xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯซัด ตร.การเมือง กระจายคดีเอาผิดคนกู้ชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - “พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง” หัวหน้าทีมสอบสวนคดีพันธมิตรฯ ตามราวีกลุ่มคนกู้ชาติไม่เลิก ล่าสุดเตรียมออกหมายเรียกกรรมการพันธมิตรฯและทีมโฆษกฯ เพิ่มอีก 17 คน “สุริยะใส-สุวิทย์”ยันไม่หวั่นไหว ชี้เป็นนโยบายการเมืองที่สั่งตำรวจผู้รับใช้ กระจายคดีเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ยันพร้อมสู้คดีในศาล ด้าน ทนายความ ย้ำพันธมิตรฯชุมนุมตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ แต่ถูกตำรวจกลั่นแกล้ง

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปัตย์ (ครป.) และผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (12 พ.ค.)ถึงกระแสข่าวที่พนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมเอาผิดกับกรรมการพันธมิตรฯ ในความผิดความมั่นคงต่อรัฐในราชอาณาจักร ด้วยการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯอีก 17 คน ว่าเรื่องนี้ พอรู้มาก่อนแล้วว่าเป้าทั้งหมดจะไม่ใช่แค่ 5 แกนนำ แต่จะขยายไปกรรมการคนอื่นๆ และผู้ที่มาขึ้นเวทีปราศรัยด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายของฝ่ายการเมืองที่สั่งการไปที่ตำรวจบางนาย ซึ่งตำรวจที่มารับผิดชอบคดีนี้คือ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการชุมนุมโดยสันติของประชาชนมาตั้งแต่ต้น

นายสุริยะใส กล่าวว่าที่ผ่านมาทราบจากผู้ใหญ่วงในของสำนักงาตำรวจแห่งชาติ ว่ามีความพยายามจะกระจายคดีโดยให้ นายตำรวจหลายคนเป็นผู้กล่าวโทษแกนนำพันธมิตรฯ แต่ปรากฏว่านายตำรวจผู้ใหญ่หลายท่านต่างปฏิเสธ เพราะไม่อยากเปลืองตัวและเห็นว่าพันธมิตรฯ ชุมนุมโดยสันติไม่ควรตั้งข้อหาเกินจริง ซึ่งนายตำรวจหลายคน ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมของมวลชน ก็เห็นว่าเจ้าหน้าที่น่าจะใช้วิธีอะลุ่มอล่วยหรือแนวทางสมานฉันท์ดีกว่า ทำให้คดีนี้ทั้งหมดตกไปอยู่ที่ความรับผิดชอบของ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง

“โดยส่วนตัวแล้วไม่หวั่นไหวอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือ ความคาดหมาย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีหมายเรียกมาแต่อย่างใด แต่ถ้ามีหมายเรียก หรือหมายจับมาเราก็พร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรมและพร้อมพิสูจน์ความสุจริตใจในชั้นศาลต่อไป”

นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมของพันธมิตรฯ ก็ได้พิสูจน์ต่อสาธารณะแล้วว่ายึดมั่นแนวทางสันติวิธี และอหิงสาตามรัฐธรรมนูญ จนเป็นที่ประจักษ์และได้รับคำชื่นชมจากหลายฝ่าย แต่เมื่อพิจารณาข้อหา 5 ข้อ ที่ตำรวจตั้งโดยเฉพาะการกล่าวหาว่าล้มล้างรัฐบาลและการปกครองนั้นถือว่าเป็นการปั้นข้อหาเกินจริง เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วพันธมิตรฯ และพี่น้องประชาชนกำลังร่วมกันพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย เพราะระบอบนี้กำลังถูกคุกคามจากระบอบทักษิณ และอยากเตือนเจ้าหน้าที่ว่ามิสิทธิตกเป็นผู้แจ้งความเท็จได้เช่นกัน

