ว ดูท่าจะต้องพักแบบนี้ไปอีกนานไม่น้อยกว่า 3 เดือนทีเดียว ถ้าให้ดีต้องรีบทำใจว่าอาจจะต้องวางมือตลอดไปด้วยซ้ำ เพราะสถานการณ์การเมืองเวลานี้เปลี่ยนเร็วมาก..
เข้าใจดีครับ ว่าในสมองของท่านอดีตนายกฯ คิดอะไรอยู่ -ท่านยังทำใจไม่ได้
สมองท่านไม่ได้คิดว่า วันนี้จะไปชอปปิ้งเลือกซื้อสบู่ยี่ห้ออะไรอย่างแน่นอน
คนอย่างทักษิณ ชินวัตร มีหรือจะไปแย่งงานคนใช้!
คนที่เคยอยู่ในอำนาจ ต้องคิดถึงเกมอำนาจโดยเฉพาะช่วงที่เกมการเมืองกำลังพลิกผันเปลี่ยนแปลงตลบแล้วตลบเล่าแบบนี้
บังเอิญอย่างยิ่งว่า ในช่วงพักยาวท่านออกรอบเล่นกอล์ฟเป็นประจำ
สมองอันวอกไวประดุจศรีธนญชัยของท่าน จึงมีทั้งเรื่องกีฬาและการเมืองปนเปกันไป
จึงกลั่นเรื่องราวทางการเมืองที่ต้องการถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องของเกมกีฬาไปพร้อมๆ กัน
7 พ.ค. 49 ณ สนามกอล์ฟเลควูด บางนา ...พ.ต.ท.ทักษิณพบกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ดักรออยู่ ก็ถามว่าเมื่อเช้าดูถ่ายทอดการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลกของออสการ์ เดอ ลา โฮย่า หรือเปล่า ต่อยน็อกเลย แต่พอชกเสร็จก็กอดกัน ขนาดชกกันน็อกเขายังไปกอดกันเลย
“ใช่ อย่างนี้น่ารักมาก” พ.ต.ท.ทักษิณตอบคำถามที่ว่าคนเราต้องมีน้ำใจนักกีฬาใช่หรือไม่
นี่แหละท่วงทำนองดั้งเดิมของทักษิณ ชินวัตร ตัวจริงเสียงจริงที่มักจะใช้คำเปรียบเทียบอุปมาอุปมัยสื่อสารให้คนรู้
ไม่เฉพาะเรื่องชกมวยเดอ ลา โฮยาหรอกครับ ยังมีอีก
วาทะอันกลั่นมาจากจิตใต้สำนึกของนักกีฬากอล์ฟผสมกับจิตใต้สำนึกของอดีตนายกฯ ผู้ฝันจะกลับมามีอำนาจ..ยังมีอีก!
ก่อนหน้านั้น นักข่าวพยายามถามเรื่องอนาคตทางการเมือง คุณทักษิณ ตอบนักข่าวว่า กติกาตอนนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ตนอยู่ในเกมแท้ๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นไงต่อ
ผลพวงจากการออกรอบตีกอล์ฟ ออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานมันเป็นผลดีกับตัวเองจริงๆ
อย่างน้อยที่สุดขณะที่สมองหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องเกมการเมือง ก็ยังอุตส่าห์มีเรื่องของเกมกีฬาแทรกเข้ามาโดยไม่รู้ตัวอย่างนี้นี่เอง
ใครจะด่าว่าอย่างไรก็เชิญเถอะครับ แต่วันนี้ผมตั้งใจจะมาชมทุกทักษิณ
คนคนนี้เกิดมาเป็นนักกีฬาตัวจริงเสียงจริง
อย่างวันก่อนโน้น (นานมาแล้ว)สมัยที่บารมียังล้นประเทศ ฯพณฯ ยังอุตส่าห์เจียดเวลาสวมชุดนักฟุตบอลลงดวลแข้งนัดพิเศษกับทูตานุทูต ยังจำได้ดีว่าเรียวขาท่านขาวผ่องเป็นยองใย เนื้อนวลหยั่งกะก้นเด็กน่ารักน่าเอ็นดู เป็นศูนย์หน้าวิ่งไล่ลูกฟุตบอลลิ้นห้อยแฮ่กๆ ในสนามไม่มีใครสมเพชท่านสักคน..มีแต่ปรบมือชื่นชมในสปิริตของนักกีฬาเอกผู้นำหนึ่งเดียวของสยามประเทศ
ซึ่งอันที่จริงคุณทักษิณก็เกือบจะวางมือเทิร์นโปรเอาดีทางกอล์ฟแล้วเชียว ตอนที่ลงแข่งกับนักกอล์ฟเยาวชน ถึงขนาดพนันว่าถ้าชนะจะลาออกจากนายกฯ ...ได้ข่าวว่าแพ้ชนะกันไม่มาก..ไม่เป็นไรระหว่างที่ว่างงานฟิตร่างกายเอาใหม่ก็ได้
สรุปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ชายที่สนใจกีฬามากคนหนึ่ง ทั้งแบบเป็นผู้เล่นเองและเข้าไปเป็นเจ้าของ และหากเป็นกีฬาที่ทำให้รวยขึ้นก็จะยิ่งสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก
ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสปิริต ที่แปลเป็นภาษาไทยว่ามีน้ำใจนักกีฬาไหม?
ตอบว่า มนุษย์ผู้ชายคนหนึ่งเกิดมาแล้วมันคงไม่ถึงขนาดที่เลวริยำระดับดิรัจฉานเรียกพี่ไปหมดทั้ง 100% หรอก มันต้องมีดีมั่งสิ
ตอบว่า คุณทักษิณมี.. แต่บางครั้งอาจจะเผอเรอเห็นแก่ตัวไปบ้าง หรือไม่ก็ผีเขมรบังตา ก็เลยลืมไปว่าสปิริตสะกดอย่างไร
คำตอบนี้มีที่มาที่ไป ...
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2548 ระหว่างที่สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มตึงเครียดเพราะม็อบสวนลุมฯ มาแรงเหลือเกิน คุณทักษิณ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคไทยรักไทยเอาไว้อย่างสละสลวยคำต่อต่อคำ... ดังต่อไปนี้
.....................
“ถ้าคนที่เป็นนักกีฬาแล้วไม่เคารพกติกาก็จะเป็นกีฬาที่คนอื่นไม่อยากเล่นด้วย
ถ้าไปบังคับให้เล่น ตรงนั้นไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็นการไปสร้างกติกาเอง
ดังนั้นเรื่องของพรรคเราก็มีกติกาชัดเจนว่าพรรคจะไม่หักหลังลูกพรรค ใครอยากจะออกจากพรรคก็บอกล่วงหน้าว่าโอเค
หรือยุบสภา หรือมีการเลือกตั้งก็จะบอกล่วงหน้า 90 วัน ทุกคนจะได้เตรียมตัวย้ายพรรคก่อน มันจะได้ไม่เป็นการหักหลังซึ่งกันและกัน
ถ้าสมมติไม่มีการบอกล่วงหน้ากัน พอยุบสภาตูม เลือกตั้งแล้วไปย้ายพรรคก็เท่ากับคนที่ย้ายพรรคหักหลังพรรค เพราะพรรคไม่มีโอกาสหาคนแทนได้ทัน ถ้า 90 วันคือการไม่หักหลังซึ่งกันและกัน เมื่อคุณออกไปเราก็ยังหาคนมาแทนได้ ถ้าแน่จริงต้องมีคนใหม่สู้คุณ ไม่ใช่หักหลังแล้วไม่มีอะไรให้ใครสู้ เหมือนกับที่ว่าเมื่อแอบออกไปแล้วโดยไม่บอกให้ใครรู้ เราหาคนมาแทนไม่ทัน แล้วคุณก็จะได้เป็นผู้แทนอีก ทั้งๆ ที่ห่วยแตก
ดังนั้นขอย้ำว่าเรื่อง 90 วันพรรคจะบอกก่อนแน่นอน ถ้าใครออก พรรคจะหาคนมาแทน มาลงแข่ง ซึ่งเป็นคนใหม่ในนามพรรคเก่า สู้กับคนพรรคเก่าในนามพรรคใหม่ ก็สู้กัน ไม่เห็นเป็นไรเลย และตรงนี้ถือเป็นสัญญาที่ทุกคนสามารถเชื่อมั่นได้แน่นอน”
....................