นายสุริยะใส กล่าวฝากเตือนเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือหน่วยงานใด ก็ตาม จะต้องยึดหลักไม่เลือกปฏิบัติ เพราะที่ผ่านมาคดีที่ฝ่ายรัฐบาลถูกแจ้งความ ปรากฏว่าไม่คืบหน้าเอาเสียเลย จริงๆ แล้วก็น่าเห็นใจตำรวจบางนายที่สนองนโยบาย ด้วยความอึดอัด แต่บางนายที่เสนอหน้าเอาใจหรือภักดีต่อระบอบทักษิณ จนเกินงาม อยากให้ประชาชนจำชื่อให้แม่นๆ ขึ้นบัญชีดำไว้เลยเมื่อยามฟ้าเปลี่ยนสี หรืออำนาจเปลี่ยนมือก็มีสิทธิมาทวงถามความเป็นธรรมคืนได้เช่นกัน

ด้าน นายสุวิทย์ วัดหนู โฆษกบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าจะมีการออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ไม่มีปัญหา หากมีการออกหมายเรียกมาก็พร้อมจะไปรายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว

“หากมีการออกหมายเรียกจริง เราก็ไม่ได้หวั่นกลัวอะไร เพียงแต่อยากเรียนว่า อำนาจรัฐก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่มามุ่งเป้าที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น แต่กลุ่มอื่นที่มีการชุมนุมในลักษณะคล้ายกันกลับนิ่งเฉยไม่มีการดำเนินการอะไร ก็ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และที่สำคัญเป้าหมายกระบวนการยุติธรรมก็เพื่อที่จะให้สังคมเกิดความผาสุก แต่หากทำให้สังคมเกิดความ แตกแยก มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เจ้าหน้าที่ก็ควรที่จะมีความรอบคอบให้มากกว่านี้”

นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ทราบมาก่อนแล้วว่า พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยืนยันอยู่เสมอว่า การชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่ตำรวจดำเนินการเช่นนี้ ถือเป็นการกลั่นแกล้งให้ กลุ่มพันธมิตรฯถูกดำเนินคดี ทั้งๆที่ไม่ได้กระทำความผิด

อย่างไรก็ตาม นายสุวัตร กล่าวว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ ได้รับหมายเรียกแล้ว ก็จะมีการหารือร่วมกัน โดยทุกคนจะให้การปฎิเสธและพร้อมสู้คดี ซึ่งหากที่ประชุมของพันธมิตรฯ มอบหมายให้ตน เป็นทนายความให้ก็จะเสนอเพื่อรวมเป็นคดีเดียวกัน กับที่ 5 แกนนำพันธมิตรฯถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นข้อหาเดียวกัน

สำหรับคดีดังกล่าว มีรายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.)ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีดังกล่าว กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายเรียกกลุ่มพันธมิตรฯ เพิ่มเติมอีกจำนวน 17 คน มารับทราบ 5 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำโดยความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความเห็น ติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องก่อให้เกิดความไม่สงบ ในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย

2.มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย ในบ้านเมืองและมีผู้เป็นหัวหน้าสั่งการ 3.ร่วมกันเดินขบวนลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันวาง ตั้งหรือแขวนสิ่งใดในลักษณะกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่อง ขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ ข้อหาทั้งหมดที่ตำรวจจะดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตรฯ เพิ่มเติม เป็นข้อหาเดียวกับที่เคยดำเนินคดี 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้อง และอัยการนัดผู้ต้องหามารายงานตัวอีกครั้งเพื่อฟังคำสั่งต่อไปในวันที่ 29 พ.ค. เวลา 10.00 น

สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯ อีก 17 คนที่จะถูกออกหมายเรียกเพิ่มนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญของพันธมิตรฯ และผู้ที่ปรากฏตัวปราศรัยบนเวที อาทิ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นายสุวิทย์ วัดหนู, นายสำราญ รอดเพชร, นายสาวิทย์ แก้วหวาน, นายอมร อมรรัตนานนท์ โฆษกบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เคยให้สัมภาษณ์ ภายหลังจากส่งสำนวนการสอบสวนคดี 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เสนอสั่งฟ้องอัยการ ยืนยันตำรวจจะขยายผลดำเนินคดีผู้ที่กระทำผิด เกี่ยวข้องกับคดีเดียวกันเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามขณะนี้ พล.ต.ท.ชัยยันต์ อยู่ระหว่างเดินทางไปราชการประเทศจีนและจะเดินทางกลับในวันที่ 21 พ.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น