ซาบซึ้งกินใจยิ่งนักกับวาทะของลูกผู้ชายใจเกินร้อย
นักกีฬาต้องเคารพกติกา...ไม่หักหลังกัน...ใครออกจากพรรคบอกก่อนเลย..ให้ไปก่อน 90 วัน นี่คือกติกาของพรรคเรา ฯลฯ
เมื่อวันก่อน นักกีฬาชื่อทักษิณ อาจจะถูกหมัดคุณสนธิ จำเลขที่บ้านไม่ได้..เลอะเลือนไปบ้าง..ก็ให้อภัยกันในฐานะนักกีฬา (เฮ)
มาวันนี้ นักกีฬาชื่อ ทักษิณ กำลังจะไถ่บาปที่เคยลั่นวาจาเอาไว้
ปากของคุณทักษิณไม่ใช่ตูดสำหรับผายลมอย่างแน่นอน
ดังนั้นเราชาวไทยกำลังจะได้เห็น นักกีฬาชื่อทักษิณกำลังจะปล่อยให้ ส.ส. ย้ายพรรคได้เสรีรับการเลือกตั้งใหม่
และจะส่งสัญญาณให้ไทยรักไทย แจ้ง กตต.ขอยืดเวลาเลือกตั้งออกไปให้เกิน 90 วันอย่างแน่นอน!
ปรบมือเชียร์ให้นักกีฬาชื่อทักษิณผู้ไม่ทรยศหักหลังใคร พร้อมกัน.. เฮ!!!
ก็น่าเห็นใจอดีตนายกฯ ผู้มีพลังเหลือเฟือคนนี้จริงๆ ตอนที่ประกาศวางมือ ขนข้าวของออกจากทำเนียบบอกว่าต้องการพัก เจ้าตัวคงอยากจะพักจริงๆ เพราะหายไปต่างประเทศเสียพักใหญ่ กลับมาก็ออกรอบตีกอล์ฟเป็นว่าเล่น
ระยะหลังคงเริ่มเบื่อ ก็เลยควงคุณหญิงชอปปิ้งบ้างเป็นบางขณะ
แต่ท่านครับ! ขออภัยเถอะครับ เวลาที่เขาควงกันเดินนี่ ฝ่ายหญิงเขาต้องเอามือมาเกาะที่แขนฝ่ายชายไม่ใช่เหรอ...แบบว่ามันดูอบอุ่นนุ่มนวลกว่าท่าที่ท่านพยายามสอดมือไปเกาะแขนฝ่ายหญิง ให้ฝ่ายหญิงลากเอาลากเอา ..เวลาคุณหญิงเดินสาวเท้าเร็วขึ้นมันเลยดูเป็นลากลู่ถูกกังเข้าไปใหญ่...คือว่า มันดูแปลกๆ ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักง่ะครับ
ก็น่าเห็นใจอีกนั่นแหละ ..คนที่ไม่ค่อยได้ออกมาเดินชอปปิ้งไปเรื่อยเปื่อยแบบคนว่างงาน ก็เป็นหยั่งงี้แหละ..มือไม้ยังไม่เข้าที่ พอเจอะช่างภาพก็เลยต้องเป็นฝ่ายไล่เกาะแขนให้คุณหญิงลากเอาแบบนี้
อีกสักพักคงเข้ารูปเข้ารอยครับ! ต่อไปท่านก็จะรู้เองโดยอัตโนมัติว่า วันนี้แต่งตัวยังไงดี วันนี้ออกรอบกับใคร วันนี้ไปชอปปิ้งที่ไหน หรือวันนี้จะเข้าไปเจอหน้าผู้คนที่ทำการพรรคตอนไหนดี
กาลเวลาทำให้เราเคยชาชินไปเอง..เชื่อว่ายังไงท่านก็คงไม่กระอักเลือดตายหรอก แค่ระดับเหงาตะหงิดๆ ..ว้าเหว่ปนเว้าแหว่งแค่นั้นเอง
ข้าราชการที่เขาเกษียณกันโครมๆ แต่ละปีเป็นหมื่นๆ ได้ผ่านช่วงเวลาพิอักพิอ่วนแบบนี้มาทั้งนั้น.. ถ้าตายก็คงตายกันเป็นแสนๆ แล้ว
ท่านอดีตนายกฯ ได้ประกาศวางมือการบริหารประเทศจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ไปเดือนกว่าแล้ว ดูท่าจะต้องพักแบบนี้ไปอีกนานไม่น้อยกว่า 3 เดือนทีเดียว ถ้าให้ดีต้องรีบทำใจว่าอาจจะต้องวางมือตลอดไปด้วยซ้ำ เพราะสถานการณ์การเมืองเวลานี้เปลี่ยนเร็วมาก..
เข้าใจดีครับ ว่าในสมองของท่านอดีตนายกฯ คิดอะไรอยู่ -ท่านยังทำใจไม่ได้
สมองท่านไม่ได้คิดว่า วันนี้จะไปชอปปิ้งเลือกซื้อสบู่ยี่ห้ออะไรอย่างแน่นอน
คนอย่างทักษิณ ชินวัตร มีหรือจะไปแย่งงานคนใช้!
คนที่เคยอยู่ในอำนาจ ต้องคิดถึงเกมอำนาจโดยเฉพาะช่วงที่เกมการเมืองกำลังพลิกผันเปลี่ยนแปลงตลบแล้วตลบเล่าแบบนี้
บังเอิญอย่างยิ่งว่า ในช่วงพักยาวท่านออกรอบเล่นกอล์ฟเป็นประจำ
สมองอันวอกไวประดุจศรีธนญชัยของท่าน จึงมีทั้งเรื่องกีฬาและการเมืองปนเปกันไป
จึงกลั่นเรื่องราวทางการเมืองที่ต้องการถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องของเกมกีฬาไปพร้อมๆ กัน
7 พ.ค. 49 ณ สนามกอล์ฟเลควูด บางนา ...พ.ต.ท.ทักษิณพบกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ดักรออยู่ ก็ถามว่าเมื่อเช้าดูถ่ายทอดการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลกของออสการ์ เดอ ลา โฮย่า หรือเปล่า ต่อยน็อกเลย แต่พอชกเสร็จก็กอดกัน ขนาดชกกันน็อกเขายังไปกอดกันเลย
“ใช่ อย่างนี้น่ารักมาก” พ.ต.ท.ทักษิณตอบคำถามที่ว่าคนเราต้องมีน้ำใจนักกีฬาใช่หรือไม่
นี่แหละท่วงทำนองดั้งเดิมของทักษิณ ชินวัตร ตัวจริงเสียงจริงที่มักจะใช้คำเปรียบเทียบอุปมาอุปมัยสื่อสารให้คนรู้
ไม่เฉพาะเรื่องชกมวยเดอ ลา โฮยาหรอกครับ ยังมีอีก
วาทะอันกลั่นมาจากจิตใต้สำนึกของนักกีฬากอล์ฟผสมกับจิตใต้สำนึกของอดีตนายกฯ ผู้ฝันจะกลับมามีอำนาจ..ยังมีอีก!
ก่อนหน้านั้น นักข่าวพยายามถามเรื่องอนาคตทางการเมือง คุณทักษิณ ตอบนักข่าวว่า กติกาตอนนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ตนอยู่ในเกมแท้ๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นไงต่อ
ผลพวงจากการออกรอบตีกอล์ฟ ออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานมันเป็นผลดีกับตัวเองจริงๆ
อย่างน้อยที่สุดขณะที่สมองหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องเกมการเมือง ก็ยังอุตส่าห์มีเรื่องของเกมกีฬาแทรกเข้ามาโดยไม่รู้ตัวอย่างนี้นี่เอง
ใครจะด่าว่าอย่างไรก็เชิญเถอะครับ แต่วันนี้ผมตั้งใจจะมาชมทุกทักษิณ
คนคนนี้เกิดมาเป็นนักกีฬาตัวจริงเสียงจริง
อย่างวันก่อนโน้น (นานมาแล้ว)สมัยที่บารมียังล้นประเทศ ฯพณฯ ยังอุตส่าห์เจียดเวลาสวมชุดนักฟุตบอลลงดวลแข้งนัดพิเศษกับทูตานุทูต ยังจำได้ดีว่าเรียวขาท่านขาวผ่องเป็นยองใย เนื้อนวลหยั่งกะก้นเด็กน่ารักน่าเอ็นดู เป็นศูนย์หน้าวิ่งไล่ลูกฟุตบอลลิ้นห้อยแฮ่กๆ ในสนามไม่มีใครสมเพชท่านสักคน..มีแต่ปรบมือชื่นชมในสปิริตของนักกีฬาเอกผู้นำหนึ่งเดียวของสยามประเทศ
ซึ่งอันที่จริงคุณทักษิณก็เกือบจะวางมือเทิร์นโปรเอาดีทางกอล์ฟแล้วเชียว ตอนที่ลงแข่งกับนักกอล์ฟเยาวชน ถึงขนาดพนันว่าถ้าชนะจะลาออกจากนายกฯ ...ได้ข่าวว่าแพ้ชนะกันไม่มาก..ไม่เป็นไรระหว่างที่ว่างงานฟิตร่างกายเอาใหม่ก็ได้
สรุปว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ชายที่สนใจกีฬามากคนหนึ่ง ทั้งแบบเป็นผู้เล่นเองและเข้าไปเป็นเจ้าของ และหากเป็นกีฬาที่ทำให้รวยขึ้นก็จะยิ่งสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก
ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสปิริต ที่แปลเป็นภาษาไทยว่ามีน้ำใจนักกีฬาไหม?
ตอบว่า มนุษย์ผู้ชายคนหนึ่งเกิดมาแล้วมันคงไม่ถึงขนาดที่เลวริยำระดับดิรัจฉานเรียกพี่ไปหมดทั้ง 100% หรอก มันต้องมีดีมั่งสิ
ตอบว่า คุณทักษิณมี.. แต่บางครั้งอาจจะเผอเรอเห็นแก่ตัวไปบ้าง หรือไม่ก็ผีเขมรบังตา ก็เลยลืมไปว่าสปิริตสะกดอย่างไร
คำตอบนี้มีที่มาที่ไป ...
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2548 ระหว่างที่สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มตึงเครียดเพราะม็อบสวนลุมฯ มาแรงเหลือเกิน คุณทักษิณ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคไทยรักไทยเอาไว้อย่างสละสลวยคำต่อต่อคำ... ดังต่อไปนี้
.....................
“ถ้าคนที่เป็นนักกีฬาแล้วไม่เคารพกติกาก็จะเป็นกีฬาที่คนอื่นไม่อยากเล่นด้วย
ถ้าไปบังคับให้เล่น ตรงนั้นไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็นการไปสร้างกติกาเอง
ดังนั้นเรื่องของพรรคเราก็มีกติกาชัดเจนว่าพรรคจะไม่หักหลังลูกพรรค ใครอยากจะออกจากพรรคก็บอกล่วงหน้าว่าโอเค
หรือยุบสภา หรือมีการเลือกตั้งก็จะบอกล่วงหน้า 90 วัน ทุกคนจะได้เตรียมตัวย้ายพรรคก่อน มันจะได้ไม่เป็นการหักหลังซึ่งกันและกัน
ถ้าสมมติไม่มีการบอกล่วงหน้ากัน พอยุบสภาตูม เลือกตั้งแล้วไปย้ายพรรคก็เท่ากับคนที่ย้ายพรรคหักหลังพรรค เพราะพรรคไม่มีโอกาสหาคนแทนได้ทัน ถ้า 90 วันคือการไม่หักหลังซึ่งกันและกัน เมื่อคุณออกไปเราก็ยังหาคนมาแทนได้ ถ้าแน่จริงต้องมีคนใหม่สู้คุณ ไม่ใช่หักหลังแล้วไม่มีอะไรให้ใครสู้ เหมือนกับที่ว่าเมื่อแอบออกไปแล้วโดยไม่บอกให้ใครรู้ เราหาคนมาแทนไม่ทัน แล้วคุณก็จะได้เป็นผู้แทนอีก ทั้งๆ ที่ห่วยแตก
ดังนั้นขอย้ำว่าเรื่อง 90 วันพรรคจะบอกก่อนแน่นอน ถ้าใครออก พรรคจะหาคนมาแทน มาลงแข่ง ซึ่งเป็นคนใหม่ในนามพรรคเก่า สู้กับคนพรรคเก่าในนามพรรคใหม่ ก็สู้กัน ไม่เห็นเป็นไรเลย และตรงนี้ถือเป็นสัญญาที่ทุกคนสามารถเชื่อมั่นได้แน่นอน”
....................
ซาบซึ้งกินใจยิ่งนักกับวาทะของลูกผู้ชายใจเกินร้อย
นักกีฬาต้องเคารพกติกา...ไม่หักหลังกัน...ใครออกจากพรรคบอกก่อนเลย..ให้ไปก่อน 90 วัน นี่คือกติกาของพรรคเรา ฯลฯ
เมื่อวันก่อน นักกีฬาชื่อทักษิณ อาจจะถูกหมัดคุณสนธิ จำเลขที่บ้านไม่ได้..เลอะเลือนไปบ้าง..ก็ให้อภัยกันในฐานะนักกีฬา (เฮ)
มาวันนี้ นักกีฬาชื่อ ทักษิณ กำลังจะไถ่บาปที่เคยลั่นวาจาเอาไว้
ปากของคุณทักษิณไม่ใช่ตูดสำหรับผายลมอย่างแน่นอน
ดังนั้นเราชาวไทยกำลังจะได้เห็น นักกีฬาชื่อทักษิณกำลังจะปล่อยให้ ส.ส. ย้ายพรรคได้เสรีรับการเลือกตั้งใหม่
และจะส่งสัญญาณให้ไทยรักไทย แจ้ง กตต.ขอยืดเวลาเลือกตั้งออกไปให้เกิน 90 วันอย่างแน่นอน!
ปรบมือเชียร์ให้นักกีฬาชื่อทักษิณผู้ไม่ทรยศหักหลังใคร พร้อมกัน.. เฮ!!!